ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานนครสวรรค์ โทร.056-221811
https://www.facebook.com/TAT-Nakhonsawan-103513930140126/
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
บรรดาร้านอาหารริมแก่ง การเดินทางอันแสนยาวนานเหลือเกิน สำหรับคนที่อยู่เมืองกรุงแล้วต้องออกไปเที่ยวในระยะที่เรียกว่าไกลก็ไม่ไกล ใกล้ก็ไม่ใกล้ จังหวัดนครสวรรค์นี่เอง สองร้อยกิโลกว่าๆ ก็ถึงแล้ว ก็ต้องมีการกะเวลาการเดินทางที่เหมาะสม อย่างทริปเราออกเดินทางเที่ยงคืน ยังมาถึงนครสวรรค์ก่อนตี 4 บอกตรงๆ ครับว่าเวลาช่วงนี้ยังไม่กล้าขับเข้าไปที่อำเภอลาดยาว เพราะถนนสายเล็กๆ หมายเลข 1072 ค่อนข้างจะเปลี่ยว แต่ก็เอาเหอะ ยังไงก็ต้องไปตัดสินใจมาแล้วนี่
เรามาถึงมออีหืด เวลาประมาณ 05.30 น. เรียกว่ายังเช้าอยู่มาก แต่ก็พอที่จะเหลือเวลาเดินขึ้นมออีหืด เพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่เนื่องจากสภาพฝนฟ้าอากาศไม่เห็นใจคนเดินทางไกลอย่างเราเลย เมฆบังพระอาทิตย์มิดหมด ได้แต่สายหมอกขาวๆ พอให้เห็นแต่ไกลๆ พอถ่ายรูปกันพอใจแล้วก็ได้เวลาอาหารมื้อเช้า เราออกจากหน่วยแม่เรวาเอาของเข้าไปที่รีสอร์ทที่เราจองเอาไว้ จากนั้นก็ออกเดินทางหาข้าวกินเป็นมื้อแรกที่แม่เล่ย์ จากหน่วยแม่เรวาย้อนออกไปตามทางที่เราขับเข้ามา 5 กิโลเมตร มีแยกแก่งเกาะใหญ่ ดูท่าทางน่าจะมีร้านอาหารก็เลี้ยวเข้ามาเลย
แล้วก็จริงดังคาด ริมแก่งมีร้านอาหารเยอะแยะไปหมด แต่ดูเหมือนว่าแม่ค้ายังไม่คุ้นกับการต้อนรับลูกค้าเวลาเช้าอย่างพวกเรา ที่นี่จะเริ่มมีคนก็เกือบๆ เที่ยง แต่เรามา 8 โมงกว่า หลายร้านก็เลยยังไม่เปิด แต่ร้านที่เปิดแล้วก็ยังย่างไก่ไม่สุก ไม่เป็นไรเดินชมรอบๆ ดูทั่วๆ กันไปก่อนละกัน
บรรยากาศโต๊ะอาหารกับสปาเท้า เดินดูร้านค้ามาหลายร้านแต่ละร้านก็จะมีบรรยากาศต่างกัน ด้านนอกสร้างเป็นกระท่อมกลางน้ำ เดินต่อมาอีกหน่อยเป็นแคร่กลางน้ำเลย มีเก้าอีเสริมให้ มีร่มให้ โอ้ว บรรยากาศของมื้อนี้ ช่างพิเศษแตกต่างจากที่เคยกินที่ไหนๆ มาทั้งหมดเลยนะเนี่ย เราก็เลือกเอาร้านที่เราถูกใจ แล้วก็ไปสั่งอาหาร ไม่นานอาหารก็จะทยอยมาส่งให้เพราะตอนนี้มีเราอยู่โต๊ะเดียวเท่านั้น เร็วเป็นพิเศษทีเดียวละ
ลำธารที่เราเห็นนี้จะมีหินอยู่มากมายหลายขนาด ก็เรียกว่าเป็นแก่ง สามารถเดินเล่นต่อถึงกันได้เรื่อยๆ ชอบตรงไหนจะลงเล่นน้ำก็ได้ แต่ถ้าเป็นฤดูล่องแก่งน้ำจะเชี่ยวต้องเลือกเล่นในจุดที่ปลอดภัยๆ ตอนนั้นแคร่เหล่านี้ก็จะถูกเก็บขึ้นมาบนฝั่ง
อาหารเช้าพร้อมแล้ว หลังจากเดินไปจนถึงด้านในสุดเดินต่อไม่ได้แล้วก็จะมีร้านบริการห่วงยางเป็นร้านท้ายๆ จากนั้นก็กลับมาปรึกษากันว่าอยากนั่งกินข้าวแบบไหนร้านไหน แล้วก็ไปสั่งอาหาร แน่นอนว่าร้านอาหารริมน้ำแบบนี้ไม่พ้นที่จะมีส้มตำกับไก่ย่าง ส่วนเมนูอื่นๆ ก็จะเป็นอาหารตามสั่งยืนพื้นด้วยข้าวผัดและกระเพรา จากนั้นก็จะมีลาบน้ำตก ยำต่างๆ นานา ก็ว่ากันไปแล้วแต่จะเลือก
ข้าวผัดมาเป็นอันดับแรก จานที่เห็นในรูปกิน 6 คนแทบไม่หมด เรียกว่าขนาดใหญ่พิเศษเวอร์ ก็ว่าได้
อาหารมื้อเช้า อันที่จริงตอนที่ลงมาจากมออีหืด จะว่าหิวก็หิวนะ พอขับรถจากหน่วยแม่เรวาหาร้านน่ากิน ก็มีร้านอาหารตามสั่งอยู่บ้างระหว่างทาง แต่ก็เลือกไม่ได้ซักที มาถึงที่แก่งเกาะใหญ่พอวางอาหารลงเท่านั้นแหละ คว้ากล้องมาถ่ายรูปแทบไม่ทัน ต่างคนต่างรอจ้วง ทั้งน่ากิน ทั้งหิวผสมกัน ไปกันหลายๆ คนสนุกสนานกันใหญ่
แก่งเกาะใหญ่ เอาละ หลังจากกินอิ่มแล้ว ก็จะพาเดินชมรอบๆ บริเวณกันซะหน่อย (ที่จริงกินเสร็จแล้วก็กลับบ้านพักนอน ส่วนภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายตอนมาล่องแก่งในวันรุ่งขึ้น เพราะยังไงๆ ก็ต้องมาอีกอยู่ดี) ตอนที่ชาวบ้านกลุ่มบริการล่องแก่งแม่เรวาบอกว่าการล่องแก่งจะมาสิ้นสุดที่แก่งเกาะใหญ่ บอกตรงๆ ว่านึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าจะเป็นยังไง เพราะที่นี่หินเยอะมาก แต่ก็พอจะมีร่องน้ำให้เรือผ่านได้ เพียงแต่เรามองจากไกลๆ มันจะไม่เห็น เพราะแก่งหินมันบังซะหมด หินพวกนี้ลื่นมาก เดินไม่กี่ก้าวก็ต้องถอดรองเท้าออก คิดว่าเท้าเปล่ามันน่าจะดีกว่า เชื่อผมเหอะ ขนาดเท้าเปล่าเดินลงไปยังลื่นแล้วลื่นอีก ไหนจะถือกล้องไปด้วย เสียว สุดๆ อะ
พื้นที่สำหรับลงเล่นน้ำ มันก็ไม่ได้มีป้ายบอกหรอกว่าตรงไหนเล่นได้ตรงไหนเล่นไม่ได้ เราก็เลือกๆ หาๆ เอาละกัน พอสายๆ ใกล้จะเที่ยงจะมีคนมาเที่ยวพักผ่อนกันเยอะ ส่วนหนึ่งก็ดื่มสังสรรค์ริมน้ำ พักผ่อนบนแคร่เอาเท้าแช่ทำสปาด้วยฝูงปลาเล็กๆ ส่วนหนึ่งก็คลายร้อนด้วยการลงแช่น้ำสนุกสนานทุกเพศทุกวัยจริงๆ
แก่งสุดท้าย บนเส้นทางผจญภัยล่องแก่งแม่เรวา ผ่านแก่งเล็กแก่งน้อยมาเยอะ นั่นยังไม่เท่าไหร่ พอมาถึงแก่งเกาะใหญ่อันเป็นเส้นชัย บางคนเห็นแล้วก็ลงจากเรือเดินขึ้นฝั่ง อันนี้ต้องใช้วิจารณญาณของตัวเอง ว่าจะผ่านมันไปได้หรือเปล่า ผ่านจุดนี้ไปได้ก็จะเป็นช่วงน้ำนิ่งไปเข้าฝั่ง แล้วก็ยกเรือขึ้นรถกลับที่พัก
แก่งเกาะใหญ่เส้นชัยของแม่เรวา นี่ละความสุขแบบนี้มีให้เป็นรางวัลของคนใจถึงทุกคน ที่กล้าบังคับเรือให้ไหลลงมาในแก่งอันเชี่ยวกรากดูน่ากลัวนี้
ผ่านแก่งน้ำเชี่ยวๆ มาได้หมดแล้วก็เป็นช่วงน้ำนิ่ง พายเรือเข้าหาฝั่ง แล้วเราก็ขึ้นรถที่กลุ่มบริการล่องแก่งมาจอดรอ เป็นอันจบทริปผจญภัย ดูในนี้อาจจะยังไม่จุใจ ผมมีรีวิวล่องแก่งแม่เรวา เขียนเอาไว้อีกหน้า คลิกที่ลิงค์เข้าไปชมกันที่ ล่องแก่งแม่เรวา
สุนัขแสนรู้ เข้ามาในร้านอาหารจะมีอยู่ร้านหนึ่งมีหมาอยู่ 2 ตัว สีขาวทั้งคู่เป็นคนละพันธุ์กัน พอมาถึงที่ร้านทุกคนก็เดินชมบรรยากาศ นั่งแคร่บ้างถ่ายรูปบ้าง มีกระเป๋ากล้องคอมแพคร่วงโดยที่เราไม่รู้ตัว เห็นหมาตัวนี้คาบเอากระเป๋าใบนั้นวิ่งมาวางไว้ในกระท่อม แล้วก็เดินออกจากกระท่อม แหมพฤติกรรมแบบนี้ไม่รู้ว่าฝึกกันได้ยังไง แต่ต้องยอมรับว่ามันแสนรู้จริงๆ ก็เลยให้ไก่ย่างมันเป็นรางวัล
ชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าเล่าให้ฟังว่า ระยะหลังๆ มานี้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวแม่เรวาและแก่งเกาะใหญ่กันน้อยมาก บางทีก็มีข่าวสร้างเขื่อน บางทีก็มีข่าวน้ำป่าไหลหลาก คนก็กลัวไปหมด แต่ผมว่าที่นี่ยังปลอดภัยและสวยงามเหมาะที่จะมาพักผ่อน รวมทั้งสนุกกับกิจกรรมผจญภัยกันได้อีกนาน ความร่มรื่นและลมพัดสบายๆ ลองได้มานั่งแคร่เอาเท้าแช่น้ำทำสปา ฮ้าาาา วันหยุดอันแสนวิเศษ กลับมาทำงานด้วยความสดชื่น ลองดูสิ...
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ