ไร่ชาฉุยฟงแม่จัน

ภูเขาที่เขียวชะอุ่ม ความหมายของคำว่า ฉุยฟง ในภาษาจีน การสืบทอดกิจการการปลูกชาตั้งแต่รุ่นพ่อสู่รุ่นลูก และมีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จนกลายเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ไร่ชาฉุยฟงใหญ่ๆ มี 2 แห่ง คือ ที่แม่สลองใน อำเภอแม่จัน ห่างจากถนนพหลโยธินแค่ประมาณ 10 นาที ภูเขาต้นชาเขียวขจีในพื้นที่ขนาด 600 ไร่ โดยไม่ต้องขึ้นดอยแม่สลอง พร้อมกับร้านอาหารและเครื่องดื่มอันมีเมนูต่างๆ จากใบชาสดเป็นหลัก หรือจะซื้อชากลับไปเป็นของฝากและดื่มเองก็มีบริการ ส่วนอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่บ้านพญาไพร อำเภอแม่ฟ้าหลวง พื้นที่ 500 ไร่ เป็นที่รู้จักกันเพราะเป็นฉากในการถ่ายละครดังหลายเรื่อง ได้แก่ รักออกอากาศ , แววมยุรา ช่อง 3 และ เรื่องชิงนาง ทางช่อง 7 นักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเที่ยวถ่ายรูป ชิมชาและซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ กลับบ้าน ไร่ชาฉุยฟงแม่จันแม้ไม่ได้เป็นฉากละครเหมือนกับที่บ้านพญาไพร แต่สิ่งอำนวยความสะดวกและความง่ายในการเดินทาง จึงทำให้ที่แม่จันมีนักท่องเที่ยวคึกคักกว่า แต่สำหรับคนที่ชอบความสงบก็ขับรถไปอีกประมาณ 40 กิโลเมตร ขึ้นเขาสูง ผมเขียนรีวิวเอาไว้แล้วในหน้า ไร่ชาฉุยฟงพญาไพร อยากจองห้องพัก หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ Tel. 053 771 563 เบอร์เดียวทั้ง 2 ไร่

ข้อมูลเพิ่มเติม:Tel. 053 771 563

แก้ไขล่าสุด 2016-05-24 11:01:26 ผู้ชม 70573

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ภูเขาสีเขียวลูกนี้ตั้งอยู่ห่างจากถนนพหลโยธินแค่ 4 กิโลเมตรโดยประมาณ ทางเข้าอยู่ที่ทางแยกขึ้นดอยแม่สลองแยกที่ 2 (ขอย้ำว่าแยกที่ 2 ครับ เพราะที่แม่จันมีทางแยกไปดอยไม่สลองได้ 2 ทางเป็นแยกไฟแดงใหญ่ๆ ถ้ามาจากเชียงรายให้เลี้ยวแยกที่ 2) ขับเข้ามาไม่กี่กิโล ก็จะเห็นป้ายทางแยกเข้าไร่ชาฉุยฟงแม่จัน จากนั้นก็แค่ขับตามป้ายก็มาถึงภูเขาลูกนี้แหละ มีหนองน้ำอยู่ใกล้ๆ ภูเขาสีเขียวทั้งลูกแลดูสวยงามแต่ไกล นั่นคือต้นชาอู่หลงก้านอ่อน เป็นพันธุ์ที่ไร่ชาฉุยฟงเลือกมาปลูก

ยอดเขาไร่ชาลูกแรก จากถนนเรามองเห็นเขาเล็กๆ สีเขียวมีอาคารอยู่บนยอดเขาตั้งแต่ประตูทางเข้าเขตไร่ชาฉุยฟง จะเป็นทางขึ้นเขาชันหน่อยบางคนก็จอดรถที่ประตู แล้วก็ถ่ายรูปอยู่แถวๆ เขาลูกแรก บางคนก็เอารถขึ้นเนินมาแล้วก็จอดที่อาคารหลังแรกเพราะไม่รู้ว่าข้างในจะเป็นยังไง เอารถเข้าไปดีมั้ยหรือจะเดินเที่ยวตั้งแต่ตรงนี้เลย เราเองก็เอารถมาจอดบนยอดเขาลูกแรกแล้วรอดูท่าทีเหมือนคนอื่นๆ ถ่ายรูปวิวตรงนี้มองเห็นอาคารสีขาวๆ อยู่ด้านในต้องข้ามเขาเล็กๆ ไปอีกหลายลูก แล้วก็มีรถขับเข้าไปตามถนนคอนกรีตเล็กๆ เป็นระยะๆ เอาละแสดงว่าภายในยังคงมีอะไรน่าสนใจอีกเยอะ เดี๋ยวเราก็ขับเข้าไปตามทางเหมือนคนอื่นๆ ก็แล้วกัน

มุมมหาชนไร่ชาฉุยฟง จากจุดที่เราจอดจุดแรก ขับข้ามเนินเขามาจะมีลานจอดรถบนยอดเขาอยู่ 1 จุด แต่เราคิดว่าน่าจะขับเข้าไปเรื่อยๆ หามุมที่น่าสนใจก่อนที่จะจอดรถเพื่อลงเดินสัมผัสบรรยากาศของที่นี่กันให้จุใจ ด้านหนึ่งมีอ่างเก็บน้ำ มีศาลาทรงจีนริมน้ำ ส่วนด้านที่เราเดินมานี้จะเห็นป้ายไร่ชาฉุยฟงสีขาวใหญ่ๆ เป็นมุมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาก จากจุดนี้เดินขึ้นไปถึงโรงงานใบชา ร้านชา บนยอดเขาได้ด้วย นับว่าเป็นจุดจอดรถที่เหมาะที่สุดในยามที่มีรถเข้ามาเที่ยวกันเยอะๆ แต่ถ้าวันไหนรถมีน้อยก็ขับไปจอดตรงที่อยากจะถ่ายรูปแล้วก็ย้ายไปเรื่อยๆ ก็ได้ แต่การเดินชมรอบไร่ชาที่จริงก็มีส่วนให้เรามีอายุยืนขึ้นได้ด้วยนะ ได้ออกกำลังกาย และสูดอากาศบริสุทธิ์ ไปพร้อมๆ กัน

เดินมาเรื่อยถ่ายรูปมาเรื่อย ตอนนี้เรามาอยู่ที่ยอดเขาอีกลูกหนึ่งแล้ว ด้านหน้าของเรามองไปทางทิศเหนือจะเห็นเขาที่เราขับรถข้ามมาหลายลูก ส่วนถ้ามองไปทางตะวันออกก็ยังมีเนินเขาลูกเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยใบชาสีเขียวล้อม บนยอดเขาทำเป็นลานกว้างสำหรับขึ้นไปพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ มีชิงช้าให้เล่น เมื่อไปยืนบนเขาลูกนั้นก็จะมองเห็นเขาลูกนี้ ที่นักวิทยาศาสตร์วิจัยว่าสีเขียวเป็นสีที่ทำให้สบายตาที่สุด ตอนนี้เราไม่เถียงเลยละ โดยเฉพาะเวลาที่เรามองไปทางไหนก็เป็นสีเขียวทั้งหมดแบบนี้ สมกับชื่อ ฉุยฟง ที่แปลว่า ภูเขาสีเขียวชะอุ่ม จริงๆ

บนยอดเขาที่มีโรงงานใบชามีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง อันดับแรกก็ต้องบอกว่าที่ไร่ชาฉุยฟง เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อน เพื่อขายผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ของตัวเองไม่ว่าจะเป็นชาบรรจุซองหลากหลายชนิด หรือจะเป็นชงชาให้ชิม ขนมเค้กที่มีส่วนผสมของใบชา ไปจนถึงอาหารที่ทำจากยอดใบชาสดปลอดสารพิษ บรรยากาศที่นั่งในร้านมองเห็นทิวทัศน์รอบด้านเป็นภูเขาต้นชาทั้งหมด อีกด้านหนึ่งของร้านเป็นอาคารขนาดใหญ่ ทำการผลิตใบชา แต่ภายในโรงงานไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ก็เลยได้ชมเฉพาะกระบวนการตากใบชาซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของใบชาสำเร็จรูป ภายในร้านยังมีของที่ระลึกอีกหลายชนิดให้เลือกซื้อกันได้ด้วย เรียกว่าเป็นการบริการนักท่องเที่ยวชนิดครบวงจรในที่เดียวก็ว่าได้

ของฝากของที่ระลึกจากฉุยฟง

ศาลาชมวิว เป็นศาลาแบบจีนที่อยู่ทางด้านทิศใต้ของยอดเขาโรงงานใบชา นั่งเล่นในศาลาจะเห็นภาพพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ภายในไร่จะปิดเวลาประมาณ 6 โมงเย็น แต่ถ้ามีนักท่องเที่ยวค้างอยู่ในไร่ก็ยืดเวลาได้นิดหน่อย ส่วนมากก็จะอยู่กันแค่ฟ้าเริ่มมืดหลังจากที่พระอาทิตย์ตกไปแล้ว เพราะจะถ่ายรูปกันไม่ได้แล้วละ

โรงงานชาฉุยฟง จากศาลาจีนที่เรายืนอยู่เมื่อครู่ถ่ายรูปไปทางเหนือ กับทางตะวันออก แต่แค่นั้นยังไม่หมด ยังมีเนินเขาทางทิศใต้อีกด้วย เราเดินมาอยู่บนเนินเขาอีกลูกแล้วมองย้อนกลับไปที่โรงงานก็จะเห็นวิวเหมือนในรูป

ชิงช้าชาวเขา เครื่องเล่นบนเนินเขาลูกที่อยู่หน้าโรงงานชา มีกระท่อมสร้างไว้ให้นั่งชมวิวพักผ่อนรับลมเย็นๆ มีทิวทัศน์สวยๆ ให้เก็บภาพได้แบบ 360 องศา หลายคนก็มาเล่นกันบนชิงช้าที่สร้างจากไม้ดูเรียบง่ายแต่มั่นคง แกว่งกันสุดแรงก็ยังปลอดภัย

พระอาทิตย์ตกที่ฉุยฟง เวลาในการเที่ยวชมไร่ชาอันสวยงามและการพักผ่อนนั่งจิบชาของพวกเราใกล้หมดลงแล้ว เราเห็นป้ายติดไว้ที่ประตูทางเข้าว่าปิด 6 โมงเย็น แต่เราเห็นว่าใกล้เวลาที่พระอาทิตย์จะตกแล้วก็เลยขออยู่ต่อเพื่อถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกก่อนที่จะกลับที่พักในอำเภอแม่จัน ไม่ใช่เราเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่คิดแบบนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวอีกหลายคนที่มาเที่ยวไร่ชาวันนี้แล้วอยากถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกก่อนที่จะออกจากไร่ชา

พระอาทิตย์ตกจากอีกมุมหนึ่งครับ ภายในไร่ชาทำเส้นทางเป็นวันเวย์เข้าออกทางเดียวในช่วงที่นักท่องเที่ยวมากันเยอะ แต่ถ้าวันไหนคนน้อยก็ขับย้อนออกทางเดิมได้ ทางที่เป็นวันเวย์พาเรามาออกด้านหลังของไร่ชา แล้วก็วนขวามาเรื่อยๆ จะมาบรรจบกับทางที่เรามาเข้าไร่ชาด้านหน้า แต่ระหว่างนั้นเห็นวิวภูเขาชาสีเขียวสวยดีก็เลยจอดเก็บภาพจากมุมไกลๆ มาอีกมุมหนึ่ง กดชัตเตอร์จนอาทิตย์ลับหายไปจากขอบฟ้า ทุ่งที่เรายืนอยู่เป็นสับปะรดนั่นเอง

จิบชาชิลๆ ที่ฉุยฟง หลังจากวนออกไปเก็บภาพด้านนอก เราก็วนกลับเข้ามาอีกครั้ง เพราะมีทีมงานของเราเก็บภาพวิวพระอาทิตย์ตกอยู่ด้านใน ก่อนที่เราจะลากลับก็ได้ขอภาพนั่งจิบชาที่จุดชมวิวระเบียงร้านชาของไร่ โดยพรีเซนเตอร์ไม่ใช่ใครที่ไหน ผู้สืบทอดไร่ชาฉุยฟงรุ่นปัจจุบัน ไปพบกับผู้บริหารไร่ชาได้ที่นั่นกันครับ