ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานครนายก (นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว) โทร. 0 3731 2282, 0 3731 2284
http://www.tourismthailand.org/nakhonnayok
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
รอยพระพุทธบาทคู่ สระมรกต ทริปเที่ยวปราจีนบุรีทริปนี้ ออกเดินทางจากฉะเชิงเทราไปตามทางหลวงหมายเลข 304 ถึงพนมสารคาม เลี้ยวซ้ายทางหลวงหมายเลข 319 เข้าสู่เขตจังหวัดปราจีนบุรีทางอำเภอศรีมโหสถ ถึงโบราณสถานสระมรกตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของจังหวัดปราจีนบุรี เป็นเสมือนประตูเข้าสู่จังหวัด (ถ้ามาจากทางฉะเชิงเทรา) พอเลี้ยวขวาเข้าเขตโบราณสถานสระมรกต เราก็จะเห็นกลุ่มกองหินศิลาแลงอยู่ซ้ายมือ มีลานจอดรถห่างพอสมควรแล้วก้เดินเข้าไป หลังคาที่เห็นอยู่กลางลานกว้างเป็นหลังคาที่สร้างขึ้นมาเพื่อกันแดดกันฝนตรงรอยพระพุทธบาทคู่ อันเป็นรอยพระพุทธบาทที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ด้วยเหตุนี้เวลาไปเที่ยวทางจังหวัดปราจีนบุรีก็ควรที่จะแวะสักการะรอยพระพุทธบาทนี้ด้วย
รอยพระพุทธบาทคู่ สระมรกต แม้ว่ารอยพระพุทธบาทจะดูเลือนลางไปบ้าง แต่ก็พอมองเห็นเป็นรูปร่างรอยพระพุทธบาททั้งสองข้าง มีเครื่องหมายธรรมจักรทั้ง 2 ข้าง ร่องรูปกากบาทเชื่อว่าเป็นร่องสำหรับปักธงหรือฉัตร รอบรอยพระพุทธบาทก็เป็นพื้นที่สำหรับประชาชนมาเดินกระทำประทักษิน (เวียนเทียน) ด้านหน้ารอยพระพุทธบาทก็มีโต๊ะหมู่บูชา เป็นที่จุดเทียนธูปสักการะพระและรอยพระพุทธบาท
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ใกล้ๆ กับรอยพระพุทธบาทเป็นซากโบราณสถานที่คงเหลือแต่เพียงฐานหินศิลาแลง แล้วก็มีบ่อน้ำที่เป็นศิลาแลงเหมือนกัน เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ น้ำในบ่อนี้เป็นน้ำที่ใช้ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาในอดีต ประชาชนมาตักเอาน้ำในบ่อใส่ขวดกลับบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล บางคนก็ตักขึ้นมาล้างหน้า อุปกรณ์สำหรับตักน้ำเป็นไม่ไผ่ลำยาวๆ ผูกกับถังพลาสติกไว้ตรงปลาย ความลึกของบ่อน้ำก็เท่ากับความยาวของลำไผ่
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ โบราณสถานสระมรกต เป็นภาพถ่ายจากขอบบ่อน้ำ ลำไผ่ถูกส่งลงไปจนสุด มองจากภาพคงไม่เห็นชัดเท่าไปยืนที่ขอบบ่อ ภาพที่เห็นข้างล่างก็คือน้ำในบ่อไม่ได้เป็นรูปวงกลม แต่มันดูเหมือนว่าข้างล่างเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ มีบ่อหินศิลาแลงเป็นเหมือนหลอดกาแฟลงไปจนใกล้ถึงระดับผิวน้ำข้างล่าง
ซากโบราณสถานสระมรกต
แบบจำลองโบราณสถานศรีมโหสถ หลังจากสักการะรอยพระพุทธบาทแล้วก็สำรวจรอบๆ บริเวณอีกหน่อย จากรอยพระพุทธบาทขับรถลึกเข้ามาตามทาง จะมีอาคารศรีมโหสถ เป็นอาคารจัดแสดงเรื่องราวของเมืองโบราณที่ปัจจุบันอาจจะเหลือร่องรอยอยู่เพียงน้อยนิด แต่ก็มีค่าที่จะศึกษาหาความรู้ หน้าอาคารสร้างเมืองจำลองศรีมโหสถเอาไว้ ถ้ายังคงมีเหลืออยู่จริง นี่คงเป็นโบราณสถานที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคกลางให้เราได้ชมกัน
สระมรกต สระมรกตตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ห่างจากโบราณสถานสระมรกต (รอยพระพุทธบาทคู่) มาทางทิศตะวันออกประมาณ 200 เมตร ลักษณะเป็นสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง 115 เมตร ยาว 214 เมตร ลึก 3.5 เมตร ขอบสระมีคันอยู่โดยรอบ สันนิษฐานว่าชื่อสระมรกตนี้เป็นชื่อเก่าแก่ มีความเกี่ยวข้องกับตำนานคาคาพระทะน้ำมัน (เตลกฏาหคาถา) คาถาเก่าแก่ของศรีลังกา ซึ่งปรากฏในจารึกเนินสระบัว (ระบุมหาศักราช 683 ตรงกับ พ.ศ. 1304) พบบริเวณสระบัวล้าใกล้กับโบราณสถานสระมรกต ดังความในตำนานคาถาว่า "...ให้ตั้งกระทะน้ำมันให้เดือดแล้วทิ้งพระอรหันต์ลงไป แต่ด้วยปาฏิหาริย์พระอรหันต์ท่านไม่เป็นอันตราย แต่ตั้งอยู่เหนือน้ำมัน ดั่งราชหงส์ที่ลอยอยู่ในอ่างมรกต...."
อย่างไรก็ตามในเรื่องที่มาของชื่อสระมรกตนี้ ได้มีเรื่องเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่อธิบายที่มาของชื่อสระมรกตว่า ในสมัยก่อนได้มีผู้พบดวงไฟสีเขียวสุกใสขนาดเท่าบาตรพระ ลอยอยู่ในบริเวณนี้ จึงขนามนามสระน้ำนี้ว่า สระมรกต
เมื่อพิจารณาจากขนาดและที่ตั้งของสระมรกตแล้ว สันนิษฐานว่าสระมรกตนี้เป็นสระน้ำสำคัญมาตั้งแต่สมัยทวารวดี และต่อมาเมื่ออิทธิพลวัฒนธรรมเขมรแพร่เข้ามายังพื้นที่บริเวณนี้ สระน้ำนี้ก็ถูกดัดแปลงให้เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของโบราณสถานสระมรกต ซึ่งเป็นอโรคยศาลหรือโรงพยาบาลในราวพุทธศตวรรษที่ 18
วัดสระมรกต เป็นอุโบสถที่สร้างด้วยหินอ่อนตกแต่งด้วยสแตนเลสทั้งหลัง กำแพงแก้วล้อมรอบสี่ด้าน มีซุ้มประตูที่สูงใหญ่สวยงาม อุโบสถหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อไม่นานนัก อยู่ใกล้ๆ กับสระมรกต จึงเป็นที่มาของชื่อวัดสระมรกตไปด้วย
วัดสระมรกต
วัดสระมรกต
พระพุทธชินราชโลกนาถบดีศรีมโหสถวรทศพลญาณ เป็นพระนามของพระพุทธรูปปฏิมาประธานในอุโบสถวัดสระมรกต จบการสำรวจโบราณสถานสระมรกตเพียงเท่านี้ครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ