Notice: Undefined index: strFacebookID in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/gallery/placeview_4.php on line 3

Notice: Undefined index: strFacebookID in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/gallery/placeview_4.php on line 3
เยาวราช กรุงเทพมหานคร ทัวร์ออนไทยดอทคอม

www.touronthai.com

หน้าหลัก >> กรุงเทพมหานคร >> เยาวราช

เยาวราช

ความเป็นมาของถนนเยาวราช
    ชาวจีนเมื่อสร้างฐานะได้พอควรแล้วก็จะให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารการกิน โดยมีค่านิยมว่าการกินของดีของอร่อยเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต ตลาดที่เยาวราชจึงคัดสรรแต่ของดีมาจำหน่ายตามความต้องการของลูกค้า จนขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์รวมวัตถุดิบชั้นเยี่ยมในการประกอบอาหาร โดยมีแหล่งของสดที่ตลาดเก่า ผักสดที่ตลาดกรมภูธเรศ และของแห้งที่ตลาดเล่งบ๋วยเอี้ย ทั้งหมดอยู่ใกล้กันสามารถเดินซื้อของได้ในคราวเดียว สินค้าในตลาดเหล่านี้แม้จะมีราคาสูงกว่าที่อื่นๆ แต่ก็เป็นที่นิยมของลูกค้าเพราะเชื่อในได้ว่าล้วนเป็นของดีมีคุณภาพตลาดเล่งบ๋วยเอี้ย ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ มีร้านค้าตลอดสองข้างทาง เป็นแหล่งขายของแห้ง ผลไม้ และอาหารสำเร็จรูปนานาชนิด มีจุดเด่นที่ร้านชำแบบกวางตุ้ง ซึ่งจำหน่ายสินค้าทั้งอาหารแห้ง อาหารรมควัน เครื่องปรุงรส ของหมักดอง ทั้งที่ผลิตในประเทศ และสินค้านำเข้า รวมทั้งเครื่องครัวเครื่องใช้ของคนจีน ตลอดจนของไหว้ตามเทศกาล ช่วงตรุษจีนเป็นช่วงที่ตลาดคึกคักและมีสีสันที่สุด เต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของไหว้เจ้า ร้านค้าต่างๆ จะจัดเตรียมสินค้าชนิดพิเศษสุดไว้บริการลูกค้า

    ถนนเยาราชเป็นหนึ่งในถนนที่สร้างขึ้นตามโครงการตัดถนน 18 สาย เพื่อส่งเสริมการค้าขายในอำเภอสำเพ็ง ตามที่กระทรวงโยธาธิการกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ถนนสายนี้เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. 2435 ในบริเวณที่แต่เดิมเป็นชุมชนแออัดของชาวจีน เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยสกปรกรกรุงรัง เป็นพื้นที่ด้านหลังระหว่างถนนเจริญกรุงและถนนสำเพ็ง การตัดถนนเยาวรายที่มีความยาวเพียง 1,532 เมตร กว้าง 20 เมตร ต้องใช้เวลาถึง 8 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริให้หลีกเลี่ยงบ้านเรือนของราษฎร แนวถนนจึงคดโค้งไปมา เมื่อตัดถนนเสร็จได้โปรดเกล้าฯ ให้ปลูกตึกแถวสมัยใหม่สองข้างถนนให้เช่าทำการค้าขาย เปิดโอกาสให้ชาวจีนจำนวนมากได้เริ่มต้นกิจการของตัวเองโดยมีห้างร้านถาวรทันสมัย เกิดเป็นย่านการค้าใหม่ที่ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของอำเภอสำเพ็ง จนกลายเป็นอำเภอที่เก็บภาษีอากรโรงร้านได้มากที่สุดในประเทศ

    เยาวราชวันนี้
    เยาวราชวันนี้เป็นเสมือนเมืองเล็กๆ ของชาวไทยเชื้อสายจีน ซ้อนอยู่ในนครหลวงของไทย จึงได้รับการขนานนามว่า "ไชน่าทาวน์" ของกรุงเทพฯ และนับเป็นไชน่าทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเต็มไปด้วยมรดกจากประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 200 ปี ปัจจุบันพื้นที่ราว 1.5 กิโลเมตรของย่านนี้ ยังคงมีเสน่ห์ความเป็นจีนปรากฏให้เห็นในทุกซอกทุกมุม สีสันอันหลากหลายของวัฒนธรรมจีนมีให้สัมผัสได้ทั้งในวิถีชีวิตของผู้คน สถาปัตยกรรม งานเทศกาลประเพณี ไปจนถึงอาหารจีนรสเลิศ และที่นี่ยังเป็นย่านการค้าที่คึกคัก เป็นแหล่งรวมสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อีกทั้งเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำระดับโลก เยาวราชวันนี้จึงเป็นทั้งย่านธุรกิจใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวาที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร

    ถนนสายทองคำ
    จากร้านทองคำต้นแบบ 4 ร้าน ในช่วงราวร้อยปีก่อน มาถึงวันนี้ 2 ฝั่งถนนเยาวราชและบริเวณใกล้เคียง มีร้านทองคำกว่า 130 ร้าน ถือเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำของประเทศ อีกทั้งเป็นตลาดทองรูปพรรณ์ทำด้วยมือที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นแหล่งผลิตทองรูปพรรณป้อนสู่ตลาดโลก ทั้งตลาดดูไบ สิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ยุโรป แต่ละวันมีกระแสเงินหมุนเวียนในการค้าทองคำบนถนนสายนี้หลายสิบล้านบาท

    แหล่งรวมอาหารอร่อย
    เยาวราชวันนี้คับคั่งด้วยร้านอาหารจีนเลิศรสหลากหลายประเภท มีทั้งภัตตาคารหรู ร้านห้องแถวริมถนน และรถเข็นริมทางเท้าที่จะเปิดขายกันอย่างคึกคักทุกค่ำคืนภายใต้บรรยากาศแสงไฟละลานตาจนกลายเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของเยาวราช

    และสุดถนนเส้นนี้บริเวณวงเวียนโอเดียนจะพบเห็นซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติเป็นสัญลักษณ์ของไชน่าทาวน์ ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนในเขตสัมพันธวงศ์สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542

    ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่ในที่ที่เหมาะสมยิ่งเพราะเป็นจุดบรรจบพอดีของถนนสายหลักและสายรองรวม 6 ทิศทาง ตำแหน่งที่ซุ้มประตูหันหน้าเข้าถนนตรีมิตรช่วยให้รู้สึกถึงความเป็นประตูทางเข้าที่โดดเด่นเพราะถนนนี้เป็นเส้นทางหลักสำหรับการเดินทางสู่ถนนเยาวราช ซุ้มนี้ยังช่วยเพิ่มพลังแห่งทำเลตามหลักฮวงจุ้ยอีกด้วย ซุ้มประตูแห่งนี้ก่อสร้างด้วยสิ่งมงคลทรงคุณค่าและเปี่ยมความหมายทั้งสิ้น 9 ประการ (นวมหามงคล) ได้แก่

    1. มหาวโรกาส คือวันที่ 5 ธันวาคม 2542 เป็นวันครบ 6 รอบพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    2. ตราสัญลักษณ์ในพระราชพิธีมหามงคลที่อัญเชิญตั้งไว้บนยอดประตู เป็นรูปมังกรเทิดพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ตราสัญลักษณ์นี้สร้างจากทองคำหนัก 99 บาท และผ่านพิธีพุทธาภิเษกที่วัดไตรมิตรวิทยาคม
    3. นาม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ฉลอง 6 รอบพระชนมพรรษา ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมือวันที่ 1 กันยายน 2542
    4. ลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เซิ่ง โซ่ว อู๋ เจียง แปลว่า ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ที่ทรงพระอักษรด้วยพระองค์เองติดตั้งอยู่ที่อีกหน้าบันหนึ่งของซุ้มประตู
    5. อักษรจีน เทียน แปลว่า ฟ้า อยู่ตรงฝ้าเพดานแกนกลางของซุ้มประตู อันเป็นจุดรวมพลังจากสวรรค์และพิภพ อ่านสำเนียงจีนกลางว่า ฟู่ สำเนียงแต้จิ๋วว่า ฮก ล้วนมีความหมายว่า โชคลาภ
    6. อักษรจีน ตี้ แปลว่า ดิน อยู่ที่พื้นบริเวณแกนกลางในแนวดิ่งตรงกันกับ เทียน อ่านสำเนียงจีนกลางว่า เต็ก สำเนียงแต้จิ๋วว่า ไผ่ ล้วนมีความหมายว่า คุณธรรม
    7. น้ำพุด้านหน้าซุ้มประตู เป็นตำแหน่งหงส์แดงตามหลักฮวงจุ้ย หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
    8. แท่นศิลา 9 แท่น ด้านหลังซุ้มประตู อยู่ในตำแหน่งเต่าดำ จารึกภาพและคำบรรยายถึงความเป็นมาของการตั้งถิ่นฐานของชาวจีนที่อพยพมาในไทย
    9. ข้าวตอกดอกไม้ ประธานาธิบดี เจียง เจ๋อ หมิง ของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยและได้โปรยข้าวตอกดอกไม้แห้งไว้เป็นสิริมงคลแก่สถานที่ก่อสร้างซุ้มประตู

ติดต่อสอบถาม:
ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ http://www.tourismthailand.org/bangkok

Line id: @touronthai (ใส่ @)
www.touronthai.com