เขื่อนสิริกิติ์

 ตั้งอยู่ที่บ้านผาซ่อม ตำบลท่าปลา เขื่อนสิริกิติ์เป็นเขื่อนดินสร้างกั้นแม่น้ำน่านที่ผาซ่อม สันเขื่อนยาว 800 เมตร กว้าง 12 เมตร สูง 113.6 เมตร บริเวณเหนือเขื่อนเป็นทะเลสาบใหญ่ที่มีชื่อว่า ทะเลสาบสุริยันจันทรา มีทิวทัศน์สวยงาม เมื่อไปถึงบริเวณเขื่อน นักท่องเที่ยวควรไปติดต่อที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งให้บริการและอำนวยความสะดวกในด้านการท่องเที่ยวบริเวณเขื่อน

    การจองที่พัก การเช่าจักรยาน การให้เช่าเรือท่องทะเลสาบเหนือเขื่อน อัตราค่าเช่าเรือล่องในเขื่อนสิริกิติ์คือ เรือขนาด 150 คน ค่าเช่าชั่วโมงละ 1,700 บาท และเรือขนาด 30 คน ค่าเช่าชั่วโมง 1,400 บาท นอกจากนั้นยังมีสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม และบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามสำรองที่พักได้ที่ โทร. 0 5541 2639 ต่อ 2501, 2503-5 http://www.sirikitdam.egat.com/

    การเดินทาง จากตัวเมืองอุตรดิตถ์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1045 (เขื่อนสิริกิติ์-ท่าปลา) ถึงเขื่อนสิริกิติ์ ระยะทาง 58 กิโลเมตร

    หรือนั่งรถโดยสารจากกรุงเทพฯ ไปลงที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และต่อรถโดยสารสายอุตรดิตถ์-ฟากท่า-บ้านโคก รถจะจอดที่หอนาฬิกา ถนนสำราญรื่น หรือจะเหมารถแท๊กซี่บริเวณสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ก็ได้

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 0 5541 2639 ต่อ 2501, 2503-5
http://www.sirikitdam.egat.com/

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ป้ายบนสันเขื่อนสิริกิติ์ การเดินทางสู่เขื่อนสิริกิติ์ เป็นเส้นทางชัน และค่อนข้างไกลครับ แต่คงไม่ไกลและชันมากขนาดขึ้นเขาที่ขึ้นกันทั่วๆ ไป จากพื้นราบขึ้นมาก็นานพอสมควร เมื่อมาถึงจะมีลานจอดรถ แล้วก็เดินถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย หากต้องการไหว้พระเป็นสิริมงคลก็จะมีทางเดินขึ้นไปบนเนินเขานี้

บรรยากาศบริเวณป้ายเขื่อน นักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวกันเยอะโดยเฉพาะในช่วงเวลาเย็นก่อนพระอาทิตย์จะตก สำหรับชาวอุตรดิตถ์แล้ว จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยๆ คงจะต้องนึกถึงเขื่อนแห่งนี้เป็นที่แรก เหนือป้ายเขื่อนซึ่งเป็นมุมถ่ายรูปมหาชนแล้ว ก็มีทางเดินขึ้นไปไหว้พระพุทธรูปด้านบนได้ด้วย

ผมเคยมาที่นี่ 2 ครั้ง แล้วก็เป็นเรื่องบังเอิญที่ทั้ง 2 ครั้ง จะเลือกมาตอนเวลาเย็น เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตก ข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดอุตรดิตถ์ดูเหมือนจะยังไม่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ถ้าจะชมพระอาทิตย์ตก แล้วไม่มาเขื่อนสิริกิติ์แล้วจะไปไหนกันดี

ครั้งแรกที่ผมมาที่นี่เกือบไม่ทันพระอาทิตย์ตกครับ ผมกะเวลาพระอาทิตย์ตกผิดไปหน่อย เพราะที่พื้นราบพระอาทิตย์ตกเกือบๆ 6 โมง หรือหลัง 6 โมงด้วยซ้ำ แต่ที่นี่มีภูเขาล้อมรอบ พระอาทิตย์จะลับหายไปบนสันเขาก่อนเวลา แต่พอมาครั้งที่ 2 ถือว่าวางแผนมาดี พอมาถึง พระอาทิตย์ก็ลอยสูงกว่าสันเขาแค่ไม่มาก

ท่าเรือสำหรับท่องเขื่อน การให้เช่าเรือท่องทะเลสาบเหนือเขื่อน อัตราค่าเช่าเรือล่องในเขื่อนสิริกิติ์คือ เรือขนาด 150 คน ค่าเช่าชั่วโมงละ 1,700 บาท และเรือขนาด 30 คน ค่าเช่าชั่วโมง 1,400 บาท นอกจากนั้นยังมีสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม และบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามสำรองที่พักได้ที่ โทร. 0 5541 2639 ต่อ 2501, 2503-5
 ข้อมูลข้างบนนี้ก็นานมาแล้วครับเรื่องราคาควรติดต่อสอบถามให้แน่ใจอีกครั้ง

ท่าเริอเขื่อนสิริกิติ์ ใกล้ๆ กับสันเขื่อนมีทางเดินลงมาที่ท่าเรือได้ครับ แล้วนี่ก็เป็นเรือบริการนักท่องเที่ยว ดูขนาดก็พอจะรู้ว่าจุคนได้มากขนาดไหน แต่ถ้าสนใจการล่องแพเที่ยวคงต้องไปติดต่อตามหมู่บ้านที่อยู่ริมอ่างเก็บน้ำ เหนือเขื่อน อย่างเช่นบ้านท่าเรือ มีบริการแพนำเที่ยวหลายลำรออยู่

ชมวิวพระอาทิตย์ตกกันซะทีครับ หลังจากที่รอมานาน ในที่สุดพระอาทิตย์ก็ค่อยๆ เคลื่อนลงมาเรื่อยๆ จนใกล้จะแตะสันเขา เวลาช่วงนี้จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ช่างภาพหลายคนที่มารอเวลาแบบนี้ก็จะต้องกดชัตเตอร์กันให้ทัน ความจริงพระอาทิตย์น่าจะเยื้องมุมไปทางขวาซักหน่อย จะได้วิวอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนสวยๆ แต่แบบนี้คนก็มาดูกันเยอะเหมือนกัน

ภาพแต่งงานที่เขื่อนสิริกิติ์ อีกกิจกรรมหนึ่งที่เราอาจจะได้เห็นบนสันเขื่อนก็คือการถ่ายชุดแต่งงาน ซึ่งปกติสตูดิโอต่างๆ ก็จะสรรหาสถานที่ที่คิดว่าสวยที่สุดในการเก็บภาพให้กับคู่บ่าวสาว ช่วงเวลายามเย็นแบบนี้ท้องฟ้าก็จะมีหลายสี ซึ่งเราก็กำหนดไม่ได้ ผมขอยืมคู่บ่าวสาวคู่นี้ที่ไปวันเดียวกันมาเป็นแบบในการเก็บภาพบรรยากาศที่แต่งแต้มด้วยสีชมพูเพิ่มนิดหน่อยเพื่อให้ภาพดูหวานๆ ใครที่ยังไม่ได้ถ่ายรูปแต่งงานเห็นภาพนี้แล้วอาจจะลองมาถ่ายที่นี่ดูบ้างก็ได้นะครับ

อ่างเก็บน้ำสุดสายตา ช่วงท้ายของการเก็บภาพบนสันเขื่อนก่อนที่แสงสุดท้ายของวันนี้จะลับหายไป เอาเลนส์มาซูมภาพให้เห็นด้านไกลๆ ของเทือกเขาที่เป็นแนวเขื่อน ดูเหมือนว่าอ่างเก็บน้ำจะสุดอยู่แค่นี้ แต่ความจริงแล้วอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ยังไปได้อีกไกลมาก

สะพานเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ และแล้วพระอาทิตย์ก็ลับหายไปพร้อมกับแสงสว่าง การถ่ายรูปก็ควรจะหมดเวลาไปเพียงแค่นั้น เราก็เคลื่อนพลจากสันเขื่อนขับลงเนินเขาเพื่อที่จะกลับ ผ่านร้านอาหารในเขื่อน ก็เลยแวะกินข้าวเย็น ด้านข้างของร้านอาหารมีสะพานแขวนสวยๆ ที่หลายคนคงจะเคยไปถ่ายรูปกันมาแล้ว ความสวยของสะพานแห่งนี้ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า สะพานที่เขื่อนภูมิพลเลย

ร้านอาหารในวันปีใหม่ ถ่ายรูปที่สะพานจนพอแล้ว คราวนี้ก็เข้าไปสั่งอาหารกันได้ ภาพนี้เป็นช่วงวันปีใหม่ ทางเขื่อนสิริกิติ์ตกแต่งร้านและบรรยากาศรอบๆ ร้านด้วยไฟหลายสีหลายขนาด บรรยากาศสดใสดี จบการนำเที่ยวเขื่อนสวยๆ ของอุตรดิตถ์ไว้เพียงเท่านี้ครับ ตอนนี้ต้องเข้าไปกินข้าวแล้ว