ข้อมูลเพิ่มเติม:โทรศัพท์ : 045-411515
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
การเดินทางอันยาวนานตลอดคืนของผมสำหรับทริปนี้สิ้นสุดที่นี่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานฯ จากกรุงเทพฯ ค่อยๆ ขับมาเรื่อยๆ แวะกินข้าวที่บุณฑริก แล้วตรงมาที่นี่ถึงเอา 9 โมง อันดับแรกที่ผมจะทำเสมอๆ ก็คือการเข้าไปหารายละเอียดที่เที่ยวต่างๆ ในอุทยานก่อนที่จะตะลุยไปถ่ายรูป
กล้วยไม้ ในอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอยมีความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายทางธรรมชาติมากแห่งหนึ่ง หากเดินทางในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะพบกับกล้วยไม้ในผืนป่ามากมายหลายชนิด แต่สำหรับการเดินทางพักผ่อนธรรมดาๆ เดินชมกล้วยไม้ที่เจ้าหน้าที่ปลูกไว้หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็มีเป็นสิบชนิดแล้วละครับ
พลาญป่าชาด ดงดอกหญ้าเป็นที่เที่ยวที่ขึ้นชื่อของภูจอง-นายอย พื้นที่แห่งนี้จะมีพืชขนาดเล็กขึ้นอยู่มากมาย ถ้าไม่มองไปที่ดอกของมันมันก็คือหญ้าทั่วๆ ไป ที่ปกติเราจะไม่ใส่ใจกับมันมาก แต่ช่วงฤดูฝนจนถึงต้นหนาว หญ้าเหล่านี้จะออกดอกเบ่งบานสวยงามแต็มทุ่ง เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่นี่ปีละมากๆ ได้ไม่แพ้น้ำตกหรือจุดชมวิวสวยๆ เลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีแมลงมากมายหหลายชนิดที่นี่ให้เราได้ชม ทั้งผีเสื้อกลางวัน ผีเสื้อกลางคืน แมงมุมอีกจำนวนมาก
ทุ่งดอกหญ้าพลาญป่าชาด ดอกไม้ที่พบกันได้มากในทุ่งดอกหญ้าแห่งภูจอง-นายอย ได้แก่แก้มอ้น (ได้ยินบางคนเรียกดอกขี้ครอก) สรัสจันทร์ มณีเทวา (เม็ดกระดุม) ดุสิตา ฯลฯ แต่ละดอกมีขนาดเล็ก ขึ้นกันเป็นกลุ่ม พลาญป่าชาดอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไม่กี่ร้อยเมตร ตามเส้นทางไปน้ำตกห้วยหลวงอันเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของที่นี่ บางคนที่มาก็เดินจากศูนย์ ไปจนถึงน้ำตกเลยก็มี
หยาดน้ำค้าง เป็นพืชกินแมลงสร้างขนมีน้ำคล้ายกาวเหนียวๆ อยู่ปลายขน ออกดอกล่อแมลงให้มาสนใจตัวเองด้วย นอกจากหยาดน้ำค้างแล้ว ยังมีจอกบ่วายที่มีลักษณะเป็นวงกลมแบนติดดิน แต่ขนาดไม่ใหญ่มาก หากสนใจจะชมจอกบ่วายสวยๆ ดอกใหญ่ๆ แนะนำให้ไปที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เพราะมีจำนวนมากดอกใหญ่สวยมากครับ
ศูนย์บริการน้ำตกห้วยหลวง หลังจากที่เพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูปดอกหญ้าที่พลาญป่าชาดแล้ว ขับรถตรงตามเส้นทางมาอีกประมาณ 2 กิโลเมตรเศษๆ จนสุดถนนลาดยางเราก็จะมาถึงที่นี่ เป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตรงทางลงน้ำตกห้วยหลวง ที่นี่มีร้านอาหารและเครื่องดื่มเรียงรายกันที่อีกฝั่งหนึ่งของลานจอดรถ ต่อจากนี้ไปเราจะไปยังสถานที่อันเป็นไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยกันแล้ว
น้ำตกห้วยหลวง จากศูนย์บริการเดินทะลุมาด้านหลัง จะมีระเบียงสำหรับการยืนชมวิวสวยๆ ของน้ำตก เป็นระดับที่สูงมากทีเดียวเลยละ จากจุดนี้จะมีทางเดินลงไปด้านล่าง สูงมากๆ แต่มีบันไดมาเป็นตัวช่วยให้การเดินของเราไม่ต้องลำบากมากนัก
ทางลงน้ำตกห้วยหลวง ก่อนที่จะเดินลงมาจริงๆ ควรจะสำรวจตัวเองด้วยว่าจะเดินกลับขึ้นไปได้หรือเปล่า ทางเดินลงมาที่แอ่งน้ำตก ไม่ไกลมากก็จริงแต่สูงมากครับ หลายคนที่ไม่ค่อยจะคุ้นกับการออกกำลังกาย เดินขึ้นสะพานลอย อะไรทำนองนี้จะรู้สึกเหนื่อยมากเวลาเดินกลับขึ้นไปด้านบน
แอ่งน้ำมรกตอัญมณีแห่งอีสานใต้ ความใสของน้ำที่นี่ใสมาก รอบแอ่งน้ำยังเป็นหาดทรายกว้างๆ ระดับน้ำมีไล่ระดับตื้นไปหาลึก ส่วนกลางของแอ่งน้ำลึกมาก เจ้าหน้าที่จะขึงเชือกเป็นแนวห้ามลงไปเล่นลึกกว่าที่กำหนด น้ำตกห้วยหลวงตกลงมาจากผาสูงในฤดูฝนน้ำตกจะเต็มหน้าผา ต้นเดือนพฤศจิกายน น้ำจะเหลือน้อยเหมือนอย่างที่เห็น แต่ก็นับว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอยู่ดี น้ำตกมากมายหลายแห่งในภาคอีสานเมื่อถึงเดือนพฤศจิกายนแบบนี้แทบจะไม่มีน้ำไหลให้เห็นด้วยซ้ำ
น้ำตกจุ๋มจิ๋ม เป็นชื่อที่เรียกกันแบบสนุกๆ ของน้ำตกแห่งนี้ สายน้ำนี้เป็นสายเดียวกันกับที่ไหลมาจากน้ำตกห้วยหลวง ที่นี่ก็เป็นเหมือนน้ำตกห้วยหลวงอีกชั้นหนึ่งนั่นเอง ระยะทางเดินจากน้ำตกห้วยหลวงมาที่นี่ 100 เมตร เมื่อคำว่าห้วยหลวง แปลว่าใหญ่ น้ำตกนี้บางทีก็ได้ยินเจ้าหน้าที่เรียกกันว่าน้ำตกน้อย บางทีก็เรียกกันว่าน้ำตกจุ๋มจิ๋ม จากตรงนี้จะเดินขึ้นข้างบนเลยก็ไม่ได้ต้องย้อนกลับไปที่น้ำตกห้วยหลวงแล้วเดินขึ้นบันไดกลับไป
เส้นทางศึกษาธรรมชาติแก่งกะเลา อีกกิจกรรมหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย ก็คือการเดินศึกษาธรรมชาติมีระยะ 1 กิโลเมตร กับ 700 เมตร ซึ่งถือว่าไม่ต่างกันมาก 700 เมตรเป็นเส้นทางจากน้ำตกห้วยหลวงมายังแก่งกะเลา ส่วน 1 กิโลเมตรก็จะมีเส้นทางเดินออกไปเป็นรูปวงกลมจนกลับไปที่น้ำตกห้วยหลวงอีกครั้ง ในฤดูน้ำมากๆ เดินจากตรงนี้ต่อไปอีกหน่อยจะมีกิจกรรมล่องแก่งด้วยเรือคยัคที่แก่งอีกแห่งหนึ่งด้วยครับ แต่ตอนนี้น้ำน้อยจนพายไม่ได้
แก่งกะเลา เป็นลานหินกว้างขวางมีธารน้ำไหลผ่าน บริเวณนี้ทั้งหมดปกคลุมด้วยต้นไม้ไม่ใหญ่มากนัก ระหว่างแนวต้นไม้เจ้าหน้าที่จัดเป็นที่นั่งสำหรับพักผ่อน แสงแดดที่ส่องลงมาไม่ถึง สายน้ำที่ไหลผ่านทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เหมือนเกาะเล็กๆ ที่ร่มเย็น แก่งกะเลาจึงกลายเป็นสถานที่ปิคนิคของหลายๆ ครอบครัวที่มาเที่ยว
ช่วงท้ายของการพาเที่ยวอุทยานแห่งนี้ ผมจะปิดด้วยรูปแมลงชนิดต่างๆ เริ่มจากผีเสื้อกลางคืนที่มีให้เห็นได้ตลอดทาง ตอนกลางวันมันจะเกาะใบไม้แล้วอยู่นิ่งๆ เหมือนนอนหลับอยู่นั่นเอง ผีเสื้อกลางคืนแม้จะไม่มีสีสันสดใสเหมือนผีเสื้อกลางวัน แต่มันก็เป็นแมลงที่น่าสนใจมากอย่างหนึ่ง
แมงมุมชนิดต่างๆ นี่เป็นเพียงบางส่วนที่ผมเจอที่นี่ 2 ภาพด้านขวามือเป็นแมงมุมกระโดด มันจับเหยื่อด้วยวิธีการกระโดดเข้าหาเหยื่อ ไม่มีการสร้างไยเอาไว้ดักเหมือนแมงมุมที่เราเห็นกันทั่วไป ปกติแมงมุมกระโดดเราพบเห็นมันได้บ่อยๆ ตามบ้านเราก็มี บางทีมันก็จะเกาะแขนเกาะขา เกาะกางเกง พอเราปัด มันจะกระโดดหนืแต่จะทิ้งไยไว้ 1 เส้นห้อยต่องแต่งๆ อยู่กลางอากาศ พอเอาเลนส์มาโครมาส่องใกล้ๆ หน้าตามันเป็นแบบนี้นี่เอง ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ส่วนภาพล่างซ้ายเป็นลูกแมงมุมที่กำลังหัดเดิน
แมงปอ ปิดท้ายกันจริงๆ ด้วยรูปแมงปอ เจ้านี่หาง่าย เพียงแต่เวลาถ่ายรูปมันเราต้องใจเย็นและอดทนย่องเข้าไปหามันช้าๆ และอย่าลืมดูฉากหลังให้ดี โฟกัสแม่นๆ ที่หัวมัน ภาพก็จะออกมาสวยได้ครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ