ข้อมูลเพิ่มเติม:Tel : 035611277, 035613427-9
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
สมเด็จพระศรีเมืองเงิน เช้าวันนี้เราตั้งใจเดินทางมาที่อ่างทองตั้งแต่เช้ามืด มาถ่ายรูปพระองค์ใหญ่ที่วัดม่วงตอนพระอาทิตย์ขึ้น หลังจากนั้นก็เดินทางเข้าเมืองอ่างทอง หาข้าวเช้ากินใกล้ๆ กับสี่แยกอ่างทองที่มีอ่างอยู่ 2 ใบ เลยสถานขนส่งไปหน่อย มีโซนที่เป็นร้านอาหารเรียงกันอยู่หลายร้าน ก็จัดการกับมื้อเช้าให้เรียบร้อยหลังจากนั้นก็ขับตรงไป ถึงโรงเรียนอ่างทองไอทีก็เลี้ยวขวาแล้วก็จะมีทางมาถึงวัดต้นสนได้
ว่ากันว่ามาอ่างทองไม่มาวัดม่วงกับวัดต้นสนก็ไม่ถึงอ่างทอง ทั้งสองวัดมีจุดเด่นที่คล้ายกันคือมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่วัดม่วงเป็นพระก่ออิฐฉาบปูนสูงตระหง่านเห็นได้แต่ไกล แต่ที่วัดต้นสนเป็นพระโลหะหล่อขึ้นมา จึงสร้างให้ใหญ่เท่ากับวัดม่วงไม่ได้ แต่ก็นับว่าเป็นพระโลหะหล่อที่ใหญ่ที่สุดในโลกประเภททองเหลืองทั้งองค์ ประดิษฐานอยู่ในวิหารจึงมองไม่เห็นจากภายนอก ในวัดต้นสนก็ยังมีการสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐฉาบปูนขึ้นมากที่ด้านหน้าใกล้ๆ กับซุ้มประตูวัด นามว่าสมเด็จพระศรีเมืองเงิน ขึ้นมามองเห็นได้แต่ไกล พอเลี้ยวเข้าประตูวัดหลายๆ คนก็จะเลือกจอดรถที่หน้าองค์พระ เพราะอยู่ใกล้กับวิหารสมเด็จพระศรีเมืองทอง
วิหารสมเด็จพระศรีเมืองทอง วัดต้นสน พอจอดรถหน้าวิหาร ตอนนี้เราจะเข้าไปสักการะ สมเด็จพระนะวะโลกุตตะระธมมะบดีศรีเมืองทอง ด้านในกันครับ แต่ดูหน้าวิหารก่อนถ้าไม่มีเลนส์มุมกว้างหรือเลนส์ไวด์ละก็จะถ่ายรูปวิหารหลังนี้ก็คงจะไม่เต็มทั้งหลังเหมือนผมแน่ๆ
สมเด็จพระนะวะโลกุตตะระธมมะบดีศรีเมืองทอง วัดต้นสน พระพุทธรูปองค์สำคัญประจำวัดต้นสน มีพระนามที่ยาวไพเราะ แต่ด้วยความยาวคงทำให้จำกันได้ยาก ชาวบ้านจึงเรียกพระพุทธรูปองค์นี้แบบสั้นๆ ว่า สมเด็นพระศรีเมืองทอง จนทุกวันนี้
พระราชสุวรรณโมลี อดีตเจ้าอาวาสวัดต้นสน เริ่มสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ อันให้นามว่า สมเด็จพระพุทธนวโลกุตร ธัมมบดีศรีเมืองทอง หรือเรียกโดยย่อว่า สมเด็จพระศรีเมืองทอง เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖ โดยมี พระครูอนุศาสน์โสภณ เป็นเลขาฯ ช่วยสร้างมาโดยตลอด พระราชสุวรรณโมลี สร้างสมเด็จพระศรีเมืองทองมาได้ถึงพระอุระ (อก) ขององค์พระพุทธรูป ท่านก็มรณภาพลง เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๒๓ จากนั้น พระวิสิฐคณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดต้นสน รูปปัจจุบัน และเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง จึงรับช่วงดำเนินการสร้าง และมีการพัฒนาต่อเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
พอเข้ามาในวิหารแล้วเราจะได้พบกับพระพุทธรูปทองเหลืองทั้งองค์หน้าตกเกือบ 7 วา ประดิษฐานอยู่บนฐานสูงขึ้นไปอีกชั้น ภายในวิหารที่กว้างประมาณเกือบ 3 เท่าขององค์พระ จะมีตู้วัตถุมงคลมากมายเลือกเช่าบูชาเป็นสิริมงคลและทำบุญกับวัดต้นสนกันได้ การจะถ่ายรูปพระพุทธรูป สมเด็จพระศรีเมืองทอง ต้องยืนอยู่ที่พื้นวิหารด้านล่างอย่างที่เห็นนี้ละครับถึงจะถ่ายได้เต็มทั้งองค์ สำหรับผู้ที่มาสักการะปิดทองสามารถจุดธูปเทียนในวิหารได้ (วิหารสูงใหญ่การถ่ายเทอากาศดี) แล้วนำแผ่นทองคำเปลวไปปิดที่องค์พระที่ชั้นบนได้เลย
ปิดทองสมเด็จพระศรีเมืองทอง วัดต้นสน ภาพนี้เจตนาจะให้เห็นครับว่าความแตกต่างของคำว่าเอื้อมถึง กับเอื้อมไม่ถึง จึงได้เกิดเป็นภาพแบบนี้ขึ้นมา พุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาหลวงพ่อสมเด็จพระศรีเมืองทอง หรือหลวงพ่อวัดต้นสนองค์นี้มีมากมายเหลือเกินอย่างที่บอกว่ามาอ่างทองไม่มาวัดต้นสนกับวัดม่วง คุณยังไม่ถึงอ่างทอง ผมเคยมาวัดม่วงถึง 3 ครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาวัดต้นสน ผมก็รู้สึกว่าตัวเองเพิ่งจะถึงอ่างทองเหมือนกัน ประชาชนมาปิดทององค์พระก็ปิดเฉพาะส่วนที่ตัวเองเอื้อมไปถึง มีทั้งด้านหน้าและด้านหลังขององค์พระ แต่ปิดได้เพียงนิ้วพระหัตถ์ขวา และพระเพลา (ขา) เท่านั้น ส่วนที่สูงขึ้นไปก็สุดมือเอื้อม เห็นได้ชัดครับว่าพระองค์นี้ใหญ่ขนาดไหน
พระบรมสารีริกธาตุ ออกจากวิหารสมเด็จพระศรีเมืองทอง เดินมาฝั่งตรงกันข้ามเป็นอาคารรับรอง ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ ให้ประชาชนได้มีโอกาสสักการะบูชา ภายในจัดเป็นโต๊หมู่ 2 ชุดด้วยกัน ด้านซ้ายมือเป็นพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานในบุษบกสวยงาม
อุโบสถวัดต้นสน ลึกเข้ามาในวัดเรื่อยๆ ครับ ด้านในมีพระอุโบสถ มีลานจอดรถอยู่ตรงนี้แต่ประตูด้านนี้ไม่เปิดต้องเดินอ้อมไปด้านข้าง
หลวงพ่อดำ วัดต้นสน เป็นพระปฏิมาประธาน ประดิษฐานบนฐานชุกชีที่งดงามมาก พระพุทธลักษณะคล้ายกับสมเด็จพระศรีเมืองทอง พร้อมกับพระอัครสาวกซ้ายและขวา ขนาบข้างด้วยฉัตรทอง ภายในมีภาพจิตรกรรมที่สวยงามรอบด้าน ภาพที่อยู่เบื้องหลังขององค์หลวงพ่อดำเน้นความเป็นธรรมชาติท้องทุ่งนา
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จำลอง นอกเหนือจากไหว้สมเด็จพระศรีเมืองทอง วัดต้นสนยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายอย่างที่สร้างจำลองให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะ ได้แก่ศาลซำปอกง พระพุทธชินราช พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม) พระพุทธโสธร ทั้งหมดเรียงอยู่ชิดกับกำแพงวัดด้านตะวันออก ใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยา
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดต้นสน ขับรถหรือเดินเลียบกำแพงด้านตะวันออกมาเรื่อยๆ เราจะพบกับบ่อเต่า เต่าที่นี่มีจำนวนมากจริงๆ ในบ่อรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี ไม่เหมือนกับบ่อเต่าที่เราเห็นน้ำดำๆ อยู่ทั่วไป มีมะละกอสุกสำหรับเลี้ยงอาหารเต่า ใกล้ๆ กันก็จะมีศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองสร้อยสุวรรณ์ อายุกว่าพันปี หลวงปู่ทวด ศาลพระอินทร์
พระเกตุแก้วจุฬามณีเจดีย์ ท้ายสุดของวัดต้นสนสุดทางที่ตรงนี้ครับ ด้านบนเป็นพระเกตุแก้วจุฬามณี บริเวณฐานสร้างเป็นห้อง ด้านหน้ามีศาลพระอินทร์
วังมัจฉา วัดต้นสน ตอนนี้กลับมาที่ใกล้ๆ หลวงพ่อโสธรจำลอง จะมีช่องประตูที่กำแพงวัด เดินออกมาจะเป็นเขื่อนริมน้ำเจ้าพระยา ด้านล่างสร้างเป็นแพมีสะพานเชื่อมออกไปแลดูสวยงามกว่าวัดอื่นๆ ที่เคยเห็น บริเวณนี้ก็เรียกว่าวังมัจฉาเช่นเดียวกับหลายๆ วัด เป็นพื้นที่สำหรับมาเลี้ยงอาหารปลา และว่ากันว่าเป็นวังมัจฉาที่ใหญ่ที่สุด มีจำนวนปลาคร่าวๆ อยู่ประมาณ 1 แสนตัว
เลี้ยงอาหารปลาวังมัจฉาวัดต้นสน อย่างที่เห็นในรูปนี้แหละครับ ปลามากน้อยก็ดูกันเอาเองละกัน
จบการนำเที่ยวไหว้พระทำบุญวัดต้นสนเอาไว้เท่านี้ครับ ออกจากวัดต้นสนใช้เส้นทางเลียบเจ้าพระยา (ไม่ใช่สายเอเซีย) ขึ้นไปทางเหนือ จะไปสักการะพระนอนที่วัดพระนอนจักรสีห์กันต่อครับ ถ้าสนใจคลิกตามมาเลย
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ