www.touronthai.com

หน้าหลัก >> กาญจนบุรี >> อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

 อุทยานแห่งชาติเอราวัณ เดิมมีชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเขาสลอบ ประกาศเป็นเขตอุทยานฯ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2518 มีเนื้อที่ 343,735 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นอุทยานแห่งชาติเอราวัณเนื่องจากชั้นสูงสุดของน้ำตกเป็นธรรมชาติที่มีลักษณะคล้ายหัวช้างเอราวัณ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ น้ำตกเอราวัณ อยู่ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงาม บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ต้นน้ำเกิดจากลำห้วยม่องไล่ไหลผ่านลงจากยอดเขาและผาสูง 2,100 เมตร น้ำตกเอราวัณมีความยาว 1,500 เมตร แบ่งเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีลักษณะเป็นอ่างสามารถเล่นน้ำได้ และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเอราวัณ ระยะทาง 1,060 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผ่านป่าดิบเขา จุดชมวิวและป่าผลัดใบที่สวยงาม ท่านจะได้รับความเพลิดเพลินในการชื่นชมธรรมชาติและได้ความรู้จากป้ายสื่อความหมาย

    อุทยานปรับราคาแล้วนะครับ ค่าเข้า ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท/คน เด็ก 50 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท/คน ค่ารถยนต์ที่เข้า 30 บาท/คัน ค่ารถกอลฟ์ จากที่จอดรถไปน้ำตก 30 บาท/คน/เที่ยว

    ในบริเวณอุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 วันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น. วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-15.30 น.

หรือเว็บไซต์ www.dnp.go.th

หรือที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หมู่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี โทร. 0 3457 4222, 0 3457 4234

    หมายเหตุ : อุทยานแห่งชาติเอราวัณได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภาคกลาง จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ครั้งที่ 6 ประจำปี 2549 มีการบริการเทียบเท่าระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นรถกอล์ฟสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการที่ประสงค์จะเข้าชมน้ำตก ซึ่งอยู่ห่างจากที่จอดรถถึงน้ำตกชั้นแรกประมาณ 700 เมตร

    การเดินทาง รถยนต์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 3199 (กาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์) เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 56 แยกซ้ายข้ามสะพานเข้าตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถแล้วเดินต่อไปอีก 500 เมตร จะถึงน้ำตก รถโดยสารประจำทาง มีรถสายกาญจนบุรี-เอราวัณออกจากสถานีขนส่ง ถ.แสงชูโต มายังตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนการเข้าไปท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวควรมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ โดยดูได้จากเว็บไซต์ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช www.dnp.go.th และแนะนำนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติที่มีการกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวไว้ ให้ติดต่อสอบถามหรือสำรองการเข้าไปใช้บริการล่วงหน้าก่อนการเดินทางที่อุทยานแห่งชาติโดยตรงได้ที่ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี โทร. 0 3457 4722 และ 0 3457 4234

เวลาเปิด-ปิด:07:00 - 17:00

โทร:034 578 222, 034 578 228

ค่าเข้า:ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทรศัพท์ : 0 3457 4222, 0 3457 4234, 08 1914 8791
http://www.dnp.go.th

แก้ไขล่าสุด 2017-04-29 21:38:21 ผู้ชม 66831

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ
ตลาดสดเทศบาลตำบลเอราวัณ

ตลาดสดเทศบาลตำบลเอราวัณ จุดเริ่มต้นของการเดินทางเที่ยวน้ำตกเอราวัณของเราสำหรับทริปนี้ หลังจากที่ได้เดินทางจากถ้ำกระแซและทางรถไฟสายมรณะ มุ่งหน้าสู่เขื่อนศรีนครินทร์ด้วยทางหลวงหมายเลข 3457 ตัดจากทางหลวงหมายเลข 323 หรือถนนแสงชูโตมายังช่องสะเดา เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3199 จากนั้นจะเห็นเขื่อนท่าทุ่งนาอยู่ซ้ายมือ ขับไปเรื่อยๆ ถึงทางเข้าเขื่อนศรีนครินทร์ จะมีป้ายบอกทางให้เลี้ยวซ้ายไปตลาดสดเทศบาลตำบลเอราวัณและน้ำตกเอราวัณ ในที่สุดก็มาจอดรถอยู่ที่ลานจอดรถใกล้หอนาฬิกา หากอยากเข้าห้องน้ำมีห้องน้ำสร้างขึ้นมาใหม่ๆ สะอาดไว้บริการอยู่ห่างจากตลาดสด 100 เมตร มีฉากหลังเป็นภูเขา จากนั้นก็ไปสั่งอาหารเป็นเมนูส้มตำ ข้าวเหนียว คอหมูย่าง ลาบ น้ำตกหมู ต้มยำปลาคัง กินให้เต็มที่ก่อนที่จะต้องใช้แรงอีกมากในการพิชิตภูผาเอราวัณ น้ำตกชั้นที่ 7 ของที่นี่

เดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

เดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หลังจากอิ่มหนำสำราญกันดีแล้ว ก็ออกเดินทาง จากตลาดสดเทศบาลตำบลเอราวัณไปยังอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ระยะทาง 2 กิโลเมตร หากเอารถมาก็ขับเข้าไปเลย หากมารถโดยสารก็รอหน่อยจะมีสองแถวมารับที่ตลาดเข้าไปเส้นทางคดเคี้ยวเล็กน้อยผ่านป้ายต่างๆ ก็พอให้ถ่ายมาเป็นที่ระลึกถึงเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณมีด่านเก็บค่าเข้าชม หลังจากนั้นไม่นานก็มาถึงลานจอดรถกว้างใหญ่ แรกๆ คิดว่าการมาเที่ยวน้ำตกเอราวัณจะจอดรถที่ตลาดสดเทศบาล แล้วเดินไปน้ำตก ยังคิดแปลกใจกันอยู่ว่าทำไมลานจอดรถรอบตลาดจึงได้ว่างนัก แต่พอขับเข้ามาที่ลานจอดรถของอุทยาน รถจำนวนมากทั้งรถส่วนตัว รถตู้และรถทัวร์ขนาดใหญ่จอดเต็มลานจนหาที่ว่างแทบไม่ได้คราวนี้ก็ถึงบางอ้อแล้วครับ ในน้ำตกเองก็จะต้องมีคนมากมายลงเล่นน้ำตกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับนักถ่ายภาพวิวแล้วนี่คือปัญหาใหญ่ของการเก็บภาพสวยๆ ของน้ำตกเลยทีเดียว แต่ถึงยังไงก็ต้องไปกันต่อ ก่อนอื่นเอาพาสปอร์ตเที่ยวอุทยานแห่งชาติมาประทับตรากันก่อนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

บริเวณอุทยานแห่งชาติเอราวัณ

บริเวณอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ก็จะเห็นมีช้าง 2 ตัวที่สร้างด้วยการเอาไม้มาเรียงต่อกันขึ้นเป็นรูปช้างขนาดเท่าช้างจริงๆ จากนั้นก็จะเป็นทางเดินเข้าไปยังน้ำตก ซึ่งต้องผ่านด่านแรกก่อนเป็นด่านรับฝากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะไม่อนุญาตให้นำเข้าไปดื่มในเขตอุทยานแห่งชาติทุกแห่ง ผ่านด่านนี้ไปได้แล้วก็จะเป็นทางเดินลาดยางเข้าไป 500 เมตรถึงบริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 ของน้ำตกเอราวัณ ทางเดินนี้ค่อนข้างร่มรื่น เดินไปสัก 100 เมตรจะเห็นทางแยกมีลูกศรบอกให้เราเดินไปตามเส้นทางขวามือ ทำให้เราสงสัยว่าทางลาดยางด้านซ้ายมือมันไปไหน แต่เราก็เดินตามเส้นทางเดินแบบธรรมชาติไม่มีลาดยางไปทางขวา พอเดินไปจนเกือบถึงน้ำตกชั้นที่ 1 เราเห็นทางลาดยางที่มาจากทางด้านซ้ายของทางแยกมาบรรจบกับทางดินที่เราเดินเป็นอันเข้าใจได้เลยว่ามันก็คือทางเดียวกัน ทางสบายๆ ลาดยางอุทยานมีไว้ขนของมาที่ร้านขายของซึ่งมีข้าวเหนียวส้มตำ และอาหารบริการที่น้ำตกชั้นที่ 1 นั่นเอง (เฮ้อ น่าจะมาทางซ้าย)

น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ ไหลคืนรัง รอบๆ บริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 ที่ชื่อว่า ไหลคืนรัง นี้มีแคร่นั่งพักผ่อนหลายตัวให้เลือกกระจายกันไปตามริมธารของน้ำตกเอราวัณ และอย่างที่บอกว่ามีร้านอาหารแบบต้องแลกคูปอง ใช้คูปองซื้ออาหารมานั่งกินกันได้ จากตลาดสดเทศบาลตำบลเอราวัณ ก็มีเสื่อและกระติกน้ำแข็งให้เช่าเอาเข้ามากินที่นี่ได้ แต่หลังจากชั้น 1 ไหลคืนรัง แล้วจะนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไม่ได้แล้ว แต่ก่อนที่จะอธิบายอะไรต่อจากนี้ไปหลายคนที่เคยมาน้ำตกเอราวัณคงจะบอกว่านี่ไม่ใช่ชั้น 1 ซะหน่อย ซึ่งนั่นก็ถูกครับ นี่เป็นเพียงลำธารที่ไหลลงมาจากชั้น 1 เท่านั้นแต่ด้วยแผงม่านน้ำตกที่สวยงามกับน้ำสีเขียวมรกต เลยแวะเก็บภาพมาให้ชมกัน

ปลาพลวง

ปลาพลวง เป็นปลาที่พบได้มากในน้ำตกเอราวัณทุกชั้นเลยก็ว่าได้ ปลาชนิดนี้มีอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะในแอ่งน้ำตกแต่ละชั้น หากนั่งเล่นริมน้ำเพลินๆ อาจจะได้เห็นปลาพลวงเหล่านี้กระโดดทวนน้ำโชว์ด้วยครับ

ลำธารใต้น้ำตกชั้นแรก

ลำธารใต้น้ำตกชั้นแรก หลังจากที่ถ่ายรูปได้ไม่นานนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาพักผ่อนที่น้ำตกเอราวัณก็เดินตามหลังเรามาถึงน้ำตกเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่มาก การเที่ยวน้ำตกของชาวต่างชาติก็จะใส่ชุดว่ายน้ำเล่นน้ำกันเป็นปกติ แต่อาจจะดูแปลกสำหรับคนบ้านเราไปสักหน่อย การลงเล่นน้ำด้วยชุดลำลองที่เราทำเป็นปกติก็เป็นเรื่องแปลกของชาวต่างชาติด้วยเหมือนกัน เมื่อมีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่เดินตามหลัง เห็นทีการถ่ายภาพของเราต้องทำแบบภาพด่วนรอรับได้ ถ่ายเสร็จแล้วรีบเดินเพื่อให้นำหน้าอยู่ 1 ชั้น ตลอดเวลาแต่ความคิดนี้ก็ไม่ใช่ความคิดที่ใช้การได้ เพราะชั้นต่อไปก็มีนักท่องเที่ยวที่มาถึงก่อนเราอยู่เต็มไปหมดเหมือนกัน

ไหลคืนรัง

ไหลคืนรัง ชื่อน้ำตกชั้นแรกของเอราวัณแน่นอนว่าเป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด มีร้านอาหารแคร่นั่ง หลายคนที่มาที่นี่มาเพื่อพักผ่อนอย่างแท้จริงไม่ได้หวังจะมาเดินป่าดูน้ำตกหลายชั้น แต่การได้เปลี่ยนที่กินข้าวแบบปิคนิคกันในครอบครัว เพียงชั้นแรกก็สวยมากแล้วและส่วนใหญ่ที่มากันแบบครอบครัวจะมีผู้สูงอายุแต่ยังแข็งแรงเดินไหวมาด้วย แต่ก็คงไม่อยากจะเดินมากเกินไป น้ำตกเอราวัณชั้นแรกหรือไหลคืนรังนี้มีความพิเศษกว่าชั้นอื่น คือมีแอ่งน้ำที่ตรงน้ำตก จากนั้นจะมีขอบหินปูนซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติกั้นเป็นแนวโค้งโดยรอบแล้วล้อมด้วยแอ่งน้ำวงนอกเป็นที่อยู่ของปลาพลวงที่ว่ายไปมาหยอกล้อนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำด้วยการตอด ทำเอาสาวๆ ที่ลงน้ำไปร้องกรี๊ดเพราะปลาพลวงกันหลายคน

น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ วังมัจฉา เป็นน้ำตกชั้นที่ 2 ของน้ำตกเอราวัณ อยู่ห่างจากน้ำตกชั้นที่ 1 ประมาณ 300 เมตร เป็นทางเดินอย่างง่ายๆ นับว่าเป็นจุดสิ้นสุดของการอนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปในน้ำตก หากต้องการนำน้ำเข้าไปจะต้องมัดจำค่าขวดน้ำ ขวดละ 20 บาท และจะได้คืนเมื่อกลับมาพร้อมขวดน้ำที่บันทึกหมายเลขไว้บนฝาขวด (แปลว่าต้องเอาขวดใบเดิมหมายเลขของเราซึ่งลงทะเบียนไว้ในสมุดเท่านั้น) รอบน้ำตกชั้นที่ 2 ที่ชื่อวังมัจฉานี้มีแคร่นั่งพักผ่อนหลายตัว เป็นชั้นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังเดินไม่แพ้ชั้นแรก

น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ วังมัจฉา ภาพน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 2 มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่และกว้างมาก จึงเป็นเหตุให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ชอบลงเล่นน้ำ และมีแรงเดินพอไหวอยู่ ที่ชั้นนี้จะเห็นผู้สูงอายุเพียงไม่กี่คนแล้วต่างจากชั้นที่ 1 น้ำตกจากผาหินปูนลดหลั่นกันเล็กน้อย หน้าผากว้าพอสมควรสร้างภาพที่งดงามให้กับผู้ที่ได้มาเห็น และหลายคนก็จะพูดคล้ายๆ กันว่าเป็นชั้นที่สวยที่สุดระหว่างการเดินมาถึงน้ำตกชั้นนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากลงเล่นน้ำอย่างสนุกสนานกันแน่นรอบๆ แอ่งน้ำทำให้เราต้องเดินผ่าชั้นนี้ไปแล้วค่อยกลับมาถ่ายรูปตอนขากลับ เมื่อลงทะเบียนขวดน้ำดื่มเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็ออกเดินทางสู่น้ำตกชั้นต่อไป

สายธารเอราวัณ

สายธารเอราวัณ เป็นสายธารที่ไหลยาวจากยอดเขาซึ่งเป็นน้ำตกชั้นที่ 7 ลงมาจนถึงชั้นแรก ในระหว่างเดินชมน้ำตกทั้ง 7 ชั้น จะมีสะพานข้ามลำห้วยอยู่เป็นช่วง เมื่อเดินข้ามลำธารไปจะเห็นม่านน้ำตกไหลอวดความสวยงามแก่สายตานักท่องเที่ยวที่เดินผ่านอยู่เป็นระยะๆ จากจุดนี้ไปถึงน้ำตกชั้นที่ 3 ไม่ไกลมาก

น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ ผาน้ำตก เป็นน้ำตกอีก 1 ชั้นที่เป็นเป้าหมายของการเดินทางของใครหลายๆ คน การเดินจากชั้นแรกมายังชั้นนี้ใช้เวลาไม่นานมากนัก หลายๆ คนเมื่อถึงชั้นนี้ก็ลงเล่นน้ำ และไม่ไปต่อ ริมแอ่งน้ำของน้ำตกชั้นที่ 3 มีแคร่ให้นั่งพักผ่อน มีอุปกรณ์ช่วยคนตกนำแขวนเอาไว้ก็คือห่วงยางกับเชือกที่ผูกไว้ การเดินเที่ยวน้ำตกบางครั้งใช้พลังขามาก พอลงเล่นน้ำเย็นๆ เป็นเวลานานอาจจะเกิดตะคริวได้ แอ่งน้ำตกของชั้นนี้ค่อนข้างลึกและกว้าง ล้อมรอบด้วยผาสูง มีต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่นสวยงาม โดยแอ่งน้ำสีมรกตขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง

น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ ผาน้ำตก จุดเด่นอย่างหนึ่งของการถ่ายภาพน้ำตกเอราวัณคือการใช้ปลาพลวงที่มีอยู่มากมายทุกชั้นน้ำตกเข้ามาเป็นองค์ประกอบ หน้าผาน้ำตกนี้สูงกว่า 6 เมตร แต่บางทีเมื่อถ่ายภาพมาแล้วกลับดูเหมือนเป็นน้ำตกขนาดเล็กกว่าความเป็นจริง การแบกกระเป๋ากล้องมาจนถึงน้ำตกชั้นนี้ พร้อมกับขาตั้งตัวใหญ่มันไม่ง่ายเลยนะนี่ ผมเอาผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ชุบน้ำในธารน้ำตกเย็นๆ เอาไว้เช็ดหน้าและซับเหงื่อตลอดการเดินป่า แต่ภาพที่ได้เห็นจากน้ำตกเอราวัณแต่ละชั้นนั้นทำให้ความเหนื่อยมันหายไปทุกที สมคำเล่าลือที่ว่า น้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของกาญจนบุรี จริงๆ ปลาพลวงเหล่านี้จะอยู่ริมฝั่งใกล้กับแคร่นั่ง เหมือนกับว่ารออาหารจากนักท่องเที่ยว แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่ค่อยได้เห็นใครเอาอะไรมาให้ปลากิน นอกจากการลงเล่นน้ำเท่านั้น ถ้าหากอยู่กับที่สักพักเป็นอันโดนปลาตอดแน่ๆ

น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ ผาน้ำตก หลังจากเก็บภาพจากมุมด้านข้างของน้ำตกคราวนี้ลองเดินเข้าไปกลางแอ่งน้ำซึ่งมีพื้นพอเดินเข้าไปได้เบื้องล่างที่เหยียบยืนอยู่นี้เป็นรากไม้คดๆ งอๆ หากเอากล้องมาถ่ายภาพให้เดินอย่างระมัดระวังเดี๋ยวจะสะดุดได้ง่าย จากมุมนี้ทำให้เราเห็นแอ่งน้ำใสสีเขียวเข้มแม้ในฤดูฝน เราคาดการณ์ว่าจะเป็นน้ำตกขุ่นๆ สีแดงเหมือนน้ำตกแห่งอื่นๆ ในฤดูฝน แต่ก็ไม่เป็นไปอย่างที่คาด แอ่งน้ำวงกลมขนาดใหญ่ล้อมด้วยผาสูงเหมือนห้องสปาธรรมชาติที่ถูกสร้างสรรค์เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้ำตกแห่งนี้จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างไม่ขาดสายและมีจำนวนมากอยู่ตลอด จากชั้นที่ 3 มีทางเดินไปน้ำตกชั้นที่ 4 ซึ่งทางเดินจะเริ่มประกอบด้วยทางที่ชันมากกว่า 3 ชั้นแรก และก็คงเป็นเหตุผลให้หลายๆ คนมาหยุดอยู่เพียงชั้นที่ 3 นี้เท่านั้น แต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่พยายามจะเดินให้ถึงชั้น 7

บรรยากาศทางเดินของน้ำตกเอราวัณ

บรรยากาศทางเดินของน้ำตกเอราวัณ หลังจากที่ได้ชมน้ำตกที่สวยงามที่สุดของกาญจนบุรีไปแล้วถึง 3 ชั้น คราวนี้ลองแทรกด้วยภาพบรรยากาศทางเดินระหว่างชั้นน้ำตกกันบ้างเอาพอสังเขป ทางเดินเลียบธารน้ำตกเอราวัณมีทั้งทางเดินราบ ทางเดินชัน และบันไดแบบครบสูตร หลายคนที่เดินป่าเก่งๆ แต่พอมาเจอบันไดก็ท้อเหมือนกัน บันไดที่สร้างไว้ให้ความสะดวกในการเดินป่ามีทั้งบันไดไม้ บันไดคอนกรีต รากไม้ที่ปูดโปนขึ้นมาคดงออยู่บนพื้น เป็นองค์ประกอบของทางเดินศึกษาธรรมชาติที่เห็นได้ทั่วไป ภาพบรรยากาศเหล่านี้เราถ่ายด้วยกล้องคอมแพคแบบง่ายๆ สีสันเลยออกจะไม่ค่อยเขียวเหมือนการถ่ายภาพน้ำตก แต่ในความเป็นจริงแล้วป่าที่นี่สีเขียวร่มรื่นและสบายตามากๆ

ธารน้ำตกเอราวัณ

ธารน้ำตกเอราวัณ เหนือชั้นที่ 3 ขึ้นมาไม่นานนักก็จะได้เห็นธารสายนี้ เป็นสายธารของน้ำที่ไหลมารวมกันเป็นสายเดียวลงมายังแอ่งเล็กๆ ข้างล่างเป็นจุดหนึ่งที่จะได้เห็นนักท่องเที่ยวหยุดเดินเก็บภาพสวยๆ กันหลายคนก่อนที่จะเดินกันต่อไป ถือว่าเป็นการพักอย่างหนึ่งในระหว่างการเดินที่ยังคงเหลือระยะทางอีกยาวไกล

น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ อกนางผีเสื้อ ด้วยลักษณะของโขดหินกลมๆ 2 ก้อนอยู่ชิดกันมีน้ำไหลคลุมหินทั้ง 2 ก้อนก่อนจะตกลงมาอยู่ในแอ่งน้ำใสๆ มองมุมตรงๆ ของน้ำตกคล้ายเนินอก จึงเป็นที่มาของชื่อ อกนางผีเสื้อ ที่ชั้นนี้นักท่องเที่ยวนิยมไปนั่งอยู่บนหินแล้วไหลลงมากับสายน้ำเหมือนเครื่องเล่นในสวนสนุก จากนั้นก็ปีนกลับขึ้นไปอีก ในช่วงเย็นนักท่องเที่ยวเดินทางกลับจนเหลือเพียงโขดหินกับเสียงน้ำตกอันไพเราะ เสียงกรีดร้องด้วยความสนุกกับเครื่องเล่นที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติได้เงียบหายไปหมด แคร่นั่งพักผ่อนริมน้ำตกชั้นที่ 4 นี้ ยังไม่แห้งดีด้วยซ้ำ หลังจากเก็บภาพและพักผ่อนจนหายเหนื่อยแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อไป

เส้นทางสู่น้ำตกเอราวัณชั้น 5

เส้นทางสู่น้ำตกเอราวัณชั้น 5 บันไดคอนกรีตทอดยาวสุดสายตาลับเข้าไปในป่าที่ปกคลุมทางเดินนี้เป็นภาพที่ถ่ายตอนเดินกลับ ส่วนภาพบนขวาสภาพทางเดินที่ปกคลุมด้วยต้นไม้หลายชนิด ทั้งรากทั้งเถาวัลย์พาดผ่านให้หลบหลีกพอเป็นบรรยากาศการเดินป่า แต่ไม่รกรุงรังจนทำให้เดินลำบาก ส่วนภาพล่างอีก 2 ภาพเป็นแคร่ริมน้ำตกชั้น 4 อกนางผีเสื้อ กับบันไดที่เดินขึ้นสู่ชั้นที่ 5 จากจุดนี้ไปทางเดินรู้สึกว่าจะชันขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถึงกับลำบากมากนัก

สายธารมรกตแห่งเอราวัณ

สายธารมรกตแห่งเอราวัณ จากชั้นที่ 4 ก่อนที่จะได้เห็นน้ำตกชั้นที่ 5 ก็มีลำธารสวยๆ พอแวะให้เก็บภาพติดไม้ติดมือ หรือจะเรียกว่าจะเป็นจุดแวะพักระหว่างทางก็ว่าได้ เหมือนกับทุกชั้นที่เดินผ่านมา การหยุดเก็บภาพน้ำตกแต่ละชั้นกับลำธารที่อยู่ระหว่างทาง ทำให้ความเหนื่อยลดลงไปได้ ก่อนที่จะเดินกันต่อไป

ต้นไม้ใหญ่กับความเชื่อแบบไทยๆ

ต้นไม้ใหญ่กับความเชื่อแบบไทยๆ เป็นภาพที่จะได้เห็นกันหลายแห่งในผืนป่าของอุทยานแห่งชาติ ต้นไม้อายุมากมีขนาดลำต้นใหญ่ๆ มักจะมีผ้าสามสีมาผูกไว้ ไปจนกระทั่งมีหุ่นใส่ชุดไทยวางเรียงรายอยู่รอบๆ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สถานที่ ความเชื่อเก่าๆ แบบไทยโบราณเกี่ยวกับวิญญาณ หรือเทวดา ที่จะสถิตย์อยู่กับต้นไม้ใหญ่กลางป่า ยังคงเป็นความเชื่อที่เหนียวแน่นอยู่คู่กับคนไทยมาช้านานและไม่จืดจางลงไปตามยุคสมัย

บันไดไม้

บันไดไม้ คำว่า หัวบันไดไม่แห้ง นั้น เห็นทีจะไม่ได้ใช้เฉพาะกับบ้านที่มีลูกสาวเท่านั้นในสมัยนี้ หลักฐานที่ได้เห็นในทางเดินชมน้ำตกเอราวัณก็เช่นเดียวกัน นักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและลงเล่นน้ำใสไหลเย็นมองเห็นตัวปลาที่นี่เดินผ่านบันไดนี้นับร้อย นับพันครั้ง ตั้งแต่เข้ามาตอนบ่าย 2 จนกระทั่งได้เวลาอุทยานปิดทำการ ซึ่งนักท่องเที่ยวรวมทั้งพวกเราก็ต้องเดินลงจากน้ำตกไปอยู่ชั้นล่างๆ ได้เพราะมีการอนุโลมให้ เวลาแบบนี้บันไดแต่ละขั้นที่ถูกเหยียบย่ำด้วยเท้าที่เปียกน้ำทำให้บันไดเหล่านี้ยังคงเปียกอยู่ และแน่นอนว่าบันไดไม้เหล่านี้มีบางขั้นที่มันค่อนข้างจะลื่นบางขั้นก็ผุยุบลงไปใช้การไม่ได้ ควรดูให้ดีก่อนจะปล่อยน้ำหนักตัวลงไป เดี๋ยวจะหงายท้องไม่เป็นท่า

น้ำตกเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ เบื่อไม่ลง ชื่อน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 5 สื่อความหมายบอกความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ชั้นที่ 5 ที่ชื่อว่าเบื่อไม่ลงนี้ประกอบด้วยธารน้ำ 2 สาย สายหนึ่งตกลงบนผาหินปูนกว้างๆ ที่ยื่นยาวออกมา ตกลงมาเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ใสจนมองเห็นพื้นด้านล่าง (ด้านซ้าย) ส่วนอีกสายหนึ่งค่อยๆ ไหลลดหลั่นกันลงมาจากชั้นเล็กๆ หลายชั้น สุดท้ายน้ำจากทั้ง 2 สายจะมาตกลงบนชั้นหินปูนที่เดียวกันเป็นปริมาณน้ำที่มากขึ้น ลักษณะที่หลากหลายในน้ำตกชั้นเดียวกันเหมาะสมกับชื่อ เบื่อไม่ลงจริงๆ

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 5 เบื่อไม่ลง

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 5 เบื่อไม่ลง หลังจากที่หามุมที่จะมองเห็นน้ำตกชั้นที่ 5 นี้ได้ทั้ง 2 ด้าน แล้วคราวนี้มาเก็บภาพน้ำตกเฉพาะส่วนที่อยู่ตรงหน้า ส่วนผาน้ำตกขนาดเล็กค่อยเดินไปถ่ายให้ใกล้กว่านี้ ภาพนี้ก็พอบรรยายให้เห็นความเบื่อไม่ลงได้ดี สายน้ำใสๆ ที่ไหลมาจากแอ่งน้ำสีเขียวก่อนที่จะไหลไปตกลงบนแอ่งอีกแอ่งหนึ่งที่อยู่เบื้องล่างสามารถลงเล่นน้ำได้ทั้ง 2 แอ่งตามใจชอบ

เบื่อไม่ลงตอนบน

เบื่อไม่ลงตอนบน เก็บขาตั้งกล้องเดินเลียบธารขึ้นไปอีกไม่กี่เมตรจะเห็นผาน้ำตกของน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 5 ผาหินนี้มีขนาดใหญ่พอสมควร กับชั้นหินปูนที่อยู่ด้านข้าง มีน้ำไหลลงรอบด้าน

บรรยากาศน้ำตกชั้นที่ 5

บรรยากาศน้ำตกชั้นที่ 5 แอ่งน้ำกับสายธารที่ไหลจากน้ำตกชั้นนี้ก็จะไหลต่อไปที่ชั้น 4 บรรยากาศของชั้น 5 ปกคลุมด้วยแมกไม้ทั้ง 2 ข้างของลำธารมีเพียงช่องกลางที่เว้นเป็นช่องว่าง แสงสว่างมาจากช่องนี้ส่องให้เห็นพื้นน้ำสีฟ้าใสปลาพลวงแหวกว่ายไปมา

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 5 ครึ่ง

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 5 ครึ่ง เป็นสายน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินปูนจำนวนมากมายหลายชั้น แต่ไม่มีแอ่งน้ำ มองดูคล้ายน้ำตกแห่งอื่นๆ ที่มักจะนับชั้นนี้เป็น 1 ชั้น แต่สำหรับเอราวัณ ชั้นนี้ดูเหมือนจะเป็นเพียงสายธารที่ยังมีความงดงามไม่มากพอที่จะจัดเป็นอีก 1 ชั้น ระหว่างทางเดินจากชั้น 5 ไปยังชั้น 6 จะมองเห็นบริเวณนี้ค่อนข้างสะดุดตา หลายคนพยายามจะหามุมลงไปเก็บภาพสวยๆ แต่พื้นที่ไม่ค่อยอำนวยอย่างที่เราต้องการ จุดที่ผมยืนเก็บภาพนี้ก็เป็นจุดที่ไม่สามารถจะตั้งขาตั้งกล้องได้ด้วยซ้ำ

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 6 ดงพฤกษา

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 6 ดงพฤกษา บริเวณน้ำตกชั้นนี้จะมองเห็นลานหินปูนครึ่งวงกลม มีน้ำล้นอยู่จากลานกว้าง ลงมาสู่แอ่งน้ำด้านล่าง ซึ่งเป็นแอ่งน้ำที่ไม่กว้างมากนัก แต่ความสวยงามของสายน้ำที่ไหลลงรอบด้านของลานหินเป็นสิ่งดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวให้เดินเข้าไปหาจุดถ่ายภาพสวยๆ สำหรับชื่อดงพฤกษาก็ค่อนข้างบ่งบอกเอกลักษณ์ของน้ำตกชั้นที่ 6 นี้ได้ดีด้วยเหมือนกัน เพราะรอบๆ น้ำตก มีต้นไม้นานาชนิดปกคลุมค่อนข้างหนาแน่น แม้จะพอมีมุมให้ถ่ายรูปได้บ้างแต่ก็ยังมีเถาวัลย์เล็กๆ พาดมาบังภาพน้ำตกจนได้ส่วนมุมอื่นๆ ก็จะยิ่งดูรกรุงรังกว่านี้อีก ด้วยความรุงรังของพรรณไม้รอบๆ น้ำตก ชั้นที่ 6 จึงไม่ปรากฏนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปมากนัก

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 6 ครึ่ง

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 6 ครึ่ง หลังจากเก็บภาพน้ำตกชั้นที่ 6 เสร็จเรียบร้อยคราวนี้ก็ได้เวลามุ่งหน้าพิชิตน้ำตกเอราวัณชั้นบนสุดคือชั้น 7 ระหว่างทางยังพอมองเห็นสายน้ำที่ตกลงจากผาหินค่อนข้างสูง แต่ถ้ามองจากทางเดินกลับมองไม่ค่อยเห็น ผมเดินลุยน้ำเข้ามาด้านในกลางน้ำตก เห็นสายน้ำถูกแบ่งออกเป็นซ้ายและขวา ด้านซ้ายมือคือที่เห็นอยู่ในภาพ สายน้ำตกลงจากผาหินค่อนข้างตรงดิ่งลงเบื้องล่าง ส่วนอีกสายหนึ่งค่อยๆ ไหลลงมาตามชั้นหินปูนหลายระดับลดหลั่นกันลงมา แต่สภาพของแสงที่มีอยู่คงเก็บภาพสายน้ำด้านขวามือให้สวยๆ ได้ยาก เลยเอามาให้ชมกันเฉพาะด้านซ้าย แต่ด้วยความที่น้ำตกบริเวณนี้ไม่นับเป็นชั้นของน้ำตกเอราวัณ เราจึงเรียกมันว่า ชั้น 6 ครึ่ง เมื่อแรกเห็นที่เดินผ่านไปยังชั้น 7 เราค่อนข้างประทับใจชั้น 6 ครึ่งนี้พอสมควร

สายธารเอราวัณก่อนถึงชั้น 7

สายธารเอราวัณก่อนถึงชั้น 7 จากชั้น 6 ครึ่ง เดินทวนน้ำด้านข้างของสายธารตามที่ป้ายบอกทางปักไว้ ไม่นานก็จะมาถึงบริเวณใกล้ชั้น 7 แต่ยังไม่ใช่ชั้น 7 มีต้นไม้ใหญ่ตายและล้มลงมาพาดทางเดิน บางคนจึงเลือกเดินบนท่อนไม้เพื่อข้ามไปอีกด้าน บางคนก็เดินลุยโคลนซึ่งมีอยู่ไม่มากขึ้นไปตามทาง แต่ต้นไม้ที่ล้มลงมานี้เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราสามารถเดินไปเก็บภาพลำธารสายนี้ได้ โดยเดินไปที่ปลายต้นไม้ แต่ระหว่างที่ย่างก้าวไปต้นไม้ก็จะไหว ยุบ ยวบ ยาบ ทีละก้าวที่เดินไปสร้างความหวาดเสียวให้เราได้ไม่น้อย รอจังหวะที่ต้นไม้หยุดนิ่งแล้วก็จะได้ภาพสวยๆ ตรงนี้ได้ น้ำตกทั่วๆ ไปที่เคยไปเที่ยวมาหากจะนับชั้นนี้เข้าไปเป็นชั้น 7 แล้วนับชั้น 7 ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้เป็นชั้น 8 ก็คงไม่มีใครคัดค้าน เพราะมีความสวยงามเพียงพอ จะว่าไปสวยกว่าน้ำตกแห่งอื่นๆ อีกหลายๆ แห่งด้วยซ้ำ

ทางเดินพิชิตภูผาเอราวัณ

ทางเดินพิชิตภูผาเอราวัณ ต้นไม้ที่ล้มลงที่เล่าว่าเป็นทางเดินไปถ่ายรูปธารน้ำสวยๆ ภาพบน ได้นั้นก็คือต้นนี้นี่เอง หลังจากเก็บภาพเรียบร้อยแล้วก็ต้องเดินกันต่อไป ชั้น 7 นั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 7 ภูผาเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 7 ภูผาเอราวัณ ในที่สุดจุดหมายของเราที่ตั้งเป้าเอาไว้ที่ชั้น 7 ก็อยู่ตรงหน้านี้แล้ว สายน้ำที่ไหลลงมาจากผาสูงที่ชั้น 7 นี้ หากมีน้ำมากกว่านี้คงจะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการ กว่าวันนี้ แต่ที่เห็นนี้ก็นับว่าสวยงามคุ้มค่าเหนื่อยที่เดินมาจนถึง ภูผาเอราวัณมีป้ายติดไม้ใกล้ๆ ต้นไม้หน้าน้ำตกเขียนข้อความไว้ว่า คุณคือผู้พิชิต แน่นอนว่าเป็นป้ายที่ได้รับความสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ความภูมิใจของการพิชิตน้ำตกเอราวัณชั้น 7 ทำให้หลายๆ คนพยายามถ่ายรูปที่หน้าน้ำตกแห่งนี้เป็นที่ระลึก กว่าจะมีโอกาสว่างๆ ให้เราได้เก็บภาพวิวน้ำตกสวยๆ ได้ต้องรอกันนานเหมือนกัน ในภาพนี้บางทีอาจจะดูเป็นน้ำตกเล็กๆ แต่ถ้าหากสังเกตุให้ดี จะเห็นผู้ชาย 2 คนนั่งอยู่บนน้ำตก ตัวเล็กๆ แล้วลองจินตนาการเทียบกันดูว่าน้ำตกแห่งนี้ใหญ่และสูงขนาดไหน

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 7 ภูผาเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 7 ภูผาเอราวัณ ภาพอีกมุมหนึ่งของสายธารที่ไหลลงมายังแอ่งน้ำเบื้องล่าง ขนาดของแอ่งน้ำที่ชั้นนี้ไม่กว้างมากนักหากเทียบกับชั้น 3 หรือ ชั้น 2 แต่ก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างมาก หลายคนที่มาถึงชั้นนี้กระโดดลงน้ำว่ายไปมา 1 รอบ เก็บเป็นความประทับใจก่อนที่จะเดินทางลงไปยังชั้นล่างๆ และกลับบ้าน ชาย 2 คนในภาพบนเดินสูงขึ้นไปทวนสายน้ำตก จนไปอยู่จุดหนึ่งที่สูงมาก (พยายามมองให้เห็นนะครับ ใบ้ให้ว่าตัวเล็กกว่า 1 มิลลิเมตร)

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 7 ภูผาเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณ ชั้น 7 ภูผาเอราวัณ สายน้ำอีกสายหนึ่งที่ถูกแยกออกจากสายแรกด้วยสภาพของภูเขาตามธรรมชาติแต่สายน้ำนี้จะไหลไปรวมกันในแอ่งน้ำของน้ำตกอีกสายหนึ่งในภาพบน การจะเดินมาถ่ายรูปสายน้ำฝั่งนี้ก็ต้องเดินมาตามขอบของแอ่งน้ำ ความสูงของสายน้ำด้านนี้ก็ไม่ต่างจากอีกด้านหนึ่งมากนัก ถือเป็นการสิ้นสุดการชมน้ำตกเอราวัณ เพราะครบทั้ง 7 ชั้น หลังจากนี้ก็จะเป็นการเดินลง

บรรยากาศภูผาเอราวัณ

บรรยากาศภูผาเอราวัณ และถึงแม้ว่าจะเป็นชั้น 7 ซึ่งอยู่สูงสุดของน้ำตกแห่งนี้และมีระยะทางตั้งแต่จุดเริ่มต้นประมาณ 2,000 เมตร โดยเป็นเส้นทางขึ้นเขาผ่านจุดลาดชันและบันไดมากมายหลายแห่ง แต่นักท่องเที่ยวหลายคนก็พยายามที่จะขึ้นมาให้ถึง โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่หลายคนสวมชุดว่ายน้ำเดินขึ้นมาด้วยเท้าเปล่า หลายคนที่สวมรองเท้ามาด้วยก็กลายเป็นว่าต้องถอดและถือเดินลงไปแทน เป็นเครื่องหมายบอกความลื่นของทางเดินบางช่วงได้เป็นอย่างดี

สายธารเบื้องล่างของชั้น 7

สายธารเบื้องล่างของชั้น 7 สายธารน้ำใสไหลผ่านหินปูนที่เห็นอยู่ในรูปนี้เป็นชั้นน้ำตกเล็กๆ เบื้องล่างชั้น 7 การเดินลงมาที่จุดนี้คือต้องเดินตามน้ำลงมาบนหินปูนที่เห็นอยู่ในรูป แม้ว่าปกติหินปูนจะไม่ลื่นและเดินได้สบายๆ แต่ก็มีบางกรณีที่หินเหล่านี้ก็ลื่นได้เหมือนกัน หากจะลงก็ต้องระวังกันให้มาก เพราะด้านข้างจะเป็นผาสูงลงไปด้านล่าง อย่างน้อยก็สูงประมาณ 3 เมตรได้

เก็นตกปิดท้ายทริป

เก็นตกปิดท้ายทริป จบการเดินพิชิตน้ำตก 7 ชั้นแห่งอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ด้วยชื่อน้ำตกแต่ละชั้นที่มีความหมายในตัว แถมยังคล้องจองกันอีกด้วย ตามนี้

ไหลคืนรัง วังมัจฉา ผาน้ำตก อกนางผีเสื้อ เบื่อไม่ลง ดงพฤกษา ภูผาเอราวัณ เป็นไงครับ ชื่อก็เพราะ รูปก็งาม แถมแต่ละชั้นยังห่างกันไม่มากเกินไปด้วย ยังงี้ต้องไปให้ได้ซะแล้ว

ภาพเก็บตกตามจุดต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้แก่ทางเดินลาดยางช่วงน้ำตกชั้นที่ 1 ไปถึงทางออก ภาพบนขวาเป็นอาคารเล็กๆ สำหรับเจ้าหน้าที่รับฝากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ภาพล่างซ้าย ร้านค้า อาหาร เครื่องดื่ม ของที่ระลึก รอบลานจอดรถของอุทยาน พอเดินมาถึงตรงนี้เราตรงเข้าไปร้านกาแฟ อยากจะได้เครื่องดื่มร้อนๆ อย่างกาแฟ หรือโกโก้ร้อน เอามาดื่มปรับอุณหภูมิของร่างกาย แต่ปรากฏว่าร้านเหล่านี้ปิดหมดแล้ว เวลาที่เราเดินลงมาถึงที่นี่รวมทั้งอาบน้ำด้วยก็ประมาณ 17.30 ซึ่งปกติอุทยานจะปิด 16.30 แต่เพราะการถ่ายภาพที่ต้องการให้คนว่างๆ จึงขออนุญาตอยู่กันต่อนิดหน่อย สำหรับร้านค้าแล้วก็คงไม่ค่อยได้เห็นนักท่องเที่ยวที่เดินออกจากน้ำตกในเวลานี้ เลยต้องอดไปตามๆ กัน ภาพล่างขวาเป็นห้องน้ำ ซึ่งก็ใช้สำหรับอาบน้ำก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน สุดท้ายของการเที่ยวอุทยานน้ำตกเอราวัณของเราไปจบที่ตลาดสดเทศบาลตำบลเอราวัณ เพราะเกิดหิว ความอยากดื่มเครื่องดื่มร้อนก็ยังมีอยู่ โชคดีที่ยังพอมีร้านค้าที่ยังไม่ปิด ก็คือเครื่องดื่มและข้าวราดแกง ข้าวราดแกงที่ว่าเหลืออยู่ร้านสุดท้ายสร้างความประทับใจให้เราได้อีกด้วยการให้บริการข้าวราดแกงแบบตักเอง ลูกค้าสามารถเลือกตักกับข้าวตามปริมาณที่ตัวเองต้องการ หลังจากนั้นแม่ค้าก็จะคิดเงิน ข้าวราดแกง 2 อย่างปริมาณทั่วไปที่เรากินกันข้างนอก ที่นี่ก็จะขาย 35 บาท ก็นับว่าไม่แพง เพราะเราตักเอาแต่ส่วนเนื้อๆ เลือกได้เองหมด อย่างนี้แหละสุดยอด

0/0 จาก 0 รีวิว

10 ที่พัก/โรงแรมใกล้ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ กาญจนบุรี
เอราวัณเลครีสอร์ท กาญจนบุรี
  2.07 km | แผนที่ | เส้นทาง
เดอะฮับเอราวัณ รีสอร์ท จ.กาญจนบุรี
  2.85 km | แผนที่ | เส้นทาง
13 ห้องนอน 1 ห้องน้ำส่วนตัว ขนาด 60 ตร.ม. – ศรีสวัสดิ์ เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  3.96 km | แผนที่ | เส้นทาง
Naphatphorn Resort เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  6.70 km | แผนที่ | เส้นทาง
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำส่วนตัว ขนาด 12 ตร.ม. – ศรีสวัสดิ์ เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  6.82 km | แผนที่ | เส้นทาง
River Hill Side Resort เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  7.16 km | แผนที่ | เส้นทาง
Great Lake Resort เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  8.82 km | แผนที่ | เส้นทาง
อนันตาริเวอร์ฮิลรีสอร์ต กาญจนบุรี
  9.38 km | แผนที่ | เส้นทาง
บ้านรักน้ำ กาญจนบุรี
  9.71 km | แผนที่ | เส้นทาง
เลคเฮฟเว่น รีสอร์ทแอนด์ปาร์ค กาญจนบุรี
  10.49 km | แผนที่ | เส้นทาง
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ กาญจนบุรี
สวนเวลารำลึก กาญจนบุรี
  6.05 km | แผนที่ | เส้นทาง
เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
  6.65 km | แผนที่ | เส้นทาง
ถ้ำพระธาตุ กาญจนบุรี
  11.58 km | แผนที่ | เส้นทาง
สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาน้ำพุ กาญจนบุรี
  14.29 km | แผนที่ | เส้นทาง
ถ้ำวังบาดาล กาญจนบุรี
  25.35 km | แผนที่ | เส้นทาง
สะพานไม้โชคดี วัดพุตะเคียน
  28.33 km | แผนที่ | เส้นทาง
วัดทัพศิลา
  28.52 km | แผนที่ | เส้นทาง
น้ำตกไทรโยคน้อย (น้ำตกเขาพัง) กาญจนบุรี
  28.72 km | แผนที่ | เส้นทาง
เขื่อนท่าทุ่งนา จ.กาญจนบุรี
  29.87 km | แผนที่ | เส้นทาง
แคมป์ช้าง ทวีชัย กาญจนบุรี
  31.43 km | แผนที่ | เส้นทาง

*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ

Line id: @touronthai (ใส่ @)
www.touronthai.com