อีกครั้งหนึ่งของการมาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนดอยสูง 1400 เมตร หลังจากที่เมื่อหลายปีก่อนได้เดินทางมาครั้งแรกตอนพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง และทำให้ชื่อดอยอ่างขางขจรขจายไปกว้างมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนอย่างในทุกวันนี้ ภาพอันน่าประทับใจมากมายที่จดจำไม่รู้ลืม ทำให้เราอยากกลับมาที่นี่อีกไม่รู้เบื่อ บทความนี้คงจะไม่เล่ารายละเอียดเป็นวิชาการมากมายเหมือนบทความแรกของดอยอ่างขางที่ชื่อว่า ดอยอ่างขาง-นางพญาเสือโคร่ง เพราะกลัวว่าจะเบื่อถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรน่าเที่ยวอย่างละเอียดแนะนำให้คลิกลิงค์เข้าไปดู ส่วนหน้านี้เราจะพาขึ้นไปชมดอยอ่างขางในอีกมุมหนึ่ง เพราะเราขึ้นไปตอนหน้าฝนกันดูบ้าง

    ฤดูกาลที่คนไม่ค่อยออกไปเที่ยวและแน่นอนว่าบนเขาก็ยิ่งมีคนมาเที่ยวกันน้อย แต่ข้อดีของหน้าฝนก็มี คือคนน้อยไม่ต้องแย่งอะไรกับใคร ไปร้านอาหารร้านไหนคนก็ว่าง จะพักที่ไหนก็ว่างไม่ต้องจองล่วงหน้าเลยก็ได้ แถมยังได้ราคาสุดพิเศษยิ่งกว่าที่โปรไหนๆ จะมีได้ บางที่ลดให้ถึงครึ่งราคาเลย โดยเฉพาะหลายๆ คนที่ใฝ่ฝันอยากจะพักที่บ้านพักของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางแต่จองเท่าไหร่ก็ไม่เคยได้เต็มก่อนทุกที ลองมาหน้าฝนได้ราคาสุดประทับใจแน่นอน

 ถึงแล้วดอยอ่างขาง ย่านการค้าของดอยอ่างขางเป็นจุดที่ใครๆ ก็ต้องมา ถนนขึ้นดอยอ่างขางถ้าไม่แยกไปหมู่บ้านอื่นจะมาสุดตรงนี้ ทางซ้ายเป็นโรงเรียนเทพศิรินทร์ ๙ ส่วนทางขวาเป็นทางเข้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง รายละเอียดความเป็นมาของสถานีฯ เราเขียนแยกเอาไว้แล้วเพราะถ้ารวมกันหมดจะยาวมาก คนที่เคยมาดอยอ่างขางในหน้าหนาวยิ่งช่วงปีใหม่ย่อมจะรู้ดีว่าตลาดย่านการค้านี้หาที่จอดรถยากมาก วันปีใหม่รถติดยาวไปถึงบนดอยเลย ลองเข้าไปดูบรรยากาศของการมาเที่ยวช่วงปีใหม่ได้ในเรื่องดอยอ่างขาง-นางพญาเสือโคร่ง ข้อดีของการมาหน้าฝนของเราข้อแรกคือตลาดโล่งมาก ที่จอดรถสะดวกสบายไปซื้อของหรือกินข้าวก็สบายไปหมด ร้านค้าที่นี่ยังเปิดให้บริการไม่ต้องกังวลว่ามาหน้าฝนจะไม่มีของกิน

 สวน 80 ไฮไลท์ของดอยอ่างขาง สวนดอกไม้งามแห่งนี้เป็นจุดหมายแรกๆ ของคนที่มาเที่ยวที่นี่ อยู่ในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ทีแรกคิดว่ามาหน้าฝนจะไม่มีดอกไม้ซะแล้ว แต่ที่นี่ยังคงปลูกดอกไม้หมุนเวียนหลากหลายสีไว้ให้เราได้ชมอยู่เหมือนปกติ ต้นไหนที่ดอกเริ่มเหี่ยวโรยแล้วจะมีคนเอาต้นใหม่มาปลูกแทนที่

 อุโมงค์ต้นไม้ ชมความสวยงามของสวน 80 เดินเที่ยวสวนหอมที่อยู่ตรงข้ามกันเลยเข้าไปสวนกุหลาบอังกฤษ ทุกๆ สวนยังคงมีดอกไม้สวยๆ ไว้ต้อนรับเหมือนกับตอนที่มาหน้าหนาว เสร็จแล้วลองไปดูสวนบ๊วยกันสวนท้อกันบ้าง ต้นบ๊วยปกติจะออกดอกหน้าหนาวแล้วทิ้งใบบางส่วน แต่ตอนหน้าฝนใบจะเขียวขจีแผ่กิ่งก้านเข้าหากันเป็นอุโมงค์สีเขียวให้เราได้มีมุมถ่ายรูปแบบฟินๆ ท่ามกลางความสดชื่นเย็นสบาย

 บ้านพักสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ขับรถชมรอบๆ พื้นที่ของสถานี ที่เราเห็นว่าแตกต่างจากหน้าหนาวก็คือโดมกุหลาบที่อยู่ใกล้ๆ ทางเข้า-ออก ช่วงหน้าฝนจะไม่มีกุหลาบมาตั้งเรียงให้เราถ่ายรูปเหมือนหน้าหนาวแต่ก็กำลังจัดวางกันอยู่ คงจะเตรียมไว้ให้คนมาเที่ยวได้ชมกัน ส่วนที่เหลือก็ยังคงเดิมเที่ยวได้ตามปกติ ถ้าเกิดจะถามเรื่องบ้านพักเจ้าหน้าที่จะพาเดินชมแบบหลังต่อหลัง แบบไหนราคาเท่าไหร่หน้าฝนเท่าไหร่หน้าหนาวเท่าไหร่นอนได้กี่คนแบบละเอียดยิบ บ้านบักที่นี่ขนาดเล็กออกแบบทรงตะวันตกน่ารักมาก ข้างในเป็นเตียงคู่ มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้ บ้านพักของสถานีฯ เปิดจองตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี เลยไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมจองแล้วไม่ได้ซักทีหรือโทรมาแล้วเต็มตลอด ก็เพราะคนจะมาเที่ยวที่นี่วางแผนล่วงหน้าตั้ง 6-7 เดือนถึงจะได้บ้านพัก หมายเลขโทรศัพท์สำรองที่พัก สถานีฯ อ่างขาง 053-450107-9 ต่อ 113 / 114

บ้านพักของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางมีหลายขนาด หลังเล็ก นอน 2 คน ชื่อบ้าน AK มี 20 หลัง แบบนี้ราคาแค่ 650 บาท โห ย้ำ 650 บาท เอง ถ้ามาในช่วงปีใหม่ 2160 บาท 

 บ้านพักสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง มาต่อกันที่บ้านหลังต่อๆ ไป ได้แก่ 2 ภาพบน เรียกว่าบ้านริมดอย

เดือนตุลาคม, พฤศจิกายน, มีนาคม ราคาหลังละ 2,650 บาท/คืน

รวมอาหารเช้า

เสริมที่นอนได้ห้องละ 1 ที่ราคา 430 บาท + อาหารเช้า

เดือนธันวาคม, มกราคม, กุมภาพันธ์ ราคาหลังละ 4,150 บาท/คืน

อาหารเย็น + อาหารเช้า

เสริมที่นอนได้ห้องละ 1 ที่ราคา 730 บาท + อาหารเย็น + อาหารเช้า

เดือนเมษายน – กันยายน ราคาหลังละ 1,000 บาท/คืน

ไม่รวมอาหารเช้า

เสริมที่นอนได้ห้องละ 1 ที่ 280 บาท / ไม่รวมอาหารเช้า

** พักได้ 5 คน

** บ้านทุกหลังมีโทรทัศน์และเครื่องอาบน้ำอุ่น

** บ้านทุกแบบให้เข้าพักตามจำนวนคนที่ระบุให้เท่านั้น

2 ภาพล่างเรียกว่าบ้านซากุระ

เดือนตุลาคม, พฤศจิกายน, มีนาคม ราคาหลังละ 2,060 บาท/คืน

รวมอาหารเช้า

เสริมที่นอนได้ห้องละ 1 ที่ราคา 430 บาท + อาหารเช้า

เดือนธันวาคม, มกราคม, กุมภาพันธ์ ราคาหลังละ 2,660 บาท/คืน

อาหารเย็น + อาหารเช้า

เสริมที่นอนได้ห้องละ 1 ที่ราคา 730 บาท + อาหารเย็น + อาหารเช้า

เดือนเมษายน – กันยายน ราคาหลังละ 900 บาท/คืน

ไม่รวมอาหารเช้า

เสริมที่นอนได้ห้องละ 1 ที่ 280 บาท / ไม่รวมอาหารเช้า

** พักได้ 2 คน

** บ้านทุกหลังมีโทรทัศน์และเครื่องอาบน้ำอุ่น

** บ้านทุกแบบให้เข้าพักตามจำนวนคนที่ระบุให้เท่านั้น

 บ้านพักสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง บ้านคำดอย สุดท้ายเป็นบ้านพักที่มีขนาดโอ่โถงใหญ่โต ออกแบบทรงสไตล์ตะวันตก มีเตาผิงและปล่องควัน เตาผิงนี่จุดได้จริงไม่ใช่มีไว้เพียงประดับ ขนาด 2 ห้องนอน ใหญ่ๆ ทั้งสองห้อง อุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากๆ ปกติมาหน้าหนาวเกือบ 7 พัน มาหน้าฝนเหลือ 3500 เอง นี่แหละการมาเที่ยวหน้าฝนมันดีอย่างนี้

เดือนตุลาคม, พฤศจิกายน, มีนาคม ราคาหลังละ 5,620 บาท/คืน

รวมอาหารเช้า

เสริมที่นอนได้ห้องละ 1 ที่ราคา 430 บาท + อาหารเช้า

เดือนธันวาคม, มกราคม, กุมภาพันธ์ ราคาหลังละ 6,820 บาท/คืน

อาหารเย็น + อาหารเช้า

เสริมที่นอนได้ห้องละ 1 ที่ราคา 730 บาท + อาหารเย็น + อาหารเช้า

เดือนเมษายน – กันยายน ราคาหลังละ 3,500 บาท/คืน

ไม่รวมอาหารเช้า

เสริมที่นอนได้ห้องละ 1 ที่ 280 บาท / ไม่รวมอาหารเช้า

** พักได้ 4 คน / 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 

** บ้านทุกหลังมีโทรทัศน์และเครื่องอาบน้ำอุ่น

** บ้านทุกแบบให้เข้าพักตามจำนวนคนที่ระบุให้เท่านั้น

 รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง จากบ้านพักในสถานีเกษตรหลวง มาดูที่พักของเอกชนกันบ้าง รีสอร์ทแห่งนี้อยู่ติดกันกับประตูทางเข้าสถานีฯ เลย การตกแต่งประดับประดาสมชื่อรีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง เพราะใช้ดอกไม้ตระกูลเดียวกันกับที่เราเห็นในสถานีฯ ปลูกรอบๆ บ้านพัก ปกติเวลามาเที่ยวกันหน้าหนาวไฮซีซัน ราคาสุดจะเอื้อมถึง แต่พอมาหน้าฝนเราก็ได้ราคาสุดพิเศษที่คนธรรมดาเข้าพักได้ ด้านหน้ารีสอร์ทเป็นแปลงดอกไม้ มีฉากหลังเป็นภูเขากับสายหมอกขาวๆ หลังฝนตก โรแมนติกสุดๆ ที่นี่เป็นที่พักของเราในคืนนี้สนใจสอบถามราคาได้ที่ TEL:+66 (0) 5345 0110 FAX:+66 (0) 5345 0120 หรือเว็บไซต์ www.mosaic-collection.com/angkhang

 รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง พอเช็คอินเสร็จเรียบร้อยเจ้าหน้าที่ก็พาเรามาส่งที่บ้านพักด้วยรถกอล์ฟ แยกย้ายกันไปพักผ่อน สายฝนที่โปรยปรายผ่านไปหมาดๆ เหลือสายรุ้งสวยๆ เราไว้ให้เราชม เป็นบรรยากาศความฟินที่จะไม่มีในฤดูอื่น

  บ้านพักของรีสอร์ทธรรมชาติอ่างขางจะมีแบบเมาเท่นวิวกันการ์เด้นวิว ของเราเป็นอย่างหลัง หน้าบ้านพักของเราจะมีสวนดอกไม้สำหรับเป็นที่พักผ่อนสวนนี้ยาวพอสมควรเลยเหมาะสำหรับเดินเล่นชิลๆ และถ่ายรูปคู่กับดอกไม้สวยๆ ยิ่งไปถ่ายใกล้ๆ จะเห็นหยดน้ำของเม็ดฝนเกาะอยู่บนกลีบดอกไม้ยิ่งได้ภาพความสดชื่นสวยงามยิ่งขึ้น

 ห้องพักรีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง เหนื่อยกับการเดินทางเที่ยววันนี้มามากแล้ว นอนพักผ่อนก่อนดีกว่า ในห้องพักของรีสอร์ทกว้างขวางดี เตียงนุ่มๆ กับทีวิจอใหญ่ ผลไม้วางรอไว้แล้วใกล้ๆ หัวเตียง วันนี้มีสาลี่ซะด้วย ใช้เวลากับการพักผ่อนแบบสงบมากๆ เพราะที่นี่มีคนเข้ามาพักน้อยนับว่าผิดคาดเพราะคิดว่าจะไม่มีใครมาเลยด้วยซ้ำ

 อาหารเย็น ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลสำหรับมื้อนี้ หาของง่ายๆ 4-5 อย่างมากินกันจากห้องอาหารของรีสอร์ทนี่แหละ แล้วปิดท้ายด้วยของหวานเบาๆ หลากหลายสไตล์ให้เลือกตามอัธยาศัย ไอติมก็มีด้วย

 ชาวบ้านนอแล ตื่นเช้าวันใหม่ที่แสนสดชื่น อากาศเย็นสบายของดอยอ่างขาง นอนหลับเต็มที่จนไม่อยากลุกขึ้นมา แต่ไหนๆ ก็มาแล้วลองไปขับรถรอบๆ ดอยดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง วันนี้เป็นวันศุกร์โรงเรียนบนดอยอ่างขางยังเปิดเรียนตามปกติ ทางที่จะไปบ้านนอแลจะเห็นเด็กนักเรียนโตเดินเรียงกันเป็นแถวไปโรงเรียนอย่างสนุกสนาน ส่วนเด็กเล็กๆ จะมีรถรับ-ส่งบริการ เป็นคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา หากไม่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงงานอย่างหนักพลิกผืนไร่ฝิ่นของดอยอ่างขางให้กลายเป็นพื้นที่เกษตรที่สูง เด็กๆ ชาวเขาเหล่านี้คงไม่ได้ไปเรียนหนังสือแต่ต้องไปช่วยพ่อแม่ขนฝิ่นแทน ภาพในอดีตหลายๆ ภาพที่เราได้เห็นในสโมสรอ่างขางหน้าสวน 80 ยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจ โชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้เกิดเป็นคนไทยใต้ร่มพระบารมีของพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงงานหนักเพื่อประโยชน์สุขของปวงประชาราษฎร์ตลอดเวลาอันยาวนาน

 สายหมอกดอยอ่างขาง จากนั้นไม่นานเราก็เริ่มมองเห็นพื้นที่เพาะปลูกของชาวบ้านที่อยู่ต่ำลงไป สายหมอกของช่วงเช้าพัดผ่านยอดเขาเหมือนคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง วันนี้ลมแรงจนไม่เกิดเป็นทะเลหมอกแต่ภาพที่เห็นตรงหน้าก็สวยพอที่จะทำให้เราหยุดอยู่ตรงนี้หลายนาทีก่อนที่จะไปกันต่อ

 บ้านนอแล เป็นชุมชนหนึ่งในหลายชุมชนบนดอยอ่างขาง บนดอยแห่งนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ยังคงประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิม การแต่างกายจะยังไม่เปลี่ยนไปมาก ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย คนมาเที่ยวในหมู่บ้านนี้กันเยอะเพื่อเก็บภาพของชาวเขา

 วิวสวย ดอยอ่างขาง จากการเดินชมหมู่บ้านเวลาของเราก็ใกล้จะหมดลง เราจะต้องเดินทางจากดอยอ่างขางไปสนามบินเพื่อเดินทางกลับให้ทันไฟลท์เย็น ก็เลยออกจากหมู่บ้านนอแลกลับมาที่รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง กินข้าวเช้าแล้วเดินทางลงจากดอยอ่างขาง คงเหลือไว้แต่ความทรงจำดีๆ ที่น่าประทับใจของการมาเที่ยวดอยอ่างขางหน้าฝน

 ปลูกพญาเสือโคร่ง ก่อนที่เราจะเดินทางออกจากรีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง ทางรีสอร์ทก็เชิญให้เราไปร่วมปลูกต้นพญาเสือโคร่งไว้ในสวนของรีสอร์ท 2 ต้น อีกไม่นานก็คงออกดอกสวยๆ ให้เราได้ชมแน่ ถ้ามีโอกาสได้เข้าไปพักลองถามผู้จัดการดูว่าเรามาปลูกไว้ตรงไหน ส่วนพวกเราก็จะพยายามกลับไปดอยอ่างขางเพื่อเยี่ยมพญาเสือโคร่งของเราให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

จบการนำเที่ยวดอยอ่างขางฉบับหน้าฝน ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคเหนือ มา ณ โอกาสนี้ครับ