จิมทอมป์สัน-กำนันจุล 2 ฟาร์มข้ามภาค 2 สไตล์

 

    ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวไทยได้เริ่มต้นขึ้นอย่างคึกคักอีกครั้งเมื่อเข้าฤดูหนาว ฤดูที่คนจะชอบเดินทางออกไปเที่ยวมากที่สุดและมีวันหยุดหลายวันในช่วงนี้ เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประกาศท้าคนไทยเที่ยวข้ามภาค เราก็เลยลองเอาการเดินทางเที่ยวข้ามภาคแบบสุดประทับใจสำหรับคนไทยหัวใจเกษตรมาฝากให้ลองเป็นแนวดูว่าจะโดนใจคนชอบเที่ยวมากน้อยแค่ไหน เราพาไปเที่ยว 2 ฟาร์ม 2 สไตล์ และอยู่คนละภาคคือ จิมทอมป์สันฟาร์ม จ.นครราชสีมา หรือโคราชนี่เอง ส่วนอีกฟาร์มคือไร่กำนันจุล ที่เที่ยวยอดนิยมของเพชรบูรณ์ ทั้งสองฟาร์มเปิดให้เที่ยวในช่วงเวลาใกล้กันมาก เลยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับที่เราจะได้ไปเที่ยวได้ในช่วงนี้ ส่วนจะไปที่ไหนก่อนก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนก็แล้วกัน 

    จิมทอมป์สันฟาร์มเปิดให้เข้าชมวันแรก 3 ธันวาคม 2559 และจะเปิดไปจนถึง 8 มกราคม 2560 ที่นี่นับเป็นที่เที่ยวยอดนิยมที่จะมีคนเดินทางมาเที่ยวจำนวนมากในทุกๆ ปี และสิ่งที่ทุกๆ คนชื่นชอบคือทุ่งคอสมอสที่บานสะพรั่งตั้งแต่ทางเข้าฟาร์มเป็นทุ่งกว้างน่าถ่ายรูปเป็นที่สุด เปิดตัววันแรกด้วยกิจกรรม จิมทอมป์สัน ชัตเตอร์รัน มินิมาราธอน ให้คนมาเที่ยวได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าๆ มี 3 ระยะให้เลือก โดยไม่เน้นการแข่งขันที่ต้องเอาชนะเพียงอย่างเดียวแต่ให้นักวิ่งได้วิ่งชมบริเวณต่างๆ ของฟาร์มโดยเฉพาะทุ่งคอสมอสหลายคนก็จะวิ่งไปพร้อมกล้องแวะถ่ายรูปสวยๆ ตลอดเส้นทาง หลายครอบครัวมาวิ่งกันทั้งบ้านงานนี้ได้ทั้งสุขภาพและความสุขเป็นรางวัลกันถ้วนหน้า เป็นการเปิดตัววันแรกที่มีคนมาเที่ยวเยอะมากๆ ตั้งแต่ยังไม่ถึง 6 โมงเช้า

    แปลงผักในไร่จิมทอมสันสีเขียวสดใสน่ากินแบบนี้ปกติเราไม่เคยสังเกตุเห็นเลย เพราะนั่งรถรางเที่ยวเราจะมุ่งไปที่แปลงดอกไม้ สำหรับการมาวิ่งออกกำลังกายที่นี่เราจะได้เห็นส่วนอื่นๆ ที่ไม่เคยเห็นด้วย

    กิจกรรมนั่งรถชมฟาร์มหรือฟาร์มทัวร์เป็นสิ่งที่ทุกคนที่มาจิมทอมสันป์ฟาร์มจะทำหลังกิจกรรมวิ่งชัตเตอร์รันนักวิ่งรวมกับนักท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เพิ่งเดินทางมาถึงนั่งรถรางฟาร์มทัวร์ออกสตาร์ทจากทุ่งคอสมอสเข้าไปในฟาร์ม

    สถานีแรกของจิมทอมป์สันฟาร์ม จุดนี้เป็นจุดที่คนจะลงจากรถรางเป็นจุดแรกเป็นส่วนใหญ่ ตรงนี้ปกติทุกปีจะมีฟักทองให้ถ่ายรูปและปีนี้ก็มีฟักทองเหมือนกัน แต่ฟักทองยักษ์ตรงบนเนินตกแต่งด้วยผ้าขาวม้าตามธีมการจัดงานของปีนี้ที่ชื่อว่า คักแท้แท้แพรอีโป้ แพรอีโป้ เป็นภาษาอีสานแปลว่า ผ้าขาวม้า นั่นเอง คนที่มาเที่ยวจิมทอมป์สันฟาร์ม 2559-2560 ก็จะได้เรียนรู้เรื่องราวของผ้าขาวม้าผ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันของคนอีสานตั้งแต่เกิดจนตายมีประโยชน์หลากหลายแล้วแต่จะใช้งาน เราจะได้เห็นผ้าขาวม้าอยู่ตามจุดต่างๆ ในจิมทอมป์สันฟาร์มระหว่าง 3 ธันวาคม - 8 มกราคม 2560 ที่เปิดให้เราเข้าไปเที่ยวได้

    เนินฟักทองยักษ์มีฟักทองที่ทำมาจากผ้าขาวม้าสีส้มตระหง่านบนเนินแล้วก็มีฟักทองเรียงรายกันลงมากลายเป็นเนินสีส้มล้อมด้วยทุ่งดาวกระจายสีส้มอีกต่างหาก เป็นเนินที่สะดุดตาทุกคนที่มาเที่ยวที่นี่ คงไม่มีใครไม่ถ่ายรูปตรงนี้แน่ๆ

    อีกด้านของเนินสีส้มของฟักทองยักษ์ก็จะมีทุ่งดอกไม้ที่ปลูกเป็นแปลงสลับสีสวยงามสุดฟินให้เดินเที่ยวกันได้ยาวๆ รถรางจะวิ่งรับ-ส่งตลอดทั้งวันคนมาเที่ยวไม่ต้องรีบร้อนจะขึ้นคันไหนก็ได้ หลายคนก็เลยใช้เวลาที่นี่นานกว่าจุดอื่นๆ แล้วยังมีของกินรองท้องก่อนที่จะไปต่อกันได้ด้วย

    เดินฟินกลางทุ่งดอกไม้จนหนำใจแล้วเราก็จะไปกันต่อที่จุดต่อไปจะนั่งรถรางมาหรือจะเดินมาก็ไม่ไกล จุดนี้คือหมู่บ้านอีสานเป็นหมู่บ้านที่จำลองขึ้นมาและรวมเอาภูมิปัญญาต่างๆ ของชาวอีสานเอาไว้ที่นี่ตามจุดประสงค์ของการสร้างจิมทอมป์สันฟาร์ม ที่นี่เราจะได้เห็นวิถีชีวิต วัฒนธรรม การละเล่นของชาวอีสาน รวมไปจนถึงการทอผ้าไหม ที่เริ่มตั้งแต่การเลี้ยงตัวไหมจนเอามาสาวไหมแล้วก็ทอเป็นผืนและปีนี้ก็จะเน้นไปที่การทอผ้าขาวม้าซึ่งเป็นธีมของปีนี้

    ต่อด้วยอุโมงค์ผ้าขาวม้า จุดถ่ายรูปที่ทำมาจากผ้าขาวม้าล้วนๆ หลากสีสันสดใสและทอได้ยาวมากๆ 

    จบการเที่ยวฟาร์มทัวร์ที่จิมทอมป์สันฟาร์มด้วยศูนย์อาหารอร่อยๆ ที่มีอาหารให้เลือกมากมายปรุงจากผักปลอดสารพิษกินได้อย่างสบายใจ ถ่ายรูปกับแปลงดอกไม้ตรงศูนย์อาหารแล้วก็ทุ่งคอสมอสก่อนจะเดินออกไปลานจอดรถเดินทางกันต่อไป... อย่าลืมละว่า จิมทอมป์สัน 2559 เปิดให้เข้าชมได้ถึง 8 มกราคม 2560 สำหรับค่าเข้า เสาร์-อาทิตย์ 250 ครับวันธรรมดา 180 จ้า

    ต่อกันที่เส้นทางท่องเที่ยวฟาร์มทัวร์อีกแห่งที่เพชรบูรณ์ ไร่กำนันจุล เรียกว่าเที่ยวข้ามภาคกันสักทริปนึงละกัน

    ที่ไร่กำนันจุลมีกิจกรรมมัลเบอรี่เฟส ครั้งนี้จัดต่อเนื่องมาถึงครั้งที่ 7 แต่ละปีมีคนมาเดินเที่ยวฟินกันไม่น้อยเลย ปีนี้มีนายสนั่น พงษ์อักษร ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธานในการเปิดงาน มอบทุนการศึกษานักเรียนเรียนดีหลายทุนด้วยกันจากนั้นเริ่มเส้นทางเที่ยวกันเลย

    ไร่กำนันจุลมีพื้นที่เพาะปลูกทำการเกษตรอยู่ 3 แห่ง พื้นที่ที่เราจะไปเที่ยวมัลเบอรี่เฟสติวัล อยู่ที่สาขา 2 ตำบลวังชมภู เส้นทางของเราเริ่มที่อุโมงค์พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญคือการเสด็จพระราชดำเนินที่ไร่กำนันจุลนั่นเอง

    ตลาดนัดกำนันจุล เดินชมพระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ออกมาอีกด้านหนึ่งเป็นทางเข้าไปยังจุดขึ้นรถฟาร์มทัวร์ ต้องซื้อบัตรฟาร์มทัวร์ ราคา 150 บาท เด็ก 80 บาท เด็กสูงไม่ถึง 90 เข้าฟรี แต่ถ้ามาเช้าแล้วหิวๆ ลองแวะเข้าไปที่ตลาดก่อนมีร้านอาหารหลายร้านให้เลือก ต่อจากร้านอาหารเป็นอุโมงค์ไม้ไผ่ขายผักผลไม้ให้เลือกกันเยอะเลย บรรยากาศดีมาก

    ออกเดินทางไปกับรถแทรคเตอร์นำเที่ยวฟาร์มทัวร์มีไกด์พาเที่ยวบรรยายข้อมูลไร่กำนันจุลตลอดทาง ไร่กำนันจุลมีคนงานที่ทำงานและเกี่ยวข้องกับไร่มากถึง 1500 คน จุดเปลี่ยนจุดหนึ่งของที่นี่คือรถ Caterpillar D8 พระราชทาน รถคันนี้ทำงานในไร่กำนันจุลมา 40 ปีเลยทีเดียวจนตอนนี้มาจอดเป็นอนุสรณ์ของที่นี่

    ต่อจากนั้นเราก็จะผ่านพื้นที่แปลงเกษตรผสมผสานตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมีผักผลไม้หลายชนิดแซมด้วยต้นไม้ระหว่างร่องแปลงเพื่อประโยชน์สูงสุดของการใช้พื้นที่ มาถึงสถานีต่อไปมีแปลงดอกไม้ให้เซลฟี่กันด้วยแต่ดอกไม้นี้ไม่ได้เอาไว้ให้ถ่ายรูปสวยอย่างเดียวแต่ยังมีประโยชน์ในการไล่แมลง

    ตลาดแก้มลิง เป็นตลาดเล็กๆ ที่มีผักผลไม้จากไร่กำนันจุลวางขาย มีของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็มีบ่อสำหรับให้เลี้ยงปลากันด้วย บรรยากาศตลาดแก้มลิงคึกคักกันทีเดียว

    ซูตองเป้กำนันจุล เดินออกจากตลาดแก้มลิงผ่านแปลงดอกไม้กับผักตรงนี้มีให้เราเก็บผักเองได้ด้วยเป็นผักปลอดสารไล่แมลงด้วยวิธีธรรมชาติเก็บมาแล้วชั่งน้ำหนักจ่ายตังค์ได้เลย ถ้าอยากเรียนรู้วิธีการทำน้ำส้มควันไม้ก็มีสาธิตของจริงที่ใช้จริงในไร่ให้ดูด้วย เดินผ่านไปหน่อยจะเป็นสะพานข้ามทุ่งนาเหมือนจำลองมาจากซูตองเป้ของแม่ฮ่องสอนให้เราเดินถ่ายรูปยาวเชียว

    ไร่มัลเบอรี่ เป็นสถานีสุดท้ายของฟาร์มทัวร์ไร่กำนันจุลตรงนี้ปลูกมัลเบอรี่ไว้เยอะเลยและทุกแปลงจะโน้มต้นเข้าหากันเป็นอุโมงค์สวยๆ แต่ไม่ได้เอาไว้ให้ถ่ายรูปกันอย่างเดียวที่ต้องโน้มต้นลงมาเพื่อเพิ่มผลผลิตของมัลเบอรี่จุดเด่นของต้นไม้ชนิดนี้คือต้องการแดดจัดการโน้มต้นลงเข้าหากันเป็นอุโมงค์จะทำให้ต้นมัลเบอรี่โดนแดดได้ตลอดต้น เราเลยได้ทั้งความรู้และมุมถ่ายรูปสวยๆ กันไป

    ปิดท้ายสบายๆ สไตล์ฟาร์มทัวร์ที่ร้านกาแฟเรียกว่าสถานีจามจุรี มีอาหารเครื่องดื่มหลายอย่างให้เลือกมีหลายเมนูที่ทำจากมัลเบอรี่ด้วย กินข้าวตามด้วยของหวาน ปิดท้ายสุดด้วยน้ำมัลเบอรี่ปั่นเย็นๆ ดับร้อนก่อนกลับบ้าน กิจกรรมรอบๆ สถานีจามจุรีก็มีหลายอย่างให้เลือกพักผ่อนใต้ร่มจามจุรีขนาดใหญ่อยู่ริมน้ำ มีระบายสีหุ่นปูนปลาสเตอร์ เรียนรู้เรื่องผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ มุมนั่งเล่นรับลมเย็นๆ ก็มีเยอะแยะเลยหายร้อนดีแล้วก็เดินทางต่อกลับไปที่จุดเริ่มต้นของเส้นทางฟาร์มทัวร์

    ก่อนจะกลับบ้านแวะเข้าร้านของไร่กำนันจุลซื้อผลิตภัณฑ์มากมายกินกาแฟอร่อยๆ ก่อนจะขับรถเดินทางยาวๆ กันต่อไป

    เป็นไงกันบ้างครับกับเส้นทางเที่ยววันหยุดท้ายปี ยังมีเวลานะที่จะออกเดินทางไปลองดู 2 ฟาร์ม ข้ามภาค 2 สไตล์ ก่อนที่จะหมดเวลา
    ย้ำอีกครั้ง จิมทอมป์สันฟาร์ม 3 ธันวาคม - 8 มกราคม 2560 ค่าเข้า เสาร์อาทิตย์ 280 วันธรรมดา 150
    ส่วนไร่กำนันจุลมัลเบอรี่เฟส เปิดถึง 31 ธันวาคม 2559 ค่าเข้า 150 เด็ก 80 บาท

    พบกันใหม่ทริปต่อไปครับ ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก มา ณ โอกาสนี้ครับ

จำนวนผู้ชม 31154 คะแนน 5  ให้กำลังใจคนเขียนทริปนี้ คลิก...>>