รักตราดทุกฤดู Love Trat All Seasons เที่ยวมันส์ไปยันเกาะกง

 

    Love Trat All Seasons : ทริปนี้เราเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงตั้งแต่ตัวเมืองตราด ไปอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด สุดชายแดนบ้านหาดเล็กข้ามไป จ.เกาะกง ของกัมพูชา เรื่องราวการผจญภัยของเราจะเป็นยังไง ติดตามได้ ณ บัดนี้

"SUN ESPACE"

    เที่ยวแบบชิลๆ ชมความงามของแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าท่ามกลางความเงียบสงบสุดโรแมนติก
    จากกรุงเทพ รถตู้ที่วิ่งฝ่าสายฝนสลับแสงแดดบนเส้นทางสายสุขุมวิท ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. ก็ถึงเมืองตราด เมืองชายแดนทางตะวันออกของไทย เมืองที่มีทะเลและเกาะแก่งสวยงาม และมีช่วงที่แคบที่สุดของประเทศ ก่อนจะเดินทางต่อยังสถานที่อื่น เราเริ่มต้นด้วยการเติมพลังงานท้องด้วยการแวะทานมื้อเที่ยงที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิท (ป้าศรี) 

    เรามาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิท(ป้าศรี) ประมาณ 11.30 คนยังไม่เยอะ แต่พักเดียวเท่านั้นคนเริ่มมากันเต็มร้าน คงเป็นเวลาพักเที่ยงกันครับ ที่นี้มีแต่เมนูทะเลเท่านั้นนะครับ อย่างเช่นเนื้อปู กั้ง กุ้ง หมึก แต่รสชาตินี่บอกเลย อร่อยและสดแน่นอน แต่ถ้าใครบอกที่อื่นก็มี งั้นขอแนะนำเมนูนี้เลย ข้าวผัดน้ำพริกเกลือ เป็นไงละ ไม่เคยได้ยินแน่นอนใช่มั้ยครับ สูตรนี้เป็นการนำน้ำจิ้มรสเด็ดผัดกับข้าวสวยแล้วเติมซีฟู้ดลงไปครับ ต้องลองเลย อย่างอื่นก็มีเพียบเช่น ข้าวผัดต่างๆ กะเพราต่างๆ ไข่ปูผัดพริกขี้หนูราดข้าว ทะเลลวกจิ้ม ฯลฯ ราคาไม่แพงเลย อิ่มอร่อยกันไปครับ ร้านอยู่ 15 ซอยสุขุมวิท ต.บางพระ อ.เมือง เปิดเช้าถึงบ่ายนะครับ 

   ร้านก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิท(ป้าศรี) โทร 03951179  GPS 12.242903, 102.512376

    อิ่มท้องกับเมนูพื้นบ้านแต่อร่อยแล้ว ก็ต้องไปชมทะเลกันสินะ เป็นที่รู้กันกันแล้วครับว่าเมืองตราดโดยเฉพาะ อ.คลองใหญ่นั้นมีหาดชื่อดังหลายหลายที่เลย ไม่ว่าจะเป็น  หาดราชการุณย์ หาดบานชื่น หาดสุวรรณเกลียวทอง ฯลฯ แต่หน้าฝนนี้ใครสักกี่คนจะมาทะเลกัน ใครสักกี่คนจะรู้ว่าเสน่ห์ของทะเลหน้าฝนนั้นสวยมีเสน่ห์น่าชมไม่แพ้หน้าอื่นเลย 

    ขับรถชิลๆลัดเลาะผ่านความเงียบสงบของผู้คนมาไม่นาน เราก็มาถึง หาดราชการุณย์ เป้าหมายของเราในวันนี้ แน่นอนทะเลหน้าฝนย่อมสู้หน้าอื่นไม่ได้แต่ถ้าเรื่องความเงียบสงบ มีเพียงหาดทราย สายลม และสองเราแล้ว ต้องมาหน้านี้เลยครับ ฟังเสียงลมทะเล เสียงคลื่นซัดสาดกันอย่างสบายใจไร้ใครมาส่งเสียงโหวกเหวกกวนใจแน่นอน
หาดราชการุณย์ GPS : 11.975639, 102.769980 

    มาถึงอ.คลองใหญ่แล้ว ต้องมาสักการะเจ้าแม่ทับทิม ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ขอพรเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนจ้า

    ตามประวัติของศาลเจ้าหลังเดิมนั้น สร้างขึ้นเมืองประมาณเกือบ 80 ปีที่แล้ว โดยเจ้าแม่คลองใหญ่ ท่านได้ลอยน้ำมาในทะเลหน้าอ่าวทะเลคลองใหญ่ โดยลอยมากับแพและได้ลอยมาติดโป๊ะจับปลากลางทะเลของ นายปิ๊กต๊อก แซ่โหงว โดยมีนายปิ๊กติ๊ก แซ่ลี้ ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานซ่อมโป๊ะจับปลาอยู่ในขณะนั้น ได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย ทั้งสองท่านได้หารือกันในเรื่องนี้ และได้มีความเห็นร่วมกันว่าเห็นสมควรอัญเชิญ "องค์เจ้าแม่คลองใหญ่" ซึ่งเป็นไม้แก่นจันทร์แกะสลักเป็นรูปผู้หญิงสวยงามองค์นี้ขึ้นจากทะเลแล้วสร้างศาลด้วยไม้ให้เป็นที่ประทับขององค์เจ้าแม่ฯ โดยศาลเจ้าแม่ฯ ตั้งอยู่บริเวณสะพาน หมู่ 7 ต.คลองใหญ่ และเพื่อเป็นที่สักการะ บูชาของชาวอำเภอคลองใหญ่สืบต่อไป 
    แต่หลังใหม่นี้ได้สร้างขึ้นเมื่อปี 2543 โดยการบริจาคที่ดินของผู้มีจิตศรัทธาและดำเนินการก่อสร้างเสร็จและมีพิธีเปิด เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2546 พร้อมเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาในองค์เจ้าแม่ทับทิมคลองใหญ่ได้มากราบไหว้บูชาทุกวัน
    ศาลเจ้าแม่ทับทิม  GPS : 11.774545, 102.879921 

    ยังพอมีเวลาเหลือๆ เราแวะหาดสนงาม เข้าชมบ้านทะเลภู รีสอร์ตสบาย สไตล์คนรักทะเล เป็นรีสอร์ตที่ตอบโจทย์ผู้มาเยือนได้ทุกกลุ่มทุกแนว ไม่ว่าจะมาเป็นคู่ ยกแกงค์มาเป็นกลุ่มเพื่อนฝูง หรือมาเป็นครอบครัว บ้านทะเลภูมีบ้านพักหลากหลายขนาดคอยบริการครับ วิวหน้ารีสอร์ตติดทะเลและชายหาดส่วนตัว มีรูปหัวใจ ชมวิวพระอาทิตย์ตกนี่สุดโรแมนติกเลย

ใครสนใจเข้าพัก ติดต่อสอบถามที่  039-510921 , 081-9023042 คุณวิยะดา
ชมเวบไซต์ที่ http://barntalaepuresort.com/Home.html

    ไปต่อกันอีกสักหน่อยระหว่างทางไปที่พักของเรา แวะเข้าชมพบทะเลรีสอร์ต รีสอร์ตหรูริมทะเล ณ หาดสนงามอีกเช่นกัน ภายในรีสอร์ตมีทั้งห้องพักวิวทะเล สระว่ายน้ำกลางแจ้งพร้อมเครื่องเล่นสไลเดอร์สำหรับเด็กๆ  ชายหาดส่วนตัวเผื่อท่านจะนั่งจู๋จี๋กับแฟนๆ และห้องจัดสัมมนาให้ท่านได้รับความสะดวกสบายทุกอย่าง

 ท่านใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่ โทร 061 662 6166  เฟสบุ้คแฟนเพจ พบทะเลรีสอร์ท Meet the Sea
พบทะเลรีสอร์ต GPS: 11.822850, 102.844037 

    เดินทางต่อเพียง 10 นาที ไม่ไกลจากพบทะเลรีสอร์ตมากนัก เราจะถึงที่พักของเรา ณ  Mango Beach Resort กันครับ เมื่อก้าวเข้ามาที่นี้ อันดับแรกเลยท่านจะได้พบกับการบริการที่เป็นมิตรมากๆ จากพนักงานทุกท่านทั้งไทย เทศ จิบ welcome drink  เย็นๆแล้ว ลองเดินแวะชมรีสอร์ตด้านใน ก็จะพบกับสระว่ายน้ำกลางแจ้งสีน้ำเงินรับกับสีน้ำทะเลจากชายหาดที่อยู่ถัดไปไม่ไกล กลางรีสอร์ตเป็นสวนหย่อมปลูกไม้ประดับสวยงามเหมาะแก่การถ่ายภาพเป็น อย่างยิ่ง ห้องพักสวยหรูมองเห็นทะเลระยะประชิดเพลิดเพลินใจยิ่งนัก หรือจะลงไปเล่นน้ำทะเลให้ชุ่มฉ่ำก็เดินไปแค่ไม่กี่ก้าวเองครับ มื้อเย็นเราทานอาหารเมนู Low corbon ที่ลดการปล่อยก๊าซตั้งแต่กรรมวิธีการปลูก การขนส่ง ไปจนถึงการปรุงอาหารเลยจ้า พร้อมรับฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ อ.คลองใหญ่กันเต็มอิ่ม แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย

Mango Beach Resort    www.mangobeachresort.com 
โทร 039510900, 0918194618, 
GPS : 11.873012, 102.807360 

นี่แหละจ้า SUN ESPACE  ชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก ฮิ้ว....

    
  

"SEA ESPACE"

 อิ่มอร่อยมื้อเช้าที่แมงโก้บีชรีสอร์ต กันแล้ว คราวนี้เราจะไปต่างประเทศกัน..ใช่ครับ เกาะกง กัมพูชานี่เอง ไม่ไกลเลย แต่ก่อนที่เราจะถึงด่าน ต.ม. เรายังมีที่แวะชมวิวกันอีกที่คือ ส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทย ซึ่งอยู่ก่อนถึงด่านฯ เพียง 7.2 กม. อยู่ที่บ้านโขดทราย ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่  วัดจากชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันตกจรดทิวเขาบรรทัด แนวพรมแดนธรรมชาติกั้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา วัดระยะทางได้ 450 ม. ครับ ระหว่างนี้ทางจุดชมวิวยังมีการก่อสร้างอยู่ แต่ก็สามารถขึ้นไปถ่ายรูปวิวสวยๆกันได้เลยครับ 
    GPS: 11.713890, 102.907647  

    เอาละครับ ถ่ายภาพสวยๆที่จุดชมวิวส่วนที่แคบที่สุดในประเทศกันแล้ว ก็เข้าเกาะกงกันเลยดีกว่า เกาะกง หรือ ปัจจันคีรีเขต ชื่อในอดีต ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นเมืองที่เป็นแฝดกับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะอยู่เส้นแวงเดียวกัน เกาะกงเมื่อก่อนเคยเป็นส่วนหนึ่งของ จ.ตราด แต่ก็เสียให้กับทางกัมพูชาไปเมื่อปี 2447 คนไทยเกาะกงหลายคนยังพูดภาษาไทยอยู่ เราเข้าไปเที่ยวเกาะกงครั้งก็เสมือนว่าเราได้เข้าไปเยี่ยมพี่น้องชาวไทยครับ
    ประทับตราผ่านด่าน ต.ม. ที่บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ เรียบร้อยแล้วเรามุ่งหน้าไปต่อบนถนนสาย 48 ทันทีที่ วัดปากคลองเกาะกง วัดดังแห่งเกาะกง อย่าลืมว่าเมื่อเข้าเขตกัมพูชาแล้ว เราต้องขับรถเลนขวานะครับ จากด่าน ตม.มาวัดปากคลองนี้ใช้เวลาเพียงไม่นาน  ก็ถึงวัด ภายในวัดเราเข้ากราบนมัสการพระเดชกุล ธีอำพล ปิยธมฺโม เกาะกง เจ้าอาวาสวัดปากคลอง ท่านได้เล่าประวัติของหลวงพ่อหมึก (ก๋งหมึก) และประวัติความเป็นมาของตัววัด รวมถึงความสัมพันธ์ของพี่น้องชาวไทยและเกาะกงที่ได้ร่วมสร้างวัดนี้ให้ฟังเป็นเวลา 1 ชม.เต็ม ได้ทั้งความรู้และความอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
    วัดปากคลองเกาะกง GPS : 11.573465, 102.947297

    เราร่วมทำบุญสร้างวัดด้วยความอิ่มบุญกันแล้ว ก็เป็นเรื่องของการอิ่มท้องกันบ้าง มื้อเที่ยงนี้เราแวะที่ Cafe Laurent เกาะกง ร้านอาหารริมน้ำสไตล์ฟิวชั่น เวียดนาม กัมพูชา และฝรั่งเศษ ที่นี่เราจะได้ชิมอาหารแนะนำของร้านชื่อว่า บ่อลุก เป็นอาหารที่ทำจากเนื้อวัว โดยเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศษ ถ้าหากใครทานเนื้อแนะนำให้ชิมเลยครับ อร่อยฟินเว่อ และยังมีฟิวชั่นอื่นๆอีกมากมายตามภาพครับ  

   ร้าน Cafe Laurent เกาะกง GPS : 11.612950, 102.978354
Face book : Cafe Laurent, Koh Kong, Cambodia

    อิ่มหนำสำราญเบิกบานใจไปกับอาหารฟิวชั่นแล้ว เราขับรถต่อบนถนนสาย 48 เพื่อเดินทางสู่ น้ำตกตาไต น้ำตกใหญ่สุดอลังการของเมืองเกาะกง เรียกว่าเป็นอันซีนของที่นี่ได้เลยครับ เราลงเรือที่ท่าเรือเล็กๆ แห่งนึงเพื่อล่องเรือไปสู่น้ำตกตาไต ขึ้นเหนือไปราว 5 กม. 

    ใช้เวลาเพียงไม่นานก็จะเห็นน้ำตกอยู่ตรงไหนเราเลย มองใกลๆ ยังยิ่งใหญ่มากๆ ยิ่งเดินเข้าใกล้ยิ่งอลังการ น้ำตกใหญ่ไหลแรงพรายฟองละอองน้ำฟูฟ่องล่องลอย อยากจะกระโดดลงไปเล่นน้ำให้ฉ่ำปอดจริงๆ ถ้าได้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วย รอบน้ำตกโอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าไม้หนาแน่น สูดดมออกซิเจนกันชุ่มปอดแล้วสอดส่องกล้องน้อยในมือได้ภาพอลังๆ หมดการ์ดไปหลายกิ๊กกาไบท์เชียวครับ 

สถานที่ลงเรือไปน้ำตกตาไต GPS : 11.564958, 103.128260

    ต่อจากน้ำตกตาไต แล้วขับรถต่อไปยัง ป่าโกงกางบางคายัก กันเลย บางคายัก เป็นป่าโกงกางที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในเอเซีย โดยมีขนาดพื้นที่ประมาณ 25,000 ไร่ กันเลยทีเดียว ป่าขนาดใหญ่ยังเป็นแหล่งเพาะพันธ์ุอาหารทะเลต่างๆ และแหล่งรายได้ของประชาชนเกาะกงที่ใหญ่สุดอีกแห่งหนึ่งเลย 

    เราถึงที่นี่ประมาณ 4.30 น. ยิ่งบ่ายยิ่งทำให้บรรยากาศการล่องเรือยิ่งสวยงามยิ่งขึ้น เรือใหญ่เริ่มแล่นตัดลำน้ำเข้าสู่ป่าโกงกางขนาดมหึมาที่ชื่อว่า บางคายัก แดดอ่อนที่กระทบใบไม้เขียวๆ รอยยิ้มบริสุทธิ์ของชาวประมงบ่งบอกถึงความยินดีต้อนรับขับสู้เราอย่างที่สุด เรือนักท่องเที่ยวโบกมือบ๊ายบายให้กัน เวลาครึ่งชั่วโมงที่เราล่องลอยอยู่ในป่าแห่งนี้ คิดว่าคงไม่ถึงเสี้ยวนึงของความยิ่งใหญ่เลย เรามาถึงสะพานเชือกแลนด์มาร์คของที่นี่ สะพานเชือกโยกไปโยกมาพาให้ตื่นเต้นไม่ใช่น้อย เหมือนได้พจญภัยเล็กๆ แต่ความปลอดภัยมีสูงครับ ขากลับเจ้าบ้านให้เราเดินตัดจากสะพานเชือกมาขึ้นรถโดยต้องเดินผ่านต้นโกงกางที่สูงประมาณเกือบ 20 ม. เส้นสายต้นไม้ที่สะท้อนกับผิวน้ำเวลาเกือบค่ำนี่ก็สวยดีเหมือนกัน ดูอาร์ตๆ เพลินๆ เดินไม่นานก็ถึงที่จอดรถยังไม่ทันเหนื่อยเลยครับ 

    สำหรับท่านที่สนใจมาเที่ยวน้ำตกตาไตนี้ สามารถจ้างรถต้อกต้อก (รถตุ้กตุ้ก) จากด่าน ต.ม. ที่บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ มาได้โดยค่าจ้างประมาณ 30 us / 1 วันได้ครับ
GPS : 11.561800, 102.995376

 

"SAND ESPACE" 

เริ่มต้นวันใหม่วัดปิดทริป เช้านี้เราเก็บกระเป๋าและทานอาหารเช้าฝั่งเกาะกงกันเรียบร้อย คราวนี้เรามุ่งหน้าเข้าไทย บ้านเกิดเมืองนอนทันทีเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางต่อไปนั่นคือ เกาะกูด นั่นเอง 
    รอเรือรอเราอยู่แล้ว ณ ท่าเรือแหลมศอก อ.เมืองตราด  เรานั่งเรือโต้คลื่นประมาณชั่วโมงเศษก็มาถึงท่าเรืออ่าวสลัด เกาะกูดอย่างปลอดภัย ในช่วงเดือนกันยายน ยังเป็นช่วงมรสุม ระหว่างทางอาจจะเจอฝนตกบ้างแต่คลื่นก็ยังไม่แรงเท่าไหร่ เรือสปีดโบ้ทเองก็ยังแล่นได้ครับ เมื่อขึ้นจากเรือก็จะมีรถสองแถวรอรับอยู่แล้ว โดยปกติค่ารถสองแถวจะรวมไปในค่าเรือแล้วนะครับ นั่งรถสองแถวชมวิวต้นไม้เขียวๆ ของสองฝั่งถนน มีน้ำตกเล็กๆ ระหว่างทางอีกสองสามแห่ง บางช่วงข้ามเขา บางช่วงก็วิ่งเลียบทะเลที่หาดคลองเจ้าด้วย แค่สักชั่วโมงนึงก็ถึง อ่าวพร้าว บีช รีสอร์ต จุดหมายปลายทางบนเกาะกูดของเราในวันนี้ 

        อ่าวพร้าวบีชรีสอร์ต  รีสอร์ตหรูทรงบ้านหลังเล็กประมาณ 10 กว่าหลัง แยกห่างจากร้านอาหารพอสมควร ภายใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ประดับตกแต่งไปไม้ประดับนานาพันธ์ เดินลัดเลาะจากที่พักเพียงนาทีสองนาทีก็ถึงริมทะเลอ่าวพร้าว เราจะพบกับสะพานไม้ที่เป็นแลนด์มาร์คของเกาะแห่งนี้ ทอดยาวไปกลางทะเล ให้เราได้ถ่ายภาพสวยๆกันอย่างจุใจได้อย่างเป็นส่วนตัวมากที่สุด
    เกาะกูด อ่าวพร้าว บีช รีสอร์ต โทร 039525211-2,  0891155211
    GPS : 11.592488, 102.570398

    ข้อมูลเพิ่มเติมการเดินทาง
ท่าเรือแหลมศอก อ.เมืองตราด  GPS : 12.043987, 102.584701
รายชื่อเรือเดินทางไปเกาะกูด (อ่าวสลัด)
เรือเฟอรี่แบบเร็ว เกาะกูดเอกเพรส 350 /คน/เที่ยว  13:00 กลับ09:00 น.
เรือเฟอรี่แบบเร็ว เกาะกูดปริ้นเซส 350 /คน/เที่ยว ไป 12:30 กลับ 10:00 น.
เรือคาตามันบุญสิริ 550 /คน/เที่ยว  ไป 10:45 และ 12:40 และกลับ 09:00 และ 12:00 น.มีบริการจาก กทม และพัทยามาเกาะกูดด้วย
เรือสปีดโบ๊ทเกาะกูเอกเพลส 600/คน/เที่ยว
ค่ารถสองแถว รวมอยู่ในค่าเรือแล้ว เพียงบอกรถว่าไปลงที่รีสอร์ตไหน
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์บนเกาะ 350/คัน/วัน

จำนวนผู้ชม 5237 คะแนน 13  ให้กำลังใจคนเขียนทริปนี้ คลิก...>>