ตามรอย เขาเล่าว่า..ผ้าผิวสวย ของดีเมืองสกลนคร

 

เส้นทางขับรถเที่ยวสกลนครทริปนี้ เกิดขึ้นจากกระแส เขาเล่าว่า…สกลนครมี‎ผ้าผิวสวย‬‬ นั่นก็ทำให้เกิดความอยากรู้เป็นอันมาก ว่าผ้าผิวสวย เอ๊ะ..มันคือผ้าอะไร ได้คำตอบมาว่า ผ้าผิวสวยนั้นหนา คือ “ผ้าย้อมคราม” นี่เอง ผ้าย้อมครามสามารถช่วยบำรุงผิวของเราให้สวยได้จากภูมิปัญญาชาวบ้านที่นำพืชโบราณ เป็นที่เลื่องลือในสรรพคุณด้านสุขภาพมาย้อมสีผ้าแบบไร้สารเคมีที่ทำให้เมื่อใส่จะรู้สึกเย็นสบายไม่ร้อนและถูกวิจัยมาแล้วโดยประเทศญี่ปุ่นและอเมริกาว่า สามารถป้องกันรังสียูวีได้ ด้วยเหตุนี้เองผ้าย้อมครามมันทำหน้าที่คล้ายครีมกันแดด แต่กันได้เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่นการย้อมเข้มแค่ไหนด้วย จึงบอกเป็นตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ รู้ดังนี้แล้ว เราไปเที่ยวชมผ้าย้อมครามสกลนครกันดีกว่า

    จุดแรกที่เรามาชมกันคือร้านครามสกล ร้านครามสกลดำเนินธุรกิจค้าผ้าฝ้ายย้อมครามทอมือของจังหวัดสกลนคร
ที่อยู่ : 212 หมู่ 2 บ้านพะเนาว์ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร เบอร์โทรศัพท์ : 087-2274173

    มีการเสวนาเล็กๆ เกี่ยวกับผ้าย้อมครามของจังหวัดสกลนคร โดย ผอ.สมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผศ.อนุรัตน์ สายทอง ผู้วิจัยความเป็นมาของผ้าครามสกลนคร คุณนก สกุณา สาระนันท์ เจ้าของร้านครามสกล

    จากนั้นเรามาทดลองย้อมครามกันดีกว่า ก่อนอื่นเราต้องทำลวดลายกันหน่อย โดยใช้วัสดุง่ายๆ เช่นไม้ไอศกรีม หลอดด้าย แล้วใช้หนังยางรัดตรงส่วนที่เราไม่ต้องการให้โดนน้ำครามตามลายที่เราต้องการ เลือกลายแล้วมัดกันอย่างสนุกสนานเชียว มีเจ้าหน้าที่ของทางร้านค่อยให้คำแนะนำวิธีการมัดอยู่ด้วย

    หลังจากมัดเสร็จก็ได้เวลาย้อมกันแล้ว การย้อมใช้เวลาไม่นาน หลังจากย้อมเสร็จผึ่งไว้ซักครู่เราก็แกะที่มัดไว้ออกได้ จากนั้นก็นำไปซักน้ำ เราก็จะได้ผ้าย้อมครามจากฝีมือของเราเอง ผืนเดียวในโลก เท่จริงๆ

    ภาคภูมิใจกับผลงานของตัวเองกันทุกคน ถ่ายภาพหมู่กับผลงานของตัวเองเป็นที่ระลึกกันซะหน่อยดีกว่า

 

    จากนั้นมาต่อกันที่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านอูนดง-หนองไชยวาลย์  ซึ่งเป็นชุมชนที่ผลิตผ้าย้อมครามทอมือด้วยวิธีการทอผ้าและย้อมครามแบบดั้งเดิม
ที่อยู่ : เลขที่ 31 หมู่ที่ 1 ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร เบอร์โทรศัพท์ : 080-7653937

  แม่ๆ ในชุมชนได้มาสาธิตการขั้นตอนทอผ้าให้เราชมกันเล็กน้อย ตั้งแต่การอิ่วฝ้าย การดีดฝ้าย การล้อฝ้าย ไปจนถึงการทอ ให้พอเข้าใจวิธีการทอผ้าแบบดั้งเดิม หลายขั้นตอนกันที่เดียวกว่าจะได้ผ้าซักผืน

    จากนั้นเราก็เดินทางไปดูการปลูกต้นครามที่ใช้สำหรับการย้อมผ้าซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก “คราม” เป็นพืชล้มลุกตระกูลถั่วขนาดเล็กทรงพุ่ม ต้นสูงประมาณ 1เมตร วิธีการปลูกนิยมปลูกโดยการหว่านเมล็ดไว้ในช่วงเมษายน ใช้เวลาประมาณ 4-5เดือนจนส่วนยอดจะฝักใบสีเขียว หากน้ำค้างที่เกาะใต้ใบมีสีอมน้ำเงินก็แปลว่าสามารถใช้งานได้แล้ว 

    ดูการย้อมการทอกันไปแล้ว เรามาดูแหล่งขายผลิตภัณฑ์จากผ้าครามสกลนครกันต่อดีกว่า ถนนผ้าคราม หน้าวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ซึ่งจะมีทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตอนเย็นๆ ค่ำๆ ผ้าครามที่ขายกันก็มีทั้งแบบลายดั้งเดิม และแบบใหม่ตามแฟชั่นนิยม ให้เลือกซื้อใส่หรือซื้อเป็นซื้อของฝากกัน

    เดินชมตลาดกันจุใจแล้วเราเข้าไปไหว้พระธาตุเชิงชุมพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองสกลกันหน่อยดีกว่า

    และอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาสกลนคร นั่นก็คือ...

    ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาพระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานขึ้น เมื่อพุทธศักราช 2525 เพื่อพัฒนาอาชีพความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของชาวไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 13,300ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่พัฒนาการเกษตรประมาณ 2,300ไร่ พื้นที่เพื่อการพัฒนาป่าไม้ประมาณ 11,000ไร่

    จุดแรกที่เราจะไปชมกันคือ ฝายพ่อ ซึ่งเป็นจุดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จผ่านเมื่อครั้งมาทอดพระเนตรโครงการฯ

    จุดต่อไปเรามาชมงานศึกษาและพัฒนาประมงกัน มีการเลี้ยงปลาหลากหลายสายพันธุ์เลย ทั้งปลาสวยงามและปลาพื้นเมือง และมีกระชังเลี้ยงกบด้วย 

    จากนั้นเรามาชมวิธีการเลี้ยงไหมกัน

    ปิดท้ายกันด้วยงานการศึกษาและพัฒนาด้านปศุสัตว์ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญจุดหนึ่งของที่นี่ มีการเลี้ยงไก่ดำภูพาน หมูดำภูพาน และโคเนื้อภูพาน
ข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์พัฒนาภูพาน โทร 042 747458-9 หรือ http://royal.rid.go.th/phuphan/

    เราปิดท้ายทริปนี้ด้วยการมาวัดป่าภูริทัตตถิราวาส ( วัดป่าบ้านหนองผือ ) ซึ่งเป็นวัดที่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เคยจำพรรษาอยู่ บรรยากาศภายในวัดดูร่มรื่นเงียบสงบมากๆ รู้สึกเป็นบุญตาที่ได้มาเห็นกุฏิและทางเดินจงกรมของหลวงปู่มั่นมากๆ เราขอลากันไปด้วยภาพจากวัดป่าภูริทัตกันเลย พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ...

ขอขอบคุณ
ผอ.สมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ผอ.บุณยานุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนนครพนม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนักงานนครพนม

เรื่องและภาพโดย เจริญ ภัทรพิทักษ์

 

จำนวนผู้ชม 5174 คะแนน 9  ให้กำลังใจคนเขียนทริปนี้ คลิก...>>