พิชิตเขากระโจม

  ผ่านไปหลายวันกว่าจะได้มีโอกาสมานั่งเขียนทริปนี้ซึ่งเดินทางกันตั้งหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่เน้นความเรียบง่ายเพราะการขึ้นเขากระโจมนั้นไม่ลำบากยากเย็นหากเทียบกันกับทริปภูสอยดาวที่เพิ่งผ่านไปหยกๆ การเดินทางสู่เขากระโจมนั้นออกเดินทางด้วยรถตู้จากกรุงเทพฯ ไปราชบุรี แผนการหาอาหารเช้าของเราก็อยู่ที่ตลาดน้ำท่าคา ซึ่งเป็นตลาดน้ำเก่าแก่ที่สุดของสมุทรสงคราม และเน้นการคงเอกลักษณ์ของวิถีชีวิตชาวบ้านที่นี่เอาไว้ การซื้อขายทางน้ำด้วยเรือนั้นหากไปตลาดน้ำที่ไหนๆ ก็คงเห็นของกินจำนวนมากหลากชนิดวางขายหรือปรุงกันบนเรือ แต่ที่เห็นจะแปลกอยู่สักหน่อยสำหรับตลาดน้ำท่าคานั้นก็คือมีการขายต้นไม้ในเรือด้วย ผู้ที่สนใจหาต้นไม้สักต้นไปปลูกที่บ้านก็มาซื้อกันที่นี่ แต่สำหรับเราที่ผิดแผนไปหน่อยคือนอกจากการหาข้าวกินแล้วเรายังใช้เวลากับตลาดน้ำท่าคามากกว่าที่วางแผนเอาไว้มาก ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต่อๆ ไปเริ่มต้องหดเวลาลง ออกเดินทางจากตลาดน้ำท่าคา ไปแวะนมัสการพระพุทธรูปที่ผนังถ้ำวัดถ้ำฤๅษีเขางู อันมีประวัติความเป็นมาที่น่าทึ่งกับการสร้างพระพุทธรูปและศิลาจารึกด้วยอักษรโบราณ เดินขึ้นเขางูทั้งถ้ำฤๅษีเขางู ถ้ำฝาโถ และรอยพระพุทธบาทยอดเขางู เป็นอันว่าหมดแรงกลางทางขึ้นรอยพระพุทธบาท เหงื่อไหลไม่ยอมหยุดจนตัวเปียกไปหมด นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดินทางเที่ยวมา ที่ต้องนอนศาลาพักกลางทาง หลังจากเก็บภาพได้หมดแล้วก็เดินทางไปยังถ้ำเขาบิน อันมีหินงอกหินย้อยเป็นรูปอินทรีกางปีกจนเป็นที่มาของชื่อถ้ำเขาบินนั่นเอง และถ้ำเขาบินแห่งนี้เป็นสถานที่แรกที่มีการเปิดไฟส่องสว่างด้วยแสงสีภายในถ้ำ เกิดความสวยงามตระการตากับห้องต่างๆ ภายในถ้ำที่กว้างขวางใหญ่โต แต่ร้อนไปนิดเพราะมีทางเข้าออกทางเดียว ทำให้ไม่มีลมผ่านภายในถ้ำ สำหรับสถานที่แห่งนี้เก็บภาพไม่ครบมากนักเพราะเวลามีจำกัด ออกเดินทางจากจอมบึงมุ่งหน้าสวนผึ้งไม่นานเราก็ถึงจุดนัดพบกับกลุ่มรักษ์เขากระโจม เพื่อที่จะเปลี่ยนรถเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ ขึ้นเขากระโจมให้ทันก่อนมืดและกางเต็นท์ให้เรียบร้อย ในระหว่างกางเต็นท์ก็มีเรื่องตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะมีทากตัวน้อยๆ แวะมาทักทายอยู่เป็นระยะๆ หลังจากกินข้าวก็เข้านอน ตอนเช้าเก็บภาพบรรยากาศเขากระโจม แต่น่าเสียดายที่ไม่มีทะเลหมอกให้เห็น มีเพียงหมอกที่ปกคลุมไปทั่วทำให้ได้ภาพที่มีฉากหลังสีขาวกลับมาเต็มไปหมด คงต้องรอโอกาสหน้า... หลังจากลงมาจากเขากระโจมมีแรงเหลือกันก็ไปเดินป่าชมน้ำตกเก้าชั้น หรือเก้าโจน ซึ่งหมายถึง กระโจน เป็นน้ำตกที่มีลักษณะของน้ำตกเหมือนการกระโจน มีอยู่ 9 ชั้น กว่าจะเดินถึงก็เย็นพอดี หลังจากนั้นก่อนกลับกรุงเทพฯ ก็เข้าไปหาข้าวเย็นกินกันที่ อัมพวา สรุปว่าสถานที่เที่ยวในทริปนี้นั้นคุ้มค่ากับเวลา 2 วันครับ หากใครสนใจจะจัดทริปแบบนี้แล้วใช้เวลาเก็บภาพไม่มากเหมือนกลุ่มเราจะสามารถเที่ยวได้อีกหลายที่ เช่นโป่งยุบ และให้อาหารแกะที่ Scenery Resort & Farm เป็นต้นจำนวนผู้ชม 6271 คะแนน 403  ให้กำลังใจคนเขียนทริปนี้ คลิก...>>