เป็นอีกทริปหนึ่งที่ถูกอกถูกใจชาวทัวร์ออนไทย ที่ได้ผจญภัยบนป่าดอยสูง 1,633 เมตรจากระดับน้ำทะเล ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 5 ทุ่มคืนวันพฤหัสบดี ถึงตลาดชาติตระการเวลาเกือบ 6 โมงเช้า เพื่อซื้อเสบียงเพิ่มเติม การเดินทางในทริปนี้ต้องรอบคอบหลายๆ เรื่อง อย่างเช่นการขนอาหารไปจากกรุงเทพฯ เป็นการเปลือกพลังงานที่รถจะต้องบรรทุกของหนัก เป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร หากเราเตรียมไปบางส่วน และไปหาซื้อเพิ่มที่ตลาดชาติตระการแบบนี้จะทุ่นได้มาก โดยเฉพาะอาหารเช้าและอาหารกลางวัน จะหาไปจากตลาดชาติตระการเลยหรือจะไปกินกันที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวเลยก็ได้เพราะที่ทำการอุทยานฯ มีร้านอาหารคอยบริการนักท่องเที่ยวอยู่หลายร้าน
ออกเดินทางจากตลาดชาติตระการไปยังอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวจะต้องใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมงเศษ ชมเส้นทางหมู่บ้านท่ามกลางขุนเขา หมอกยามเช้าสวยตลอดทาง เมื่อถึงที่ทำการอุทยานฯ แล้วก็จัดแจงเอาสัมภาระลงจากรถ ติดต่อเจ้าหน้าที่และลูกหาบ ชำระค่ามัดจำขยะ 100 บาท ซึ่งจะได้คือเมื่อนำขยะกลับมาแสดงตอนขาลง ลงชื่อในแบบฟอร์มเข้าชมอุทยานฯ กินข้าวเช้ากันที่ร้านค้าในอุทยานฯ พร้อมซื้อข้าวสำหรับมื้อกลางวันระหว่างการเดินทาง เมื่อพร้อมดีแล้ว(นั่งรอให้ข้าวย่อยสักหน่อยกันจุก) ก็ซื้อน้ำดื่มพกติดตัวคนละขวด คนไหนชอบเครื่องดื่มเกลือแร่หรือเป็นคนเหงื่อออกมากก็เตรียมใส่ขวดพลาสติกไปจะได้เบาลง การเดินขึ้นภูสอยดาวนั้นปกติใช้เวลาระหว่าง 4-6 ชั่วโมง บางคนก็อาจจะนานกว่านั้น บางคนอาจจะถึง 11 ชั่วโมงเลยก็ได้ ระหว่างทางเดินมีที่พักให้เป็นจุดๆ เรียกว่าเนินละจุดก็ได้ เนินที่ลำบากมากก็มีเนินแรก เนินส่งญาติ เนินที่สอง เนินปราบเซียน เนินสุดท้ายซึ่งลำบากและชันที่สุดคือเนินมรณะ การวางแผนเดินทางในวันพฤหัสบดีก็เพื่อจะได้ค้างบนภูสอยดาว 2 คืน ให้คุ้มกับความเหนื่อยยากที่เดินทางขึ้นไป กลับวันอาทิตย์ประมาณ 10 โมงเช้า ลงมาจะใช้เวลาสั้นกว่าขึ้น ปกติจะถึงที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ บ่ายโมง จากนั้นก็อาบน้ำเดินทางกลับกรุงเทพฯ กลับมาถึงโดยสวัสดิภาพ เวลาประมาณเที่ยงคืน ขามีแผลคุ่นเต็มเลย ผ่านไป 2 อาทิตย์แล้วยังไม่หายคัน
ข้อควรระวัง บนยอดเขาภูสอยดาวไม่มีทาก แต่มีแมลงคุ่น ซึ่งกัดแล้วเป็นแผล หากแพ้คุ่นจะเกิดเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ได้ ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแขนยาว ขายาว เส้นทางเดินค่อนข้างชั้นและลื่น บนภูสอยดาวมีน้ำฝนให้ใช้ แต่ปกติแล้วควรใช้ปรุงอาหารที่ผ่านความร้อน ส่วนน้ำดื่มควรนำขึ้นไปเอง ห้องน้ำไม่มีก็อกน้ำ ต้องตักน้ำจากลำธารใช้เอง ในบางช่วงอาจจะมีลมแรง การกางเต็นท์ต้องระวังเรื่องสมอบกให้มากเพราะพื้นดินค่อนข้างชุ่ม เนื้อหารายละเอียดสำหรับนักเดินทาง อ่านได้ในหน้าภูสอยดาว และเรื่องเล่าชาวทัวร์ออน ที่ http://www.touronthai.com/forum/index.php?topic=46.0
จำนวนผู้ชม 3933 คะแนน 458 ให้กำลังใจคนเขียนทริปนี้ คลิก...>>