ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานตรัง โทร. 0 7521 5867-8
http://www.tourismthailand.org/trang
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
บริเวณรอบๆ วังเทพทาโร ครั้งแรกที่เราเดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้ สิ่งที่เรามองเห็นก่อนสิ่งอื่นๆ คือลานกว้างๆ เป็นสนามหญ้า ล้อมรอบด้วยรากไม้ที่มองแว่บแรกก็รู้ว่าเป็นมังกรจำนวนหลายตัวต่อเรียงกันเป็นทางยาวครึ่งรอบของสนาม ก่อนจะมาที่นี่บอกเลยว่า ไม่รู้จักวังเทพทาโรมาก่อน คิดว่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับหมอดูไพ่ทาโรอะไรทำนองนั้น พอมาถึงถึงได้เข้าใจว่า เทพทาโร เป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่ภาคใต้ส่วนใหญ่เรียกว่าต้นจวงหอม ส่วนภาคอีสานเรียกว่าตะไคร้ต้น สำเนียงทางเหนือออกเสียงว่า จะไคร้ต้น
มังกรจำนวนมากที่ต่อตัวเรียงกัน 2 ข้างของสนามหญ้า หันหัวเข้าหากัน เว้นช่องตรงกลางมีป้ายไม้ใหญ่ๆ ข้อความว่า กราบแผ่นดิน ด้วยเจตนารมณ์ของอาจารย์จรูญ ที่สร้างซื้อรากไม้เทพทาโรเหล่านี้ด้วยราคากว่า 2 ล้านบาทจากเงินที่ได้รับเมื่อเกษียณราชการ น้ำหนักของไม้เทพทาโรที่ซื้อมา ประมาณได้ว่า 5 แสนกิโลกรัม ใช้จินตนาการของตนเองในการทำให้เป็นมังกร เพราะเชื่อว่ามังกรเป็นสัตว์มงคล ที่รู้จักกันดีในหลายๆ ประเทศ เมื่อสร้างมังกรแล้ว ย่อมเป็นไปได้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้ความสนใจและเดินทางเข้ามาเที่ยว เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ให้กับพื้นที่บ้านเกิด เนื่องจากมังกรทุกตัวสร้างจากจินตนาการของตนเอง จึงต้องสร้างด้วยมือตัวเอง ไม่มีการจ้างวานให้ใครมาช่วย ไม่มีเครื่องจักรที่ทันสมัยใดๆ นอกจากสองมือ เว้นแต่การยกไม้ที่น้ำหนักมากๆ ต้องใช้เครนช่วย จำนวนมังกรที่สร้าง 84 ตัว เป็นจำนวนพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2554 ปัจจุบัน มีจำนวนมังกร 87 ตัว และกำลังสร้างตัวที่ 88 ในปี 58 นี้ด้วย
มังกรรากไม้เทพทาโร ความสวยงามของมังกรไม้เทพทาโรที่อาจารย์สร้างขึ้นในบริเวณวังเทพทาโร มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ มีสื่ออย่างทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำรายการ เป็นที่รู้จักไปอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย คุณหนิง ฟู่ขุ่ย (Mr. Ning Fukui) และมาดามชู ซีงหลิว (Mrs. Chu Qingling) มาเยี่ยมชมวังเทพทาโร เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2557
ลอดท้องมังกร 9 ช่อง มังกรที่สร้างหลายๆ ตัวด้านซ้ายมือของสนามหญ้า เหมือนลักษณะมังกรเลื้อย มีช่องใต้ท้องมังกรให้เดินลอด ด้วยความเชื่อว่าจะเป็นมงคลแก่ชีวิต มีทั้งหมด 9 ช่อง แต่ละช่องมีความหมายต่างกันไป ได้แก่ วาสนา บารมี มั่งมี สุขภาพ อำนาจ ฯลฯ ทางเดินตอนท้ายยังขมวดเป็นเหมือนเลข 9 ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศที่มีความเชื่อเรื่องมังกร เดินทางมาเที่ยวกันมาก ได้แก่ จีน ได้หวัน ฮ่องกง เป็นต้น
อาจารย์จรูญ ไม่เก็บค่าเข้าชมวังเทพทาโร แต่มีตู้รับบริจาค มีมังกรไม้เทพทาโรแกะสลักอยู่ในตู้ ระหว่างทางเดินลอดท้องมังกร
เส้นทางลอดท้องมังกร 9 ช่อง พาเรามาถึงศาลาหลังหนึ่ง เรียกว่าเป็นศาลาเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง อาจารย์จรูญจะมาที่ศาลาหลังนี้ เพื่อที่จะเล่นเพลงให้ฟัง เป็นเพลงเกี่ยวกับสิ่งดีๆ ของภาคใต้ และเศรษฐกิจพอเพียง แต่แปลให้เป็นภาษาอังกฤษ ร้องให้ฝรั่งฟัง แกบอกว่าเมื่อฝรั่งได้ยินเพลงนี้จะเข้าใจว่าบ้านเรามีอะไรดีๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะเมื่อขับร้องแบบรองเง็ง ทำนองพื้นบ้าน ก็ยิ่งน่าฟัง และเข้าใจง่าย หน้าศาลาพอเพียง มีป้ายคำกลอนกล่าวถึงเศรษฐกิจพอเพียง อยู่ด้านหลังของป้ายกราบแผ่นดิน
ศาลาเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในศาลาหลังนี้นอกจากอาจารย์จรูญจะร้องเพลงให้เราฟังแล้ว ยังมีความรู้เกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่อาจารย์น้อมนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตให้กับผู้ที่สนใจจะนำไปใช้ และเหตุผลในการปลูกต้นเทพทาโร กว่า 300 ต้น และมีโครงการจะปลูกเพิ่มในอนาคต เม็ดของเทพทาโรเอามาตากแห้ง มีราคาสูงมาก อาจารย์อยากชวนให้คนใต้หันมาปลูกเทพทาโรกันเยอะๆ เพื่อสร้างรายได้เสริมที่น่าจะดีกว่าต้นยางในปัจจุบัน ผลหรือเม็ดเทพทาโรแห้งจะนำเอาไปสกัดเป็นน้ำมันหอม ตามกลิ่นของเทพทาโรที่มีหลายกลิ่นด้วยกัน เช่น กลิ่นตะไคร้หอม กลิ่นรูทเบียร์ เป็นต้น เนื้อไม้เทพทาโร เอามาแกะสลักได้ดี มีกลิ่นหอม คนชอบซื้อไปประดับบ้าน นับเป็นไม้ที่ใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น
ศาลาจวงหอม เป็นศาลาที่อยู่ใกล้ๆ กับศาลาเศรษฐกิจพอเพียง ปกติอาจารย์จรูญใช้ศาลาจวงหอม เป็นสถานที่ต้อนรับแขก มีชาให้เราชิม มีม้านั่งที่แกะสลักเป็นมังกร โดยมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ในศาลา
พาชมวังเทพทาโร เมื่อเข้ามาที่ศาลาจวงหอม อาจารย์ชงน้ำชาไว้ให้ดื่ม แต่ไม่ใช่ชาธรรมดา เพราะอาจารย์จะใช้แก้วที่ทำจากไม้เทพทาโร ใส่น้ำชาให้เราชิม กลิ่นของชาผสมกับกลิ่นเฉพาะของไม้เทพทาโร สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน พร้อมกับเล่าประวัติความเป็นมาของวังเทพทาโร และประโยชน์ของเทพทาโร ก่อนที่จะพาเราไปชมต้นเทพทาโรของจริง ต้นเทพทาโรที่อาจารย์ปลูกให้ผลผลิตค่อนข้างดี เม็ดเทพทาโรขนาดเล็ก แต่ถ้าเอาเล็บจิกเข้าไปจะมีน้ำมันออกมาจำนวนมาก ใช้สกัดทำประโยชน์ได้มาก จึงทำให้เม็ดเทพทาโรมีราคาสูง เป็นที่ต้องการของตลาด
มังกรตัวที่ 84 หลังจากเดินชมรอบสนามที่มีมังกรล้อมรอบ ลอดท้องมังกร ฟังอาจารย์บรรยายความเป็นมาของวังเทพทาโร เสร็จแล้วอาจารย์นำไปชมมังกรที่เป็นสุดยอดความภาคภูมิใจของอาจารย์ คือมังกรตัวที่ 87 ซึ่งอยู่แยกออกไปอีกโซนหนึ่ง เป็นพื้นที่ที่มีมังกรมากมายหลายตัว เช่นตัวที่ 84 ที่สร้างในปี 2554 อยู่ตรงใกล้ๆ ทางเข้า
มังกร ตัวที่ 87 ถัดจากมังกรตัวที่ 84 เข้ามาอีกหน่อย เป็นลานกว้างรูปวงกลม มีมังกรตัวใหญ่ที่สุดที่อาจารย์สร้างขึ้นเป็นตัวที่ 87 เป็นมังกรที่มีรายละเอียดมาก หัวมังกรใส่น้ำพ่นออกมาจากปาก มีบ่อน้ำรองรับด้านล่าง ตรงกลางเป็นรากไม้เทพทาโรที่ใหญ่ที่สุดหนักที่สุด มีน้ำหนักมากถึง 1500 กิโลกรัม (1 ตันครึ่ง) มังกรตัวล่าสุดมีรายละเอียดที่สวยงาม ลำตัวขดเป็นเลข 8 สองตัว เพราะความเชื่อตามชาวจีนจะเชื่อว่า 8 เป็นเลขมงคล ปลายหางมังกรตัวนี้ ขดเป็นรูปคล้ายเลข ๙
ด้านหลังของมังกรตัวนี้มีพื้นที่ที่อาจารย์เตรียมไว้สร้างมังกรตัวที่ 88 ตามพระชนมายุของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี 2558 อาจารย์บอกว่าจะสร้างให้เสร็จในเดือนกุมภาพันธ์นี้
มังกรตัวแรก อยู่ตรงข้ามกับมังกรตัวที่ 88 เมื่อได้ความคิดที่จะนำรากไม้เทพทาโร มาสร้างเป็นมังกรแทนที่จะเป็นพยูนสัตว์ประจำจังหวัด อาจารย์ก็ค่อยๆ นำเอาไม้มาประติดประต่อตามความคิดในจินตนาการ แล้วก็พัฒนาให้มีรายละเอียดมากยิ่งขึ้นตามลำดับ เป็นมังกรที่สวยงามอย่างที่เห็น
กล้าไม้เทพทาโร ท้ายสุดของการพาเที่ยววังเทพทาโรในวันนี้ อาจารย์พาคณะเราเข้าไปชมมังกรไม้เทพทาโรแกะสลัก ที่อาจารย์สร้างขึ้นมา ด้วยการแกะสลักรากไม้เทพทาโรชิ้นเดียว เป็นรูปมังกรที่สวยงาม มีทั้งหมด 2 ชิ้น ตั้งไว้ในบ้าน หน้าบ้านจะมีกล้าไม้เทพทาโรที่อาจารย์เพาะชำขึ้นมาเพื่อปลูกในสวนป่าของอาจารย์ และมีไว้สำหรับขายให้กับคนที่สนใจจะปลูกไม้ชนิดนี้เพื่อหวังผลทางเศรษฐกิจในอนาคต
มังกรไม้เทพทาโรแกะสลัก ตัวแรกตั้งอยู่หน้าบ้าน นับว่าเป็นมังกรไม้เทพทาโรแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดที่อาจารย์มีอยู่ในขณะนี้ มีลวดลายที่สวยงาม และด้วยความเชื่อว่าไม้เทพทาโรเป็นไม้มงคล เมื่อแกะสลักเป็นสัตว์มงคลอย่างมังกรแล้ว ยิ่งทำให้มีผู้สนใจมาถามซื้อกันมากมายโดยเฉพาะชาวจีน
มังกรไม้เทพทาโรแกะสลัก ส่วนตัวนี้เป็นตัวที่สองที่แกะสลักเป็นรูปมังกรได้สำเร็จ มีขนาดเล็กกว่าตัวแรกเล็กน้อย แต่อาจารย์จรูญกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า เป็นมังกรตัวที่ชอบมากที่สุด เพราะลวดลายฝีมือการแกะสลักหัวมังกร สวยงามปราณีตเสมือนมีชีวิต
พะยูนไม้เทพทาโร ด้วยความเชื่อเรื่องไม้มงคล และกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ของไม้เทพทาโร เมื่อนำมาแกะสลักเป็นของประดับบ้าน ก็เลยกลายเป็นสินค้าที่มีคนให้ความสนใจกันมาก และอยากจะนำไปตั้งไว้ที่บ้าน พะยูน ก็เป็นสัตว์ประจำจังหวัดตรัง อาจารย์จรูญจึงได้แกะสลักไม้เทพทาโรเป็นรูปพะยูนมีหลายขนาด เพื่อเป็นสินค้า รวมไปกับผลิตผลอื่นๆ เป็น OTOP ขึ้นชื่อของที่นี่ เพลงที่อาจารย์จรูญแต่งอาจารย์ทำเป็นแผ่นซีดี ขายให้กับคนที่ชื่นชอบและสนใจ เนื้อหาดีๆ ของภาคใต้ แปลเป็นภาษาอังกฤษด้วยศัพท์ง่ายๆ ฟังเข้าใจง่าย
ว่างๆ ลองแวะเข้ามาหาความรู้ด้านเกษตร เศรษฐกิจพอเพียง ลอดท้องมังกร 9 ช่อง ที่วังเทพทาโรดูสักครั้ง เราจะได้เห็นแนวความคิดดีๆ ของคนๆ หนึ่ง และความจงรักภักดี ต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างเหลือล้น ที่หาคนเทียบได้ยาก
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง มา ณ โอกาสนี้
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ