ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตาก
0 5551 4341-3, 0 5551 4344
http://www.tourismthailand.org/tak
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
เส้นทางเข้าอุทยาน อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ ตั้งอยู่บนถนนสาย 1175 เดินทางมาได้สองทางคือ เข้าทางบ้านตาก หรือมาเข้าทางแม่สอด ถ้ามาทางแม่สอดจากทางหลวงหมายเลข 105 เลี้ยวขวาเข้าไปอีก 16 กิโลเมตรก็ถึงทางแยกเข้าอุทยาน น่าจะง่ายกว่า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มเราที่ตั้งใจมาเก็บภาพอุทยานแห่งชาติแม่เมยด้วยแล้ว ยิ่งควรจะใช้เส้นทางแม่สอด - แม่ระมาด เป็นอย่างยิ่ง
จุดเด่นอย่างหนึ่งของอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ ก็คือถนนเข้าที่ทำการอุทยานฯ ตั้งแต่ทางแยกจากทางหลวงหมายเลข 1175 ก็เห็นมีนาขั้นบันไดเล็กๆ ท่ามกลางขุนเขา เป็นวิวที่สวยทีเดียว เสียดายที่ข้าวเกี่ยวไปหมดแล้ว และอีกอย่างถนนเล็กจนไม่มีที่ให้เราจอดเพื่อเก็บภาพเลย แต่พอเข้ามาใกล้ที่ทำการ จะเห็นทางโค้งขึ้นเนินมาเรื่อยๆ เป็นโค้งกลับไปกลับมา สวยกว่าถนนสายไหนๆ สองข้างทางเป็นหญ้าที่ปลูกเป็นระเบียบเรียบร้อยสะอาดสบายตา พอขับไปถึงแล้วเราก็ลงรถเก็บภาพกันพักใหญ่
บ้านพักและลานกางเต็นท์ อันเนื่องมาจากทริปนี้เป็นทริปการเดินทางต่อเนื่องยาวนานถึง 6 วันด้วยกัน เราไปกางเต็นท์ที่อุทยานแห่งชาติแม่เมยมา 2 คืนแล้ว เห็นสมควรว่าคืนนี้ควรจะได้นอนในบ้านพัก ทั้งนี้ก็เพราะเราต้องชาร์จอุปกรณ์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์รวมทั้งกล้องของเราด้วย บ้านพักดงค้อ เป็นบ้านพักหลังใหญ่สุดมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ นอนตามระเบียงหรือห้องโถงกลางได้อีก สรุปว่านอนได้ไม่ต่ำกว่า 10 คนครับ คืนละ 1500 บาท มีลานกางเต็นท์อยู่ที่หน้าบ้านเลย ระเบียงหลังบ้านมองออกไปเป็นวิวภูเขาเล็กๆ แต่น่าเสียดายไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตก
สำนักสงฆ์ดอยทีมู เป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ ตั้งอยู่บนเนินเขาไม่สูงมากนัก มีทางเดินขึ้นไม่ถึง 100 เมตร มีลานจอดรถอยู่ริมถนน สังเกตุป้ายบ้านทีมู กับพระธาตุดอยทีมูครับ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ 5 กิโลเมตร ต้องย้อนกลับลงเขามา
เหตุที่เรามาที่นี่ก็เพราะว่าในบริเวณอุทยานฯ ไม่มีจุดชมวิวที่โดดเด่นเลย มี อยู่ 3 จุดด้วยกันแต่ต้องเดินป่าเข้าไปทางน้ำตกขุนพะวอ จุดชมวิวแรกก็ประมาณ 700 เมตร หันไปทางทิศตะวันตก แต่ที่ไม่ได้ไปก็เพราะหลังจากพระอาทิตย์ตกแล้วต้องเดินท่ามกลางความมืดออกมาจากป่า เราเลยเลือกที่ดอยทีมูซึ่งน่าจะสะดวกกว่า
พระธาตุดอยทีมู พระธาตุองค์เล็กๆ สีทองสร้างบนก้อนหิน คล้ายกันกับที่พระธาตุดอยหินกี่ ใกล้ๆ ทางไปตลาดริมเมย รายล้อมไปด้วยหินเป็นสถานที่ให้นั่งชมวิวได้ บนดอยรอบพระธาตุเป็นพื้นที่เดียวที่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ก็เลยเห็นบัตรเติมเงินที่ใช้แล้วทิ้งอยู่หลายใบ ระหว่างการรอพระอาทิตย์ตกก็เลยเอามือถือมาโพสรูปที่ถ่ายมาหลายวันให้เพื่อนๆ ชมกัน
ชมวิวพระธาตุดอยทีมู นี่ก็เป็นวิวที่เห็นจากบนดอยทีมู หันไปทางทิศตะวันตก วิวเทือกเขาสลับซับซ้อนแต่ไม่กว้างนัก เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดเท่าที่เราหาได้ ความจริงอยากไปตรงดอยข้างล่างที่มีทุ่งหญ้าสีทองแต่มันไม่มีที่จอดรถ ก็เลยต้องมาลงเอยที่นี่
วิวพระอาทิตย์ตก
ยามเย็นข้างที่ทำการอุทยาน หลังจากอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ตอนนี้เราก็เดินทางกลับมาเข้าอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ สั่งอาหารเย็นกันไปหลายอย่าง ที่นี่เป็นอุทยานฯ ที่ค่อนข้างมีความพร้อมในด้านอาหาร เมนูที่เราสั่งได้แก่ ผัดผักกูด ยำปลากระป๋อง ต้มยำ ไข่ดาว กระเพรา ฯลฯ ฝีมือการปรุงอาหารของร้านสวัสดิการใช้ได้ทีเดียว อิ่มอร่อยราคาไม่แพง สุดยอดไปเลยครับ
ออกเดินทางสู่น้ำตกขุนพะวอ หลังจากที่กินอาหารเย็นแล้ว เราก็ลองศึกษาดูว่ามีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง ก็ถามๆ เจ้าหน้าที่ ได้คำตอบว่าที่นี่มีน้ำตกอยู่แห่งหนึ่ง เดินเท้าไป 2.8 กิโลเมตร ทุกคนตกลงใจที่จะไปเพราะถ้าไม่ไปก็เหมือนมาไม่ถึงขุนพะวอ แต่โปรแกรมของเราค่อนข้างแน่น และไม่ได้เผื่อเวลาไว้สำหรับการเดินน้ำตกแห่งนี้ เราจึงออกเดินทางแต่เช้ามืด ตกลงกันว่าจะไป 6 โมงเช้าด้วยซ้ำ แต่พอเอาจริงกว่าจะพร้อมก็ 6 โมงครึ่ง จะว่าไปก็เสียดายอยู่ที่ไม่ได้เก็บแสงเช้าสวยๆ ที่ทางโค้งหน้าที่ทำการ
ยามเช้าหน้าที่ทำการ ปกติเห็นวิวแบบนี้ผมต้องเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นแน่ๆ แต่คราวนี้ต้องรีบเข้าน้ำตกจริงๆ เลยได้มาแค่นี้ ทางเข้าน้ำตกอยู่ด้านล่างห่างจากที่ทำการตามทางโค้งไม่ต่ำกว่า 300 เมตร ที่จริงควรจะเอารถเข้าไปจอดแต่ในเมื่อเดินมาแล้วก็เดินต่อไป ลืมไปว่าขากลับมันคงจะเดินขึ้นเนินเหนื่อยไม่น้อย
ทางเดินเข้าน้ำตกขุนพะวอ เป็นเส้นทางที่ต้องเดินอยู่บนสันเขาเป็นส่วนใหญ่ ข้ามเนินยอดเขา 4 ยอด แต่เป็นยอดที่ไม่สูงชันเท่าไหร่ มีจุดชมวิวอยู่ 3 จุดด้วยกัน แต่ช่างน่าเสียดายที่จุดชมวิวทุกจุดหันไปทางทิศตะวันตกทั้งหมด อดได้เห็นภาพพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ เลย ทุกคนเดินมาถึงจุดหยุดพักที่มีที่นั่งก็นั่งพักกันหมด ปกติกลุ่มเราคงเดินสบายไม่ง้อที่นั่งพักถ้าไม่เป็นเพราะเมื่อวานเพิ่งไปพิชิตม่อนปุยหมอกมาก่อนแล้วอะนะ ในเมื่อเมื่อวานเราต้องเดินกันหนัก มาวันนี้เราก็เลยไม่ค่อยจะอึดเหมือนทุกครั้ง เราค่อยๆ เดินข้ามเขาไปทีละยอดๆ แวะพักบ้างถ่ายรูปบ้างไปตามเรื่อง
จุดชมวิว
บันไดลงน้ำตกขุนพะวอ หลังจากที่เดินข้ามเขามาหลายยอด กว่าจะมาได้ยินเสียงน้ำตกก็เล่นเอาเหนื่อยจนพูดไม่ออก พอทางเดินมาหยุดลงที่บันไดคอนกรีต ไม่รู้จะว่ายังไงละครับ บันไดแห่งนี้ช่างเป็นบันไดที่ชันซะนี่กระไร มีจำนวนน่าจะเกิน 300 ขั้น ทอดยาวจากสันเขาลงสู่ก้นเหวเบื่องล่างที่เป็นที่อยู่ของน้ำตกขุนพะวอ เส้นทางเท่าที่ดูก็คงจะเป็นทางบังคับถ้าไม่สร้างบันไดลงตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเดินไปลงตรงไหนได้ แต่การสร้างบันไดขึ้นมา ทำให้เราคิดถึงแต่ช่วงเวลาที่จะต้องเดินกลับขึ้นมาจากหุบเขาด้านล่าง มันจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ บันไดที่แทบจะไม่มีแนวลาดมีแต่ตรงดิ่งลงด้านล่างอย่างเดียว แค่เห็นก็สยองแล้ว ผมขอสงวนสิทธิ์ไม่โพสภาพบันไดดีกว่า ไปเจอด้วยตัวเองคงจะสนุกกว่าเยอะ ตอนนี้เก็บกล้องเข้ากระเป๋าแล้วเดินลูกเดียวแล้วครับ
น้ำตกขุนพะวอ นี่เป็นภาพที่เห็นจากบันได เค้าสร้างที่พักไว้ตรงนี้พอดี เพราะเป็นจุดเดียวที่มองเห็นน้ำตก หลังจากนี้ก็ต้องเดินลงบันไดไปอีกประมาณ 2 ใน 3 ของทั้งหมด เพื่อที่จะไปเก็บภาพน้ำตกใกล้ๆ กว่านี้ นี่ดีนะว่าน้ำตกค่อนข้างสวย ถ้าเดินมาซะขนาดนี้แล้วเป็นน้ำตกเล็กๆ ละก็ คงจะเป็นลมอยู่ตรงนี้แน่ๆ
น้ำตกขุนพะวอ นี่ละครับ น้ำตกที่ดั้นด้นมาตั้งแต่เช้ามืด ออกเดิน 6 โมงครึ่ง ถึง 8 โมงครับ เก็บภาพไม่กี่นาทีก็ต้องเดินกลับกันแล้ว น้ำตกชันบนที่ตกลงมาจากผาสูงเป็นชั้นที่สวยมาก ส่วนที่เห็นใหญ่ๆ ในภาพเป็นชั้นล่าง ไม่สวยเท่าชั้นบน แต่มันติดตรงที่ไม่มีทางให้เราปีนไปข้างบนได้เลยก็เลยต้องถ่ายรูปจากมุมที่เห็นทั้ง 2 ชั้น สภาพแสงโหดมากต้องมี ND ครึ่งซีกไปช่วยด้วยเพื่อลดแสงของชั้นบนลงแต่ก็ได้ไม่มาก
อำลาขุนพะวอ ถ่ายรูปน้ำตกจนถึง 8.22 น. หลังจากนั้นก็เดินกลับขึ้นบันไดมรณะ ลืมบอกไปว่าที่ป้ายโครงการก่อสร้างบันไดคอนกรีตที่ตั้งอยู่ตรงทางลงมีวัยรุ่นมือบอนไปเขียนไว้ ข้อความว่า คิดให้ดีก่อนลง ด้วยนะ จะว่าไปก็จริงของเค้าแหละ ถ้าเราลงไปโดยไม่ประเมินตัวเองก่อนอาจจะขึ้นไม่ได้ก็เป็นได้ 20 นาทีกว่าๆ กว่าพวกเราจะขึ้นจากบันไดนี้มาได้ หยุดพักนับครั้งไม่ถ้วน ท้ายสุดก็ออกมาถึงร้านสวัสดีการสั่งอาหารแบบไม่เคยเห็นอาหารมาก่อน เพื่อให้หายหิวหายเหนื่อย กลับไปอาบน้ำที่บ้านพัก แล้วก็ออกเดินทางต่อไป
จบการรีวิวอุทยานแห่งชาติขุนพะวอแต่เพียงเท่านี้จ้า
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ