ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทร. 0 4421 3666, 0 4421 3030
http://www.tourismthailand.org/nakhonratchasima
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
อุโบสถวัดศาลาลอย การเดินทางสู่วัดศาลาลอยแห่งนี้จากถนนใหญ่มีซอกซอยเล็กๆ เข้ามาลึกพอสมควรแต่ได้ป้ายบอกทางตลอดจนมาถึงเขตของวัด เนื่องจากประชาชนเดินทางมาไหว้พระในวัดศาลาลอยค่อนข้างมาก ทางวัดจึงมีลานจอดรถขนาดใหญ่อยู่นอกกำแพง แต่ในเขตวัดก็มีลานจอดรถให้เหมือนกันในวันที่มีคนมาไม่มากเราก็จอดในวัด สิ่งแรกที่เราเห็นก็คือมณฑปรูปร่างลักษณะคล้ายปรางค์ที่เราจะเห็นกันในปราสาทหิน เป็นลักษณะไทยประยุกต์มีศิลปะแบบขอมผสมผสานกันอยู่ เป็นที่ตั้งของรูปท้าวสุรนารี หรือ คุณหญิงโม หรือย่าโม ที่เราเรียกขานกัน ต่อจากนั้นมีอาคารสูงใหญ่แต่ดูด้านข้างจะไม่กว้างถ้าเทียบกับความสูง นี่คืออุโบสถวัดศาลาลอย เป็นศิลปะไทยประยุกต์ตกแต่งด้วยกระเบื้องดินเผา ก่อนที่เราจะเข้าไปไหว้พระในโบสถ์ จะกล่าวถึงประวัติของที่มาของชื่อศาลาลอย กันสักนิดดังนี้
วัดศาลาลอยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองนครราชสีมา ด้านฝั่งขวาของลำตะคองห่าจากกำแพงเมืองประมาณ 400 เมตร มีเนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน 68 ตารางวา เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมานานกว่า 100 ปี โดยท่านท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) กับพระยาปลัดทองคำ (พระยามหิศราธิบดี) ผู้เป็นสวามีเป็นผู้สร้าง เมื่อประมาณ พ.ศ. 2370
เหตุที่มาของชื่อวัดศาลาลอย
ท่านท้าวสุรนารี พอเสร็จศึกสงครามจากทุ่งสัมฤทธิ์แล้วได้ยกทัพกลับเข้าเมืองนครราชสีมา และได้แวะพักอยู่นอกเมืองก่อน (ปัจจุบันเป็นวัดท่าตะโก) ท่านท้าวสุรนารีได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาเสี่ยงทาย ลอยไปตามลำตะคอง พร้อมตั้งจิตอธิษฐานว่า หากแพรูปศาลานี้ลอยไปติดอยู่ ณ ที่แห่งใด แล้วจะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ แพอธิษฐานของท่านท้าวสุรนารีได้ลอยไปติดอยู่ริมฝั่งขวาของลำตะคอง อันเป็นที่ตั้งวัดศาลาลอยในปัจจุบัน อาศัยเหตุนี้ท่านจึงตั้งชื่อวัดที่ท่านสร้างขึ้นว่า "วัดศาลาลอย"
อุโบสถสำเภาโต้คลื่น พระอุโบสถซึ่งได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และรางวัลจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศและนาคะประทีป ในปี พ.ศ. 2516 เป็นอุโบสถที่สร้างแบบศิลปไทยประยุกต์ เป็นรูปสำเภาโต้คลื่น ใช้วัสดุพื้นเมืองคือกระเบื้องดินเผาด่านเกวียนนำมาประดับตกแต่ง เช่น ผนังด้านหน้าอุโบสถเป็นภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ ผนังด้านหลังเป็นภาพตอนพระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ส่วนบานประตูเป็นโลหะลายนูน ภาพเล่าเรื่องเวชสันดรชาดก (13 กัณฑ์)
ท้าวสุรนารีนั่งพนมมือ เป็นรูปปูนปั้นมีซุ้มหลังคาคลุมเล็กๆ อยู่ด้านหน้าอุโบสถ มีทางเดินไปไหว้ท้าวสุรนารีแยกต่างหากจากทางเดินเข้าโบสถ์ ศาลาเล็กๆ นี้ ตั้งอยู่กลางสระน้ำมีสะพานเชื่อมถึงทั้ง 2 ฝั่ง
พระประธานวัดศาลาลอย พระประธานปูนปั้นสีขาว ปางห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปยืนประทับ ณ ประตูเมืองสังกัสนคร ด้วยเหตุที่พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางยืนห้ามสมุทร พระอุโบสถจึงสร้างขึ้นมาโดยมีขนาดเหมาะสมกับองค์พระคือมีสูงมาก แต่มีความกว้างน้อย ด้านหน้าพระประธานมีพระเศรษฐีนวโกฏิ
สระน้ำหน้าโบสถ์
ศิลปะกระเบื้องดินเผาด่านเกวียน ผนังด้านหลังของพระอุโบสถตกแต่งด้วยลวดลายของแผ่นกระเบื้องดินเผา
เจดีย์อัฐิท้าวสุรีนารี จากแผ่นจารึกหินอ่อนของวัดที่คัดลอกมาจากหนังสือฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2510 เรื่องขอแบ่งอัฐิท่านท้าวสุรนารีไปบรรจที่เดิม ณ วัดศาลาลอย ถึงพระคุณเจ้าพระธรรมบัณฑิต รองเจ้าคณะภาค 8-11 เขียนโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสวัสดิ์วงศ์ ปฎิทัศน์ ในสมัยนั้น ซึ่งได้อนุญาตให้แบ่งอัฐิของท่านท้าวสุรนารีจำนวนหนึ่งมาบรรจุไว้ ณ วัดศาลาลอย ซึ่งก็คือบริเวณด้านหน้าของอุโบสถ ประชาชนจะมากราบไหว้อัฐิท้าวสุรนารีกันมาก
เจดีย์อัฐิท้าวสุรีนารี
คณะรำแก้บน เห็นรำต่อเนื่องกันทั้งวันไม่เคยว่าง คงบอกได้เป็นอย่างดีว่าคนที่มาขอพรย่าโมที่นี่จะสมปรารถนากันขนาดไหน คณะรำจะมีศาลาเล็กๆ เป็นเวทีในการรำ มีอยู่ 3 หลังด้วยกัน
อุโบสถหลังเก่า เป็นโบสถ์ที่ท่านท้าวสุรนารีได้สร้างไว้เมื่อแรกสร้างวัด สร้างด้วยอิฐถือปูนทั้งหลัง ส่วนหลังคาได้พังทลายลงเป็นเวลานานแล้ว ในระยะต่อมาทางวัดได้ใช้สังกะสีมุงหลังคาไว้ แต่ปัจจุบันได้มีการบูรณะใหม่ด้วยการเทคอนกรีตเสริมเหล็ก และเป็นหลังคามุงกระเบื้องผู้อุปถัมภ์ในการบูรณะคือหลวงพ่อประภาศิตบุญเย็น ฐานธมฺโม ได้เริ่มการบูรณะเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2526 แล้วเสร็จวันที่ 20 พฤษภาคม 2527
ไหว้พระในโบสถ์เก่า
ไหว้พระในโบสถ์เก่า
มณฑปท้าวสุรนารี เป็นมณฑปที่ขนาดไม่ใหญ่นักแต่ก็โดดเด่นมากอยู่กลางวัดศาลาลอย เพราะสร้างบนฐานสูงหลายชั้น ตั้งเดินขึ้นบันไดหลายขั้น เป็นอีกที่หนึ่งที่ประชาชนจะมาสักการะย่าโม
มณฑปท้าวสุรนารี
หอเทพพระราหูทรงครุฑ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งที่่มีประชาชนเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก อยู่หน้าอาคารอนุสรณ์ 238 ปี ท้าวสุรนารี อยู่ใกล้ๆ กับสระน้ำหน้าโบสถ์
พระราหูทรงครุฑ
เก็บตกวัดศาลาลอย หลังจากไหว้พระขอพรและทำบุญกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วรู้สึกอิ่มบุญไปตามๆ กัน ผมขอปิดท้ายด้วยสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจในวัดศาลาลอยก็คือห้องน้ำที่อยู่ติดกับซุ้มประตูวัด แยกออกมาจากบริเวณเขตพุทธาวาสค่อนข้างไกล ห้องน้ำของวัดศาลาลอยภายนอกดูเรียบง่ายภายในสวยงามมาก และสะอาดมากครับ
"มาไหว้ย่าโมถึงวัดที่ย่าโมสร้าง"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-03-02 20:00:21
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ