ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทร. 0 4421 3666, 0 4421 3030
http://www.tourismthailand.org/nakhonratchasima
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ลานจอดรถ a cup of love ใช้เวลาเพียงไม่นานจากทางหลวงหมายเลข 304 กบินทร์บุรี-ปักธงชัย อันเป็นถนนสายหลักในการท่องเที่ยววังน้ำเขียว ระยะทาง 7 กิโลเมตรของทางหลวงหมายเลข 3025 จนมาถึง a cup of love อันเป็นแลนด์มาร์ค หรือว่าเช็คพอยนต์ของวังน้ำเขียวไปแล้วในวันนี้ นักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งที่ตั้งใจมาเที่ยววังน้ำเขียวและนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านไป-มาเพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมชมชิมกาแฟที่นี่ทุกวันนี้หากเป็นช่วงเทศกาลลานจอดรถที่กว้างขวางมากหากเทียบกับร้านกาแฟร้านอื่นๆ ก็ยังแทบไม่มีที่ว่างให้จอด เมื่อจอดรถแล้วก็เดินมาด้านข้างร้านซึ่งมีจุดบริการ ATV กับบาร์บีคิวแสนอร่อย มองเข้าไปในร้านกาแฟเวลานี้มีคนเดินอยู่เต็มไปหมดทั้งที่กำลังรอกาแฟ และกำลังตัดสินใจว่าจะฝ่าแดดอันร้อนแรงของวันนี้เข้าไปชมภายในดีหรือไม่ และทั้งที่กำลังถ่ายรูปวิวสวยๆ ของที่นี่กันอยู่จนแน่นร้าน
ด้านหน้า a cup of love จากด้านข้างก็เดินมาด้านหน้าซึ่งมีลานจอดรถเล็กๆ จอดได้ไม่กี่คันอยู่หน้าร้านแต่จะหาช่วงที่ช่องจอดรถว่างต้องโชคดีมากเท่านั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาเยือนที่นี่ครั้งนี้ของผมตรงกับวันสงกรานต์ซะด้วย หน้าร้าน a cup of loveจะมีจุดเด่นๆ ที่นิยมถ่ายรูปกันอยู่หลายจุดเริ่มตั้งแต่ป้ายบอกทางเข้าร้าน และป้ายชื่อร้าน
a cup of love มุมนิยมอีกมุมหนึ่งของที่นี่ ไม่ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่กี่ร้อยกี่พันคน เกือบ 100% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดต้องมีรูปที่มุมนี้ติดกลับมาด้วยแน่ๆ นอกจากนี้ยังมีม้านั่งให้นั่งถ่ายรูปอีก 1 ตัว มีโลโก้ a cup of love เขียนที่พนักพิง
ภายในร้าน เข้ามาในร้าน a cup of love ดูรอบๆ กันก่อน การสั่งเครื่องดื่มของที่นี่มีหลักการอยู่ว่าต้องเขียนใบสั่ง Order ของเราพร้อมด้วยลงชื่อเรากำกับไว้ส่งให้ที่เคาน์เตอร์ภาพบนซ้าย หลังจากนั้นก็ไปรอ ภายในร้านตกแต่งด้วยโต๊ะเก้าอี้แบบเดียวกันทั้งหมด ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์คือชื่อร้านที่โต๊ะและพนักเก้าอี้ทุกตัว โต๊ะที่วางเรียงกันอยู่นี้มีไม่มากนักเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในช่วงเทศกาล แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเข้าไปดูภายในกันมากกว่าที่จะนั่งอยู่ตรงนี้เพราะไหนๆ ก็มาแล้วจะมาถ่ายกันเฉพาะด้านนอกก็กระไรอยู่ วิวจากโต๊ะที่นั่งความจริงก็นับว่าสวยแล้วฉากที่เราเห็นคือที่พักที่สร้างด้วยสไตล์แปลกตาอยู่ด้านหลังโลโก a cup of love ขนาดใหญ่ ด้านข้างมีกังหันลมขนาดใหญ่ทั้งหมดเน้นสีขาวแดงอย่างลงตัว การจะไปยังฝั่งนั้นได้ต้องเดินข้ามสะพานแขวนแกว่งได้จริงหากต้องการเดินถ่ายรูปบนสะพานนี้ต้องระวังกล้องหลุดมือตกน้ำครับ ที่ตรงสะพานมีเจ้าหน้าที่คอยเก็บค่าเข้าชมคนละ 50 บาท จะได้รับเข็มกลัดสมาชิกของ a cup of love มาติด 1 อัน มาคราวหน้าหากเอาเข็มกลัดอันนี้มาด้วยจะไม่ต้องเสียค่าเข้าชมอีก
วิวสวย a cup of love ภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายจากด้านบนดาดฟ้าของร้านกาแฟที่มีบันไดสีแดงให้เดินขึ้นไปได้อยู่ด้านข้างใกล้ๆ ห้องน้ำ เมื่อเดินขึ้นไปแล้วข้างบนก็จะมีเก้าอี้หลายตัวให้นั่งพักรับลมซึ่งรู้สึกว่าลมบนดาดฟ้าจะเย็นสบายกว่าอยู่ข้างล่างคงเป็นเพราะข้างล่างคนเยอะนั่นเอง วิวบนนี้นับว่าเป็นวิวที่มอง a cup of love ได้ทั่วถึงและสวยงามที่สุดจุดหนึ่งน่าจะสวยกว่ามองจากด้านล่างด้วยนะครับ นักท่องเที่ยวที่จ่ายค่าเข้าชมไปแล้วก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานและเติมเต็มให้กับรูปที่ผมถ่ายมาให้ดูมีเรื่องราวมากขึ้นด้วย
a cup of love ภาพวิวยามว่างๆ ไม่มีผู้คนเดินผ่านช่างเป็นภาพที่หายากมากๆ ในวันสงกรานต์วันนี้ นักท่องเที่ยวที่อยู่ใน a cup of love น่าจะไม่ต่ำกว่า 200 คน กระจายกันอยู่ด้านในบ้างด้านนอกบ้าง ในร้านบ้างบนดาดฟ้า ร้านของที่ระลึก หรือ ATV แต่มีจังหวะที่ผมโชคดีมากที่ได้ภาพนี้มาในวันนี้
Sheep House นี่ก็เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ a cup of love การเสียเงินค่าเข้าชมภายในก็จะได้เข้าไปเยี่ยมน้องแกะที่น่ารักอย่างใกล้ชิดในบ้านแกะ หรือ Sheep House เราสามารถซื้อหญ้าเข้าไปป้อนเจ้าแกะเหล่านี้ได้เป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับคนที่มาเที่ยววังน้ำเขียว สถานที่ที่สภาพภูมิอากาศไม่เหมาะแก่การเลี้ยงแกะ ถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าแกะเหล่านี้ต้องเช่ามาเพื่อให้เราเข้าไปชมจะเลี้ยงที่นี่แบบถาวรเหมือนๆ รีสอร์ทหลายๆ แห่งที่สวนผึ้งคงจะไม่ได้
วิวด้านล่าง ชมวิวบนดาดฟ้ากันแล้วคราวนี้มาข้างล่างกันบ้าง มุมนี้ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนคงจะได้ถ่ายติดกล้องกลับมาเป็นทางเดินจากที่นั่งในร้านไปยังสะพานไม้ข้ามฟากเข้าไปข้างใน a cup of love
ร้านของที่ระลึก เมื่อกินกาแฟกันเสร็จแล้วลองเดินมาร้านของที่ระลึกกันดูบ้างหน้าร้านออกแบบได้สวยน่ารักดี ยังคงใช้สีขาวแดงเหมือนกับที่อื่นๆ มีตู้ไปรษณีย์ตั้งอยู่หน้าร้าน มีตู้โทรศัพท์ที่ไม่มีโทรศัพท์อยู่ข้างใน
ประตูร้าน บานประตู 2 บานของร้านนี้แบ่งคำว่า a cup of love ออกเป็น 2 ส่วนแล้วเอามาติดที่ประตู บานหนึ่งจึงเหลือแค่ f love ครึ่งหลังอย่างที่เห็น
ของที่ระลึก a cup of love นี่เป็นของที่ระลึกที่วางขายอยู่ในร้านแบ่งเอามาบางส่วนมาจัดประดับร้านอย่างลงตัวไว้ให้ลูกค้าถ่ายรูป ของเหล่านี้ขนาดเล็กนิดเดียวเองครับอยู่ในตู้กระจก
โปสการ์ด และอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือการขายโปสการ์ดที่เป็นภาพที่ถ่ายกันที่ a cup of love เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมส่งโปสการ์ด
บรรยากาศในร้านของที่ระลึก
วิวจากด้านหลังร้านของที่ระลึก ด้านหลังของร้านขายของที่ระลึกเดินทะลุได้ มีโต๊ะเก้าอี้หลายชุดให้นั่งพัก เอากาแฟจากร้านมานั่งตรงนี้ก็ได้ ทางเดินร้านของที่ระลึกกับร้านกาแฟเชื่อมถึงกันได้ที่ด้านหลังไม่ต้องอ้อมออกมาด้านหน้าก็ได้ หลังร้านของที่ระลึกออกแบบให้มีหน้าต่างบานแคบๆ แต่สูงหลายบานเรียงกันพอเปิดออกเลยเหมือนกับซี่รับลมให้พัดเข้ามาในร้าน บานหน้าต่างหลายๆ บานเรียงกันก็กลายเป็นฉากที่นิยมสำหรับการถ่ายรูปเหมือนกัน จากตรงนี้ก็มอง a cup of love ได้ทั่วเหมือนกันแต่เป็นคนละมุมกัน จบการนำเที่ยว a cup of love ไว้ด้วยภาพนี้เลยครับ ท่านใดผ่านไปลองแวะชิมกาแฟและสมัครสมาชิกรับเข็มกลัด 50 บาทจะได้เข้า-ออกได้ตลอดครับ (ถ้าเคยเข้าไปก่อนหน้านี้จะไม่มีเข็มกลัด ก็จะเข้าไปไม่ได้อีกนอกจากเสียตังค์อีก ^^)
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ