เลคเฮฟเว่น มัลดีฟเมืองไทย

เลคเฮฟเว่นรีสอร์ท เป็นรีสอร์ทสไตล์แพกลางน้ำ บนเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ 60-70 กิโลเมตร (ทางเดียวกับเขื่อนศรีนครินทร์) ในอ่างเก็บน้ำเหนือเชื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี การกำเนิดของรีสอร์ทที่เรียกกันว่ามัลดีฟเมืองไทย เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 8 ปี ก่อน โดยคุณวิกร ภูวพันธ์ ผู้ทำธุรกิจเครื่องกรองน้ำ และเครื่องเล่นทางน้ำ ผู้นำเข้าเรือแบบต่างๆ จากต่างประเทศ ได้มองหาสถานที่จอดเรือจนมาพบกับพื้นที่เหนือเขื่อนศรีนครินทร์แห่งนี้ พร้อมกับพบว่ามีบ้านเรือนชาวบ้านที่ปลูกอยู่อาศัยในลักษณะแพ จึงได้สร้างบ้านพักเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนกับเพื่อนๆ โดยแรกเริ่มสร้างขึ้นมา 8 หลัง ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ก็มีนิตยสาร อสท. มาพบเข้าจึงได้นำเรื่องราวเหล่านี้ไปเขียนลงในคอลัมน์ แล้วก็เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายรวดเร็ว การสร้างบ้านพักสำหรับพักผ่อนเล่นกีฬาทางน้ำโดยใช้แนวคิดการสร้างคล้ายที่มัลดีฟ ก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างมาก จากนั้นมาที่นี่ก็ถูกเรียกว่า มัลดีฟเมืองไทย

เลคเฮฟเว่นรีสอร์ทแบ่งพื้นที่กิจกรรมออกเป็น 2 โซน ได้แก่
กิจกรรมทางน้ำ มีเครื่องเล่นหลายอย่างให้เลือกเล่นตามอัธยาศัยได้แก่ จักรยานน้ำ คายัค สวนน้ำ เป็นเครื่องเล่นที่เล่นได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนกีฬาทางน้ำอื่นๆ ได้แก่ เจ็ตสกี บานาน่าโบ๊ท ดรากอน โซฟา เรือเช่า มีค่าใช้จ่ายตามขนาดของเรือ อุปกรณ์เครื่องเล่นนำเข้ามาจากต่างประเทศได้แก่ อิตาลี เกาหลี และจีน

กิจกรรมบนบก มี ATV เพนท์บอล และจะมีกิจกรรมอื่นๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

หลักแนวคิดในการบริหารรีสอร์ทแห่งนี้คือ มาเที่ยวแล้วไม่เบื่อ ด้วยแอคติวิตี้ ทั้งทางบก ทางน้ำ ให้เล่น และจะเปลี่ยนเครื่องเล่นไปเรื่อยๆ ในระยะหลังๆ ได้มีการเพิ่มแพที่พักติดแอร์ มีหลายขนาดพักได้ตั้งแต่ 2-15 คน รวมมีบ้านพักประมาณ 60 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 400 คน

รีสอร์ทในเครือ เฮฟเว่นกรุ๊ป มีอยู่หลายแห่งด้วยกันได้แก่ เลคเฮฟเว่น เฮฟเว่นเบย์ (อีกฟากของเลคเฮฟเว่น) เฮฟเว่นแควไทรโยค เน้นกิจกรรมบนบกและถือได้ว่าเป็นที่เล่นเพนท์บอลใหญ่สุดในกาญจนบุรี และที่เพชรบุรี มีรีสอร์ทเล็กๆ ริมทะเล มีเครื่องเล่นทางน้ำด้วยเหมือนกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม:08-4387-6742, 08-4387-6763,
08-4387-6764, 08-4387-6796
http://lakeheaven.com/

แก้ไขล่าสุด 2017-07-26 17:15:33 ผู้ชม 122221

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

พระอาทิตย์ตกที่ทางลงรีสอร์ท นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เราได้มาที่นี่ ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ในงานเปิดตัวรีสอร์ทครั้งแรก คราวนั้นพระอาทิตย์ไม่ตกให้เห็นเป็นดวงกลมๆ แบบนี้เลยยังค้างคาใจมาจนถึงวันนี้ที่เราได้กลับมาอีกครั้ง แนะนอนว่าเราจะต้องไม่พลาดที่จะมารอเก็บภาพพระอาทิตย์ตก และต้องเป็นมุมที่มองเห็นป้ายรีสอร์ทสวยๆ กับแพด้านล่างตรงนี้เท่านั้น อันที่จริงการมาที่นี่ของเรามีภาพที่เก็บตั้งแต่มาถึงเยอะแยะ แต่มุมนี้เราต้องเลือกเอาภาพพระอาทิตย์ตกมาใช้เพราะไม่อยากให้ภาพมุมซ้ำกันหลายใบ ช่วงเวลาก่อนที่จะมายืนถ่ายรูปตรงนี้เราก็ได้ร่วมกิจกรรมทดลองเครื่องเล่นทั้งทางบกและทางน้ำกันอย่างสนุกสนาน หมดเรี่ยวหมดแรงกันถ้วนหน้า

จากจุดชมวิวด้านบนเดินลงมาที่บ้านพักที่สร้างเป็นแพอยู่ในน้ำ (เป็นปกติของคนมาเที่ยวที่นี่เลยแหละ) ล๊อบบี้ของที่นี่ก็อยู่กลางน้ำนะจะมาเชคอินหรือเล่นเครื่องเล่นอะไร ก็ต้องมาที่กลางน้ำ สะพานทางเดินทอดยาวจากฝั่งให้เราเดินบนน้ำเท่านี้ก็เรียกความตื่นเต้นแตกต่างจากรีสอร์ทอื่นๆ ได้มากแล้วละ บ้านพักแต่ละหลังสร้างติดกันเรียงเป็นรูปสี่เหลี่ยม เว้นที่ตรงกลางไว้กว้างมาก ลานน้ำตรงกลางระหว่างบ้านพักนี่แหละศูนย์รวมความสนุกของที่นี่ เพราะตอนนี้มี Super Water Park สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในตะวันตก (ก่อนหน้านี้จะมีภูเขาจำลองกลางน้ำ ต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนเป็นอะไรต่อไปอีก) ก่อนที่จะลงเล่นน้ำหรือโดยสารเหรือไปไหน กฎของที่นี่ก็คือต้องมาสวมชูชีพก่อน ไม่งั้นไม่ให้ลงเล่น มั่นใจในความปลอดภัยสุดๆ จุดที่เราเดินมาสวมชูชีพนี่แหละมีเครื่องเล่นมากมายหลายอย่างให้เลือกแจ้งความประสงค์สอบถามรายละเอียดกันที่นี่เลย

Super Water Park สวนน้ำขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันหลายฐาน วิธีการเล่นก็ง่ายๆ แค่ออกเริ่มต้นจากจุดสตาร์ท แล้วไปตามทางรอบๆ วกกลับมาถึงจุดสิ้นสุดก่อนก็เป็นอันชนะ ฟังดูเหมือนจะง่ายๆ แต่พอลองลงไปเล่นจริงๆ ใช้เวลาร่วมชั่วโมงเลยทีเดียวที่จะล้มลุกคลุกคลานไปจนถึงตกน้ำตกท่า กว่าจะปีนขึ้นแล้วเดินต่อจนครบรอบได้ ทั้งเหนื่อยทั้งสนุกทั้งฮาที่ได้เห็นเพื่อนตกน้ำไปก่อน แต่ตัวเองก็ไม่รอดตกตามไปติดๆ ให้เพื่อนฮาได้เหมือนกัน

จากบ้านพักที่อยู่รอบสวนน้ำ จะลงน้ำว่ายมาที่เครื่องเล่นเลยก็ได้ แต่ต้องใส่ชูชีพ พอเลิกเล่นจะเอาไปตากไว้หน้าบ้านเพื่อที่จะลงเล่นคราวต่อไปก็สะดวกสบาย เห็นบ้านพักเป็นแพรายล้อมสวนน้ำในแพก็มีห้องน้ำในตัว แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องระบบการทิ้งของเสียเพราะที่นี่ได้ทำถังเก็บอย่างถูกสุขลักษณะไม่ทิ้งลงในแหล่งน้ำธรรมชาติให้เราไม่สบายใจแน่

ATV กิจกรรมทางบกของเลคเฮฟเว่น มาคราวที่แล้วยังไม่มี ตอนนี้มีให้บริการถึง 6 คัน กับสนามที่มีหลายช่วง มีลุยน้ำเล็กๆ ขึ้นเนินลงเนินแบบเบาะๆ แต่ก็สนุกตื่นเต้นดีเหมือนกัน

กิจกรรมเพนท์บอล อีกกิจกรรมที่อยู่ไม่ไกลจากสนาม ATV คนที่จะเล่นจะต้องสวมชุดแบ่งฝ่ายกัน ถ้าสวมชุดไม่เรียบร้อยไม่ตามกฎก็จะไม่ให้เล่นเหมือนกัน พอแบ่งฝ่ายแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วก็จะต้องฟังวิธีการใช้ปืน รับกระสุนแล้วค่อยเข้าสนามรบ

โซฟาน้ำ เครื่องเล่นที่มีชื่อตามรูปร่างของมัน การเล่นก็แค่ลงไปนั่งแล้วเอาเรือมาลาก ดูเหมือนจะไม่เสียวไม่มันส์เหมือนบานาน่าโบ๊ท แต่พอเอาเข้าจริงมันคงไม่ใช่อย่างนั้นแล้วละดูรูปก็รู้ว่าสนุกกันขนาดไหน โซฟานั่งมากสุดได้ 8 คน ด้านละ 4 คน แต่ถ้านั่ง 4 คน ก็จะเอาเรือลำเล็กกว่าในการลากขนาดนั่งดูในเรือลำที่ลากผมก็มันส์ไปด้วยแล้ว

เรือดรากอน เป็นวิวัฒนาการมาจากบานาน่าโบ๊ท รูปร่างไม่ต่างกันมากนักแต่ตรงที่นั่งจะมีโค้งมารองรับ เราก็แค่เกาะแน่นๆ อยากได้เลเวลไหนบอกคนขับเรือ จัดให้ได้หมด มีทั้งนั่งชิลๆ ชมวิว กับมันส์สุดเหวี่ยง คว่ำทุก 2 นาทีก็ยังไหว

เรือโดนัท เป็นเหมือนเอาห่วงยางมาผูกติดกับเจ็ตสกี ลากด้วยความเร็วพอสมควร อันนี้เล่นได้น้อยคนแต่มันส์อย่าบอกใคร

ขับเรือรอบเกาะ กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่มีให้บริการก็คือเรือ และเจ็ตสกีสำหรับขับเที่ยวรอบๆ อ่างเก็บน้ำ หรือว่ารอบเกาะที่เรามองเห็นจากฝั่งซึ่งเป็นที่ตั้งของ เฮฟเว่นเบย์ ที่พักอีกโซนหนึ่งของที่นี่ ถ้าขับไม่เป็นก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลให้ อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนมีวิวสวยๆ อยู่หลายมุมขับไปก็ถ่ายรูปสวยๆ กันไป เช้า กลางวัน เย็น แสงไม่เหมือนกัน สวยต่างกันไป

เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นด้านหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทเท่าไหร่ นั่งเรือไม่นานก็ถึง สันเขื่อนก็เป็นจุดชมวิวที่สวยมาก

ชมวิวพระอาทิตย์ตก หลังจากเล่นเครื่องเล่นมากมายหลายอย่าง เหนื่อยก็เหนื่อยสนุกก็สนุก พอมองไปอีกด้านก็เห็นพระอาทิตย์กำลังค่อยๆ เคลื่อนต่ำลงทุกทีๆ ได้เวลาที่เราจะต้องมองหาที่ถ่ายรูปวิวสวยๆ สักที่ ก็คงไม่พ้นบนฝั่งเพราะในแพโคลงจนถ่ายรูปแสงน้อยๆ แบบนี้ไม่ได้ ใกล้ๆ กับป่ายเลคเฮฟเว่นน่าจะเหมาะเลยมาลองเดินๆ ดู ได้มา 2 มุม คือมีป้ายกับไม่มีป้าย ความสวยงามตรงนี้อย่าบอกใครทีเดียว สมแล้วกับที่มาครั้งที่สองเพื่อมาเก็บภาพที่ไม่ได้ถ่ายในครั้งแรก

วิวสวยเลคเฮฟเว่น หลังจากที่รอพระอาทิตย์ตกอยู่สักพักก็ได้เก็บภาพมาหลายมุม มุมที่ไม่เห็นป้ายแล้ว ก็เดินมามุมด้านบนเก็บป้ายให้หมด แสงสุดท้ายที่กำลังจะลับหายไปเปลี่ยนเป็นความมืดเป็นภาพรีสอร์ทกลางน้ำที่สวยงามมากแต่กว่าจะเก็บภาพนี้ได้ต้องไปยกม้านั่งมาหลายตัวรองขาตั้งกล้องให้สูงพ้นป้าย อันนี้ฝากคุณวิกร ช่วยทำที่ยืนถ่ายรูปให้หน่อยครับจะได้วิวสวยๆ กันทุกคน

ยามเช้าที่เฮฟเว่นเบย์ เมื่อคืนนี้หลังจากที่เก็บภาพพระอาทิตย์ตกแล้วก็กินข้าวเย็นกันมีกิจกรรมนิดๆ หน่อยๆ เพื่อความผ่อนคลาย จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้าบ้านพัก บางคนก็พักฝั่งเลคเฮฟเว่น ส่วนพวกเราก็ข้ามฟากไปนอนที่เฮฟเว่นเบย์ ที่พักลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ที่ฝั่งเบย์เป็นโอเพ่นแอร์ ห้องพัดลม บรรยากาศดี อากาศกลางคืนไม่ร้อน และทั้ง 2 ฟากไม่มียุงมากวนไม่จำเป็นต้องนอนห้องแอร์ก็ได้ อีกอย่างถ้านอนฝั่งเบย์เวลาพระอาทิตย์ขึ้นจะได้วิวของฝั่งนี้ ตรงข้ามกับที่เราถ่ายพระอาทิตย์ตก หลักการนี้เราก็จะได้วิวสวย 2 ฝั่งเลย

ตื่นแต่เช้าอากาศดีมาก มีเรือจอดอยู่ใกล้ๆ บ้านเราแค่ปลดเชือกออกก็พายไปเที่ยวเล่นในทะเลสาบอันกว้างใหญ่ได้แล้ว พระอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากยอดเขา เก็บภาพสนุกไปเลย

ไอหมอกเหนือน้ำ เป็นภาพที่สวยงามของการไปเลคเฮฟเว่นครั้งแรก หลังจากปีใหม่ไม่นานอากาศยังเย็นอยู่มาก น้ำในเขื่อศรีนครินทร์ค่อนข้างอุ่น พอโดนอากาศเย็น ก็มีหมอกขาวๆ ลอยขึ้นมารอบๆ บ้านพัก เป็นวิวที่สวยสุดๆ และยากจะหาที่ไหนได้แบบนี้ หน้าหนาวแม้ว่าจะลงเล่นน้ำไม่สนุกเท่าหน้าร้อน แต่ความหนาวก็ได้มอบสิ่งพิเศษแบบนี้ให้เราได้ชม สมแล้วที่เป็นสถานที่ที่มาเที่ยวได้ทุกฤดู

สวยๆ แบบนี้ ต้องไปอย่างน้อยหน้าร้อนก็ไปพักผ่อนหลบร้อนเล่นน้ำ หน้าหนาวก็ต้องไปอีกเพื่อสัมผัสบรรยากาศสวยๆ แบบนี้ ด้วยตัวเองสักครั้ง เลคเฮฟเว่นไปไม่ยาก เดินทาง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ถึงตัวเมืองกาญจนบุรีใช้เส้นทางไปอำเภอศรีสวัสดิ์ เลยเขื่อนขึ้นไปหน่อยมีป้ายเลคเฮฟเว่นซ้ายมือ

สอบถามรายละเอียด
08-4387-6742, 08-4387-6763,
08-4387-6764, 08-4387-6796
http://lakeheaven.com/