ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.กาญจนบุรี โทร. 034 511 200
http://www.tourismthailand.org/kanchanaburi
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์
ความสูงใหญ่ของพระพุทธรูปสูง 32 เมตร พระนามว่า พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระบรมราชินูปถัมถ์ ที่มองไกลๆ แล้วสูงเท่าภูเขาด้านหลัง ทรงผ้าวัสสิกสาฎก หรือผ้าอาบน้ำฝน พระหัตถ์ขวายกขึ้นราวพระอุระ ทำกริยากวักเรียกฝน พระหัตถ์ซ้ายหงายขึ้น เป็นกริยารองรับน้ำฝน หล่อด้วยสำริดที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ซึ่งสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือ AIT ทดสอบรับแรงพายุและแรงแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุด เพื่อให้องค์พระฯ มีความคงทนถาวรนับพันปี
ลานสักการะพระพุทธรูป เป็นจุดที่ผู้คนจะเดินมาจุดธูปเทียน และนำดอกไม้มาบูชาพระพุทธรูป
เป็นลานกลมๆ มีศาลาสองหลัง มีเจ้าหน้าที่นำธูปเทียนและดอกไม้มาไว้บริการคนที่จะมากราบไหว้พระ
ระหว่างทางเดินไปสู่องค์พระ 2 ข้างทางเดินเขียวขจีไปด้วยต้นไม้ ในภาพเดียวไม่สามารถแสดงความกว้างขวางของพื้นที่ 300 ไร่ ที่อยู่รอบๆ ได้หมด คนที่เคยมาสถานที่นี้ครั้งแรกต่างก็ต้องประทับใจและประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น นอกเหนือจากความยิ่งใหญ่ขององค์พระพุทธรูปแล้ว อาคารต่างๆ ภายในบริเวณที่ปรับให้เป็นพุทธอุทยาน ก็สร้างด้วยรูปทรงที่ไม่เหมือนกับที่เคยเห็นที่ไหน จากน้ำพุที่ถนน เดินเข้ามาถึงบริเวณลานสักการะก็ว่าไกลแล้ว จากลานสักการะเดินเข้าไปถึงฐานพระก็ยังอีกไกล
ด้านตรงข้ามกับองค์พระ เป็นลานน้ำพุ ซึ่งอยู่ไกลจากลานสักการะบูชาลงไปไกลอีกเช่นกัน บ่งบอกว่าเป็นพุทธอุทยานที่กว้างมากแห่งหนึ่งในประเทศไทย
จากลานสักการะบูชา ยังคงมีระยะที่ต้องเดินเข้ามาถึงฐานพระพุทธรูปอีกไกลมาก เราเข้ามากราบขอพรในระยะใกล้ๆ จะสัมผัสได้ว่าพระพักต์ขององค์พระเปี่ยมด้วยความเมตตา และองค์สูงใหญ่มากจริงๆ
มีตำนาน เขาเล่าว่า......พระปางขอฝน ตามตำนานครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาลนั้นฝนแล้งมาก แต่ด้วยพระบารมีของพระพุทธเจ้า ได้ทรงพลิกพื้นที่แห้งแล้งให้มีน้ำฝนหลั่งไปทั่วทุกสารทิศ เปรียบดังที่อำเภอห้วยกระเจานี้มีภูมิประเทศที่แห้งแล้งจนเรียกได้ว่า อีสานจังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นที่มาของการสร้าง...พระปางขอฝน ที่สุดแห่งความศรัทธากับประติมากรรมทางพุทธศิลป์ พระพุทธรูปสำริดปางขอฝน ที่สูงที่สุดในประเทศไทยและงดงาม... ว่ากันว่า หากได้มากราบไหว้ ชีวิตจะพบแต่ความร่มเย็นเป็นสุขดั่งแผ่นดินที่ได้รับสายฝน
อาคารนิทรรศการ "อนุสรณ์แห่งการตื่นรู้" อาคารที่สำคัญที่สุดหลังหนึ่งอยู่ด้านขวาขององค์พระพุทธรูป มีทางแยกออกไปจากบริเวณลานสักการะ เป็นอาคารที่ต้องบอกว่าถ้ามาที่นี่เราควรเข้าไปดู เพราะข้อมูลตั้งแต่การออกแบบและการสร้างองค์พระพุทธรูป โดยเฉพาะข้อมูลทางด้านวิศกรรมที่ออกแบบให้องค์พระพุทธรูปสูง 32 เมตร สามารถยืนเด่นตระหง่านอยู่ได้ แม้เกิดลมพัดรุนแรง หรือแผ่นดินไหว รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ ของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสรมหาเถร ป.ธ.9) อดีตเจ้าอาวาสวัด ชนะสงคราม ที่ริเริ่มจะสร้างพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระบรมราชินูปถัมถ์
รูปเหมือน สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสรมหาเถร ป.ธ.9) เมื่อเข้ามาในอาคารหลังนี้ เป็นอาคารติดแอร์ทั้งหลัง ภายในแบ่งออกเป็นหลายห้อง มีทางเดินเชื่อมถึงกันได้หลายชั้น แล้วต้องเดินมาใช้ทางออกทางเดิม เริ่มจากห้องแรกเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับการริเริ่มโครงการล้อมรอบรูปเหมือนสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสรมหาเถร ป.ธ.9) ด้านหนึ่งของห้องนี้ เป็นนิทรรศการพระผู้ฝากดีไว้ในแผ่นดิน มีคำสอนของหลวงพ่อตอนหนึ่งว่า "หลวงพ่อเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า ถ้าเราทำอะไรอย่างบริสุทธิ์ใจแล้ว ก็จะเจริญงอกงาม แต่ถ้าไม่บริสุทธิ์ใจ ต้องดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ในผลสุดท้าย เราต้องเชื่อคำสอนของพระพุทธองค์เป็นสำคัญ"
นิทรรศการ พระบรมราชินูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2553 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จฯ ไปในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทรงสดับพระธรรมเทศนา เนื่องในวันวิสาขบูชา ณ วัดชนะสงคราม สมเด็จพระมหาธีราจารย์ได้ถวายพระพร ถึงเรื่องความตั้งใจที่จะจัดสร้างพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาคคันธารราฐอนุสรณ์แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ต่อมาวันที่ 11 สิงหาคม 2554 ศาลาดุสิตาลัย สวนจิตรลดา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา และมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า
"...โครงการนี้เกิดจากความริเริ่มของเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์...ท่านได้ปรารภกับข้าพเจ้าเรื่องความตั้งใจที่จะสร้างพระพุทธรูปองค์สำคัญขึ้น... เพื่อเป็นศูนย์รวมความเคารพของพุทธศาสนิกชนอีกแห่งหนึ่ง และเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงพระพุทธรูปแห่งบามิยัน...รวมทั้งเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา กับเพื่อเป็นเกียรติแก่ข้าพเจ้าที่จะมีอายุ 80 ในปีหน้า เมื่อข้าพเจ้าได้ทราบ ข้าพเจ้าก็รับปากกับเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ว่า ข้าพเจ้าจะขอร่วมทำบุญและจะพยายามสนับสนุนโครงการนี้ให้ดำเนินไปจนสำเร็จ
บัดนี้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ท่านได้มรณภาพแล้ว... ข้าพเจ้าจึงรับเป็นผู้อุปถัมภ์โครงการและปวารณาว่าจะดำเนินการให้ลุล่วงดั่งความตั้งใจของเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์... พระพุทธรูปองค์นี้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ท่านเป็นผู้ออกแบบดูแลแก้ไข และเลือกทำเลที่จะประดิษฐานด้วย ตามแบบเป็นพระพุทธรูปปางคันธารราฐ หรือที่เรียกว่า ปางขอฝน หล่อด้วยโลหะสำริด สูง 32 เมตร ยืนบนฐานสูง 8 เมตร มีพุทธลักษณะงามมาก..."
นิทรรศการ พระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ มีพระราชศรัทธาบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ร่วมสร้างพระพุทธเมตตาประชาไทยฯ โดยเฉพาะสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นอกจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่พระราชทานมาเป็นระยะๆ แล้ว ยังทรงบอกบุญแก่ผู้มาเข้าเฝ้าฯ ในโอกาสต่างๆ ด้วย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ไปทรงเททองหล่อชิ้นส่วนสำคัญของพระพุทธเมตตาประชาไทยฯ (พระอังคุฐของพระหัตถ์ขวา) ณ วัดชนะสงคราม
ด้านหลังรูปเหมือนขององค์พระมหาธีราจารย์ จะสามารถมองลงมาที่ชั้นล่างได้ สิ่งที่เราเห็นอยู่เบื้องล่าง คือพระบาทขององค์พระพุทธรูป ที่สร้างจำลองเหมือนของจริงทุกประการและมีขนาดเท่าจริง ที่ได้สร้างจำลองมาให้เราได้ชมกันนั้นก็เพื่อจะได้เห็นว่าการออกแบบองค์พระพุทธรูปที่สูงใหญ่ให้แข็งแรงทนต่อลมกรรโชก หรือแผ่นดินไหว ด้วยการทำงานด้านวิศกรรมที่ซับซ้อนและทันสมัย แต่มองจากตรงนี้คงจะไม่เห็นรายละเอียดมาก ลงไปดูด้านล่างกันเลยดีกว่า
โครงสร้างด้านในของพระพุทธรูปบริเวณพระบาท เปิดให้เราได้เห็นโดยมีวิทยากรบรรยายให้ความรู้เป็นอย่างดีถึงเรื่องการคำนวณต่างๆ ด้านวิศกรรม การเลือกใช้วัสดุของโครงสร้าง การเชื่อมต่อกัน ฯลฯ จึงมั่นใจได้ว่าพระพุทธรูปองค์นี้จะยืนเด่นตระหง่านคู่บ้านคู่เมืองไปได้อีกนานแสนนาน
ภาพแสดงขั้นตอนการออกแบบองค์พระ การปั้นองค์พระต้นแบบ รวมทั้งการทำงานทุกๆ ด้าน ในการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ มีให้เราได้เห็นพร้อมข้อมูลอธิบายอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ในอาคารนิทรรศการการสร้าง พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระบรมราชินูปถัมถ์
เมื่อเดินต่อมาเรื่อยๆ เราจะเข้ามาอยู่ที่ห้องอีกห้องหนึ่ง ภายในห้องนี้เราจะได้เห็นโครงสร้างแบบเดียวกันกับที่อยู่บนพระพุทธรูปส่วนพระอุระ ซึ่งออกแบบให้แข็งแรงคงทน ตามหลักวิศวกรรมโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
ศิลาจารึก พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นห้องที่แสดงศิลาจารึก พระเจ้าอโศกมหาราช ณ เธาลี รัฐโอริสสา ที่จำลองขึ้นมา ศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราชนั้นมีทั้งที่จารึกบนเสาศิลาและจารึกบนโขดหินธรรมชาติซึ่งปรากฏอยู่ตามเมืองต่างๆ ในราชอาณาจักรและแว่นแคว้นใกล้เคียง จารึกเหล่านี้กล่างถึงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา การดูแลทุกข์สุขราษฎร จารึกพระเจ้าอโศกมหาราชจึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้พระพุทธศาสนา เผยแผ่ทั่วทั้งชมพูทวีปและดินแดนนอกชมพูทวีป ศิลาจารึกพระเจ้าอโศกมหาราช ณ เธาลี รัฐโอริสสา นับเป็นจารึกบนโขดหินธรรมชาติที่มีความสำคัญ เนื่องด้วยพระเจ้าอโศกมหาราชโปรดให้ทำขึ้น ณ สมรภูมิสุดท้ายของพระองค์ (สงครามแคว้นกลิงคะ) เพราะทรงสลดพระราชหฤทัยที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายต่างสูญเสียชีวิตไพร่พลจำนวนมาก จารึกนี้สลักรูปช้าง หมายถึง พระพุทธศาสนา และจารึกข้อความด้วยอักษรพราหมีภาษาปรากฤต ความว่า พระองค์ทรงกำชับให้ขุนนางดูแลราษฎรอย่างใกล้ชิดประดุจลูกของพระองค์เอง
นิทรรศการเจดีย์ แบบต่างๆ ห้องนี้เราจะได้เห็นภาพและข้อมูลของเจดีย์องค์สำคัญๆ ต่างๆ ทั่วโลก และที่มาของความเชื่อในการสร้างเจดีย์ รวมไปถึงพระพุทธรูป
หลังจากเดินชมนิทรรศการครบทุกห้องแล้วต้องเดินย้อนกลับขึ้นมาทางเดิมเพื่อออกจากอาคาร
วัดทิพย์สุคนธาราม
จากพุทธอุทยาน พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ แล้ว ขับรถไปต่ออีกประมาณ 1-2 กิโลเมตร จะถึงวัดทิพย์สุคนธาราม ตั้งอยู่ริมถนน สวยเด่นเป็นสง่างามมาก
วัดทิพย์สุคนธาราม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2547
โดย นางฉันทิพย์ กลิ่นโสภณ ได้บริจาคที่ดินกว่า 300 ไร่ พร้อมด้วยทุนทรัพย์เป็นทุนสมทบในการสร้างวัด เพื่อประโยชน์ทางพระพุทธศาสนาและประชาชนทั่วไป โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม รับอุปถัมภ์การสร้างวัด และเสนาสนะต่าง ๆ พร้อมทั้งตั้งชื่อวัดแห่งนี้ว่า "วัดทิพย์สุคนธาราม" และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2556
อุโบสถ สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมศิลปะล้านนา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกช่อฟ้าอุโบสถ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2558 บันไดพญานาคสีทองยาวไปจนถึงอุโบสถ งดงามตระการตามาก
อุโบสถวัดทิพย์สุคนธาราม ประดิษฐาน พระพุทธชินราชประชานาถชุตินธรบวรชัยมงคล และมี พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ องค์จำลองให้สาธุชนกราบไว้บูชาอีกด้วย
หน้าต่างประตูทำจากไม้แกะสลักเป็นรูปเทพเทวดา สวยงามมาก
ขอขอบคุณ ททท. ภูมิภาคภาคกลาง และ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี มา ณ โอกาสนี้
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ