ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.กาญจนบุรี โทร. 034 511 200
http://www.tourismthailand.org/kanchanaburi
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
วัดถ้ำเสือ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองกาญจน์มากนัก ถึงก่อนตัวเมืองกาญจน์ ห่างจากเขื่อนแม่กลอง 5 กิโลเมตร เมื่อเข้ามาถึงลานจอดรถหน้าศาลาหลังใหญ่จะมองเห็นจุดเด่นของวัดถ้ำเสือในมุมมองที่เป็นที่นิยมกันมากคือพระพุทธรูปลักษณะคล้ายพระพุทธชินราชองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ในซุ้ม ใกล้ๆ กับเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท กับอุโบสถอัฏฐมุข (แปดเหลี่ยม) ถ้ามาครั้งแรกหลายคนหลงเลี้ยวเข้ามาจอดที่วัดถ้ำเขาน้อยก็จะได้เห็นมุมนี้ ให้เลี้ยวรถออกไปจอดที่วัดถ้ำเสือที่อยู่ติดกันเพราะสองวัดนี้เดินทะลุกันไม่ได้
หลังจากจอดรถแล้วก่อนที่จะเริ่มเดินทางขึ้นบันไดไปบนเขาก็ต้องสักการะพระในศาลาบูรพาจารย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นจะเดินขึ้นบันไดหรือจะใช้บริการรถรางก็ตามแต่สะดวก หลายคนเลือกขึ้นรถรางแล้วเวลาลงค่อยเดินลง ทำบุญค่าไฟ คนละ 10 บาทครับ สุดทางเดินบันไดนาคมีสถานีรถรางที่มาสุดตรงนี้เหมือนกันรอบๆ จะมีระเบียงทางเดินให้ถ่ายรูปวิวกันได้ด้วย ทีนี้เราก็เลือกได้ละว่าจะไปทางไหนก่อน เบื้องหน้ามีมณฑป ด้านขวาเป็นองค์พระประธาน ส่วนด้านซ้ายของบันไดคือเจดีย์ยอดแหลมๆ สูงๆ ที่เราเห็นตอนอยู่ข้างล่าง มีทางเดินขึ้นไปด้านบนได้ เจดีย์จะปิดประตูที่ชั้น 3 เวลา 16.30 น. ถ้ามาถึงช่วงบ่ายแนะนำให้ขึ้นเจดีย์ก่อนเพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุ เพราะส่วนอื่นๆ ของวัดเปิดจนถึงเย็น
สิ่งแรกๆ ที่เราเห็นและอยากจะมุ่งตรงไปก็คือพระชินประทานพร พระพุทธรูปปางประทานพรที่มีซุ้มคล้ายพระพุทธชินราช ซึ่งเป็นที่มาของพระนามพระชินประทานพร แต่ก่อนหน้านั้นมีวิหารซึ่งเป็นเสนาสนะที่สวยงามตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า หลวงพ่อชินประทานพร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นจุดเด่นของวัดถ้ำเสือ คงไม่มีคนที่มาวัดถ้ำเสือแล้วไม่มาไหว้และถ่ายรูปพระพุทธรูปองค์นี้ นอกจากไม่มีกล้องหรือแบตเตอรี่หมด
อุโบสถวัดเป็นทรงจตุรมุข มีซุ้มเสมารอบ 8 ทิศ ลักษณะและขนาดอาจจะทำให้มองไม่เหมือนอุโบสถเหมือนอย่างวัดอื่นๆ สร้างอยู่ด้านข้างของพระประธานองค์ใหญ่ มีความสวยงามมาก ด้านหลังเดินไปชมวิวทุ่งนาและธรรมชาติล้อมด้วยเทือกเขาสวยมาก
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประธาน และที่ผนังประดิษฐานพระพุทธรูปทุกด้าน ส่วนผนังด้านบนมีลวดลายปูนปั้นพระพุทธประวัติสวยงามทุกด้านเช่นกัน
เจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท เมื่อระยะที่มีอยู่มีจำกัดลองเอาเลนส์มุมกว้างออกมาใช้เพื่อเก็บภาพบริเวณหลวงพ่อชินประทานพรและเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท ได้ภาพแปลกตาดีครับ สิ่งถัดมาอยู่ไม่ไกลจากหลวงพ่อชินประทานพร เป็นจุดเด่นอย่างที่สองของวัดถ้ำเสือแห่งนี้ เจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท ลักษณะที่สวยงามแปลกตาและขนาดใหญ่สร้างอยู่บนยอดเขามองเห็นได้แต่ไกล อยู่เยื้องไปเบื้องหน้าขององค์หลวงพ่อชินประทานพร แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าจะหามุมเก็บภาพให้เห็นเต็มถึงส่วนยอดได้ก็ต้องเดินมาไกลหน่อย เจดีย์นี้รายล้อมด้วยอาคารต่างๆ อีกมากมายล้วนแล้วแต่สร้างอย่างงดงามกลมกลืนกันด้วยสีที่เลือกใช้
พระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท วัดถ้ำเสือ มี 9 ชั้น ความสูง 59 เมตร ภายในโปร่ง มีบันไดเวียนสำหรับขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานอยู่ที่ชั้นบนสุดของพระเจดีย์ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจุจบัน เสด็จมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย ไว้ในปราสาทจุฬามณีบรมสารีริกธาตุ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 เดินขึ้นไปด้านบนได้ เจดีย์จะปิดประตูที่ชั้น 3 เวลา 16.30 น. ถ้ามาถึงช่วงบ่ายแนะนำให้ขึ้นเจดีย์ก่อนเพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุ เพราะส่วนอื่นๆ ของวัดเปิดจนถึงเย็น
ภายในเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท หลังจากเดินชมรอบๆ บริเวณพระประธานแล้ว ตอนนี้เราคงต้องเร่งขึ้นไปบนเจดีย์ก่อนที่จะถึงเวลา 16.30 น. เจดีย์จะปิดแล้วจะขึ้นได้แค่ชั้น 2 เท่านั้น ภายในชั้นแรกของเจดีย์มีช่องประตูทะลุถึงกันเป็นลักษณะบัวตูม ใครเข้ามาเป็นอันต้องได้ภาพมุมนี้
พระบรมสารีริกธาตุวัดถ้ำเสืออยู่ชั้นบนสุดของเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท ก็คือชั้น 9 ระหว่างขึ้นก็เดินๆๆๆ อย่างเดียว ตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไปจะมีพระพุทธรูปสำริดประดิษฐานอยู่ที่ช่องหน้าต่างหลายองค์ด้วยกัน น่าจะเป็นเหตุผลให้ทางวัดต้องปิดประตูให้ขึ้นได้ถึงแค่ 4 โมงครึ่ง ไหว้พระบรมสารีริกธาตุเสร็จแล้วก็ชมวิวมองออกไปจะเห็นเจดีย์ของวัดเขาน้อยด้วย
วิวสวยแห่งวัดถ้ำเสือ ระยะหลังๆ ก็จะมีภาพมุมนี้ปรากฏออกมาให้เห็นกันเรื่อยๆ เป็นภาพที่ต้องไปถ่ายบนเจดีย์สูงๆ ชั้นที่ 8 จะมีช่องหน้าต่างเปิดให้เห็นวิวนี้ ถ่ายรูปได้สะดวกกว่าชั้นอื่นๆ เพราะพระพุทธรูปประดิษฐานระหว่างช่องหน้าต่าง ส่วนชั้นอื่นพระจะบังช่องหน้าต่างพอดี ถ้าไม่มาถ่ายรูปในช่วงเช้าภาพนี้ต้องเก็บใกล้ๆ 4 โมงเลยไม่งั้นจะเป็นภาพย้อนแสงได้
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ