น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

 ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรีประมาณ 108 กิโลเมตร น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมีสภาพสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทั่วบริเวณร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้ป่านานาชนิด น้ำตกไหลมาจากต้นน้ำของเทือกเขากะลาซึ่งเป็นป่าดิบเขาแล้งทางทิศตะวันออกของอุทยานฯ และไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ นับเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง น้ำตกแบ่งออกเป็น 7 ชั้น มีชื่อเรียกต่างๆกันไปแต่ละชั้น เช่น ชั้นที่ 1 ดงว่าน ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น ชั้นที่ 3 วังหน้าผา ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว ชั้นที่ 5ไหลจนหลง ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ ชั้นที่ 7 ร่มเกล้า แต่ละชั้นมีความสูงและความงดงามต่างกันไป ทางอุทยานฯได้ทำเส้นทางเดินสำหรับขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้นและยังเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม–เมษายน

 ในบริเวณอุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ รวมทั้งร้านอาหารสวัสดิการ ตอนกลางคืน มีการฉายสไลด์
 รายละเอียดติดต่อได้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th

 การเดินทาง
 รถยนต์
 เส้นทางที่ 1 ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรี จากนั้นใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-น้ำตกเอราวัณ (ทางหลวงหมายเลข 3199) ผ่านถ้ำพระธาตุ ห้วยพุมุด (วัดพุมุด) จากนั้นเส้นทางจะเป็นดินลูกรังอัดแน่นเข้าไปถึงบริเวณน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น รวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร ควรใช้รถสภาพดีมีกำลังหรือจะเช่ารถสองแถวจากตัวเมืองหรือที่ตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ ได้เช่นกัน

 เส้นทางที่ 2 การนำรถยนต์ข้ามแพขนานยนต์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรี จากนั้นใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-ท่ากระดาน-แม่ละมุ่น (ทางหลวงหมายเลข 3199) เริ่มจากนำรถลงแพที่ท่าแม่ละมุ่นข้ามไปท่าอำเภอศรีสวัสดิ์ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที เสียค่าธรรมเนียมรถยนต์คันละ 50 บาท จากนั้นขับรถยนต์ต่อไปประมาณ 10 กิโลเมตร จะพบท่าแพขนานยนต์ข้ามไปท่าห้วยแม่ขมิ้น ใช้เวลา 30-45 นาที เสียค่าธรรมเนียมคันละ 150 บาท จากนั้นขับรถต่อไปอีก 7 กิโลเมตร ถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

 เรือเหมา ขึ้นที่ท่าหม่องกระแทะหรือท่าเรือท่ากระดาน ซึ่งอยู่ห่างจากทางแยกเข้าเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 12 กิโลเมตร ราคา 1,500 (10 คน) - 3,000 (30 คน) บาท เมื่อถึงท่าห้วยแม่ขมิ้นเดินขึ้นไป 200 เมตร ถึงตัวน้ำตก

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.กาญจนบุรี โทร. 034 511 200
http://www.tourismthailand.org/kanchanaburi

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ล่องเรือ/แพเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ เกริ่นเรื่องการเดินทางถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นก่อนดีกว่าครับ การเดินทางไปยังน้ำตกแห่งนี้ทำได้ 3 ทาง เลยครับ
ทางแรก ล่องเรือ/แพเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ มีทั้งเรือ และ แพ ครับแล้วแต่จะหาได้ตามอัธยาศัย การล่องเรือต้องไปเรือลำใหญ่ๆ แบบเหมาครับ เพราะเรือเล็กจะมีปริมาณน้ำมันไม่พอที่ล่องไปจนถึงน้ำตกได้ ส่วนแพจะมีลักษณะเป็นเรือนแพบ้านกลางน้ำ มีเรือลากไปอีกที ถือว่าพักผ่อนไปด้วยเดินทางไปด้วย การล่องเรือนอกจากจะไปที่ท่าเรือแล้ว ยังติดต่อรีสอร์ทต่างๆ ที่อยู่ในน้ำเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ อย่างในทริปนี้เดินทางไปกับ เลคเฮฟเว่นครับ

ทางที่สอง ทางแพขนานยนต์ เป็นวิธีที่สะดวกอีกแบบหนึ่งครับ เหมาะสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเที่ยวหลายๆ แห่ง นอกเหนือจากการพักผ่อนที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแล้ว ยังขับรถไปเที่ยวถ้ำพระธาตุได้ด้วย แต่ถ้าหากจะขับกลับมาที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นเพื่อขึ้นแพขนานยนต์กลับ ก็มีระยะทางเท่ากันกับขับไปเขื่อนศรีนครินทร์ น้ำตกเอราวัณ เลยละครับเพราะถ้ำพระธาตุอยู่กลางทางพอดี ถึงถนนเรียบคอนกรีตขับกลับกรุงเทพฯ ได้เลย ก็เลือกเอาว่าจะเอาแบบไหน

ทางที่สาม รถยนต์ล้วนๆ การเดินทางด้วยรถยนต์ไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมีเส้นทางลูกรังขรุขระค่อนข้างไกลมาก ขับเร็วก็สงสารรถ ขับช้าก็กว่าจะถึง ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นลูกรังตลอด เคยใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงเหมือนกันครับ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าการขับรถผ่านทางขรุขระของแต่ละคนจะใช้ความเร็วที่เท่าไหร่ ทางสายนี้รถเก๋งไปได้ครับแต่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถจะตัดสินใจไปหรือเปล่า ทางเลือกในการใช้แพขนานยนต์ก็เป็นความคิดที่ดีเพราะใช้เวลาไม่ต่างกันมากนัก นอกจากว่าวางแผนเที่ยวถ้ำพระธาตุก็จะต้องใช้รถอย่างเดียวเท่านั้น สำหรับช่วงฤดูฝน หรือวันที่มีฝนตกหนักไม่แนะนำให้ใช้รถเก๋งบนทางสายนี้ครับ

ล่องเรือสู่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ถ้าหากเลือกเดินทางโดยเรือ จะมีวิวสวยๆ ให้เก็บภาพกันได้ตลอดทาง ระยะเวลาขึ้นอยู่กับว่าล่องเรือจากที่ไหน อาจจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ - 2 ชั่วโมงเมื่อถึงท่าเทียบเรือของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแล้วก็จะเป็นทางเดินเท้าเข้าไปอีกไม่ไกลประมาณ 200 เมตรก็ถึงด่านของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

ห้องรับแขกห้วยแม่ขมิ้น เมื่อมาถึงด่านอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์แล้วก็จะเห็นสายน้ำสีเขียวมรกตสดใสอยู่ริมทาง สายน้ำและน้ำตกชั้นเล็กๆ ที่เห็นนี้ยังไม่นับว่าเป็นชั้นของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นซึ่งมีลักษณะลำธารที่ไหลลดหลั่นลงมาอย่างต่อเนื่องมากมายหลายชั้นมากๆ แต่เนื่องจากเป็นสิ่งแรกที่เราได้เห็นในการเดินทางมาน้ำตกจึงเรียกแอ่งน้ำเล็กๆ นี้ว่า ห้องรับแขก

ถ่ายรูปที่ระลึก แม้ว่าน้ำตกตรงนี้จะเล็ก แต่พอคนไปนั่งถ่ายรูปเหนือชั้นของน้ำตกก็เห็นได้ชัดว่าไม่เล็กเท่าไหร่ ลงเล่นน้ำได้ด้วยซ้ำ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสัมภาระของเราแล้วก็ผ่านเข้าไปยังทางเดินศึกษาธรรมชาติชมน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นทีละชั้นๆ กันได้เลย สิ่งที่เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดเป็นพิเศษก็คือห้ามนำเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาโดยเด็ดขาดแต่ถ้าเราไม่มีก็เข้าไปได้เลยครับ

อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ที่ระลึกสำหรับมุมมหาชนหรือมุมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวนั่นก็คือป้ายอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งถ้าหากเดินทางมาด้วยทางรถยนต์ คงจะไม่ได้เห็นป้ายนี้เป็นแน่ พักช่วงนี้ไว้เท่านี้ก่อน ต่อไปขอกล่าวถึงการเดินทางมาน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นทางรถยนต์กันบ้างครับ

วัดหนองตะครอง การเดินทางมายังน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นถ้ามาจากกรุงเทพฯ ก็ใช้เส้นทางกาญจนบุรีตามปกติ แต่มีครั้งหนึ่งที่เราไปปิดทองฝังลูกนิมิตที่วัดแห่งหนึ่งที่โพธาราม จากวัดนั้นเราก็เดินทางด้วยทางหลวงหมายเลข 3357 ไปยังหนองตากยา ท่าม่วง ตามลำดับ บังเอิญได้ผ่านวัดแห่งนี้ ซึ่งมีเพียงอุโบสถที่สวยเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างทาง เลยแวะจอดเก็บภาพมาด้วย วัดนี้คือวัดหนองตะครอง ภาพนี้ถ่ายไว้ต้นปี 2007 ปัจจุบันคงสร้างเสร็จไปแล้วครับ สะดุดตาว่าเหมือนกับวัดร่องขุ่นมากๆ เลยเอามาลงไว้ ใครผ่านไปฝากมาอัพเดตกันมั่งนะครับ

สู่ห้วยแม่ขมิ้น ถนนสู่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ไปได้ไม่กี่กิโลเมตรก็ท้อแล้วกลับลงมา คงจะไปน้ำตกเอราวัณแทน เพราะถนนโหดมากจริงๆ โดยเฉพาะหลังช่วงที่มีฝนตก น้ำเซาะถนนเป็นทางยาวเรียกว่าไม่มีทางหลบพ้นก็ต้องลงไปแบบเบาๆ ขับรถไปอารมณ์เดียวกับนั่งช้างไปเลย บางช่วงมีการสร้างเส้นทางคอนกรีตเสริมเหล็ก ช่วงที่เป็นโค้งลาดชันได้มีการสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กไว้ให้ เพราะถ้าไม่ทำคอนกรีตรถจะไถลลงมากันหมด เส้นทางสายนี้จะผ่านป้ายน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เห็นแล้วใจชื้นขึ้นเยอะนึกว่าใกล้ถึงแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงมันก็ไม่ใกล้เท่าไหร่ เรียกว่าป้ายนี้ที่ตั้งอยู่ตรงนี้ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ถอดใจหันหลังจะดีกว่า ข้อดีของการขับรถไปจะได้ผ่านถ้ำพระธาตุที่สวยงามด้วยครับ

การเดินเท้าไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นแรก ภาพชุดเล็กๆ หลายๆ ภาพเป็นบรรยากาศของการเดินเท้าไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นแรก หากเดินทางมาทางรถยนต์ จะมีลานจอดรถ ลานกางเต็นท์ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ห้องน้ำ ฯลฯ ที่ชั้น 4 จากนั้นค่อยเดินลงมาที่ชั้น 1 แล้วก็กลับขึ้นไป หรือขับรถลงมาที่ชั้น 1 แล้วเดินขึ้นไปแล้วกลับมาเอารถ ก็แล้วแต่ความสะดวกจะตัดสินใจครับ เส้นทางการเดินจากลานจอดรถจะเที่ยวน้ำตกจากชั้น 4 ไปยังชั้น 5 6 7 ก็ได้ หรือเดินลงมาชั้น 3 2 1 ก็ได้เหมือนกัน ถ้ามาทางเรือหรือแพ ก็จะเดิน 1-7 ตามลำดับ แต่เพื่อความไม่สับสนของคนเขียนผมขอลำดับ 1-7 เลยนะครับ ส่วนจะเดินทางมากันแบบไหนหรือว่าลำดับการเดินเที่ยวน้ำตกของแต่ละคนเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามความเหมาะสม ก่อนหน้านั้นจะบอกก่อนว่า ชั้น 1-4 สวยกว่าชั้น 5-7 นะครับ แต่ไหนๆ ก็มาแล้วไปให้ครบกันไปเลยดีกว่า

ป้ายบอกทาง น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เป็นน้ำตกที่มีหลายชั้น แต่ละชั้นสวยงามต่างกัน แต่รวมๆ แล้วสวยมากทุกๆ ชั้น และลงเล่นน้ำได้ ที่สำคัญการเดินเท้าไปแต่ละชั้นของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นไม่ลำบากยากเย็นเหมือนไปเที่ยวน้ำตกแห่งอื่นๆ เมื่อเทียบความสวยงามในระดับเดียวกัน น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นจึงเป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากแบบไม่เคยขาด ไปทีไรเห็นคนเอารถมาจอดหลายคันทุกทีไป ระยะทางจากจุดเริ่มต้นตรงนี้ (ไม่นับรวมที่เดินมาจากท่าเรือ) ไปยังชั้นที่ 1 ดงว่าน เพียง 300 เมตร เท่านั้น ส่วนจะเดินไปถึงชั้น 7 ร่มเกล้า ก็รวมแล้ว 2,270 เมตร เส้นทางระหว่างการเดินเท้าร่มรื่นตลอดเส้นทางเพราะมีต้นไม้ใหญ่ตลอดระยะ บางช่วงที่ชันก็มีการสร้างบันไดไว้ให้ เดินสบายตลอด

โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ข้อมูลด้านการผลิตไฟฟ้าของโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำแห่งนี้ยังไม่มีครับ แต่มีข้อมูลที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นให้เราได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับน้ำตกได้เป็นอย่างดี ที่หน้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำมีเรื่องราวของแมลงชนิดหนึ่งติดไว้ให้เราได้อ่าน แมลงตัวนี้มีส่วนสำคัญในการสร้างน้ำตก (ไม่เคยรู้ละสิ) ชื่อของแมลงชนิดนี้คือ แมลงหนอนปลอกน้ำ ความสามารถพิเศษของแมลงชนิดนี้คืออาศัยหินปูนที่มากับน้ำมาสร้างปลอกเป็นรังให้ตัวเองในขณะที่มันเป็นตัวอ่อนและจะเป็นดักแด้ รังของมันจะสร้างไว้ที่ขอบผาของน้ำตกชนิดที่เป็นหินปูน เพื่อให้อาหารที่ลอยมากับน้ำมาติดที่รังของมันทำให้มันมีอาหารกิน พฤติกรรมของมันนี้เองทำให้ใบไม้ที่ผลัดใบในฤดูแล้งลอยมาติดที่รังของมันด้วย ทำให้ตะกอนหินปูนที่อยู่ในน้ำจับติดกันแน่นที่ผาหินปูนแต่ละชั้นของน้ำตก ทำให้ผามีขนาดโตขึ้น เช่นยื่นยาวออก หรือยื่นลงข้างล่างเหมือนหินย้อยในถ้ำ (ว้าวสุดยอดกระบวนการ) ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานหลายสิบปี ผาหินปูนจะเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ และเป็นน้ำตกที่สวยงาม ขนาดของแมลงหนอนปลอกน้ำมีขนาดประมาณ 10-30 มิลลิเมตรเท่านั้น

สิ่งที่เป็นอันตรายต่อแมลงหนอนปลอกน้ำผู้สร้างน้ำตก
- อย่าใช้น้ำยาล้างจาน, สบู่ ครีมอาบน้ำ, แชมพู, ผงซักฟอก
- อย่าทิ้งขยะ
- อย่าปีน , เหยียบย่ำ

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น-ดงว่าน นี่คือบริเวณชั้นที่ 1 ดงว่านและลำธารส่วนที่เหนือน้ำตกชั้นที่ 1 ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น ระยะทางระหว่างดงว่านกับม่านขมิ้น เพียงประมาณ 100 เมตรเท่านั้น แต่มีน้ำตกลักษณะลดหลั่นกันลงไปเรื่อยตลอดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ราบเรียบไม่ค่อยจะชันนัก ทางเดินศึกษาธรรมชาติส่วนใหญ่จะอยู่เลียบไปกับลำธารจนมองเห็นน้ำตกได้เกือบตลอดเวลา ในฤดูหนาวจนถึงปลายฤดูน้ำจะมีสีเขียวมรกตปริมาณน้ำยังมากจึงดูสวยงามไปหมดทุกชั้น ภาพชุดนี้ถ่ายช่วงเดือนมกราคม ครับ

ลำธารของน้ำตก ระหว่างการเดินไปแต่ละชั้นเรียกได้ว่า 10-20 ก้าวก็จะหยุดเพราะมีมุมสายน้ำไหลสวยๆ ของน้ำตกให้ถ่ายรูปหลายมุม นับเป็นสถานที่สำหรับการฝึกถ่ายภาพน้ำตกที่ดีมากไม่เหนื่อยจนเกินไปด้วยครับ

ก่อนถึงชั้นที่ 2 เนื่องจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมีถึง 7 ชั้น แต่ละชั้นห่างกันมากบ้างน้อยบ้าง มีธรรมชาติร่มรื่นด้วยพรรณไม้หลายชนิดสำหรับการถ่ายภาพ บางช่วงของสายน้ำอยู่ในร่มซึ่งก็ถ่ายภาพน้ำตกได้สวย บางช่วงก็อยู่กลางแดดถ่ายภาพลำบาก แต่ก็ทำให้มีทางเลือกที่จะหาชั้นที่สวยและแสงพอเหมาะได้ไม่ยาก

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น-ม่านขมิ้น น้ำตกชั้นที่ 2 มีความสูงไม่มากนักแต่กว้างมาก สายน้ำที่ไหลลงมาอย่างต่อเนื่องพื้นน้ำในแอ่งที่เป็นสีเขียวมรกตกว้างใหญ่สวยงามประทับใจมากครับ

เหนือชั้นที่ 2 อย่าเพิ่งนึกว่านี่เป็นภาพน้ำตกชั้นที่ 3 ของห้วยแม่ขมิ้นนะครับ แม้ว่าจะมีความสวยงามมากอย่างที่เห็นแต่ไม่ได้นับเป็นชั้นหนึ่งของน้ำตก นี่เป็นลำธารของสายน้ำตกที่จะไหลไปสู่ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้นนั่นเอง

ลำธารแม่ขมิ้น ภาพบรรยากาศระหว่างการเดินชมน้ำตกอีกภาพหนึ่งครับ เป็นชั้นเล็กๆ มีแอ่งไม่กว้างมากนัก หากเป็นวันหยุดคงได้เห็นนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาก็จะดูเงียบๆ แต่เหมาะสำหรับการเก็บภาพเป็นอย่างยิ่ง

บรรยากาศน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น บางช่วงที่มีเพียงลำธารไม่มีผาน้ำตกก็เห็นเป็นสีเขียวมรกตงดงามจนต้องหยุดเดินเพื่อเก็บภาพด้วยเหมือนกัน

นี่ก็ยังไม่ใช่ชั้นที่ 3 ที่ไหนที่มีผาน้ำตกลงมาเป็นอันได้หยุดเก็บภาพรวมทั้งนั่งพักไปด้วยในตัว เรียกว่าถ้าจะนับกันหมดทุกชั้นที่เห็นเป็นผาแบบนี้ห้วยแม่ขมิ้นอาจจะมีมากถึง 20 ชั้น ก็เป็นได้

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น-วังหน้าผา ถึงชั้นที่ 3 แล้วครับ ในทางกลับกันหากมาทางรถยนต์ ก็จะเรียงรูปลำดับกลับกันนะครับ จาก 4 3 2 แล้วก็ 1 ที่ชั้นที่ 3 วังหน้าผา มีผาที่ค่อนข้างสูงครับ ไม่เหมาะสำหรับคนที่คิดจะกระโดดน้ำเล่นอาจจะพลาดได้ง่ายๆ หากมาในช่วงฤดูน้ำมากน้ำจะเป็นสีแดงแต่ก็ได้เห็นน้ำตกที่กว้างเต็มหน้าผาสวยไปอีกแบบครับ

ทางเดินจากชั้นที่ 3 ไปชั้นที่ 4 ช่วงนี้มีการสร้างสะพานและบันไดไม้ไว้เป็นช่วงๆ เดินไม่ลำบากมากนักแต่ก็เริ่มที่จะเหนื่อยแล้วเพราะเส้นทางเริ่มชันขึ้นมากเหมือนกัน แต่ยังดีที่เดินในร่มตลอดทาง หากเดินกันกลางแดดคงลำบากกว่านี้

ลานกางเต็นท์ห้วยแม่ขมิ้น ถึงบริเวณน้ำตกชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุดของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ชั้นฉัตรแก้วนี้เป็นชั้นที่จะมีคนมาถ่ายรูปเอาลงเว็บไซต์บ้างนิตยสารบ้างอยู่เนืองๆ และที่สำคัญมีลานกางเต็นท์บรรยากาศการนอนข้างน้ำตกฟังเสียงของสายน้ำตลอดคืนกับอากาศเย็นสบาย เป็นวันพักผ่อนที่ไม่ควรมองข้าม

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น-ฉัตรแก้ว นี่ละครับภาพที่จะได้เห็นกันบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือสื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ว่ากันว่าสวยที่สุดของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น หากเดินทางมาที่นี่แล้วไม่มีเวลาเดินชมกันทั้งหมดทุกชั้น อย่างน้อยต้องถ่ายรูปที่ชั้นฉัตรแก้วนี้ให้ได้ เพื่อเป็นที่ระลึกในการมาถึงที่นี่ จอดรถปุ๊บก็ถึงปั๊บเลยด้วย ภาพนี้เป็นภาพที่ไปถ่ายครั้งก่อนหน้านี้ครับคือปี 2009 ในตอนต้นปี 2011 ที่ถ่ายรูปชั้นที่ 1-3 มาปรากฏว่าต้นไม้ต่างๆ ที่หน้าน้ำตกชั้นฉัตรแก้วโตขึ้นมากและดูจะมีกิ่งก้านสาขายื่นเข้าไปในน้ำตกมากจนดูไม่ค่อยสวยแล้วแต่คงจะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ตัดกิ่งไม้กันบ้างแล้วละครับ

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น-ไหลจนหลง นับตั้งแต่ชั้นที่ 5 เป็นต้นไปถึงชั้นที่ 7 เป็นภาพที่เก็บไว้ตั้งแต่ปี 2007 และยังไม่มีโอกาสไปซ่อมใหม่ ความสวยของภาพด้อยกว่าชั้น 1-4 เพราะกล้องที่ใช้แตกต่างกัน แต่ก็เอามาเขียนลงไว้ก่อนหากได้ไปอีกก็จะเอามาอัพเดตกันใหม่ จากชั้นที่ 4 เดินมาที่ชั้นที่ 5 ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง (เดินไปเที่ยวไปชมจุดนั้นจุดนี้ไปเรื่อยๆ ไม่รีบครับ) ระยะทางประมาณ 400 เมตร ค่อนข้างยาวเพราะชั้นอื่นๆ จะห่างกันประมาณ 100-200 เมตรเท่านั้นเอง น้ำตกชั้นไหลจนหลงนี้กว้างมากจนกล้องเก็บไม่หมด แนวผาด้านซ้ายของรูปนี้ยังต่อไปอีกยาวครับ วันนั้นไปกันครอบครัวใหญ่ 20 คนไปนั่งถ่ายภาพหมู่กันได้สบายเลย

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น-ดงผีเสื้อ ถึงชั้นที่ 6 ก็เย็นมากแล้วบางคนลงเล่นน้ำในชั้นดงผีเสื้อนี้ ดงผีเสื้อเป็นชั้นที่ 6 ของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแต่มีลักษณะค่อนข้างแตกต่างจากชั้นอื่นๆ จนเห็นได้ชัด เพราะผาไม่กว้างแต่ลึกมากครับ

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น-ร่มเกล้า ชั้นที่ 7 ร่มเกล้า เป็นอีกชั้นหนึ่งของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ผาตรงนี้เป็นส่วนที่สูงและกว้างที่สุดของชั้นนี้ แต่น้ำตกชั้นนี้มีลดหลั่นกันเป็นชั้นเล็กชั้นน้อยจำนวนมากคล้ายๆ น้ำตกพาเจริญแต่ไม่มากเท่า

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น-ร่มเกล้า ภาพรวมมุมกว้างๆ ของชั้นที่ 7 ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายสำหรับการแนะนำน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เพราะกว่าจะเดินมาถึงชั้น 7 ก็เย็นมากจนกล้องเริ่มจะเก็บภาพไม่ได้ซะแล้ว หากเดินทางไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแล้วไม่ค้างคืนควรจะออกเดินทางจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นก่อน 6 โมงเย็น หรือ 5 โมงดีกว่า เพราะจะได้ไปถึงทางคอนกรีตก่อนที่จะมืดเกินไป ถ้าขับรถไปเองก็ต้องบวกลบคูณหารเวลาในการเดินทางกันเอง เพราะขากลับก็คงไม่ต่างจากขาไปมากนัก