วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่)

 วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจ ตำบลบ้านใหม่ ห่างจากศาลากลางจังหวัด 1 กิโลเมตร เป็นวัดจีนในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ขยายมาจากวัดเล่งเน่ยยี่ในกรุงเทพฯ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2449 เมื่อครั้งเสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรี เพื่อเปิดทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา ได้ทรงพระราชทานนามวัดว่า วัดจีนประชาสโมสร ส่วนชื่อภาษาจีนของวัด คำว่า ฮก แปลว่า วาสนา โชคลาภ ความมั่งมีศรีสุข เล้ง หรือ เล่ง หมายถึง มังกร จึงมีผู้เรียกวัดนี้ ว่า มังกรวาสนา หรือ มังกรแห่งโชค ตามหลักฮวงจุ้ยจีนกล่าวว่า

 วัดนี้ถือเป็นตำแหน่งท้องมังกร ส่วนตำแหน่งหัวมังกรอยู่ที่วัดเล่งเน่ยยี่ จังหวัดกรุงเทพฯ และหางมังกรนั้นอยู่ที่วัดเล่งฮัวยี่ จังหวัดจันทบุรี ทั้งสามตำแหน่งของมังกรพาดผ่านดินแดนของความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ เยาวราชดินแดนแห่งการค้าขาย เมืองแปดริ้วดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารและจังหวัดจันทบุรี เมืองแห่งอัญมณีพลอย

 ภายในวัดจีนประชาสโมสรมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น ท้าวจัตุโลกบาลขนาดใหญ่ 4 องค์ทำจากกระดาษที่ประตูทางเข้า พระประธาน 3 องค์และองค์ 18 อรหันต์ ทำด้วยกระดาษนำมาจากเมืองจีน รูปหล่อเทพเจ้าแห่งโชคลาภ(ไฉ่เซ่งเอี้ย) ที่อยู่ด้านขวาขององค์พระประธานและยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ตามคติจีน ระฆังใบใหญ่น้ำหนักกว่า 1 ตัน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ใบในโลกที่รอบระฆังมีอักษรมหาปรัชญาปารมิตราสูตรถือกันว่าผู้ได้ใดตีระฆังก็เหมือนกับการสวดมนต์ซึ่งได้บุญกุศลนอกจากนี้ยังมีวิหารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น วิหารบูรพาจารย์ วิหารเจ้าแม่กวนอิม วิหารตี่จั๊งอ๊วงและสระนทีสวรรค์ เป็นต้น

เวลาเปิด-ปิด:08:00 - 17:00

โทร:038 511 069

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา โทร.038 514 009
https://www.facebook.com/TAT-Chachoengsao-175554016247495/

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) เริ่มต้นกันตั้งแต่ประตูทางเข้าก็แล้วกันครับ วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) อยู่ติดถนนทางหลวงหมายเลข 3200 ฉะเชิงเทรา - บางน้ำเปรี้ยว ตรงหน้าวัดเป็นทางโค้งซุ้มประตูสร้างหลบมุมเข้าไปนิดหน่อยทำให้พอมีพื้นที่สำหรับถ่ายรูปซุ้มประตูได้อย่างไม่อันตรายมากนัก เนื่องจากเป็นวัดที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2449 ซุ้มประตูดูเก่าเข้มขลัง ลวดลายมังกรที่ยังอยู่ก็ยังดูดีอยู่มากสำหรับวัดที่อายุ 100 ปี ส่วนชื่อภาษาจีนของวัด คำว่า ฮก แปลว่า วาสนา โชคลาภ ความมั่งมีศรีสุข เล้ง หรือ เล่ง หมายถึง มังกร จึงมีผู้เรียกวัดนี้ ว่า มังกรวาสนา หรือ มังกรแห่งโชค

วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) เข้ามาด้านในกันบ้าง หลังซุ้มประตูขนาดใหญ่เป็นลานจอดรถกว้างขวางมากๆ หากมาในวันธรรมดาจะเห็นโล่งๆ ไม่มีคนเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีมาเรื่อยๆ มองเข้าไปมีอาคารหลังเล็กๆ อยู่หลังหนึ่งแต่ถึงแม้จะดูเล็กด้วยเหตุที่มีอยู่ชั้นเดียวแต่ก็กว้างขวางข้างๆ ก็มีอาคารติดต่อกันออกไปอีก

พระเจดีย์ดอกไม้ ก่อนที่จะเข้าไปข้างในดูข้างนอกต่ออีกหน่อยด้านหน้าของอาคารมีพระเจดีย์อยู่ 2 องค์ด้านซ้ายและขวาส่วนพระเจดีย์ที่เขียนข้อความว่าพระเจดีย์ดอกไม้ คือภาพขวา เป็นเจดีย์ที่อยู่ขวามือตอนที่เราหันหน้าเข้าหาวัด

วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) ดูไกลๆ กันแล้วก็ขยับเข้ามาดูใกล้ๆ กันหน่อย ลวดลายต่างๆ บนอาคารก็เหมือนกับที่เราจะเคยเห็นในวัดจีนหรือศาลเจ้ากันบ่อยๆ เน้นการใช้สีแดงเป็นหลัก

เทพเจ้าภายในวัดเล่งฮกยี่ เริ่มต้นจากทางที่เดินเข้ามาจะเห็นองค์พระสังกัจจายน์อยู่ในกระจกรอบด้าน อีกด้านหนึ่งเป็นเทพเจ้าหันหลังเข้าหาพระสังกัจจายน์ ลืมบอกไปว่าการสักการะบูชาเทพเจ้าในวัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) จะมีลำดับเป็นขั้นเป็นตอน มีป้ายติดบอกไว้ให้จุดธูปไหว้ตามลำดับ จุดที่ 1 - จุดที่ 10 ในที่นี้ผมจะไม่อธิบายมากว่าจุดไหนเป็นจุดไหน เมื่อเดินทางไปแล้วจะรู้เองครับ สำหรับดอกไม้ธูปเทียนบูชาได้ที่ด้านหน้าก่อนจะเข้ามาได้เลย

เจ้าแม่กวนอิม ผมไม่ได้รูปตามลำดับการไหว้ 1 2 3 ที่ติดไว้นะครับ ขอเอาตามสะดวกดีกว่า พอเข้ามาแล้วผ่านพระสังกัจจายน์ ก็เลี้ยวซ้ายจะเห็นเจ้าแม่กวนอิมหลายปางทำจากไม้ แต่ที่โดดเด่นกว่าองค์ใดก็คือภาพขวามือ เป็นเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักมาจากรากไม้อายุ 100 ปี มาจากเมืองจีนครับ แต่ในภาพอาจจะมองไม่ออกว่าเป็นรากไม้ได้ยังไงคงต้องไปชมกันด้วยตัวเองและจะรู้สึกทึ่งและประทับใจในสิ่งที่ได้เห็น

พระบรมธาตุวัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) ถัดจากเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักมาจากรากไม้ 100 ปี จะมีห้องเล็กๆ มีโต๊ะหมู่บูชาประดิษฐานพระบรมธาตุ มีคาถาบทสวดในการกราบไหว้บูชาติดไว้ให้ รอบๆ ห้องนี้ยังเป็นที่เก็บพระพุทธรูปเก่าแก่อีกมากมายหลายองค์

เทพเจ้ากวนอู ออกมาจากห้องพระบรมธาตุหรืออีกนัยหนึ่งก็คือพระบรมสารีริกธาตุ จะพบเทพเจ้ากวนอู ยืนตระหง่าน ถัดมาตรงกลางอาคารมีพระพุทธปัญญา ประสาท ส่วนด้านขวามือ (หันหน้าเข้าในอาคาร) มีเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไฉ่เซ่งเอี้ย ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนจำนวนมากทั้งชาวฉะเชิงเทราและทั่วประเทศ หรือแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านก็รู้จักและศรัทธาเทพเจ้าองค์นี้มาก

พระพุทธปัญญา ประสาท กลับมายืนตรงกลางของอาคารเบื้องหน้า พระพุทธปัญญา ประสาท ด้านหลังสุดลึกเข้าไปจะมีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์และเทพเจ้า พระพุทธรูปอีกจำนวนหนึ่ง

พระพุทธเจ้า 3 พระองค์

พระ 18 อรหันต์ เป็นพระอรหันต์ของจีน ทำด้วยกระดาษ นำมาจากเมืองจีน อยู่ด้านซ้ายและด้านขวาด้านละ 9 องค์ ตามความเชื่อของการสร้างวัดของชาวจีน โดยจะต้องมีพระ 18 อรหันต์นี้อยู่ด้วยเสมอ

พระพุทธรูปทรงเครื่องวัดเล่งฮกยี่ ความงดงามสะดุดตาขององค์พระพุทธรูปแบไทยทรงเครื่องอยู่ด้านขวามือ ด้านหลังมีพระพุทธรูปศิลปะแบบจีนอีกองค์

ระฆังวัดเล่งฮกยี่ ระฆังใบใหญ่น้ำหนักกว่า 1 ตัน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ใบในโลกที่รอบระฆังมีอักษรมหาปรัชญาปารมิตราสูตรถือกันว่าผู้ได้ใดตีระฆังก็เหมือนกับการสวดมนต์ซึ่งได้บุญกุศล ระฆังใบนี้แขวนไว้ในที่ค่อนข้างมีแสงน้อยเลยไม่สามารถถ่ายให้เห็นอักขระบนระฆังได้ ไม้ตีระฆังมีลักษณะคล้ายมังกร ระฆังนี้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างถวายเป็นพระราชกุศล ฉลองครบ 6 รอบแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระฆังหนัก 1.5 ตัน สูง 2.4 เมตร กว้าง 1.5 เมตร บรรจุมนต์ภาษาจีนมหาปรัชญาปรมิตาสูตร และมหากรุณาธารณีสูตร ก่อนตีอ่านบทนี้ดูก่อนนะครับ

แว่วเสียงระฆังรัว กิเลสชั่วค่อยบางเบา
เพิ่มพูนปัญญาเชาน์ พุทธิแห่งเราบังเกิดมี
ห่างพ้นขุมนรก ไม่ต้องตกเปลวอัคคี
สร้างสมบารมี สำเร็จที่โพธิญาณ
เพื่อโปรดสัตว์ทั้งหลาย นับแต่กาลบัดนั้นไป
โอม คาละติยา สวาหะ (3 จบ)
ขอให้เสียงระฆัง วังเวงดังไกลแสนไกล
นรกและแห่งใด ได้ยินทั่วทุกมณฑล
เสียงระฆังบริสุทธิ์ ดังประดุจประกาศผล
สัตว์โลกล้วนหลุดพ้น บรรลุโพธิญาณ

ท้าวจตุโลกบาล ท้าวจตุโลกบาลขนาดใหญ่ 4 องค์ที่ประตูทางเข้า อยู่ด้านละ 2 องค์ เป็นท้าวจตุโลกบาลที่ทำจากกระดาษ นำมาจากเมืองจีน เห็นอย่างนี้แล้วไม่น่าเชื่อว่าจะทำมาจากกระดาษเลยนะครับ

ปิดท้ายวัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) หลังจากไหว้พระสักการะเทพเจ้าทุกพระองค์ ตีระฆัง แล้วก็เสร็จพิธีครับเลยขอปิดท้ายด้วยรูปประตูที่เดินเข้ามาในตอนแรก พอเดินออกเหมือนว่าได้พบแสงสว่างกันเลยทีเดียว (เพราะอยู่ในที่แสงน้อยนานไปหน่อย)