โดมทิวลิป

โดมทิวลิป เป็นส่วนหนึ่งในสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อยู่ไม่ไกลจากทางแยกมาบตาพุด เป็นโครงการในชื่อ The Miracel of Natural Gas ของ ปตท. ซึ่งนำเอากาซที่เหลือจากการคัดแยกก๊าซ มาเป็นพลังงานในการให้ทำความเย็นให้กับโดมดอกทิวลิป และไม้ดอกเมืองหนาว จำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงการนำเอาก๊าซเหลือใช้มาก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาล จนสามารถปลูกดอกทิวลิป กำหนดการจัดงาน ปี 2559 ระหว่างวันที่ 9 - 16 เมษายน มีการจัดนิทรรศการ The Miracel of Natural Gas คือความรู้เกี่ยวกับการกลั่นและคัดแยกก๊าซธรรมชาติชนิดต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ประกอบกับนิทรรศการทิวลิป และลิลลี่ สายพันธุ์ต่างๆ ให้ชม รวมทั้งมีดอก Daffodill พันธุ์ Dutch Master (ดอกไม้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรด) มีความหมายว่า ดอกไม้แห่งความหวัง โดมทิวลิป นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากของจังหวัดระยอง มีการจัดโครงการนี้เป็นครั้งที่ 6 (เมษายน 2559 ) การจัดงานทุกครั้งที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวรู้จักไม่มากนัก ส่วนในปีนี้ สื่อต่างๆ มาทำข่าว ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเป็นอย่างมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานระยอง โทร. 0-3865-5420
http://www.tourismthailand.org/rayong

แก้ไขล่าสุด 2017-02-23 10:04:26 ผู้ชม 60866

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

การเดินทางไปโดมทิวลิป อย่างที่บอกละครับว่าโดมทิวลิปของโครงการ The Miracle of Natural Gas เป็นส่วนหนึ่งของ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การเดินทางก็เลยต้องเข้ามาในสวนสมุนไพร ที่ทางแยกนิคมมาบตาพุดกันก่อน พอเข้ามาเราก็จะผ่านด่านตรวจ รับบัตรจอดรถ ขับมาจอดใกล้กับอาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา ปกติถ้ามาวันธรรมดาคนก็จะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ถ้ามาวันหยุด ก็จะหาที่จอดยากหน่อยต้องไปจอดตรงข้างสระว่ายน้ำ แล้วเดินมาที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ จากนั้นก็ลงทะเบียนเยี่ยมชม แล้วก็รอรถ NGV เป็นรถนำเที่ยวเหมือนๆ กับเวลาไปเที่ยวที่อื่นๆ พอรถเต็มแล้วก็จะพาเรามาที่โดมไม้ดอกเมืองหนาว (เรียกโดมทิวลิปก็จะใจดำไปหน่อยเพราะที่นี่ไม่ได้มีแต่ทิวลิปซะหน่อย) ถึงหน้าอาคารเราก็เดินเข้าไปเลยครับ ดูเหมือนว่าทุกคนที่นั่งรถมาด้วยกันต่างก็พุ่งเข้าไปในอาคารอย่างเร็ว คงเพราะอยากเห็นทิวลิปมานานแล้ว อีกอย่างข้างนอกอากาศค่อนข้างร้อนจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีทิวลิปให้ชมกันที่ระยอง แต่ในเมื่อมีการจัดงานขึ้นแล้วแสดงว่าภายในโดมจะต้องควบคุมอากาศให้เย็นเอามากๆ ฉะนั้นถ้าได้เข้าไปอยู่ข้างในก็น่าจะดีกว่าเดินร้อนๆ อยู่ข้างนอก ภายในอาคารก็จะจัดแสดงไม้เมืองหนาวอันมีทิวลิปเป็นพระเอกของงาน พอเข้าประตูอัตโนมัติเข้าไปดูเหมือนทุกคนไม่ค่อยอยากจะเดินไปข้างหน้า เพราะตามทางเดินมีทิวลิปสวยๆ ให้ชื่นชมและถ่ายรูปมากมายหลากหลายสี จัดเป็นกลุ่มๆ สวยๆ โดยเฉพาะสาวๆ เห็นแบบนี้แล้วหยุดอยู่กับที่กันเลยทีเดียว เดินเข้ามาอีกหน่อยเราก็จะเห็นแปลงลิลลี่ เป็นพันธุ์ทีเบอร์ ดอกสีขาวใหญ่ๆ เรียงกันหลายต้น เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวหลายคนที่พยายามจะเอาหน้าตัวเองเข้าไปใกล้ๆ แล้วถ่ายรูปด้วยมือถือ ด้านหลังแปลงลิลลี่ก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการแยกก๊าซให้เราศึกษา

ทางเดินในอาคารนิทรรศการ นี่ก็เป็นทางเดินที่ทำให้หลายคนหยุดไม่ค่อยอยากจะเดินต่อไปข้างหน้า ทางเดินออกแบบเน้นโทนสีเหลือง แล้วก็มีรูปร่างคล้ายๆ รังผึ้ง 2 ข้างทางมีทิวลิปสวยๆ เรียงรายอยู่เป็นระยะ ผนังจะมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้ง 2 ด้าน เหนือต้นทิวลิป ท้ายทางเดินเป็นแปลงทิวลิปสีเหลืองขนาดย่อมๆ นั่นแหละที่ทำให้หลายคนไปรุมถ่ายรูปกันอยู่ไม่เดินเข้าไปข้างในซะที

ภายในอาคารที่ไม่ใหญ่มากหลังนี้ ไม่ได้มีการแสดงเพียงนิทรรศการเกี่ยวกับพลังงานก๊าซธรรมชาติ กับไม้ดอกเมืองหนาวเท่านั้น แต่ยังมีนิทรรศการพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเกี่ยวกับไม้ดอกไม้ผล มากมายหลายแห่งในภาคเหนืออีกด้วย

นิทรรศการพลังงานกับทิวลิป จากทางเดินตรงทางเข้า ที่กว่าผมจะได้ภาพว่างๆ ตอนที่ไม่มีคนก็ใช้เวลากว่า 10 นาที พอได้รูปทางเดินแล้วก็เดินเข้ามาข้างใน ทางเดินเป็นทางเดินเล็กๆ ตามผนังเป็นนิทรรศการให้ความรู้เรื่องพลังงาน รวมถึงการคัดแยกเอาก๊าซที่เหลือจากการคัดแยกก๊าซที่นำไปใช้เป็นพลังงานที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เอาก๊าซที่เหลือนั้นมาใช้เป็นพลังงานในการสร้างโดมควบคุมอุณหภูมิ สำหรับการปลูกไม้ดอกเมืองหนาวสวยๆ อย่างทิวลิป แต่ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวรวมทั้งผมเองก็ไม่ค่อยจะได้อ่านป้ายในนิทรรศการเท่าไหร่ มุ่งแต่จะเก็บภาพดอกทิวลิปที่ปลูกอยู่ในกระถางที่ตั้งอยู่ด้านหน้าป้ายติดผนังมากกว่า (คงไม่ว่ากันเนาะ)

นิทรรศการทิวลิป เดินเข้ามาอีกห้องเล็กๆ เป็นแปลงทิวลิปสวยๆ เรียงกันอยู่ที่ผนังของห้อง บนผนังทำเป็นช่องสำหรับข้อมูลความรู้จำเพาะของทิวลิปแต่ละชนิดแต่ละสายพันธุ์ อยากจะรู้เรื่องทิวลิปก็ลองเดินๆ อ่านดู แต่ถ้าอยากจะถ่ายรูปทิวลิปสวยๆ ให้อดทนรอหน่อยเพราะแต่ละวันคนเยอะจริงๆ ขนาดวันวาเลนไทน์ตรงกับวันธรรมดา ไม่ใช่วันหยุดก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างคึกคัก รถนำเที่ยวที่รับส่งนักท่องเที่ยวจากประชาสัมพันธ์มายังโดมทิวลิปวิ่งกันไม่เคยได้ว่างเลย

นิทรรศการทิวลิป ดอกทิวลิปหลายดอกที่มีสีคล้ำๆ เข้มๆ ดูไม่เหมือนกับทิวลิปที่เคยเห็นทั่วๆ ไป หนักไปทางสีม่วงเข้มจัด แสดงเอาไว้ในช่องของผนังห้อง ทิวลิปสีม่วงเข้มนี้เป็นทิวลิปพันธุ์ควีนออฟไนท์ (Queen of Night) เป็นผลที่ได้จากการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการควบคุมเร่งการเจริญเติบโต

ส่วนในภาพขวามือ สีเหลืองสวยงามลักษณะของกลีบเหมือนถ้วยวางอยู่บนจานรอง เป็นดอก Daffodill พันธุ์ Dutch Master (ดอกไม้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรด) เป็นต้นไม้แห่งความหวัง ภายในงานจะมีดอกไม้ชนิดนี้จัดวางผสมไปกับทิวลิปอย่างสวยงาม

หน้าทิวลิปหลังทิวลิป ส่วนท้ายๆ ของนิทรรศการทิวลิป กับก๊าซธรรมชาติ เรียกว่าเป็นห้องสุดท้าย ข้างหน้าก็จะเป็นประตูทางออก ผนังอีกด้านจะเป็นแปลงลิลลี่สีชมพูสวยมาก ส่วนด้านนี้ที่ผมให้ชื่อว่า หน้าทิวลิป หลังทิวลิป ก็เพราะว่า ด้านหน้าเป็นแปลงทิวลิปจริงทั้ง 4 สี ส่วนฉากหลังเป็นรูปทิวลิปหลากสีสลับกันไป สร้างความตื่นตาให้กับคนที่มาเที่ยว แน่นอนว่าแต่ละมุมของห้องนิทรรศการ ไม่เว้นว่างไปจากผู้คนจำนวนมาก การจะได้รุปนี้มาก็ต้องอาศัยความอดทนสูงทีเดียว รอคิวกันไปเรื่อยๆ แต่ละคนส่วนใหญ่ก็จะพานางแบบ หรือแฟนตัวเองนั่นแหละมาถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ไอ้เราก็มาคนเดียวกว่าจะได้รูปวิวว่างๆ มันช่างยากแสนเข็ญ

หลังจากเดินชมนิทรรศการจบแล้ว ในความคิดของผมก็คือหมดแล้วไม่มีอะไรต่อแล้ว เท่าที่เห็นก็มีให้ชมกันไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ถึงจะเล็กไปบ้างแต่ก็เข้าใจเพราะว่าการจะมาปลูกทิวลิปสวยๆ ที่จังหวัดระยอง มองมุมไหนก็ไม่น่าจะทำได้ หรือทำได้ก็คงต้องใช้ทุนสูง แต่เมื่อเอาก๊าซเหลือๆ จากการคัดแยกก๊าซในโรงกลั่น ที่ปกติไม่มีประโยชน์อะไร มาเป็นพลังงานสร้างโดมควบคุมอุณหภูมิให้หนาว เรื่องยากก็กลายเป็นเรื่องง่ายอย่างที่เห็น แถมยังกำหนดวันบานของทิวลิปได้อีกต่างหาก จัดได้เท่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้วครับ แต่พอออกจากประตู กลับมีป้ายเขียนบอกว่าทางไปโดมดอกไม้เมืองหนาว พอเห็นก็เลยเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ก็มาโผล่ที่โดมนี้แหละครับ พอเข้ามาก็ตะลึงนิดหน่อย ภายในโดมกว้างมาก มีดอกทิวลิป ลิลลี่ Daffodill แล้วก็ไม้เมืองหนาวอีกหลายชนิดคนมาเที่ยวก็เต็มไปหมด ไม่รู้ว่าจะเริ่มถ่ายรูปจากมุมไหนเลย ก็ต้องมีการยืนคิดก่อนค่อยลงมือเก็บภาพไปทีละมุมๆ

ลิลลี่ทีเบอร์ขาว เอาละหลังจากตั้งสติได้แล้วว่าไม่มีทางถ่ายรูปมุมกว้างได้เป็นแน่เพราะคนอยู่กันเต็มโดมแบบนี้ ก็คงเหลือวิธีเดียวคือการถ่ายรูปมุมแคบลงมา ก็ต้องมีการเปลี่ยนเลนส์เกิดขึ้น เลือกหยิบเอาเลนส์เทเลมาตรฐาน ช่วงนิยม ออกมาใช้ แล้วค่อยๆ มองหามุมที่คนว่างๆ ที่จริงคนที่มาเที่ยวก็จะเดินไปเรื่อยๆ ทั่วทุกมุม ไม่มีมุมว่างตลอดเวลาหรอกครับ ต้องมีจังหวะของมัม อย่างมุมแรกตรงทางเข้าก็จะเป็นลิลลี่ขาวล้วนๆ ตกแต่งอย่างสวยงาม ก็มีคนเดินเข้าเดินออกสลับกันถ่ายรูปไปมา จนจังหวะเหมาะทีนี้ก็เป็นทีของเรา

ทิวลิปหลากสี เป็นส่วนที่จัดไว้ให้เหมือนกับทางเดิน คือมีทางให้เดินไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องย้อนกลับมาทางเดิม ข้างทางเดินเป็นทิวลิป ผสมกับ Daffodill หรือบางจุดก็มีลิลลี่ เป็นกลุ่มๆ จัดไว้อย่างสวยงามลงตัว ชอบสีไหนก็ถ่ายรูปสีนั้น หลายๆ จุดจะจัดให้เป็นทิวลิปปนกันหลายๆ สี ดูๆ แล้วก็สวยดี

กรอบรูปหัวใจทิวลิป หลังจากนั้นก็เดินมาทางขวามือ เป็นการเดินแบบชิดขวาไปเรื่อยๆ มาสะดุดเอากับมุมสำหรับถ่ายรูปสวยๆ 2 มุม มุมแรกเป็นฉากที่ทำด้วยไม้ ตกแต่งด้วยทิวลิปครบทั้ง 4 สี เป็นมุมมหานิยม ด้านหน้าของฉากสำหรับถ่ายรูปทิวลิปมีกรอบรูปให้เข้าไปยืนข้างหลัง เพื่อถ่ายรูปด้วยกรอบดอกทิวลิปที่สวยงาม มุมนี้แทบจะไม่เคยว่างตลอดทั้งวัน กว่าจะได้กรอบเปล่าๆ แบบนี้มา รอจนเหนื่อย

ท่ามกลางสวนทิวลิป เป็นอีกมุมหนึงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีแค่โต๊ะ 1 ตัว เก้าอี้ 1 ตัว แล้วที่เหลือล้อมรอบด้วยทิวลิป เหมือนว่านั่งอยู่กลางสวนทิวลิปสวยๆ เหมือนกับที่ใครหลายๆ คนใฝ่ฝัน การรอให้เก้าอี้ตัวนี้ว่างมันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน

ม้านั่งสำหรับภาพหมู่ จากมุมเก้าอี้สำหรับภาพเดี่ยว หรือภาพคู่ก็แล้วแต่ เดินตรงมาตามทางผ่านแปลงทิวลิปสีม่วง ขาว เหลือง เป็นแนวยาวตลอดทางเดินจนไปถึงสะพานสีขาว มีทางแยกเลี้ยวเข้าไปในซุ้ม มีม้านั่งยาวตัวสีขาว ด้านหลังเป็นกลุ่มทิวลิปเหลืองดอกโตๆ เป็นมุมนิยมสำหรับคนที่มาเป็นกลุ่ม นั่งได้ถึง 4 คน

โค้งทิวลิป เป็นมุมมหานิยมอีกมุมหนึ่งภายในโดมอันกว้างใหญ่ เพราะมุมนี้เป็นส่วนโค้งครึ่งวงกลม ล้อมรอบด้วยทิวลิปสีขาว เหมาะอย่างยิ่งที่ใครสักคนจะอาสาเป็นนางแบบเข้าไปนั่งอยู่กลางโดม ก่อนจะเดินมาถึงโค้งนี้จะผ่านสะพานสีขาว แต่ผมยังหามุมเหมาะๆ ที่จะเก็บภาพสะพานข้ามคลองที่ 2 ฝั่งคลองเป็นทิวลิปล้วนๆ ไม่ได้ ก็เลยต้องเดินมาตรงนี้ก่อน ต่อคิวกับคนที่มารอถ่ายรูปมุมเดียวกันอยู่สักพัก ก็ได้รูปนี้มาครับ

เคราฤๅษีรูปหัวใจ อีกด้านหนึ่งของโค้งทิวลิปขาว ฝั่งตรงข้ามของคลองสายเล็กๆ จะเป็นแนวทิวลิปมากมายทั้งริมคลองและอีกด้านหนึ่งของทางเดินเลียบคลอง เรียกว่าเป็นแนวทิวลิปซ้อนกัน 2 แนว หลังจากนั้นก็จะเป็นม้านั่ง ที่แน่นอนว่ามันไม่เคยได้ว่างเลย หลายๆ คนเดินมาเห็นม้านั่งตัวนี้ก็อยากจะเข้าไปนั่งเหมือนกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ จนถึงผู้สุงวัยก็ตามที เรียกได้ว่าที่นี่เป็นที่เที่ยวของทุกเพศทุกวัย

ม้านั่งเหงาๆ กลางดงทิวลิป ภาพแบบนี้ไหนเลยจะเคยคิดว่าจะมาถ่ายได้ที่ระยอง ดอกทิวลิปจำนวนมากมายเฉพาะที่เอามาให้ชมนี้ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของทั้งหมดเลย บรรยายภาพเล่าเรื่องจนเริ่มจะเหนื่อยแล้วครับ ภาพนี้ก็คือม้านั่งที่มันไม่เคยว่าง ภาพนี้ได้มาจากช่วงที่คนลุกขึ้นจากม้านั่ง แล้วคนที่รอคิวยังไม่เดินเข้ามา เป็นอันว่าจังหวะมันค่อนข้างฟลุ๊ค

เด็กๆ กับสวนทิวลิป เหมือนภาพในฝัน ถ้ามีเงินพอที่จะซื้อบ้านสวยๆ ในเมืองหนาวๆ ปลูกทิวลิปไว้ในสวน มีลูกๆ หลานๆ มาวิ่งเล่น แต่มันก็คงเป็นความฝันต่อไป เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำได้แบบนี้ หลายๆ ครอบครัวพาลูกๆ มาเที่ยวโดมทิวลิประยอง ผู้ใหญ่ไปถ่ายรูปกันส่วนเด็กๆ ดูเหมือนจะมีความสุขกับการได้เล่นท่ามกลางทุ่งดอกไม้สวยๆ มากกว่า

ทิวลิปริมคลอง

The Miracel of Natural Gas

แสนหวานกับทิวลิปสีชมพู ช่วงสุดท้ายของการเดินอยู่ในโดมทิวลิป จะเป็นประตูทางออก ก่อนจะถึงประตูนิดหน่อย เป็นพื้นที่สำหรับแปลงทิวลิปสีชมพูผสมกับสีขาว สีชมพูของทิวลิปเป็นสีชมพูอ่อน เรียกว่าเป็นสีที่หวานมากๆ เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่อย่างมาก ถ้าเปรียบเทียบจำนวนแล้ว ทิวลิปชมพูมีน้อยกว่าทิวลิปสีอื่น แล้วก็มีอยู่แปลงเดียว บางช่วงที่คนมามากๆ ก็จะพากันยืนบ้างนั่งบ้าง ล้อมแปลงทิวลิปเพื่อที่จะถ่ายรูปใกล้ๆ ดอกทิวลิป เล่นเอาคนที่อยากจะถ่ายรูปทิวลิปแบบไม่มีคนเดินรอบๆ อย่างผมต้องทำงานอย่างหนัก รอกันนานเลย แปลงทิวลิปสีชมพูเป็นแปลงที่ค่อนข้างยาว แต่ผมถ่ายรูปมาให้ชมกันช่วงเดียว เพื่อไม่ให้ติดคนที่มานั่งๆ ยืนๆ รอบๆ หลังจากภาพนี้แล้วก็คงไม่มีคำบรรยายอะไร บอกได้คำเดียวว่า ทิวลิประยอง สวยไม่แพ้ที่ใดในโลก หลายคนบอกว่าไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ เชียงรายก็ได้ มาถ่ายทิวลิปที่ระยองใกล้กว่าเยอะ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในโดม แล้วมีไม่มากเท่าเชียงรายก็เถอะ นอกจากภาพบรรยากาศแปลงทิวลิปแล้วผมมีภาพทิวลิปเดี่ยวๆ มาฝากหลายภาพ แต่ขอลงให้ชมเป็นภาพเล็กๆ ข้างล่าง ถ้าชอบก็คลิกให้มันขยายใหญ่ได้ครับ จบการนำเที่ยวโดมทิวลิป สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดระยองเอาไว้เท่านี้ครับ งานนี้จะมีการจัดงานแบบนี้ขึ้นอีกเรื่อยๆ ทุกปี เราจะติดตามข่าวมาอัพเดตให้ทุกปีนะครับ ว่าจะจัดวันไหนกันจ้า