ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานหาดใหญ่ 0 7423 1055, 0 7423 1055, 0 7423 8518
http://www.tourismthailand.org/hatyai
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
โบสถ์วัดพะโคะ เส้นทางจากสงขลา หลังจากที่เราเสร็จ งานบอลลูนนานาชาติที่หาดใหญ่ ก็เที่ยวต่อแถวๆ หาดใหญ่ก่อนที่จะเดินทางกลับมาพักที่ชุมพรสักคืน ระหว่างนั้นก็เลยหาที่เที่ยวระหว่างทางผ่าน พอดีวัดพะโคะตั้งอยู่ห่างจากสงขลาประมาณครึ่งชั่วโมง เคยแต่ไหว้หลวงปู่ทวดที่วัดช้างให้ คราวนี้มาไหว้ที่วัดพะโคะบ้างก็ไม่เลว
พอรถเลี้ยวเข้ามาในวัด สิ่งแรกที่เห็นคือโบสถ์หลังใหญ่สวยมาก เลยจอดที่หน้าโบสถ์แล้วเดินเข้าไป
โบสถ์วัดพะโคะสร้างอย่างสวยงามวิจิตรบรรจง แต่ปกติไม่ได้เปิดให้เข้าไปไหว้พระ ส่วนมากคนมาที่นี่ก็เดินไปไหว้หลวงปู่ทวดกันทั้งนั้น
โบสถ์หลังเก่า จากโบสถ์หลังใหม่ใหญ่โต เดินมาทางด้านข้างเราจะเห็นซากอิฐที่เหลือแต่สวนฐานของอาคารเก่าแก่ ซึ่งเป็นโบราณสถานของวัด วัดแห่งนี้ชื่อวัดราชประดิษฐาน แต่ชาวบ้านก็ยังเรียกกันว่าวัดพะโคะตามเดิม ตั้งอยู่ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
ประวัติความเป็นมาของวัด
เดิมวัดนี้ปรากฏว่าพระชินเสนเป็นผู้สร้างในราว พ.ศ.500 ชื่อว่าวัดพระราชประดิษฐาน ฝังวิสุงคามสีมา พ.ศ. 840 พระยาธรรมรังศัลเจ้าเมืองพัทลุง (สทิงพระรานสี) เป็นศาสนูปถัมภ์ สร้างถาวรวัตถุหลายอย่างเพราะเห็นความสำคัญของวัดพระพุทธบาทหรือวัดพระราชประดิษฐาน ครั้งต่อมา ระหว่าง พ.ศ. 2091-2111 พระยาดำธำรงกษัตริย์ (บางแห่งกล่าวว่าพระยาธรรมรังศัล) ได้นิมนต์พระมหาอโนมทัสสี พระณไสยมุย และ พระธรรมกาวา ให้ไปเอากระบวนพระมหาธาตุ เมืองลังกา และมาสร้างเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ สูงหนึ่งเส้นห้าวา ทำพระวิหารธรรมศาลา ทำอุโบสถ สร้างกำแพงสูงหกศอกระหว่างเขตสังฆาวาสที่พักสงฆ์อาศัยคือส่วนลดต่ำทางทิศตะวันตกของพื้นที่วัด ส่วนที่เป็นเนินสูงราบเป็นชั้นๆ พื้นที่วัดทางทิศตะวันออกเป็นเขตพุทธาวาส สถานที่ปลูกสร้างปูชนียวัตถุโบราณสถาน เช่น พระวิหาร พระพุทธไสยาสน์ พระเจดีย์ อุโบสถ ธรรมศาลา เป็นต้น และสร้างพระพุทธไสยาสน์ ชื่อว่าพระพุทธโคตมะ ตามความนิยมของชาวบ้านเรียกชื่อวัดตามชื่อพระโคตมะ ชื่อวัดพระราชประดิษฐาน เดิมไม่นิยมใช้เรียกกัน ครั้นต่อมา วัดพระโคตมะ เรียกเพื้ยนไปเป็นวัดพะโคะ ในกาลครั้งนั้น กษัตริย์หัวเมืองพัทลุง (สทิงพระ) และคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ทำฎีกาเข้าไปยังกรุงศรีอยุธยาขอทำกัลปนาต่อพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานที่กัลปนาแก่วัดวาอารามต่างๆ ในเขตหัวเมืองนครศรีธรรมราช และเมืองพัทลุง (ดังปรากฏว่าด้วยการพระราชทานที่กัลปนาสำเนาจากหนังสือเทศาภิบาลเล่ม ๑ ที่นำมาบางตอนพอเป็นสังเขปเกี่ยวกับพะโคะเท่านั้น)
วัดพะโคะขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 102 ตอนที่ 180 วันที่ 29 พฤศจิกายน 2528 หน้าที่ 135 มีพื้นที่ 4 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา มีชื่อทางราชการว่า วัดราชประดิษฐาน ตั้งอยู่บนเขาพะโคะ ซึ่งมีชื่อในประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาว่า เขาภิพัชสิง เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองเมืองในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา (เมืองสทิงพระเมืองพัทลุง) และศูนย์กลางชุมชนพุทธศาสนาในแถบนี้ พระราชมุนีหรือที่รู้จักกันในนามหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เคยเป็นเจ้าอาวาสและประจำอยู่วัดแห่งนี้
โบราณสถานที่สำคัญภายในวัดประกอบด้วย
1. เจดีย์ ได้รับการบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2525
2. ศาลาตัดสินความ
3. วิหารพระพุทธไสยาสน์
ศาลาตัดสินความ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวิหารที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และมีการปฏิสังขรณ์ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เคยใช้เป็นอาคารเรียนของวัดพะโคะ จนต่อมาพังลงจึงมีการสร้างอาคารเล็ก คลุม พระพุทธรูปประธานประจำวิหารไว้
พระพุทธไสยาสน์ จากนั้นเดินย้อนกลับไปทางโบสถ์ ด้านหลังของโบสถ์จะเห็นอาคารสีขาวหลังหนึ่ง นี่เป็นพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ที่อยู่คู่กับวัดพะโคะมานานแสนนาน
ด้านหลังของวิหารพระพุทธไสยาสน์ ก็มีเจดีย์เก่า ที่เริ่มจะเอียงไปตามกาลเวลา
พระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ สิ่งที่โดดเด่นอยู่กลางวัดสะดุดตาไม่แพ้โบสถ์ ก็คือเจดีย์องค์นี้ ที่มีฐานเป็นทางเดินรอบด้าน มุงหลังคายื่นออกมาทำให้เกิดเป็นรูปทรงที่ไม่เหมือนพระธาตุเจดีย์องค์ไหน
รอบฐานของเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปจำนวนมากทั้งสี่ด้าน
ไหว้หลวงปู่ทวด พอเดินลงบันไดจากพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีมหาธาตุ เราจะเห็นมณฑปจตุรมุข แล้วด้านหน้าสร้างศาลายื่นออกมา ที่นี่เป็นสถานที่ที่ชาวบ้านจะมากราบไหว้ขอพรหลวงปู่ทวดในมณฑป มากันแน่นทุกวันอย่างที่เห็น
กุฏิเจ้าอาวาส สถานที่สุดท้ายสำหรับวัดพะโคะในวันนี้ คือเข้ามาสักการะรูปเหมือนหลวงปู่ทวดและลูกแก้ว ในกุฏิเจ้าอาวาส สำหรับคนที่ศรัทธาจะหาเช่าบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดได้ในกุฏินี้ด้วย
ขอขอบคุณ กองประชาสัมพันธ์ภายในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำหรับทริปดีๆ ในวันนี้ครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ