ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานอุบลราชธานี โทร. 0 4524 3770, 0 4525 0714
http://www.tourismthailand.org/ubonratchathani
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
การเดินทางสู่สามพันโบก จากทางหลวงหมายเลข 2337 มาตัดกับทางหลวงหมายเลข 2112 เป็นทางแยกโขงเจียม-เขมราฐ ให้เลี้ยวขวามาทางโขงเจียม สักพักจะเห็นป้ายเลี้ยวเข้าหาดสลึง ให้ตรงไปทางโขงเจียมอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะเห็นป้ายเลี้ยวเข้าสามพันโบกอยู่ซ้ายมือ เมื่อเลี้ยวเข้าไปแล้วจะเห็นทางแยกมีป้ายบอกว่าทางไปสามพันโบกทั้งสองทาง
ทางหนึ่งเป็นทางลาดยาง ระยะทางสู่สามพันโบกประมาณ 3 กิโลเมตร สุดทางลาดยางมีร้านอาหารครัวน้องเบนซ์ มีห้องน้ำสะอาดดูดีกว่า แต่ต้องต่อรถสองแถวบริการของท้องถิ่นลงไปค่าบริการคนละ 20 บาท จากนั้นก็เดินไปถึงจุดยอดนิยมของสามพันโบกระยะทางเกือบๆ กิโลเมตร
อีกทางหนึ่งเป็นทางลูกรัง ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ไปสุดที่ลานกางเต็นท์และครัวสามพันโบก และเดินลงไปยังจุดยอดนิยมของสามพันโบกได้ใกล้กว่าประมาณ 200-300 เมตร
การเดินทางสู่สามพันโบกโดยทางเรือ สามารถจอดรถที่หาดสลึงแล้วล่องเรือมาจอดที่ท่าสามพันโบกได้ค่าบริการประมาณ 700-1000 บาทต่อลำ (สอบถามได้ที่ อาจารย์เรืองประทิน โทร.081-999-0298) ก็แล้วแต่ว่าจะเลือกวิธีไหนครับ ส่วนทัวร์ออนไทยขอเลือกทางรถ (แบบถนัดของเรา) มาตามเส้นทางลูกรัง (เพราะเดินใกล้กว่า)
ร้านค้าบริการสามพันโบก เมื่อเดินทางมาถึงตรงนี้ก็เป็นลานจอดรถมีลานกางเต็นท์บริการ มีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ (ติดต่อได้ที่ อาจารย์เรืองประทิน โทร.081-999-0298) ส่วนซุ้มที่เห็นในรูปเป็นร้านของที่ระลึกสามพันโบก จากนั้นก็ต้องเดินลงไปทางเดินลงทำเป็นขั้นๆ ด้วยยางรถแบบง่ายๆ นี่แหละอีกไม่ไกลก็ถึงจุดชมวิวยอดนิยมของสามพันโบกแล้ว
ก้าวแรกในแม่น้ำโขง สามพันโบกผลิตผลของธรรมชาติที่เกิดจากการพัดพาทรายจำนวนมากมารวมกันและจับกันเป็นก้อนหินทรายขนาดใหญ่มหึมาและกินพื้นที่กว้างขวางหลายไร่ หินเหล่านี้ซ้อนกันจนสูงใหญ่เมื่อยามน้ำลดแต่กลับมองไม่เห็นเมื่อยามน้ำเต็มตลิ่ง ฤดูกาลท่องเที่ยวของที่นี่คือช่วงน้ำลดจนเห็นสามพันโบกเป็นแอ่งน้ำน้อยใหญ่ปรากฏอยู่ทั่วไป กับยามน้ำขึ้นเต็มที่คือช่วงเทศกาลลอยกระทงเท่านั้น
สามพันโบก รอยแยกของสายน้ำ ตรงบริเวณนี้เป็นร่องน้ำขนาดใหญ่พอสมควรเมื่อยามน้ำขึ้นสูงน้ำในแม่น้ำโขงจะไหลเชื่อมถึงกันกับร่องน้ำนี้ เมื่อยามน้ำขึ้นสูงสุดก็จะมองไม่เห็นว่าแม่น้ำมีร่องน้ำสายเล็กๆ แยกตัวออกจากกัน เบื้องหน้ายังสามารถมองเห็นสายแม่น้ำโขงขนาดใหญ่ไหลผ่านไปยังอีกทางหนึ่ง ด้านซ้ายมือมีก้อนหินก้อนหนึ่งลักษณะคล้ายหัวสุนัข เป็นจุดที่นิยมมากจุดหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่นี่
สามพันโบก หน้าต่างมองท้องฟ้า ตรงบริเวณนี้ถูกกัดเซาะลึกลงไปและมีโพรงขนาดใหญ่อยู่ข้างล่างจนสามารถเข้าไปถ่ายรูปคนที่อยู่ข้างบนได้ เห็นคนตัวแค่นี้คงพอจินตนาการได้ว่าโพรงใหญ่แค่ไหน
วิวมุมกว้างของ 3000 โบก บริเวณหินหัวสุนัขของ 3000 โบก มีลักษณะเป็นร่องน้ำกว้างและยาว ดูเหมือนเป็นคลองสายหนึ่งขนานกับแม่น้ำโขง หินตะปุ่มตะป่ำ กินเนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาลและยังสามารถเดินต่อไปได้อีกเรื่อยๆ เป็นลักษณะที่เราจะหาชมที่ไหนได้ยาก ที่จะเหมือนกับ 3000 โบกแห่งนี้
สามพันโบก หินหัวสุนัข การเที่ยวชมสามพันโบกส่วนมากนักท่องเที่ยวจะนิยมเดินทางมายามเย็นหรือเช้า เพราะแสงสีของธรรมชาติจะช่วยทำให้แก่งหินและแอ่งน้ำที่เรียกว่า โบก น้อยใหญ่เหล่านี้สวยงามโดดเด่นขึ้นได้
สามพันโบก สีสันบนท้องฟ้าสะท้อนลงบนผิวน้ำในร่องน้ำที่ถูกแยกออกจากสายน้ำใหญ่ของแม่น้ำโขงเมื่อยามน้ำลด จนน้ำในร่องน้ำนี้นิ่งสนิท แก่งหินขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบทำให้ลมพัดผิวน้ำได้น้อย จนไม่มีการกระเพื่อม กระจกเงาผิวน้ำนี้จึงสะท้อนแสงสีต่างๆ บนท้องฟ้าได้ดีมาก
พระสงฆ์เยือน 3000 โบก ในระหว่างที่เดินชมความสวยงามตามธรรมชาติ เราจะได้เห็นภาพของผู้มาเยือน 3000 โบก นอกจากจะเป็นนักท่องเที่ยวแล้วก็อาจจะมีพระสงฆ์ที่ผ่านมาศึกษาและพักผ่อน หรือ 3000 โบกสตูดิโอ ปัจจุบันสามพันโบกได้กลายมาเป็นสตูดิโอสำหรับถ่ายภาพที่ไม่เคยขาดลูกค้าที่มาใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะภาพคู่รักในชุดแต่งงาน ซึ่งแน่นอนว่าจะได้ฉากอลังการอย่างไม่มีใครเหมือน
สามพันโบกยามอัสดง เวลาที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากรอคอยเพื่อให้ได้สีสันมาตกแต่งภาพให้สวยยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพหลายคนต้องเดินทางมาที่สามพันโบกแห่งนี้มากกว่าหนึ่งครั้งเพื่อให้ได้ภาพสวยงามสมกับความต้องการ
วิวสวย 3000 โบก นอกเหนือไปจากการเดินชมแอ่ง หรือ โบก ที่มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในพื้นที่หลายไร่ บางทีก็อาจจะเดินไปยืนอยู่ริมผาหินเหนือแม่น้ำโขง 3000 โบก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ฝั่งไทย แต่ไม่ได้หมายความว่า อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำโขงซึ่งเป็นฝั่งลาวจะไม่มีโขดหิน และแอ่งน้ำ เพียงแต่ไม่สวยงามเท่ากับที่ฝั่งไทยเท่านั้นเอง
แผนที่ประเทศไทย 3000 โบก จุดเด่นอีกอย่างของสามพันโบก ที่มีหลายคนเล่าขานว่าร่องน้ำแห่งนี้มีรูปร่างคล้ายแผนที่ประเทศไทยมาก โดยจินตนาการส่วนที่เห็นนี้เป็นภาคใต้ ส่วนที่ไกลออกไปเป็นภาคเหนือและภาคอิสาน มุมนี้อาจจะมองเห็นภาคเหนือและภาคอิสานได้เล็กไปหน่อยที่ของจริงไม่เล็กนะครับ นอกจากนี้ยังมีส่วนหนึ่งยื่นออกมาเหมือนภาคตะวันออกด้วย แต่ต้องถ่ายจากบนฟ้าจึงจะเห็นได้ครบ
สามพันโบกมิกกี้เมาส์ หนึ่งโบก (แอ่ง) ในหลายๆ โบกมีรูปร่างแปลกแตกต่างกันออกไป ส่วนแอ่งน้ำตรงนี้มีรูปร่างเหมือนหัวของมิกกี้เมาส์ หรือจะเรียกว่าโบกแพนด้าก็ได้อินเทรนด์ดี ถ้ามองกันตรงๆ มันก็ไม่เหมือนซะทีเดียวต้องมีมุมกล้องและมุมในการยืนเข้ามาช่วยซะหน่อย การเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติมันต้องอาศัยจินตนาการอย่างมากเหมือนกันนะ
ใกล้ค่ำที่สามพันโบก ถึงเวลาแล้วที่จะเก็บนาทีทองแสงสีสันจากธรรมชาติในเวลาที่อาทิตย์ลับขอบฟ้าทิ้งแสงสีต่างๆ เอาไว้ให้ชื่นชม แต่ก็มีการใช้เอฟเฟกจากกล้องมาช่วยด้วยจะได้สวยงามยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวหลายๆ คนจะเดินจากสามพันโบกไปเรื่อยๆ และเดินทางกลับ หลายคนก็เลือกที่จะอยู่รอลุ้นความงามของธรรมชาติที่สามพันโบกนี้ในเข้าวันรุ่งขึ้น เหมือนๆ กับเรา
สายน้ำสวยๆ ที่สามพันโบก เนื่องจากสามพันโบกเป็นแอ่งหินที่เกิดบนหิน และหินเหล่านี้ก็เกิดจากการสะสมของทรายมาเป็นเวลานาน นอกจากจะเกิดเป็นแอ่งน้ำรูปร่างต่างๆ แล้ว ยังมีการกัดเซาะเป็นทางยาวๆ หลายเมตรบนพื้นผิวหิน
แสงสุดท้ายในหนึ่งโบก สมกับชื่อที่ตั้งขึ้นมาว่าสามพันโบก แอ่งน้ำน้อยใหญ่ที่ถูกกักไว้บนผิวหินจำนวนมากมาย หลายแห่ง รูปร่างแตกต่างกันไป ในแต่ละช่วงเวลาแต่ละแอ่งก็สวยงามต่างกันไปสุดแท้แต่นักท่องเที่ยวจะเก็บเกี่ยวเอามาเป็นภาพถ่ายหมดเวลาของวันนี้ก็มารอลุ้นกันใหม่เผื่อว่าจะเจอแสงสีที่แตกต่างกันออกไป
หินหัวสุนัขช่วงหัวค่ำ
เช้านี้ที่ 3000 โบก จากการสอบถามร้านครัวสามพันโบกซึ่งเป็นร้านอาหารประจำอยู่ที่นี่ได้ความว่าที่สามพันโบกจะมีช่วงเช้าที่สวยงามพระอาทิตย์ขึ้นดวงกลมโตส่องแสงสีส้มไปทั่วท้องฟ้า แต่วันนี้คงไม่ใช่วันของเรา ก่อนหน้านี้ก็มีมรสุมเข้ามา มีเมฆฝนบ้างเล็กน้อยบางช่วงของวัน สำหรับช่วงเช้าเมฆมาก เห็นดวงอาทิตย์เพียงนาทีเศษๆ และแสงสว่างก็ยังไม่มากพอ ทีมทัวร์ออนไทยกางเต็นท์รอที่ระเบียงครัวสามพันโบกเพราะสะดวกในการหลบฝนและมีห้องน้ำใกล้ดีสะดวกสบายทุกด้าน แม้ว่าที่นี่จะมีลานกางเต็นท์ใต้หลังคาให้แต่เราก็คิดว่ากางที่ครัวสามพันโบกซะเลยง่ายกว่า ตื่นขึ้นมาตี 5 10 นาที ตามนาฬิกาที่ตั้งไว้ แต่สิ่งที่ผิดคาดไปมากก็คือ ตี 5 แสงสว่างเจิดจ้าเหมือนช่วง 7 โมงเช้า ที่กรุงเทพฯ ตกใจมากเลย รีบล้างหน้าหยิบอุปกรณ์ตรงดิ่งลงมาที่สามพันโบก รออยู่พักใหญ่ก็เห็นดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมาและหายไปในกลีบเมฆอย่างรวดเร็ว ภาพนี้จึงเป็นภาพที่ดีที่สุดของเรา เอาไว้คงได้มีโอกาสแก้มือใหม่
ทั้งนำเที่ยวทั้งหาปลา วิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ริมน้ำโขงหลายครอบครัวหาปลาอยู่กับน้ำ เมื่อสามพันโบกกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว เรือหาปลาก็ถูกดัดแปลงเป็นเรือโดยสาร หารายได้อีกทางหนึ่ง ส่วนยามว่างโดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นของทุกๆ วันที่ไม่มีนักท่องเที่ยวจะเที่ยวแบบล่องเรือแล้ว ก็ออกจับปลาตามปกติ ที่นี่นอกจากจะมีเรือนำเที่ยวล่องไปตามแม่น้ำโขงยังสถานที่ต่างๆ แล้ว ในส่วนที่เป็นร่องน้ำขังอยู่นิ่งๆ ที่เรียกกันว่าแผนที่ประเทศไทยนั้นก็มีเรือนำเที่ยวน้ำนิ่งอยู่ด้วยราคาลำละ 300 บาท
สามพันโบก สระมรกต บนลานหินที่สูงมากแห่งหนึ่งของพื้นที่แก่งหินที่เหมือนแกรนด์แคนยอนเมืองไทย มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่มากๆ กว้างกว่า 10 เมตรเรียกขานกันว่าสระมรกต เป็นสระที่ห้ามลงเล่นน้ำ โดยส่วนตัวแล้วถึงไม่ห้ามก็ไม่ค่อยจะกล้างลงไปเท่าไหร่ เพราะรูปร่างหินที่เรามองเห็นยังมีโพรงเล็กโพรงน้อยสลับซับซ้อน แล้วใต้น้ำที่เรามองไม่เห็นละ? หากลงไปติดอยู่ตามซอกหินเหล่านั้นคงยากที่จะขึ้นมาได้ สระนี้ใหญ่ขนาดไหนก็เลยเดินเข้าไปเทียบให้เห็นกันชัดๆ
สามพันโบก บานกระจกน้ำ เป็นการหักเหและสะท้อนเงาของแสงบนผิวน้ำอย่างลงตัว ที่ในโบกนี้อาจจะยังไม่เห็นกันได้บ่อยนักในเว็บอื่นๆ แต่เราบังเอิญไปเห็นเลยเอามาให้ดูกันเล่นๆ กว่าจะหาที่นั่งให้หน้าเราพอดีกับช่องหินที่สะท้อนในน้ำขยับกันหลายทีอยู่
โพรงหินกับท้องฟ้า สภาพแสงวันนี้หามุมที่จะทำให้ท้องฟ้าดูเด่นๆ สีท้องฟ้าให้ฟ้ามากๆ นั้นค่อนข้างยาก อย่างที่บอกว่าหลายคนต้องไปหลายครั้งกว่าภาพจะถูกใจ
ร้านค้าท่าน้ำสามพันโบก ในช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวมากันมากๆ ชาวบ้านในพื้นที่ก็มาขายของโดยการสร้างกระท่อมง่ายๆ ริมท่าน้ำมีอยู่หลายหลัง วันที่นักท่องเที่ยวน้อยก็จะเห็นเพียงกระท่อมว่างเปล่ายามน้ำขึ้นก็รื้อออกได้ง่ายๆ
อู่จอดเรือสามพันโบก หินทรายอันเกิดจากการสะสมก่อตัวของทรายทีละเล็กทีละน้อยส่วนมากจะเปราะ ถึงเวลาก็อาจจะแตกแยกออกจากกันได้ง่าย และรอยแยกเหล่านี้ก็ใหญ่พอที่จะจอดเรือได้อย่างที่เห็นนี่ละ
ท่าเรือสามพันโบก เป็นท่าเรือที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสามพันโบกชมธรรมชาติสองฝั่งโขง ไปได้หลายๆ แห่งด้วยกัน ที่ได้รับความนิยมมากหน่อยก็เป็นปากบ้อง ส่วนที่แคบที่สุดของลำโขง กว้าง 56 เมตร นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากรายละเอียดคลิกไปอ่านได้ที่หาดสลึง และสำหรับนักท่องเที่ยวที่จอดรถที่หาดสลึงแล้วเดินทางมาสามพันโบกโดยทางเรือก็จะลงที่นี่และเดินทางกลับที่นี่
บ้านพักนายท้ายเรือ ระหว่างนักท่องเที่ยวลงจากเรือไปเดินชมสามพันโบก คนขับเรือก็จะมีที่พักผ่อนรอเวลาเดินทางกลับ วิธีสร้างบ้านพักก็ง่ายๆ แบบนี้ มีเพียงหลังคากับหินขนาใหญ่ 2 ก้อนก็พอแล้ว
ไม้ค้ำ แทบจะทุกสถานที่ที่มีหินลักษณะเป็นซอกลึกเข้าไปใต้หินอย่างที่เห็นนี้ ก็จะมีการเอาไม้ไปค้ำไว้ตามความเชื่อของนักท่องเที่ยว ผาหินขนาดใหญ่นี้จึงมีไม้ค้ำอยู่เป็นจำนวนมาก
ลานกางเต็นท์ของเรา ระเบียงครัวสามพันโบก ลานกางเต็นท์พร้อมจุดชมวิวที่มองเห็นสามพันโบกได้ทั่วบริเวณ หากจะชมพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้ พอดีวันที่เราไปสภาพอากาศแปรปรวน ฟ้าแลบตลอดเวลากลัวว่าฝนจะตกเลยขอกางเต็นท์ระเบียงร้าน พอตกดึกก็เป็นไปตามคาดมีฝนตกลงมา เราก็แค่ยกเต็นท์เข้าไปใต้หลังคาของร้าน สบายๆ ขอขอบคุณครัวสามพันโบกที่เอื้อเฟื้อสถานที่มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ