ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานอุบลราชธานี โทร. 0 4524 3770, 0 4525 0714
http://www.tourismthailand.org/ubonratchathani
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
อีกหลายเหตุผลที่คนจะไปเที่ยวผามออีแดง หลังจากที่ด่านข้ามพรมแดนเพื่อเข้าไปชมปราสาทเขาพระวิหารได้ถูกปิดลง ผามออีแดงกับอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารแทบจะไม่มีใครผ่านแวะเวียนเข้ามาเที่ยวผิดจากที่เคยคึกคักมาก หลายคนคิดว่าเมื่อไปเที่ยวเขาพระวิหารไม่ได้ที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้เที่ยว แม้แต่เราเองก็เหมือนกันแต่ก็นั่นแหละทำให้เป็นที่มาของการเดินทางในวันนี้ที่เราจะได้หาคำตอบให้ตัวเองว่าถ้าไปเขาพระวิหารไม่ได้แล้วเราจะมีอะไรให้ทำอีกบ้างที่ผามออีแดง และเป็นที่มาของรีวิวเรื่อง "อีกหลายเหตุผลที่คนจะไปเที่ยวผามออีแดง" ที่เราพยายามจะบอกเล่าสู่คนเดินทางรุ่นต่อๆ ไป
เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามเราวางแผนที่จะนอนบนผามออีแดงติดต่ออุทยานฯ จากนั้นก็เตรียมอุปกรณ์ในการแคมปิ้งมานอนที่นี่อุทยานมีลานกางเต็นท์ให้ไม่ไกลจากจุดชมวิวเช้ามาก็เดินชิลๆ เอากล้องกับขาตั้งไปถ่ายรูปรอพระอาทิตย์ขึ้น หน้าฝนเรื่องพระอาทิตย์ขึ้นต้องเผื่อใจไว้หน่อยบางวันเราอาจจะไม่ได้เห็นแต่เรื่องหมอกละก็มีแน่แต่จะมากจะน้อยก็อีกเรื่อง
เช้าวันนี้ลมค่อนข้างแรงใช้ได้หมอกไหลไปรวมกันทางทิศตะวันออกถ้าถ่ายรูปตรงหน้าผาเราจะเห็นหมอกสีขาวแน่นมากเป็นภาพที่สวยมากคุ้มมากที่เราได้มานอนรอทั้งคืนถ้าอยากเห็นวิดีโอก็คลิกดูคลิปข้างบนนะ หลังจากที่ทางเดินข้ามไปปราสาทเขาพระวิหารถูกปิดที่นี่เงียบเหงาคนมาเที่ยวน้อย แม่ค้าที่เคยมาขายของอยู่ตามร้านค้าก็หายไปหมดแต่ยังพอมีให้เราได้ซื้อกาแฟกินได้บ้าง ส่วนเจ้าหน้าที่ยังคงทำงานอยู่ที่นี่คอยดูแลนักท่องเที่ยวให้เราอุ่นใจได้ไม่วังเวงอย่างที่คิด ถ้าไม่ค้างที่อุทยานฯ ค้างในเมืองแล้วขับขึ้นมาแต่เช้าก็ได้มีคนทำอยู่เหมือนกัน วันนี้เห็นวัยรุ่น 2-3 กลุ่มขับขึ้นเขามาแต่เช้า เค้าก็แปลกใจเหมือนกันที่มาเจอเราบนเขาเลยบอกเค้าว่าเรานอนบนนี้ ทุกวันนี้คนที่คิดว่าจะมานอนบนผามออีแดงคงน้อยเต็มที 555
ผามออีแดง จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวถ้าเราเดินต่อไปเรื่อยๆ ตามแนวผา เราจะเห็นหมอกในหุบเขาข้างล่างตลอดทางเดินไปเรื่อยๆ เราก็จะเห็นป้ายที่เขียนว่าผามออีแดงที่หลายๆ คนต้องมาถ่ายรูปที่นี่เพื่อโพสบอกชาวโลกว่าเรามาถึงแล้ว
เดินต่อไปเรื่อยๆ เราก็จะเห็นพระพรหมตั้งตระหง่านระหว่างทางต้นไม้ร่มรื่นดี ทางเดินก็สบายทำไว้อย่างดี มีสระบัวเล็กๆ ให้มีเวลานั่งถ่ายมาโครภาพดอกบัวบนเขาด้วย บริเวณพระพรหมนี้จะมีทางเดินไปดูปราสาทเขาพระวิหาร มีทางเดินลงไปที่หน้าผาดูภาพสลักนูนต่ำ และสลักลายเส้นอายุ 1500 ปี ด้วย
ปราสาทเขาพระวิหารที่เราจะเห็นจากผามออีแดงตอนเช้าๆ หมอกขาวๆ ลอยคลุมปราสาทจนมองเห็นแต่ป่าเขาสีเขียวๆ เส้นทางนี้เคยเป็นทางเดินเข้าไปเที่ยวปราสาทเขาพระวิหารได้ แต่ตอนนี้เราจะเดินไปได้ถึงตรงสถูปคู่ (สถูปหินทรายสีแดงเล็กๆ ในรูป) พอสายหน่อยหมอกเริ่มจางเราก็จะเห็ปราสาทเขาพระวิหารได้ชัดขึ้น
ทางเดินลงไปชมภาพสลักนูนต่ำเป็นบันไดไม้ สร้างได้อย่างแข็งแรงมั่นใจในการเดิน ลักษณะเหมือนภูทอกที่บึงกาฬเสียวๆ ดีเหมือนกันเพราะทางลงมันชัน เดินลงไปไม่ไกลมากมายแค่ไม่กี่เมตรก็สุดบันไดเป็นทางเดินเรียบๆ ไปตามหน้าผาถ้าอยากได้ภาพสวยๆ คงต้องมาเช้าเหมือนเราจะได้ถ่ายภาพแกะสลักนูนต่ำกับสายหมอกฟินไปเลย
ภาพสลักนูนต่ำ ผามออีแดง เพื่อรักษาให้ภาพแกะสลักนูนต่ำที่หน้าผาแห่งนี้ไม่ให้ถูกคนมือบอลมาขีดเขียนเจ้าหน้าที่ก็ทำลูกกรงเหล็กปิดเอาไว้ทำให้เราได้ดูแต่ห่างๆ ไม่งั้นภาพสลักล้ำค่านี้คงกลายเป็นชื่อคนไปหมดแล้ว แต่จุดที่เราเดินมาถ่ายรูปตรงนี้ก็ถือว่าชัดเพียงพอแล้วละ ได้เห็นภาพแกะสลักหน้าผาเก่าแก่และยังสมบูรณ์ได้ขนาดนี้บอกเลยว่าดีใจมาก แล้วยิ่งมีหมอกหนาๆ ลอยขึ้นมา เสียดายแค่พระอาทิตย์โดนเมฆบังซะหมดถ้ามีพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ มุมนี้ มันจะกลายเป็นภาพที่ภาคภูมิใจมากบอกเลย ภาพสลักนูนต่ำ เป็นภาพแกะสลักบนผนังผาหินทรายรูปบุคคล 3 คน สันนิษฐานกันว่าสร้างในช่วงศตวรรษที่ 11 (ก่อนสร้างปราสาทเขาพระวิหารซะอีก) นอกจากภาพแกะสลักที่นูนออกมาจากหน้าผา ยังมีภาพสลักลายเส้นของพระนารายณ์อวตารปางวราหาวตารมีอายุถึง 1,500 ปีเลยทีเดียว
สถูปคู่ หลังจากที่ถ่ายรูปภาพแกะสลักนูนต่ำแล้วเดินขึ้นบันไดย้อนกลับขึ้นมาข้างบนเดินตามลูกศรที่ชี้ไปทางสถูปคู่ เห็นเป็นสถูปอยู่ลิบๆ นึกว่าจะไกลพอเดินเข้าจริงๆ มันนิดเดียวเองนิ ฟังจากเจ้าหน้าที่เล่าดูเหมือนว่าสถูปคู่นี้ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด สร้างในสมัยศตวรรษที่ 11 เชียว
สถูปคู่ ลักษณะเป็นสถูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ยอดแหลมรูปดอกบัวตูมศิลปบาปวน ประมาณศตวรรษที่ 11 กว้าง 1.93 เมตร สูง 4.2 เมตร สร้างด้วยหินทรายสีแดง เชื่อว่าสถูปคู่น่าจะเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ คล้ายศิวลึงค์คู่กับโยนี หรือเรียกภาษาง่ายๆ ว่าจะเป็นสถูปตาสถูปยาย เพราะศิวลึงค์กับโยนีเป็นของคู่กันตามความเชื่อ ทุกชีวิตล้วนเกิดมาจากศิวลึงค์และโยนีจึงน่าจะหมายถึงความอุดมสมบูรณ์นั่นเอง
แหล่งตัดหินสร้างปราสาทเขาพระวิหาร จากสถูปคู่เดินมาอีกหน่อยเราจะเห็นบริเวณที่ชาวขอมโบราณตัดหินทรายเอาไปสร้างปราสาทเขาพระวิหาร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปราสาทเขาพระวิหารเค้าเอาหินใหญ่ๆ มาจากไหน ถ้าไม่เคยเห็นรอยตัดหินตรงนี้เราก็งงเหมือนกัน แต่ถึงจะได้เห็นว่าใกล้ๆ สถูปคู่เป็นแหล่งที่เค้าตัดเอาหินทรายไปทีละก้อนๆ จนสร้างเป็นปราสาทใหญ่โตจนไม่อยากเชื่อว่าเป็นฝีมือของคนโบราณที่ไม่มีเครื่องมือทันสมัยมาช่วย แต่พอมายืนดูจุดที่ตัดหินถึงจะรู้ว่าหินที่สร้างปราสาทเอาไปจากตรงนี้แน่ๆ แต่ก็ยังไม่หายข้องใจว่าเค้าตัดเอาหินเป็นก้อนสี่เหลี่ยมจากเขาหินนี้ได้ยังไง เอาอะไรมาตัด เอาอะไรมาเซาะ ให้เป็นเหมือนน้ำแข็งก้อนได้ขนาดนี้ คำถามนี้ยังคงต้องรอการพิสูจน์หาคำตอบกันต่อไป
เดินเที่ยวทั่วผามออีแดงมาหลายจุดแล้ว ต่อไปคือการเดินกลับไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ถ้าเตรียมเสบียงอย่างพวกมาม่ามาก็จัดการต้มด้วยเตาแก๊สสนามได้ แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมาขับลงจากอุทยานไปไม่ไกลมีร้านข้าวราดแกงคอยบริการ ไม่ต้องกังวล ระหว่างที่เราเดินกลับเมฆหมอกและแสงแดดก็จะเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ ได้ภาพตอนขากลับอีกเพียบ สวยคนแบบกับขาไปอีกด้วย
ปิดท้ายการพาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารและผามออีแดง ไว้เท่านี้ก่อน มีอะไรใหม่ๆ หรือมีภาพสวยๆ กว่านี้จะเอามาให้ชมกันใหม่ ภาพท้ายๆ เป็นภาพชุดที่ถ่ายตั้งแต่สมัยเข้าไปเที่ยวปราสาทเขาพระวิหารได้ เอาไว้ดูเป็นที่ระลึก แค่ที่เอามาให้ดูกันนี่ก็น่าจะบอกได้แล้วว่า เขาพระวิหาร และผามออีแดง ยังมีอะไรที่น่าสนใจและสวยงามอีกเยอะไม่จำเป็นต้องมองว่ามาผามออีแดงเพื่อที่จะข้ามไปปราสาทเข้าพระวิหารก็ได้ สำหรับเราแล้วเราว่ามาผามออีแดงเพื่อที่จะเที่ยวผามออีแดงก็ฟินล้าวว ไหนจะอีกหลายจุดที่เรายังไม่ได้เข้าไปวันนี้ แต่บอกเลยว่าคราวหน้ามาต้องลุยให้ครบ มีน้ำตก มีจุดชมวิว มีเส้นทางชมกล้วยไม้ ด้วยนะ แต่วันนี้เตรียมตัวมาน้อยไปขอกลับไปตั้งหลักใหม่ แล้วคงต้องมานอนสัก 2 คืนจะได้เที่ยวได้ทั่วกว่านี้ แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวการเดินทางของทัวร์ออนไทย
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานอุบลราชธานี และ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร คร้าบ
ปราสาทเขาพระวิหาร
ปราสาทเขาพระวิหาร
วิวบนปราสาทเขาพระวิหาร
"วันนี้ถึงเราจะเข้าไปเที่ยวปราสาทเขาพระวิหารไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จะไม่เหลืออะไรให้เราเที่ยว ลองอ่านบทความรีวิวเรื่องนี้แล้วชั่งใจดูว่า ที่นี่ยังน่าเที่ยวอย่างที่เราพูดจริงหรือเปล่า"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-06-15 20:41:11
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ