พระธาตุเรณู

พระธาตุเรณู ประดิษฐานอยู่วัดพระธาตุเรณู ณ บ้านเรณูนคร องค์พระธาตุจำลองมาจากองค์พระธาตุพนมองค์เดิม แต่มีขนาดเล็กกว่า สร้างเมื่อปี พ. ศ. 2461 โดยพระอุปัชฌาย์อินภูมิโย สูง 35 เมตร กว้าง 8.37 เมตร มีซุ้มประตู 4 ด้าน ภายในเป็นโพรงบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน ของมีค่า และเครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยาและเจ้าเมือง นอกจากนี้ภายในโบสถ์ยังประดิษฐานพระองค์แสน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำศิลปะแบบลาว ปางสมาธิ พระคู่บ้านของอำเภอเรณูนคร มีพุทธลักษณะสวยงามมาก

การเดินทาง จากสถานีขนส่ง ยังไม่มีรถจากอำเภอเมืองฯ ไปอำเภอเรณูนครโดยตรง ต้องขึ้นรถสายที่ไปวัดพระธาตุพนม และลงตรงแยกบ้านหลักศิลา จากนั้นเหมารถสกายแล็ปเข้าไปที่วัด ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร

หากเดินทางโดยรถยนต์ พระธาตุเรณูอยู่ห่างจากพระธาตุพนม 15 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัดนครพนมไปทางใต้ 51 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 212 ถึงประมาณกิโลเมตรที่ 44 เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 2031 อีกประมาณ 7 กิโลเมตร ทางลาดยางตลอด

บริเวณนี้แต่เดิมเป็นเรณูนคร ถิ่นที่อยู่ของชาวผู้ไทย ซึ่งยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นไว้เป็นอย่างดี อาทิ ธรรมเนียมการต้อนรับด้วยการบายศรีสู่ขวัญ การเลี้ยงอาหารแบบพาแลง การชวนดูดอุ การฟ้อนรำผู้ไทย นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกต่างๆไว้บริการนักท่องเที่ยวและประชาชนจากจังหวัดใกล้เคียงอีกมากมาย โดยเฉพาะบริเวณวัดพระธาตุเรณูนคร และตลาดอำเภอเรณูนคร

การฟ้อนผู้ไทยนับเป็นการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมแบบพื้นเมืองอย่างหนึ่งของชาวผู้ไทยที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน จากบรรพบุรุษของชาวเผ่าผู้ไทย ในสมัยก่อนเรียกการฟ้อนรำแบบนี้ว่า "ฟ้อนละครไทย" เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความสามัคคีในหมู่คณะเดียวกัน โดยการจับกลุ่มเล่นฟ้อนกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานนครพนม (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) 0 4251 3490-1
http://www.tourismthailand.org/nakhonphanom

แก้ไขล่าสุด 2016-04-22 19:56:20 ผู้ชม 20576

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

วัดพระธาตุเรณู ในการเดินทางมาสักการะองค์พระธาตุเรณู วัดพระธาตุเรณู ณ บ้านเรณูนคร ของเราในวันนี้เป็นการตั้งใจอย่างมาก เพราะหลายๆ ครั้งที่ได้เดินทางมายังจังหวัดนครพนมเราจะสักการะพระธาตุพนม ซึ่งเป็นพระธาตุประจำจังหวัด และหลังจากนั้นเวลาก็ไม่เอื้ออำนวยให้ทีมงานได้แวะที่พระธาตุเรณู เมื่อมีโอกาสได้กลับมาที่นครพนมอีกครั้งจึงมุ่งหน้ามายังพระธาตุเรณูทันที สิ่งที่เราได้เห็นที่นี่ทำให้เรามีความรู้สึกว่า พระธาตุเรณูช่างมีความคล้ายกันกับพระธาตุพนมอย่างมาก เพียงส่วนของความสูงต่างกัน ลวดลายสวยงามวิจิตรบรรจงบนองค์พระธาตุแลดูคล้ายกัน บริเวณลานทักษินรอบองค์พระธาตุมีพื้นที่ไม่กว้างเท่าพระธาตุพนม หากเข้าไปด้านในแล้วต้องอาศัยเลนส์มุมกว้างและทำให้รูปทรงขององค์พระธาตุเพี้ยนไปตามมุมกล้องครับ

พระธาตุเรณู ในช่วงเวลาพลบค่ำมีแสงสว่างจากขอบฟ้าเหลือไม่มากเรียกกันว่าเวลาโพล้เพล้ เป็นช่วงที่จะทำให้เห็นองค์พระธาตุเรณูได้สวยมากช่วงหนึ่งครับ หลังจากที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วทางวัดพระธาตุเรณูจะเปิดไฟส่ององค์พระธาตุทำให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น

พระธาตุเรณูก่อนจะมืด ย้อนกลับมาช่วงก่อนที่วัดจะเปิดไฟส่ององค์พระธาตุครับ อยากให้สังเกตุที่สีขององค์พระธาตุ จะเห็นว่าเป็นพื้นสีขาวๆ ลวดลายสีเหมือนก้อนอิฐ อมชมพูนิดๆ แต่พอทางวัดเปิดไฟส่ององค์พระธาตุแล้ว เราจะเห็นเป็นสีทองทั้งองค์

ทันทีที่สักการะองค์พระธาตุเรณูเสร็จเรียบร้อยเราเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุ 3 รอบ เนื่องจากในวันนี้เป็นวันเข้าพรรษา ทางวัดจัดงานโดยมีประชาชนเริ่มที่จะเดินทางมาร่วมงานเวียนเทียน ในเวลา 1 ทุ่มโดยประมาณ เราต้องรีบเก็บภาพให้มากๆ เพราะจะได้ไม่เป็นการขวางทางการเดินเวียนเทียนของผู้คน ความสวยงามขององค์พระธาตุเรณูจึงทำให้เราไม่อยากไปไหน

พระธาตุเรณู อยู่ที่วัดพระธาตุเรณู อ.เรณูนคร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 50 กิโลเมตร เป็นพระธาตุคู่เมืองชาวเรณูนคร มีลักษณะที่สวยงามจำลองมาจากพระธาตุพนมองค์เดิม แต่เล็กกว่า มีความสูง 35 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 8.37 เมตร ภายในบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน ของมีค่าต่างๆ และเครื่องกกุธภัณฑ์ ของพระยาและเจ้าเมือง เป็นพระธาตุประจำวันเกิดสำหรับผู้เกิดวันจันทร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้นมัสการพระธาตุเรณู จะได้รับอานิสงส์ ให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงจันทร์

คาถาบูชาดวงประจำวันเกิด วันจันทร์
อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
ชื่อคาถาพระกระทู้เจ็ดแบก ใช้ทางคงกระพัน อยู่ทิศบูรพา (ตะวันออก)

เครื่องสักการะ
ธูป 15 ดอก
เทียน 2 เล่ม
พวงมาลัย
ดอกไม้
ผ้าสีเหลือง
น้ำอบไทย
ข้าวเหนียวปิ้ง
ข้าวพอง

นอกบริเวณกำแพงแก้วรอบองค์พระธาตุเท่านั้นที่จะได้มุมของภาพที่ออกมาสมส่วน ด้านในต้องใช้เลนส์มุมกว้างตลอด องค์พระธาตุจะดูแปลกๆ ไป จากรูปนี้จะเห็นได้ว่าบริเวณลานทักษินและกำแพงแก้วรอบองค์พระธาตุไม่ได้กว้างมากนัก ก่อนที่แสงสุดท้ายของวันจะหมดลง ภาพพระธาตุเรณูหลายๆ มุมที่เราพยายามเก็บกันให้ได้มากที่สุดก็จะเอามาคัดให้ชมกันในหน้านี้แบบจุใจกันเลยครับ

อีกครั้งหนึ่งที่ได้มานมัสการพระธาตุเรณู นี่เป็นครั้งล่าสุด บางทีอาจจะสังเกตุว่าเวลามาพระธาตุเรณูทุกครั้งผมมักจะกะเวลาให้มาตรงช่วงเย็น โพล้เพล้แบบนี้ทุกที โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าเวลายามเย็นแบบนี้มาถ่ายรูปพระธาตุเรณูจะดูสวยมาก ปกติแล้วหลายๆ คนคงอยากจะไปที่พระธาตุพนมมากกว่า ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนครับ ถ้ามีเวลาหลายๆ วัน ผมก็คงจะเก็บภาพพระธาตุพนมยามเย็นแบบนี้บ้างเหมือนกัน ในช่วงใกล้วันงานประเพณีนมัสการพระธาตุเรณูและวันสำคัญทางศาสนา ทางวัดจะประดับบริเวณวัดและรอบองค์พระธาตุด้วยธงเยอะๆ แบบนี้ละครับ

อุโบสถ บริเวณด้านข้างของอุโบสถ ด้านที่ติดกับพระธาตุเรณูที่อยู่ใกล้กัน

หลวงพ่อองค์แสน เป็นพระพุทธรูปศิลปะแบบลาว ปางสมาธิ พระคู่บ้านของอำเภอเรณูนคร มีพุทธลักษณะสวยงามมาก เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองเหลือง เป็นพระเนื้อทองตันทั้งองค์ หน้าตักกว้างและสูง ๕๐ เซนติเมตร เป็นพระคู่บ้าน คู่เมือง แต่จะสร้างเมื่อใด ใครสร้างไม่ได้มีหลักฐานแจ้งไว้ แต่ที่แน่ๆ คือ สร้างมานานแล้ว สร้างก่อนที่จะสร้างพระธาตุเรณูในปี พ.ศ.๒๔๖๑ แผ่นทองที่นำมาหลอมเป็นองค์พระพุทธรูปได้มาจาก การบอกบุญขอบริจาคจากหมู่บ้านต่างๆ ทั่วเรณูนคร ได้แผ่นทองเหลืองที่ลงอักขระมาก็มี เมื่อนำมาหล่อรวมนั้น กระทำในครั้งแรก หล่อไม่สำเร็จ ไม่ติดเบ้าพิมพ์ ต้องย้ายที่ไปหล่อใหม่จึงสำเร็จ แล้วอัญเชิญมาไว้ ณ อุโบสถหลังเก่าของวัดกลาง หรือวัดธาตุเรณู ในเวลาต่อมา เมื่อสร้างอุโบสถหลังใหม่แล้ว ก็อัญเชิญประดิษฐานอยู่ในอุโบสถหลังใหม่ของวัดเรณู อายุพระองค์แสนจึงมีอายุนานกว่า ๑๐๐ ปีแล้ว
เหตุที่เรียกว่า พระองค์แสน เพราะว่ามีน้ำหนัก ๑๐ หมื่น มาตราชั่งของชาวบ้านกำหนดว่า ๑๒ กิโลกรัม เป็นหนึ่งหมื่น ๑๐ หมื่น จึงเท่ากับหนึ่งแสน เท่ากับ ๑๒๐ กิโลกรัม เท่ากับน้ำหนักขององค์พระทอง
ชาวบ้านเคารพหลวงพ่อองค์แสนมาก เวลาที่ปีไหนเกิดแห้งแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ก็จะอัญเชิญหลวงพ่อลงจากอุโบสถ ทำการแห่แหนไปตามสายต่าง ๆ ทั่วเรณูนคร เพื่อให้ประชาชนได้เคารพบูชา และสรงน้ำพระ เป็นการอธิษฐานรวมพลังให้ฟ้าฝนตกลงมา และในวันสงกรานต์ก็จะมีการอัญเชิญพระองค์แสน นำหน้าขบวนนางสงกรานต์ แห่ไปรอบเมืองในพิธีนี้ จะได้เห็นการฟ้อนรำของสาวสวยชาวเรณูนคร

ที่มา http://www1.tv5.co.th/

หน้าอุโบสถ จากด้านนอกอุโบสถสามารถมองเข้าไปเห็นพระองค์แสนหรือหลวงพ่อองค์แสนได้เลยครับ

พระธาตุเรณู เนื่องจากมีคำเรียกองค์พระธาตุเรณูว่า พระธาตุเรณูบ้าง พระธาตุเรณูนครบ้าง คงเนื่องมาจากชื่อหมู่บ้านเรณูนคร และชื่ออำเภอเรณูนคร สำหรับองค์พระธาตุเรียกว่าพระธาตุเรณู ครับ นี่เป็นภาพสุดท้ายสำหรับวันนี้หลังจากสักการะหลวงพ่อองค์แสนเป็นที่เรียบร้อยก็เป็นอันว่าได้เวลาอันสมควรที่จะเดินทางกลับที่พักกันที่อำเภอธาตุพนม ก่อนเข้าที่พักเรายังเข้าไปสักการะองค์พระธาตุพนมทันด้วยครับ เพราะในช่วงวันเข้าพรรษาจะเปิดให้สักการะกันจนถึงกลางคืนเปิดไฟส่องสว่างสวยงามมาก

พระธาตุเรณูสีทอง เป็นภาพปิดท้ายครับ ถ้าใครวางแผนมาไหว้พระธาตุประจำวันเกิด ทั้ง 8 องค์ เหมือนพวกเราละก็ ตอนนี้ก็เสร็จไป 3 วันแล้ว ก็คือพระธาตุพนม วันอาทิตย์ พระธาตุศรีคุณ วันอังคาร และพระธาตุเรณู วันจันทร์ ถ้ามากันเช้า จะเหลือเวลาไปไหว้พระธาตุมรุกขนคร วันพุธกลางคืน ได้อีก 1 แห่ง ก่อนที่จะเข้าที่พัก จะเลือกพักที่อำเภอธาตุพนมหรืออำเภอเมืองก็เลือกดูเอาครับ ถ้าเน้นความปลอดภัยนอนที่อำเภอธาตุพนมก็จะดีเหมือนกันเพราะไม่ต้องขับรถตอนกลางคืน