ประเพณีไหลเรือไฟ

ไหลเรือไฟ เป็นประเพณีหนึ่งเดียวของไทยที่จัดขึ้นในจังหวัดนครพนมเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เริ่มต้นกำเนิดของประเพณีนี้จัดขึ้นเพื่อบูชารอยพระพุธทบาทของพระสัมมาสัมพุธเจ้า ตามพระพุทธประวัติมีว่า พระพุทธเจ้าทรงเสร็จไปแสดงธรรมเทศนาโปรดพญานาค ณ เมืองบาดาล ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที และพญานาคได้ทูลขอให้พระพุทธเจ้าทรงประทับรอยพระบาทไว้ ซึ่งต่อมาทั้งเทวดา มนุษย์ ตลอดจนสัตว์ทั้งได้ได้มาสักการะบูชารอยพระพุทธบาท นอกจากนั้นประเพณีไหลเรือไฟยังจัดขึ้นเพื่อขอขมาแม่น้ำที่ได้ทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูล ลงในแม่น้ำ และเป็นการเผาเอาความทุกข์ให้ลอยไปกับแม่น้ำ ด้วยการตัดเอาปลายผมหรือเล็บใส่ลงไปในเรือก่อนที่จะจุดตะเกียงให้เรือสว่างไสวแล้วลอยไปตามแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม สำหรับเรือไฟชาวอีสานออกเสียงว่า เฮีอไฟ หรือ เฮียไฟ

การไหลเรือไฟในปัจจุบันเน้นการสร้างสรรค์ไฟบนเรือให้เป็นรูปภาพต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ หรือเรื่องราวเทอดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนที่จะทำการไหลเรือไฟสวยงามจะมีการไหลเรือไฟโบราณที่บริเวณท่าน้ำนครพนม คนที่อยากจะร่วมปล่อยทุกข์ปล่อยโศกลอยไปกับน้ำจะมาร่วมพิธีตัดเล็บตัดผมใส่ลงกระทงวางไว้ในเรือประจำวันเกิด 7 ลำแล้วปล่อยให้ลอยไปด้วยกัน

ประเพณีไหลเรือไฟจัดขึ้นในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานนครพนม (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) 0 4251 3490-1
http://www.tourismthailand.org/nakhonphanom

แก้ไขล่าสุด 2017-04-25 11:20:51 ผู้ชม 14452

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ไหลเรือไฟโบราณ ประเพณีการไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนมแบ่งเป็น 2 ส่วน แต่ปกติคนจะรู้จักการไหลเรือไฟประเภทสวยงาม ซึ่งเป็นการไหลเรือไฟแบบใหม่เพื่อความสวยงาม แต่ยังคงการไหลเรือไฟแบบดั้งเดิม เรียกว่าไหลเรือไฟโบราณ เรือไฟจะลำเล็กๆ ขนาดใช้คนหามได้ มีทั้งหมด 7 ลำ ตามจำนวนวันในแต่ละสัปดาห์ เรียกว่าเรือไฟประจำวันเกิดตั้งแต่วันอาทิตย์-เสาร์ คนเกิดวันไหนก็จะตัดเล็บหรือผมใส่ลงไปในกระทงในเรือไฟประจำวันนั้น เพื่อความเป็นสิริมงคลเพราะเชื่อว่าเป็นการลอยทุกข์ลอยโศกไปกับเรือไฟ

พิธีไหลเรือโบราณ ก่อนจะนำเรือไฟประจำวันเกิดลงไปลอยในแม่น้ำโขงจะมีพิธีทางพราหมณ์ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะแม่น้ำโขงที่เราจะลอยเรือไฟลงไปคล้ายกับการลอยกระทง

จุดเรือไฟ คุณสมฤดี ชาญชัย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคอีสาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานจุดไฟเรือไฟโบราณก่อนที่จะนำลงไปที่ท่าน้ำเพื่อเตรียมพร้อมในการไหลเรือไฟก่อนที่จะไหลเรือไฟสวยงามลำใหญ่ๆ

นำเรือไฟลงแม่น้ำโขง ทำพิธีต่างๆ เสร็จเรียบร้อย เรือไฟโบราณทั้ง 7 ลำก็พร้อมที่จะลงสู่แม่น้ำโขง นำไปที่บริเวณปล่อยเรือไฟ ซึ่งอยู่ไกลจากท่าน้ำนี้ประมาณ 2 กิโลเมตร

ถนนคนเดินนครพนม เสร็จพิธีการเอาเรือไฟโบราณลงแม่น้ำโขง เราก็ต้องย้ายมุมในการหาที่ถ่ายรูปเรือไฟประเภทสวยงามเราเลือกตึกหลังหนึ่งที่อยู่ตรงกลางระหว่างจุดปล่อยเรือไฟใหญ่กับท่าน้ำที่ประกอบพิธีเรือไฟโบราณ ตึกนี้มีร้านอาหารอยู่ร้านนึงมี 3 ชั้น เราจองเอาไว้ชั้นบน เพื่อให้ถ่ายรูปเรือไฟได้มุมที่สวย ระหว่างรอเรือไฟมาก็พอมีเวลายืนชมวิวถนนคนเดินที่เราเดินเบียดคนมาตั้งนานกว่าจะถึงตรงนี้ เรียกว่าถ้าเป็นคนชอบถ่ายรูปและอยากจะได้มุมดีๆ ในการถ่ายต้องวางแผนล่วงหน้ามาอย่างดี

ไหลเรือไฟกลางแสงจันทร์ ออกพรรษาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 พระจันทร์เต็มดวง แล้วยังมีความพิเศษอีกตรงที่ปี 57 เกิดจันทรุปราคาเต็มดวง ปีนั้นจำได้ว่าประทับใจกับความสวยงามของเรือไฟ แล้วยังได้ถ่ายรูปจันทรุปราคาอีกด้วย ความสวยงามของงานไหลเรือไฟของไทย ทำให้เพื่อนบ้านอย่างลาว เหมาเรือมาชมกลางแม่น้ำโขงกันเยอะเลย