ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.เชียงใหม่ 0 5324 8604, 0 5324 8607, 0 5324 8605
http://www.tourismthailand.org/chiangmai
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
พระธาตุเจ้าดอยต๊อก บนยอดดอยต๊อกนี้มีพื้นที่ไม่กว้างมาก คงสักประมาณกว้าง ยาว ด้านละ 15 เมตร ได้ แต่ก็มีองค์พระธาตุซึ่งการสร้างนั้นเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะต้องนำวัสดุต่างๆ ขึ้นดอยมา ตอนนี้นำรถขึ้นไปได้ แต่หน้าฝนคงลำบากหน่อย
ประวัติพระธาตุเจ้าดอยต๊อก โดยสังเขป
ดังมีประวัติเล่าสืบต่อกันมาว่า ในสมัยของพระนางจามเทวี พระนางได้มาสร้างวัดป่าหยวก (ปัจจุบันนี้ได้จมไปใต้น้ำเขื่อนแล้ว) ต่อจากนั้นมาสร้างวัดแคป (น้ำท่วมไปแล้ว) ต่อจากนั้นก็ไปสร้างวัดหัวโต่งหรือวัดหัวทุ่ง ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นวัดร้างอยู่กลางสวน ต่อจากนั้นก็ไปสร้างที่เมืองฮอดคือวัดหลวงฮอดในปัจจุบัน จากนั้นไปสร้างที่วัดดอยน้อย อำเภอจอมทอง หลังจากนั้นไปสร้างที่เมืองลำพูนคือวัดจามเทวีในปัจจุบัน ในเวลาขณะนั้นได้เกิดสงครามกับม่าน (พม่า) ที่ยกทัพมาตีเมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านเกิดความระส่ำระสายกลัวภัยสงคราม จึงนำของมีค่าจากวัดป่าหยวก วัดแคป วัดหัวโต่ง มาซ่อนไว้ในถ้ำดอยพระเคี่ยน เนื่องจากกลัวพม่านำของมีค่าไป ปากถ้ำมีทางทิศตะวันออกที่เราสร้างฐานพระครอบไว้ในเจดีย์นี้ เป็นปล่องถ้ำลึกลงไป ๑๐ ศอก เป็นที่เก็บของสำคัญต่างๆ เดิมทีพุทธสถานแห่งนี้เป็นชื่อ ดอยพระเคี่ยน แต่เมื่อเกิดสงครามกับพม่าชาวบ้านกลัวพม่า นำของมีค่าไปจึงเปลี่ยนชื่อเป็นดอยต๊อกไป แต่ดอยต๊อกจริงๆ ก็มีอยู่อีกแห่งหนึ่ง
ดอยต๊อกนี้คงสร้างหรือบูรณะในระยะไล่เลี่ยกับสมัยที่พระนางจามเทวีได้ไป สร้างและบูรณะที่วัดพระบรมธาตุแก่งสร้อย หรือเมืองท่าสร้อยเมื่อปี พ.ศ. ๑๒๓๐ และหลังจากนั้นมาเมืองท่าสร้อยก็เจริญรุ่งเรือง มาถึงที่สุดในสมัยกษัตริย์องค์สุดท้ายชื่อ ปทุมราชบรมกษัตริย์ ได้ทรงสร้างและบูรณะวัดอารามขึ้นมาใหม่ถึง ๙๙ วัดจนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ทางอโยธยา เกิดศึกสงครามกับพม่า จึงมาเกณฑ์เอาชาวเมืองท่าสร้อยไปช่วยทำศึก เมืองท่าสร้อยจึงร้างตั้งแต่นั้นมา จนถึงยุคสมัยของครูบาเจ้าชัยลังกาและครูบาศรีวิชัย จึงได้สร้างองค์พระเจดีย์ขึ้นใหม่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๗ แล้วเสร็จเมื่อปี ๒๔๖๘ เมื่อเสร็จแล้วจึงจัดให้มีงานฉลองสมโภชขึ้นเป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน ล่วงมาถึงปี ๒๕๓๗ ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อันเป็นลูกศิษย์แห่งครูบาเจ้าศรีวิชัย ก็ได้นำลูกศิษย์มาบูรณะพระธาตุเจดีย์แก่งสร้อย (เกตุสร้อย) และสร้างวิหารหลวงด้านหลังเจดีย์ขึ้น ทั้งยังจัดงานสรงน้ำพระธาตุประจำปีขึ้นอีกด้วยทุกๆ ปี เมื่อครูบาชัยยะวงศาได้ละสังขารหรือมรณภาพไป ครูบานิกร ชัยยะเสนโน ก็ได้บูรณะพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้
ทะเลสาบดอยเต่า ที่มองเห็นอยู่นี้เป็นวิวบนดอยต๊อก สามารถมองทิวทัศน์ทะเลสาบดอยเต่าได้กว้างมากๆ ข้างล่างมีพื้นราบสำหรับทำการเกษตรกรรม ทำนา ทำสวนได้ ฝั่งตรงข้ามของทะเลสาบมีเทือกเขาสลับซับซ้อนสวยงาม
พระพุทธบาท เป็นรอยที่ปรากฏบนหินขนาดใหญ่ ต้องเดินลงมาจากยอดดอยตามทางเดินจะเห็นรอยพระพุทธบาทนี้
พระภิกษุบนดอยต๊อก หลวงพี่รูปนี้ จะมีมุมมองชีวิต แง่คิดทางศาสนาให้ หลายอย่างและสอนทุกๆ คนที่ขึ้นไปครับดังนั้นผู้ที่สนใจฝึกปฏิบัติธรรม หรือสนทนาธรรมก็เชิญที่นี่ได้ครับ รับรองไม่ผิดหวังครับ
กราบนมัสการหลวงพี่ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
สมเด็จพุฒาจารย์โตฯ บนดอยต๊อกแห่งนี้ก็มีรูปเหมือนของท่านเหมือนกัน เพียงแต่อาจจะมีการสร้างวิหารให้ดีกว่านี้ในอนาคตครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ