"ประแส" ในสมัยกรุงเก่า มีฐานะเป็นเมือง เรียกว่า "เมืองประแส"
คำว่า "ประแส" เป็นคำที่ใช้เรียกกันมาตั้งแต่โบราณกาล แม้ชื่อตำบลซึ่งเกิดขึ้นในภายหลังตามกฏหมายลักษณะปกครองท้องที่ก็ใช้ว่า "ตำบลปากน้ำประแส" บรรดาศักดิ์กำนันก็ใช้ว่า "ขุนมุขประแสชล" ฯลฯ แต่ยังหาหลักฐานไม่ได้ว่า "ประแส" มีความหมายว่าอย่างไร ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานมิได้เก็บคำนี้ไว้ เมื่อไม่สามารถหาความหมายของคำดังกล่าวได้ ทางราชการจึงเปลี่ยนชื่อจาก "ประแส" เป็น "กระแส" ซึ่งหมายถึง "กระแสน้ำ" (เมื่อ ประมาณ พ.ศ. 2489 - 2493) และเปลี่ยนชื่อตำบลว่า "ตำบลปากน้ำกระแส" แต่ชาวบ้านก็ยังเรียกชื่อหมู่บ้านของตนว่า "ประแส" ตามที่เรียกกันมาแต่ดั้งเดิม แม้สถานที่ราชการบางแห่งของตำบลนี้ยังใช้คำเดิมอยู่ก็มี เช่น สถานีตำรวจภูธรตำบลปากน้ำประแสร์ , การประปาปากน้ำประแสร์
การวิเคราะห์คำว่า "ประแส" นั้น พระครูประภัทรวิริยคุณ (มาลัย) เจ้าคณะอำเภอแกลง เจ้าอาวาส "วัดตะเคียนงาม" ได้ศึกษาในเรื่องนี้ โดยในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า คำว่า "ประแส" นั้นน่าจะเป็นภาษาชอง ซึ่งเป็นภาษาของชาวพื้นเมืองดั้งเดิมของภูมิภาคนี้ ( สุนทรภู่เคยกล่าวถึงหนุ่มสาวชาวบ้านพลงฆ้อหรือเนินฆ้อไว้ในนิราศเมืองแกลงว่า ..ล้วนวงศ์วานว่านเครือเป็นเชื้อชอง แสดงว่าชาวบ้านพื้นเมืองแถบนี้มีเชื้อสายเป็นชาวชอง )
และเพื่อความกระจ่างชัด พระครูประภัทรวิริยคุณ และ นายระวี ปัญญายิ่ง ได้เดินทางไปสอบถามผู้มีเชื้อสายชองในเขตตำบลพลวง , ตะเคียนทอง , คลองพลู กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี จากการสอบถามได้ความตรงกันว่าในภาษาชอง มีคำว่า "แซร์" หมายถึง ทุ่งนา "พรีแซร์ หรือ ปรีแซร์" หมายถึง ทุ่งนา คือป่าที่ถางแล้วและใช้ปลูกข้าว ถ้าเป็นที่ดอนก็ทำไร่ปลูกข้าว ถ้าเป็นที่ลุ่มก็ทำนาปลูกข้าว หากคำว่า "ประแส" มีรากฐานมาจากภาษา "ชอง" ดังกล่าวจะต้องเขียนตามศัพท์เดิมว่า "ประแสร์" มี ร การันต์ จึงจะมีความหมายว่า "ทุ่งนา" หรือ "ป่าทุ่งนา"
หมู่บ้านประแสร์ ในเขตอำเภอแกลง มี 2 แห่ง คือ "ประแสร์ ( บน )" อยู่ทางทิศเหนือ ห่างจากที่ว่าการอำเภอแกลงประมาณ 12 กม. ( ทางตรง ) ลักษณะพื้นที่ของหมู่บ้านประแส (บน) เป็นที่นา รอบๆทุ่งนาเป็นแนวป่า มีแม่น้ำไหลผ่านหมู่บ้านนี้ เรียกว่า "แม่น้ำประแสร์" ไหลออกสู่ทะเล ณ ที่ใด ก็เรียกที่นั้นว่า "ปากแม่น้ำประแสร์" และกร่อนไปเป็น "ปากน้ำประแสร์" ในที่สุดจึงสรุปว่า "ประแสร์" น่าจะมีรากฐานมาจากภาษาชอง คือเพี้ยนมาจากคำว่า "พรีแซร์" หรือ "ปรีแซร์" ที่แปลว่า "ทุ่งนา" ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของพระครูประภัทรวิริยคุณที่ได้ข้อมูลมาจากการศึกษาข้อมูลเก่า , การค้นคว้าจากหนังสือเรื่อง "อารยธรรมของจันทบุรี" ที่กล่าวถึงภาษาชอง และสอบถามจากบุคคลหลายที่
อนึ่ง มีผู้สันนิษฐานด้วยว่า คำว่า "ประแส" น่าจะมาจากความหมายที่ว่า "กระแสน้ำจืด" ที่ไหลมาจากต้นน้ำมา "ประ" (ปะทะ) กับน้ำทะเล (เค็ม) ตรงปากน้ำ จึงเรียกว่า "ปากน้ำประแส"
ที่มา
สำนักงานเทศบาลตำบลปากน้ำประแส
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ บริเวณชุมชนประแส หรือประแสร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งดังนี้
ชายหาดแหลมสน
ชายหาดประแส
สะพานป่าชายเลนบ้านหัวโขด Boardwalk
สะพานชมป่าชายเลน ชุมชน หมู่ ๗ (ทุ่งโปรงทอง)
ตะเคียนใหญ่ ๕๐๐ ปี
จุดชมวิวแหลมสน
ศาลกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์
เกาะมันใน
อนุสรณ์เรือหลวงประแส
ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานระยอง โทร. 0-3865-5420
http://www.tourismthailand.org/rayong
แก้ไขล่าสุด 2017-03-30 13:40:16 ผู้ชม 26131
การเดินทาง
แผนที่
ที่เที่ยว/ที่พัก
กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ
จุดชมวิวแหลมสน โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณส่วนหนึ่งของปากน้ำประแสให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นที่รวมทั้งประชาชนทั่วไป ทุกวันนี้แหลมสนแห่งนี้กลายเป็นสวนสาธารณะ และสนามเด็กเล่น รวมทั้งมีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมหาดแหลมสน เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย และการพักผ่อนแบบสบายๆ
ชมวิวเรือทะเล
กิจกรรมเล่นว่าว สิ่งหนึ่งที่เราจะได้เห็นที่นี่คือมีคนนำเอาว่าวที่มีลักษณะเป็นร่มชูชีพขนาดเล็กบังคับด้วยมือทั้ง 2 ข้าง แตกต่างกับว่าวที่เรารู้จักที่มีเชือกเส้นเดียวแล้วนำเอาขึ้นไปลอยท้าลมบนท้องฟ้า แต่ว่าวแบบร่มชูชีพเล็กนี้สามารถบังคับให้เลี้ยวซ้ายขวา หมุนฉวัดเฉวียน ขึ้นลงได้ตลอดเวลา เดี๋ยวจะพาตามไปดูการเล่นว่าวแบบนี้กันครับ
อนุสรณ์เรือหลวงประแส จากจุดชมวิวแหลมสนเราสามารถมองเห็นอนุสรณ์เรือหลวงประแสได้เลยครับ แต่ถ้าหากจะไปที่นั่นจะต้องขับรถอ้อมออกไปใหม่เพราะไม่มีสะพานข้ามแม่น้ำประแส สำหรับอนุสรณ์เรือหลวงประแสนี้ เทศบาลตำบลปากน้ำประแสเป็นหน่วยงานริเริ่มพร้อมประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามสายการบังคับบัญชา ขอรับเรือหลวงประแสที่ปลดระวางประจำการ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2543 จากกองทัพเรือ ณ ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มาตั้งเป็นอนุสรณ์เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2546 โดยมีการพัฒนาพื้นที่บริเวณโดยรอบให้แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของท้องถิ่นและจังหวัดระยอง ซึ่งเรือหลวงประแส ลำนี้เป็นลำที่สอง เป็นเรือประเภทฟริเกต ได้ออกปฏิบัติการในสงครามเกาหลี สร้างความภาคภูมิใจของคนไทย พร้อมทั้งเป็นความภาคภูมิใจของชาวตำบลปากน้ำประแส ที่ได้มีโอกาสและมีส่วนร่วมในการตั้งอนุสรณ์เรือหลวงประแส ไว้ ณ ที่บริเวณน่านน้ำ "ประแส" ซึ่งชื่อเรือเป็นชื่อเดียวกับชุมชนปากน้ำประแส ปัจจุบันได้มีการทำนุบำรุงซ่อมแซมเรือที่ชำรุดให้อยู่คงในสภาพที่ดี และได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ รวมทั้งได้มีการออกแบบก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับนักท่องเที่ยว
ชายหาดแหลมสน ส่วนหนึ่งของแหลมสนมีสะพานทอดยาวลงไปในทะเลสำหรับการเทียบเรือ ลมทะเลมีทิศทางที่เหมาะสมที่จะเล่นว่าวร่มชูชีพ เพราะสามารถบังคับให้ไปซ้าย ขวา ขึ้น ลง ได้สบาย
สวนสาธารณะแหลมสน ปิดท้ายด้วยภาพนี้ละกันนะ ว่างๆ แวะมาเที่ยวกันได้ วิวสวย ลมเย็นสบาย มีต้นสนให้เลือกเป็นมุมพักผ่อนหลบแดดร้อนๆ ได้ด้วย