เกาะหมาก ฟ้าคราม น้ำใส หัวใจสีเขียว

     เกาะหมากเกาะเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด สมัยก่อนเวลาที่เราจะไปเที่ยวเกาะหมากส่วนมากจะไปเกาะช้างหรือเกาะกูดแล้วค่อยหาเรือต่อไปที่เกาะหมาก ทุกวันนี้การเดินทางไปเกาะหมากสบายกว่าเมื่อก่อนเยอะมีเรือสปีดโบทจากแหลมงอบตรงไปเกาะหมาก ใช้เวลา 50 นาที วันนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะหมากแบบเต็มๆ 3 วัน 2 คืน มีเรื่องราวเยอะแยะที่อยากจะมาเล่า และส่วนหนึ่งที่หลายคนคงจะไม่เคยรู้เกี่ยวกับเกาะสวยๆ เกาะนี้

    เกาะหมากมีรูปร่างเหมือนดาวสี่แฉก มีอ่าวกับหาดทรายรอบๆ อย่าง อ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวโปร่ง อ่าวผาด อ่าวแดง อ่าวสวนใหญ่ รอบเกาะหมากมีเกาะเล็กๆ อีกหลายเกาะที่ไปเที่ยวได้แบบวันเดียวกลับ ในบางช่วงน้ำลดลงจนเดินจากเกาะหมากไปเกาะอื่นๆ ได้ด้วย (อันนี้เพิ่งจะรู้จริงๆ แต่เรื่องที่จะเล่าจากนี้มีอีกเยอะที่ไม่รู้มาก่อนลองตามอ่านดูนะ) บนเกาะมีชุมชนอาศัยอยู่เป็นระดับตำบล ขึ้นอยู่กับอำเภอเกาะกูด คนที่นี่อัธยาศัยดีมาก

    ฤดูท่องเที่ยวเกาะหมากเริ่มตั้งแต่ เดือนตุลาคม-พฤษภาคม

    การเดินทางไปเกาะหมากของเราทริปนี้ใช้บริการเรือสปีดโบทของ Seatales เที่ยว 11.30 น. รายละเอียดเรือเกาะหมากสอบถามได้ที่ https://www.facebook.com/seataleskohmak/

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานตราด โทร. 0 3959 7259-60
http://www.tourismthailand.org/trat

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ท่าเรืออ่าวนิด เรือออกจากแหลมงอบตรงเวลาเป๊ะ เดินทางไปเกาะหมากที่ท่าเรืออ่าวนิด ใช้เวลา 50 นาทีเป๊ะเหมือนกัน วันนี้โชคดีที่ท้องฟ้าแจ่มมากทั้งๆ ที่ตอนอยู่ฝั่งมันครึ้มเหมือนฝนจะตก การเดินทางเที่ยวเกาะหมากแบบเจาะลึกถึงแกนเกาะของเราเริ่มต้นที่นี่

เกาะหมากเป็นเกาะไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่มากมีรถสองแถวคอยให้บริการนักท่องเที่ยวติดป้ายว่า TAXI กับอีกแบบหนึ่งสำหรับคนที่มาเป็นกลุ่มใหญ่อย่างพวกเราคือรถรางที่จะพาเรา 30 คน ไปเที่ยวรอบเกาะด้วยรถราง 2 คัน ระหว่างที่รถยังไม่ออกถ่ายรูปเก๋ๆ กับท่าเรืออ่าวนิดกันหน่อยมั้ย

ร้าน Sweet Cake ร้านกาแฟเล็กๆ เป็นร้านแรกที่อยู่ใกล้ท่าเรืออ่าวนิดมากที่สุด ที่นี่มีที่ให้นั่งชิลๆ โดยเฉพาะที่นั่งแบบห้อยขา เลยเรียกกันว่ากาแฟห้อยขาของเกาะหมาก เค้กของร้านนี้ที่แนะนำให้สั่งคือ Coco Butter เค้กมะพร้าวที่ทำจากมะพร้าวที่เก็บบนเกาะหมาก เรื่องราวที่เราไม่เคยรู้เกี่ยวกับเกาะหมาก และที่มาของชื่อเรื่อง เกาะหมาก ฟ้าคราม น้ำใส หัวใจสีเขียว มันเริ่มจาก Coco Butter เค้กหน้ามะพร้าวชิ้นนี้แหละ

DayBeds Beach Restaurant จากร้าน Sweet Cake เราเดินทางมากินข้าวกลางวันที่ร้าน DayBeds Beach Restaurant เป็นร้านอาหารของรีสอร์ทที่ชื่อ Seavana Beach Resort ทั้งร้านอาหารและรีสอร์ทอยู่ริมหาด วิวที่นี่เลยจะสวยๆ หน่อย ก่อนที่จะเดินไปกินข้าวทั้งๆ ที่เรามาถึงบ่ายกว่าแล้ว หลายคนกลับใช้เวลาถ่ายรูปเล่นริมหาดซะเพลินเลย

DayBeds Beach Restaurant เป็นร้านที่อยู่คนละด้านกับอ่าวนิด แบบว่าเราต้องนั่งรถไกลแบบข้ามเกาะหมากกันเลยทีเดียว แต่ที่นี่ก็เหมาะแล้วที่จะเป็นร้านแรกของการมาเกาะหมาก ก่อนหน้านี้เรามาเกาะหมากหลายรอบแต่ไม่ได้สำรวจแบบละเอียดชนิดทั่วเกาะแบบวันนี้เลยสักครั้ง นอกจากอาหารอร่อยๆ ของมื้อแรกบนเกาะ อาหารที่เรากินกันจะใช้ผัก ปลา ฯลฯ ที่หาได้จากเกาะหมาก เพื่อลดการใช้พลังงานในการขนส่งของพวกนี้มาจากฝั่ง และที่ๆ เราจะไปอันดับ 2 เพื่อเรียนรู้เรื่องราวของเกาะหมากที่หลายคนน่าจะไม่เคยรู้ มันอยู่ใกล้กับร้านนี้มากๆ

สวนเกษตรอินทรีย์บนเกาะหมาก Organic Garden สวนเกษตรอินทรีย์บนเกาะหมากตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นส่วนหนึ่งที่เราพามาเที่ยว เพื่อให้รู้จักเกาะหมากมากขึ้น นอกเหนือจากการมาเที่ยวทะเลนอนเกาะ ถ่ายรูป ชมวิว ถ้าใครๆ ได้มาสัมผัสความเป็นเกาะหมากแบบลึกๆ อย่างเช่นการทำสวนเกษตรแบบผสมผสานและเป็นเกษตรอินทรีย์ แค่ได้ยินก็อึ้งแล้วว่ามั้ย

Organic Garden เกาะหมากรีสอร์ท Organic Garden เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งที่บริหารโดยเกาะหมากรีสอร์ท ในนี้เค้าปลูกหลายอย่าง จะเรียกว่า การ์เดนก็ไม่ตรงเท่าไหร่เพราะไม่ได้เพาะปลูกอย่างเดียวที่นี่เลี้ยงสัตว์ด้วยสัตว์ที่เลี้ยง ก็คือ เป็ด กับ ไก่ เลี้ยงทั้งกินไข่กินเนื้อ ปล่อยแบบธรรมชาติ ปกติพืชผักที่ปลูกเป็นของที่กินและขายบนเกาะหมาก อย่างเช่น กล้วย มะละกอ สับปะรด ทุเรียนก็มี เงาะก็มี ส่วนผักที่ใช้ทำอาหารไม่ต้องถามเลยเค้าปลูกหลายอย่างเหมือนกัน ชาวเกาะหมากเล่าให้ฟังว่า การเลี้ยงสัตว์ และการปลูกผักผลไม้กินเองและขายบนเกาะหมาก ทำให้คนเกาะหมากลดการใช้พลังงานในการขนส่งของพวกนี้จากฝั่ง เล่าประมาณนี้คงเข้าใจแล้วว่าทำไมเราถึงตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า หัวใจสีเขียว

ออร์แกนิคการ์เดน เกาะหมาก ที่นี่มีแปลงข้าวโพดแปลงใหญ่ ปลูกเพื่อเก็บข้าวโพดอ่อนไปทำอาหาร และพี่โอ๋สอนการเก็บสับปะรด วิธีการดูสับปะรดแก่และพร้อมที่จะเก็บขาย เป็นสับปะรดที่มีสายพันธุ์มาจากฝั่ง เค้าปลูกได้สำเร็จบนเกาะหมากและที่สำคัญคือมันหวานอร่อยไม่กัดลิ้นดีด้วย ไม่บอกไม่รู้เลยว่าพี่โอ๋มาจากชุมพร มาตั้งรกรากบนเกาะหมากและทำการเพาะปลูกเป็นชาวสวนตั้งใจทำสวนอินทรีย์และก็สำเร็จเป็นรายแรกของเกาะซะด้วย เรื่องราวการพยายามลดการใช้พลังงานของคนบนเกาะหมากค่อยๆ ถูกถ่ายทอดให้เราฟังอย่างช้า ทีละเรื่องๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวเกาะหมากทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่าเป็น Green Destination ด้วย แต่รู้สึกว่า Green Destination หรือการท่องเที่ยวแบบ Low Carbon มันไม่ค่อยติดปากเท่าไหร่ ตอนนี้เกาะหมากกำลังมองหาคำเก๋ๆ อยู่ ใครที่ได้อ่านเรื่องนี้ลองช่วยกันคิดดูมั้ยเผื่อจะได้รับเลือกเอาไปใช้จริงๆ

เดอะ ซินนามอน อาร์ต รีสอร์ท แอนด์ สปา  เป็นที่พักของเราในทริปนี้ เดินเที่ยวสวนผลไม้ กินสับปะรดกับมะละกอกันจนเปรม ได้เวลาเก็บข้าวของเข้าที่พัก พักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการนั่งเรือและนั่งรถ ที่พักของเราทริปนี้หรูนะบ้าน Beach Front เป็นบ้านพักหลังใหญ่ติดหาด วิวสวยมากๆ แต่ที่นี่ถ้าดูในแผนที่มันอยู่อีกด้านหนึ่งของเกาะที่ไกลจากอ่าวนิด ไกลจาก Daybeds ร้านอาหารกลางวันของเราไม่ใช่น้อยๆ เลย วันนี้เราเดินทางเกือบทั่วเกาะทั้งๆ ที่ยังไม่ค่ำเลยด้วยซ้ำ รีสอร์ทที่เรานอนมันสุดยอดมาก หลายคนที่เคยมาเกาะหมากคงรู้จักสะพานไม้ของเดอะ ซินนามอน เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในเกาะหมากยาวถึง 500 เมตร เพื่อที่จะได้ลงรูปให้ดูเยอะๆ เราขอแยกไปเขียนรีวิวรีสอร์ตนี้ในอีกหน้าหนึ่งละกัน เดอะ ซินนามอน อาร์ต รีสอร์ท แอนด์ สปา

เดอะ ซินนามอน อาร์ต รีสอร์ท แอนด์ สปา ห้องพักอันกว้างขวางสะดวกสบาย และติดชายหาด

เล่น Disc Golf บนเกาะหมาก เก็บของพักผ่อนถ่ายรูปรีสอร์ทนิดหน่อย เราออกเดินทางกันต่อเพื่อใช้เวลาของทริปนี้บนเกาะหมากให้คุ้มค่า ที่นี่เหมือนกับที่อื่นๆ คือมีคนอยู่อาศัยอยู่เยอะ มีพื้นที่หลายส่วน แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยบ้านเรือน ที่ทำสวนเพาะปลูก ที่ทำรีสอร์ทที่พักและร้านอาหาร ร้านค้า และแน่นอนว่าต้องมีสนามกีฬา บนเกาะหมากนอกจากกีฬาทางน้ำยังมีกีฬาอื่นๆ บนบก ที่เราจะพามาดูคือกีฬาที่มันหาดูยากมากเลยนะ เพราะมันเพิ่งจะเข้ามาเมืองไทย ในเมืองไทยตอนนี้มีสนามเล่นกีฬานี้แค่ประมาณ 10 สนาม ชื่อของกีฬานี้คือ Disc Golf คำว่า ดิสก์กอล์ฟ คงเดาไม่ยากว่ามันเล่นคล้ายๆ กับตีกอล์ฟ แต่เปลี่ยนจากลูกกอล์ฟกลมๆ เป็นจานแบนๆ กีฬานี้เป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ใหญ่มาก แต่แทนที่จะร่อนจานไปให้อีกคนรับ เปลี่ยนมาเป็นร่อนจานให้ลงตะกร้าเหล็ก กำหนดพาร์แบบกอล์ฟ นับคะแนนเหมือนกัน เค้าเล่นกันในประเทศอื่นมาเยอะแต่เพิ่งเข้าเมืองไทย ต่อไปน่าจะเป็นที่รู้จักกันเยอะ แต่เราโชคดีหน่อยที่เราได้มาเล่นเป็นกลุ่มแรกๆ แถมได้รับการฝึกสอนโดยโปรดิสก์กอล์ฟซะด้วย

เกาะหมากดิสก์กอล์ฟ เราเห็นคนมาเล่นดิสก์กอล์ฟหลายคนอยู่นะ เรียกว่าเป็นก๊วนเหมือนกอล์ฟเลยแหละ มองดูห่างๆ เหมือนคนเล่นจานร่อนไม่ได้คิดว่าจะเป็นกีฬายอดนิยมที่ผู้ใหญ่จะเล่น แต่พอเราได้จานคนจานแล้วลองมาร่อนให้เข้าตะกร้า ทุกคนพูดตรงกันเลยว่ามันโคตรยากเลย เอาแค่ร่อนให้ไปทางที่เราคิดมันยังไม่ค่อยจะได้ แล้วยังต้องร่อนหลบต้นไม้ ไปให้ใกล้ตะกร้า นับจำนวนครั้งแบบกอล์ฟ กว่าเราจะร่อนให้มันตรงทางได้ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ที่จริงมันก็สนุกดีเสียแต่ว่าวันนี้ค่ำซะแล้วไม่งั้นคงต้องต่อกันอีกสักหลุม กีฬา Disc golf เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ชาวเกาะหมากนิยมมาเล่น จุดเด่นอย่างหนึ่งคือไม่ต้องใช้พลังงานอะไรเลย มีแค่คนเล่นกับจานร่อนก็เล่นได้แล้ว บนเกาะหมากเป็นพื้นที่สำหรับคนหัวใจสีเขียวจริงๆ ไม่มีเจ็ทสกี ไม่มีบานาน่าโบ๊ท แล้วยังมีอะไรอีกเยอะแต่ตอนนี้เราต้องเดินทางกันต่อแล้วละ

พิพิธภัณฑ์เกาะหมาก เวลาบนเกาะหมากวันแรกของเราใกล้จะหมดลง ได้เวลาที่จะต้องไปหามื้อค่ำอร่อยๆ กินซะแล้ว มื้อค่ำวันนี้พาไปที่เกาะหมากซีฟู๊ด อยู่ไม่ไกลจากท่าเรืออ่าวนิด ทางเข้าร้านอาหารมีพิพิธภัณฑ์เกาะหมาก ลองแวะเข้าไปดูกัน ในนี้จะมีเรื่องราวของคนที่มาบุกเบิกบนเกาะหมากเป็นยุคแรกๆ เป็นเรื่องประมาณ 100 ปีต้นๆ ที่ผ่านมานี้เอง จากวันนั้นจนวันนี้เกาะหมากยังคงเป็นเกาะสำหรับอยู่อาศัย มีการท่องเที่ยวเข้ามาบ้างแต่เป็นระบบการท่องเที่ยวที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเพื่อให้วิถีชีวิตบนเกาะหมากยังคงเป็นชีวิตชาวเกาะที่เรียบง่าย บนเกาะหมากไม่มี 7-11 มีร้านค้าอยู่หลายแห่งกระจายกันไป มีรีสอร์ทแต่ไม่ใช่มีจนเฟ้อ ทุกที่ยังคงพยายามรักษาสภาพของเกาะหมากอยู่ คนที่จะเที่ยวเกาะหมากคงไม่ใช่กลุ่มคนที่แสวงหาความสนุกสนาน แต่มันเหมาะสำหรับคนรักความสงบมากกว่า

เกาะหมากซีฟู๊ด  เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศน่านั่งมาก เหมือนบ้านไม้ที่ยื่นระเบียงออกทะเล วิวสวย อากาศดีสุดๆ กับสายลมที่พัดตลอดเวลา มองเห็นท่าเรืออ่าวนิดอยู่ลิบๆ มีอาหารหลายอย่างที่มีที่มาน่าสนใจ เหมือนกับอีกหลายๆ ร้านบนเกาะหมาก อาหารทะเลอย่างหมึกและปลาจะหาจากรอบๆ เกาะ ผักปลูกอยู่บนเกาะ ไข่เป็นไข่ที่ได้จากการเลี้ยงเป็ดไก่บนเกาะ วิถีชีวิตของคนที่นี่ดูจะซีเรียสไปกับการประหยัดพลังงานมากนะ ถ้าเราแค่มานั่งกินๆ แล้วก็ไปคงไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าลองได้คุยกับเจ้าของร้านละก็ บางทีเราจะซึมซับเอาความประหยัดพลังงานและรักโลกเข้ามาโดยไม่รู้ตัวเลย

เกาะหมากซีฟู๊ด  ให้ความสำคัญกับอาหารที่ใช้พลังงานน้อย ยกตัวอย่างเช่น ปลาที่เอามาทอดให้เรากินยังเป็นปลาที่ได้จากการตกปลาซื้อมาจากชาวบ้านบนเกาะ ถ้าเป็นเกาะอื่นเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปลาที่เรากินได้มายังไง ปลาที่ร้านนี้จะมีให้สั่งเท่าที่ชาวบ้านหาได้ ปลาที่ชาวบ้านหาไม่ได้ก็ไม่มีให้กิน แต่ละวันไม่เหมือนกันด้วย ลองมาแล้วจะรู้

อรุณสวัสดิ์ ซินนามอน บ้านริมหาดของเราไม่ทำให้ผิดหวัง เช้าวันนี้แค่เปิดประตูออกมาเราจะได้สัมผัสกับความงามของทะเลที่มีแสงสีทองค่อยๆ สาดส่องเข้ามาเวลานี้หาดที่รีสอร์ทนี้สวยอย่าบอกใคร กิจกรรมของเราตอนเช้านี้คือการออกไปเก็บเกี่ยวความงามของเกาะหมากบนสะพานสู่ฝันของเดอะซินนามอน

มื้อเช้ากับวิวสวยของเกาะหมาก เป็นอะไรที่ฟินมากอย่างที่หาที่ไหนได้ยาก เดินเล่นบนสะพานไม้ที่ยาวที่สุดถ่ายรูปสวยๆ กันเต็มที่แล้วกลับมานั่งที่ห้องอาหารริมหาด เรามีมื้อเช้าง่ายๆ เป็น Breakfast แบบฝรั่งกับข้าวต้ม อิ่มท้องอิ่มใจอิ่มตา แล้วค่อยเดินทางกันต่อกับงานสำรวจเกาะหมาก

กิจกรรมทำความสะอาดเกาะหมาก  เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เพิ่งมารู้ตอนทริปนี้ ชาวเกาะหมากจะร่วมกันเก็บขยะทุกวันเสาร์ เก็บกันทุกที่ทั่วทั้งเกาะ เรื่องนี้ชาวเกาะหมากอยากให้คนมาเที่ยวรู้กันด้วยหลังจากที่ได้ร่วมกันทำความสะอาดท่าเรืออ่าวนิดฟังเรื่องชาวเกาะหมากเก็บกวาดขยะ มีที่มาน่าสนใจมากจะเล่าย่อๆ แค่ว่า กิจกรรมนี้เกิดจากคนๆ เดียวเดินเก็บขยะรอบเกาะหมากติดต่อกันเป็นนานเลย ถ้าอยากจะรู้มากกว่านี้มาเที่ยวเกาะหมากแล้วลองถามชาวบ้านดูเชื่อว่าทุกคนจะบอกได้ หรือไปที่ Ball Cafe ร้านกาแฟและเช่าจักรยานของเกาะหมากจะรู้ว่าทำไมเกาะหมากถึงได้เป็นเกาะที่แทบมองไม่เห็นขยะเลยทั้งๆ ที่เราเดินทางไปทุกที่ตลอด 3 วันที่เราอยู่บนเกาะ

เก็บกวาดล้างท่าเรืออ่าวนิด เรามุ่งหน้าไปร้านจักรยาน ได้เวลาเดินทางเที่ยวเกาะหมากแบบยอดมนุษย์ขบวนการรักษ์โลกกันแล้ว รถรางที่เรานั่งใช้พลังงานน้อยถ้าเฉลี่ยกับจำนวนคนที่นั่งโดยสาร แต่การปั่นจักรยานใช้แค่พลังงานของเราเท่านั้นมันจึงเป็นการท่องเที่ยวแบบหัวใจสีเขียวขนานแท้เลยละ ที่เกาะหมากมีบริการไบค์ทัวร์คือการนำเที่ยวด้วยการปั่นจักรยานมีเส้นทางให้เลือกตามความชอบ ระหว่างทางจะมีไกด์บรรยายข้อมูลเกาะหมากให้ฟังด้วย ตอนนี้ยังไม่เป็นทางการเท่าไหร่แต่ต่อไปก็คงจะเป็นการเที่ยวที่น่าสนใจมาก ถ้าสนใจก็ลองถามที่ร้านดูนะ

Nivacha Tent Koh Mak resort จักรยานคนละคัน กับรถรางสำหรับคนที่ปั่นไม่ไหวเดินทางไปตามเส้นทางที่ง่ายๆ บนเกาะหมาก ไปตามถนนคอนกรีตเข้าถนนลูกรัง ไปเรื่อยๆ แบบไม่รีบมากเส้นทางพาเรามาที่ Nivacha Tent Koh Mak resort รีสอร์ทที่ใช้เต็นท์แต่ตกแต่งข้างในจนแทบไม่อยากเชื่อ มีแอร์ ตู้เย็น ทีวี น้ำอุ่น เหมือนเป็นรีสอร์ททั่วๆ ไป เคยเจอแบบนี้ที่เขาสก ที่นั่นดังมากหลายๆ คนคงเคยไปพักมาบ้างแล้ว ส่วนที่เกาะหมากสำหรับคนไทยยังไม่ค่อยมาที่ Nivacha Tent จะว่าไปที่นี่ห่างจากย่านการค้า ล้อมรอยด้วยสวนมะพร้าว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่แสวงหาความสงบ มีหาดเล็กๆ ด้วย ยิ่งถ้าใครเป็นหนอนหนังสือคงไม่พลาดที่จะลองมาพักที่นี่

เที่ยวสวนมะพร้าวกับรีสอร์ทสไตล์เต็นท์กันแล้วปั่นเล่นกันต่อ มาที่โรงเรียนสอนทำอาหารไทย สไมล์เกาะหมากคุกกิ้งสคูล (Smile Koh Mak Cooking School) ปกติเปิดสอนให้ฝรั่งมาเรียนทำอาหารไทย เปิดรับได้แค่วันละ 4-10 คน แต่ถ้าจะเอาให้ได้น้ำได้เนื้อหน่อยมาสัก 6 คนกำลังดี โรงเรียนสอนทำอาหารไทยอยู่ไม่ไกลจากท่าเรืออ่าวนิด ปั่นมาถ่ายรูปกันหน่อยแล้วค่อยไปเข้าเรียนกัน

แกงส้มคูณ ทำไมเราต้องมาโรงเรียนสอนทำอาหาร ก็เพราะว่าเราอยากเที่ยวเกาะหมากให้ทั่วๆ อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าเกาะหมากมีที่สอนทำอาหาร และแน่นอนอาหารที่เราทำก็จะกลายเป็นมื้อเที่ยงอันอร่อยของเราเพราะเราได้ลงมือทำเองนั่นแหละ เมนูที่เราทำมี 2 รายการ เพื่อกระชับเวลา ข้าวคลุกพริกเกลืออาหารท้องถิ่นของจังหวัดจันทบุรีกับตราด กับอีกเมนูหนึ่งคือแกงส้มคูณ ได้ยินครั้งแรกนึกว่าเป็นดอกคูณแต่ที่จริงคูณเป็นพืชที่คล้ายๆ กับบอน ก้านของคูณกินได้ ส่วนเมนูอื่นๆ ต้องให้โรงเรียนจัดการเพราะถ้าเราลงมือทำสงสัยจะทนหิวไม่ไหวซะก่อน

ผ้าย้อมครามและมัดย้อม ที่เกาะหมาก เสร็จกับมื้อกลางวันหลังจากนั่งพักกันครู่ใหญ่แบบว่าอยากให้ข้าวเรียงเม็ด เราออกเดินทางจากอ่าวนิดจุดหมายของเราคือจะหาอะไรทำแบบเลอะๆ ซะหน่อย ไม่บอกใครจะรู้ละว่า บนเกาะหมากจะมีกิจกรรมทำผ้ามัดย้อมกันด้วย การทำผ้ามัดย้อมเค้าใช้ครามในการย้อมเป็นสีที่ต้องสั่งมาจากข้างนอก แต่ครามเป็นสีธรรมชาติที่ได้จากต้นคราม สีสันของผ้าสวยมากโทนน้ำเงินขาว ลวดลายอยู่ที่การมัด เราลองทำผ้าเช็ดหน้าด้วยการมัดย้อมแบบง่ายๆ ใช้เวลาไม่นานผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวในโลกก็เป็นของเราด้วยราคาไม่แพง ถึงจะเป็นมือใหม่แต่งานที่ได้ก็สวยถูกใจทุกผืน นอกจากนั้นต่างคนต่างอุดหนุนเสื้อผ้าจากร้าน Keep คนละชิ้นสองชิ้นเพราะมันสวยแล้วจะได้เอาไว้ใช้เวลาไปเที่ยวที่อื่นด้วย

Head in the Clouds เวลาบนเกาะหมากของวันนี้ยังเหลืออีกเพียบ พาไปนั่งชิลๆ ในร้านอาหารกึ่งบาร์ที่ Head in the Clouds ร้านเครื่องดื่มที่วิวสวยมากๆ ของเกาะหมาก มีทั้งนั่งรับลมและห้องแอร์ แน่ละว่าเกือบทุกคนมุ่งเข้าไปในห้องแอร์หลบร้อนกันก่อน วิวที่เราเห็นจากกระจกเป็นสะพานท่าเรือ ข้างๆ มีที่นั่งน่าจะเหมาะมากถ้าเรามานั่งตอนเย็นๆ

น้ำแตงโมปั่น Head in the Clouds สำหรับเวลากลางวันแดดจ้าๆ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าน้ำผลไม้เย็นๆ เลยจัดแตงโมปั่นสีแดงๆ เอามาถ่ายรูปและดับร้อน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารูปจะออกมาสวยขนาดไหน

Head in the Clouds เจ้าของเดียวกันกับ Makathanee Resort Koh Mak กระดกน้ำแตงโมปั่นหมดแก้วแล้วเลยขอเดินดูรอบรีสอร์ทหน่อยเผื่อคราวหน้าจะได้มาพัก ที่นี่มีบ้านพักแยก แล้วก็ห้องแบบตึก ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำ ไม่ไกลจากหาดทราย รวมๆ แล้วก็โออยู่

เราใช้เวลาที่เหลือของวันนี้กับกิจกรรมล่องเรือใบ เรียกว่าเป็นกิจกรรมรักษ์โลกที่ไม่ใช้พลังงานตามคอนเซปต์ของเกาะหมาก การลงเล่นเรือใบมีให้บริการหลายที่ เราเลือกไปที่ เกาะหมาก โคโคเคป รีสอร์ท มีเรือใบหลายแบบหลายขนาด สำหรับมือใหม่น่าจะลองลงเรือใบใหญ่ขนาด 4 คน จะมีคนสอนให้เราบังคับเรือใบการมาเป็นกลุ่มเราต้องค่อยๆ แบ่งกันเล่นแบบผลัดกันลง คนที่ยังไม่ถึงคิวก็จะนั่งจิบเครื่องดื่มชิวๆ ไปที่ Blue pearl บาร์กลางทะเลของ เกาะหมาก โคโคเคป ชิวไปชิวมาชักไม่อยากจะลงเรือใบเลยให้เพื่อนได้เล่นกันยาวๆ ไป 555 

เรือใบ เกาะหมาก ทุกคนที่มาไม่มีใครเคยเล่นเรือใบเลย มาเรียนกันที่นี่ ดูเหมือนเป็นอะไรง่ายๆ แต่รายละเอียดเยอะไม่เบา การจะพาเรือใบออกไปแล้วกลับให้ถึงฝั่งมันไม่หมูอย่างที่คิด และที่สำคัญมันเป็นกีฬาที่ต้องการลมเป็นอย่างมาก

Stand Up Paddle Board เกาะหมาก ปิดท้ายช่วงเวลาสวยๆ ที่ Blue pearl ด้วยการนั่งชมพระอาทิตย์ตก เอาเรือใบไปเก็บแล้วค่อยมารู้ทีหลังว่าที่นี่มี Stand Up Paddle Board (SUP) อ้าวไม่บอกแต่แรก ก่อนที่จะมืดเราก็ต้องไปเอาออกมาเล่นซะหน่อย มันเป็นอะไรที่เล่นง่าย แค่ขึ้นไปยืนบนกระดานแล้วพายด้วยไม้พายออกไปเรื่อยๆ ตามใจชอบ เจ้ากระดานอันนี้เราชอบเรียกให้มันสั้นๆ ว่า Stand Up Board ก็คือกระดานยืนเฉยๆ นี่แหละ ใครไม่เคยลองให้ไปลองมันคว่ำยากกว่าที่คิดมาก บางคนเล่นโยคะบนบอร์ดนี้ได้ด้วยนะ มีโรงเรียนสอนเป็นเรื่องเป็นราวที่นครศรีธรรมราชด้วย

ออกจากโคโคเคปช้าไปหน่อยเพราะบรรยากาศมันชิวมาก มื้อเย็นของเราที่วางแผนไว้คือ Tabletales เป็นร้านอาหารกึ่งๆ บาร์อยู่กลางเกาะหมาก เป็นอีกร้านที่เหมาะจะชิวและสังสรรค์แบบกลุ่มใหญ่ อาหารอร่อยมากๆ มีเพลงให้ฟังด้วย ส่วนบาร์อยู่ในระหว่างการเตรียมการ แต่กว่าจะอ่านรีวิวนี้จบคิดว่าบาร์คงสร้างเสร็จแล้วละ 5555

หมึกผัดพริกเกลือ อาหารแนะนำคือหมึกผัดพริกเกลือ สูตรเฉพาะของทางร้านอร่อยสุดๆ เพื่อนๆ ทั้งโต๊ะพูดเป็นเสียงเดียวกัน ในร้านมีโชว์นิดหน่อย จะว่าไปก็ไม่ใช่โชว์ซะทีเดียวคือมันต้องสั่งด้วย ต้องจ่ายเงินถึงจะได้เห็น ที่ชอบมากๆ คือ Vodga Lava น้ำตกไฟที่ค่อยๆ ไหลลงแก้ว (อันนี้ต้อง 20+ มั้งนะ อิอิ)

สวนยางพาราเกาะหมาก จบมื้อค่ำของเรากลับรีสอร์ทที่ ซินนามอน เช้ามาก็เหมือนเดิมเดินเล่นถ่ายรูปกับสะพานไม้สวยๆ และบริเวณรอบๆ รีสอร์ท แล้วออกเดินทาง วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปเกาะหมาก การสำรวจของเรากินบริเวณกว้างมากน่าจะกินพื้นที่ประมาณ 90% ของเกาะก็ว่าได้ เช้าวันนี้เราไปดูสวนยางพารา พืชหลักอีกอย่างหนึ่งของเกาะหมาก สูสีกับสวนมะพร้าว ชาวเกาะหมากปลูกยางขายรายได้พอประมาณไม่ได้เทพื้นที่ลงไปที่ยางจนไม่ปลูกอย่างอื่น มีโรงงานขนาดเล็กเพื่อที่จะทำยางแผ่นส่งขาย

สวนมะพร้าวเกาะหมาก ปิดท้ายทริปเกาะหมากแบบง่ายๆ สไตล์ชาวสวน เรามาร่วมกันปลูกมะพร้าว ดูเค้าเก็บลูกมะพร้าวด้วยการสอย การจะย้ายไม้สอยหนักๆ จากต้นหนึ่งไปหนึ่ง ปกติเค้าไม่เอาปลายไม้สอยลงเพราะเวลาตั้งขึ้นมันหนักมาก เค้าจะเลี้ยงไม้สอยไปแนวตั้ง แค่ลองยกดูก็รู้เลยว่ามันหนักมาก มะพร้าวบนเกาะหมากติด GPS ด้วย ลูกมะพร้าวที่นี่ส่งขายให้โรงงานผลิตน้ำมันมะพร้าวเลยต้องมีพิกัดของต้นมะพร้าวติดเอาไว้ มันต่างจากมะพร้าวที่อื่นมากจริงๆ 

    มะพร้าวเป็นอะไรที่มีอายุยืนพอสมควรแต่ก็ต้องมีการตายด้วย ชาวสวนต้องมีการปลูกมะพร้าวทดแทนต้นที่ตาย การปลูกมะพร้าวมีเทคนิคนิดหน่อยคือฝังลูกมะพร้าวแค่ครึ่งลูกและต้องวางให้ต้นมะพร้าวเอียงๆ เออนะ นี่ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งเหมือนกันที่เพิ่งจะรู้ รวมๆ แล้วมีกี่เรื่องกันละนี่ เอาละเรื่องราวจากเกาะหมากที่เราเจอตลอด 3 วัน ก็คงจะมีมาเล่าเท่านี้ ถ้ามีอะไรเพิ่มเราคงจะมาเขียนเป็นเรื่องใหม่ ใครก็ตามที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ เป็นนักอ่านตัวจริง ขอบคุณที่ติดตาม

    กดไลค์แฟนเพจของเราได้ที่ เพจ เที่ยวไหนต่อ touronthai.com นะครับ ตอนนี้ได้เวลาเดินทางกลับฝั่งแล้ว แล้วพบกันใหม่ในเรื่องต่อไปครับ

   ขอขอบคุณรายการสมุดโคจร ที่ทำให้เราได้สัมผัสกับความเป็นเกาะหมากอย่างถึงแก่นในทริปนี้ครับ