อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น

 อำเภอเมือง จ.สระบุรี เดิมชื่ออุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย มีพื้นที่ครอบคลุม 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอแก่งคอย อำเภอหนองแค และอำเภอวิหารแดง มีเนื้อที่ประมาณ 44 ตารางกิโลเมตร หรือ 27,856 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2524 ในช่วงประมาณเดือนตุลาคม-มกราคม เป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นเหมาะสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อน อุทยานฯ อยู่บนเส้นทางสายกรุงเทพฯ -สระบุรี ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนมิตรภาพ ห่างจากตัวเมืองสระบุรีลงมาทางใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร หากมาจากกรุงเทพฯ ให้เลี้ยวขวากลับรถ ช่วงก่อนถึงกิโลเมตรที่ 102 เข้าทางหลวงหมายเลข 3042 และ 3046 ตามลำดับเป็นถนนลาดยางประมาณ 8 กิโลเมตร

 อุทยานฯ แห่งนี้ประกอบด้วยภูเขาน้อยใหญ่ มีที่ราบในหุบเขา ยอดที่สูงที่สุดคือ เขาครก สูงประมาณ 329 เมตร สามารถมองเห็นตัวเมืองสระบุรี และอำเภอใกล้เคียงได้อย่างชัดเจน สัตว์ป่าที่พบมีอยู่หลายชนิด เช่น ไก่ฟ้า ไก่ป่า เก้ง ลิง หมูป่า และนกชนิดต่างๆ เช่น เขียวคราม กระรางหัวหงอก โพระดก บั้งรอกใหญ่ รวมทั้งผีเสื้อนานาชนิด

 ภายในบริเวณอุทยานฯ มีน้ำตกหลายแห่ง ได้แก่

 น้ำตกสามหลั่น เป็นลานหินกว้างเรียงซ้อนกันเป็นสามชั้นมองดูคล้ายบันได ซึ่งเป็นที่มาของชื่อน้ำตก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 300 เมตร

 น้ำตกโพธิ์หินดาษ ห่างจากที่ทำการประมาณ 300 เมตร เป็นน้ำตกชั้นเดียวเตี้ยๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณน้ำตกเป็นลานหินกว้าง มีต้นโพธิ์แผ่กิ่งก้านสาขา และต้นน้ำที่ไหลมายังน้ำตกโพธิ์หินดาดยังไหลไปสู่

 น้ำตกโตนรากไทร ซึ่งห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 400 เมตร เป็นน้ำตกชั้นเดียวตกลงมาจากหน้าผาหินสูง 7 เมตร สู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง รอบๆแอ่งน้ำมีโขดหินน้อยใหญ่ใช้เป็นที่นั่งชมน้ำตกได้ ทางอุทยานฯ ได้ทำเส้นทางเดินเท้าเชื่อมโยงระหว่างน้ำตกเหล่านี้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง โดยไม่ต้องย้อนกลับเส้นทางเดิม น้ำตกจะมีความสวยงามมากที่สุดในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนตุลาคม

ข้อมูลเพิ่มเติม:ประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี โทร. 0 3621 1545, 0 3621 1025
http://www.tourismthailand.org/lopburi

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น เมื่อหลายปีก่อนได้เดินทางมาที่น้ำตกแห่งนี้ครั้งหนึ่ง ถ่ายรูปน้ำตกสามหลั่นมาเขียนลงเว็บเอาไว้ ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก หลังจากนั้นพอกลับมาดูหน้าเว็บถึงรู้ว่ามีคนเข้ามาดูมากมายอย่างไม่เคยคิดมาก่อน เกิน 1 หมื่นครั้ง คราวนี้เราก็เลยไปเก็บภาพและข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่ผู้ชมจะได้เห็นอุทยานแห่งชาติแห่งนี้กันแบบทั่วถึง
หลังจากที่ทางเลี่ยงเมืองสระบุรีสร้างเสร็จสิ้นลง การเดินทางไปยังน้ำตกสามหลั่นและวัดพระพุทธฉายก็ง่ายขึ้น จากถนนพหลโยธินขึ้นทางต่างระดับเลี่ยงเมืองสระบุรีไปทางนครราชสีมา ขับมาเรื่อยๆ เจอสี่แยกไฟแดงตรงทางเข้าวัดพระพุทธฉายก็เลี้ยวขวา ถึงแยกหน้าวัดพระพุทธฉายมีถนนสายเล็กๆ ตรงไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น เพียง 2 กิโลเมตรก็จะเจอด่านเก็บค่าเข้าชม จ่ายเงินเข้ามาได้ไม่กี่เมตรเราก็จะเห็นอ่างเก็บน้ำเขารวก มีขนาดใหญ่พอสมควร อยู่ตรงเชิงเขามีบ้านพักด้วยซึ่งต้องจองผ่านเว็บไซต์อุทยานแห่งชาติ บ้านพักหลังนี้ได้รับความนิยมมาก นักท่องเที่ยวจะเลือกเดินทางมาที่นี่เพื่อค้างแรมในฤดูฝนและต้นฤดูหนาว ในวันที่อากาศดีๆ จะมีหมอกลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ ให้บรรยกาศที่สวยงามน่าประทับใจเรียกว่าบ้านชมธารา

บ้านชมธาราสามหลั่น บ้านพักที่ตั้งได้ตำแหน่งลงตัวอย่างพอดีริมอ่างเก็บน้ำเชิงเขา มีโอกาสสูงมากที่จะได้เห็นสายหมอกลอยฟุ้งในยามเช้า หลายคนก็มองว่าเป็นปางอุ๋งใกล้กรุงเทพฯ แต่โอกาสแบบนั้นก็มีไม่บ่อยนัก ในฤดูฝนเองแท้ๆ ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำกลับเหลือเพียงน้อยนิดเพราะต้องจ่ายออกไปเพื่อการเกษตรในพื้นที่ใกล้เคียง ปีนี้ก็ต้องรอน้ำระลอกใหม่ที่ยังไม่ไหลลงมาจากเขา เพื่อมาเก็บสะสมไว้ใช้ในปีต่อไปเรียกว่าเป็นวัฏจักร

แผนผังที่เที่ยวในสามหลั่น หลายคนที่เปิดเข้ามาชมเว็บไซต์หน้าอุทยานแห่งชาติสามหลั่น ก็ถามคล้ายๆ กันว่าที่นี่มีอะไรให้เที่ยวบ้าง เพราะดูจากเว็บไหนๆ ก็เห็นแต่อ่างเก็บน้ำกับน้ำตกสามหลั่นเท่านั้น พอขับเข้ามาถึงลานจอดรถข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เดินเข้ามาอีกหน่อยจะเห็นป้ายแผนผังแห่งนี้บอกรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานแห่งนี้ไว้ทั้งหมด รวมทั้งระยะทางในการเดินทางด้วย ที่เที่ยวในอุทยานแห่งชาติสามหลั่นได้แก่
อ่างเก็บน้ำเขารวก (ตรงทางเข้า)
น้ำตกสามหลั่น
น้ำตกโพธิ์หินดาด
น้ำตกโตนรากไทร
อ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล (ซับปลากั้ง)
อ่างเก็บน้ำสามหลั่น
จุดชมวิวเขาครก

สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งมีระยะทางแตกต่างกันแต่ทั้งหมดสามารถเดินเท้าถึงได้ อย่างเช่นจุดชมวิวเขาครกระยะทางประมาณ 4.8 กิโลเมตร ปัจจุบันทางเดินศึกษาธรรมชาติเส้นทางนี้เรียกได้ว่ายกเลิกไปแล้วก็ว่าได้ เพราะในแต่ละปีแทบไม่มีนักท่องเที่ยวมาเดินเลย ป่าก็ขึ้นปิดทับเส้นทางจนมองไม่เห็นแล้ว ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้แก่อ่างเก็บน้ำเขาไม้นวลระยะทางเดิน 2.8 กิโลเมตร แต่ไม่นิยมเดินเพราะมีทางที่รถเข้าถึงได้ สุดท้ายก็เหมือนว่าจะเหลือเพียงน้ำตก 3 แห่ง และอ่างเก็บน้ำเขารวก อ่างเก็บน้ำสามหลั่นที่มีคนมาเดินเที่ยว

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะไปเที่ยวที่ไหนก็ลองเข้าไปสอบถามข้อมูลกันได้นะครับจะได้รู้ข้อมูลก่อนที่จะเดินทาง รูปเก่าๆ ที่ถ่ายจากจุดชมวิวเขาครกก็เป็นวิวที่สวยมาก น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีคนมาเที่ยวจนเส้นทางปิดไปแล้ว แต่ถ้าสนใจจะเดินกันจริงๆ ก็ติดต่ออุทยานล่วงหน้าครับ เจ้าหน้าที่จะนำทางให้

บรรยากาศบริเวณอุทยาน พื้นที่ส่วนใหญ่ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่นมีความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ นี่คงเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคนที่สงสัยว่าพื้นที่บริเวณนี้ตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติได้อย่างไร เพราะในแง่ของสถานที่ท่องเที่ยวนับว่ามีความสวยงามไม่มากนักถ้าจะเทียบกับอุทยานแห่งชาติอื่นๆ ในประเทศไทย แต่ในแง่ของการรักษาทรัพยากรธรรมชาติคือป่าไม้แล้ว พื้นที่นี้เป็นป่าที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งใกล้ๆ กรุงเทพฯ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร หล่อเลี้ยงประชาชนหลายหมื่นครัวเรือน ในแง่ของสถานที่พักผ่อนหย่อนใจใกล้กรุงเทพฯ ที่นี่ไม่เป็นรองใครแน่นอน เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวที่ใช้เวลาสั้นๆ จะค้างแรมหรือไม่ก็ได้ เด็กๆ ก็สามารถมาเดินเที่ยวธรรมชาติแห่งนี้ได้ง่ายดาย พื้นที่ส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เป็นที่เพาะชำกล้าไม้หลายชนิดเพื่อการปลูกป่าเพิ่มเติมในพื้นที่

ออกเดินเท้าสู่น้ำตกสามหลั่น จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเดินตรงไปตามทางจะมาถึงทางแยก ตรงนี้เราจะเลือกได้ว่าจะไปน้ำตกไหน ซึ่งแน่นอนว่าอันดับแรกต้องไปน้ำตกสามหลั่น พระเอกของที่นี่ เป็นน้ำตกที่เดินง่ายสบายๆ มีคนมาเที่ยวมากที่สุด ระยะทางเดินเพียง 100 เมตร

บรรยากาศธรรมชาติทางเดินสามหลั่น ต้นไม้สูงใหญ่ รู้สึกว่าต้นไม้บริเวณนี้จะสูงขึ้นมากจนแทบจำไม่ได้ หลังจากที่ไม่ได้มาหลายปี บรรยากาศครึ้มร่มรื่นเย็นสบายเดินไปเรื่อยๆ จะเริ่มได้ยินเสียงน้ำไหลดังมาตลอดเวลา

ลำธารสามหลั่น ไม่กี่นาทีเราก็มาถึงสายธารที่ไหลลงมาจากน้ำตกสามหลั่น มีสะพานข้ามสร้างไว้อย่างแข็งแรง มีฝายเล็กๆ เพื่อการชะลอน้ำ

น้ำตกสามหลั่น มีลักษณะเป็นฝายหินขนาดใหญ่เรียงกัน 3 ชั้น แต่ละชั้นมีแอ่งบริเวณกว้างแต่ไม่ลึก ทำให้ไม่เห็นคนจะลงเล่นน้ำที่นี่ น้ำตกสามหลั่นเป็นน้ำตกที่มีน้ำน้อยมาก จะมีน้ำให้ได้ชมสวยๆ เฉพาะเมื่อมีฝนตกชุกติดต่อกันหลายวัน นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเที่ยวน้ำตกสามหลั่นต้องทำใจส่วนนี้ไว้บ้าง เพราะเราไปในวันหลังฝนตกหนัก ก็ยังพบว่าน้ำตกมีน้ำน้อยอยู่ดี แต่เท่าที่สังเกตุดูจะมีครอบครัวพาเด็กๆ ตัวเล็กๆ มาเที่ยว เหมือนเป็นการเรียนรู้เรื่องการเดินป่าเบื้องต้น ซึ่งก็จะดีมากสำหรับเด็กๆ ที่สำคัญเราต้องปลูกฝังความรักธรรมชาติและสอนให้เด็กๆ เรียนรู้ที่จะทิ้งขยะในที่ที่จัดไว้ให้ เมื่อโตไปจะได้ไม่ทิ้งขยะตามป่าเขาเหมือนทุกวันนี้

น้ำตกสามหลั่น

น้ำตกสามหลั่น

น้ำตกสามหลั่น ภาพนี้ก็เป็นภาพที่เราจะไปยืนบนชั้นสูงสุดของน้ำตกแล้วมองย้อนลงมาเบื้องล่าง จะเห็นแอ่งน้ำกว้างๆ 3 แอ่ง ลดหลั่นกันลงไป ที่น้ำตกสามหลั่นมีสิ่งที่แปลกอยู่อย่างคือสีของน้ำมองดูคล้ายสีของนมผสมอยู่ครับ

เหนือน้ำตกสามหลั่นมีอะไร อีกคำถามหนึ่งที่เราพบบ่อย ก็คือจากน้ำตกสามหลั่นเดินต่อไปจะพบอะไร คำตอบก็คือ ระยะทางจากน้ำตกเหนือขึ้นไป 100 เมตร มีอ่างเก็บน้ำสามหลั่น และนี่ก็คือสิ่งที่เราเห็นและเก็บภาพมาฝากเป็นคำตอบ จากจุดนี้ไปยังสามารถมีทางเดินไปได้ถึงอ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล หรือซับปลากั้ง ระยะทาง 2.8 กิโลเมตรอย่างที่บอกตอนแรก แต่เรายังไม่เดินไปตอนนี้ เอารถขับไปดีกว่า นอกจากนั้นยังมีทางเดินเชื่อมไปยังน้ำตกโพธิ์หินดาดได้ด้วย แต่ก็ไม่ไปอีกละ ลงไปเริ่มต้นที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวดีกว่า

เปิดเส้นทางน้ำตกโพธิ์หินดาด หลังจากที่ออกมาจากน้ำตกสามหลั่น ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา เพราะเหงื่อเริ่มออกมากจนตัวเหนียวแล้ว พักผ่อนให้สบายแล้วค่อยเดินไปต่อที่น้ำตกโพธิ์หินดาด ระยะทาง 200 เมตร ถือว่าเป็นการเดินป่าแบบชิวๆ

ทางแยก 2 น้ำตก เดินมาได้ 100 เมตรจะมาเจอป้ายอันนี้ บอกทางว่าน้ำตกโพธิ์หินดาดไปทางขวา 100 เมตร ส่วนทางซ้ายไปน้ำตกโตนรากไทร งั้นไปทางขวาก่อน ทางเดินตามธรรมชาติป่าเขาของอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่นร่มรื่นมากก็จริง แต่น่าเสียดายที่แทบจะไม่เจอดอกไม้ป่าเอาเสียเลย ทางเดินเล็กๆ พาเราเข้าไปในป่าเรื่อยๆ เพียงไม่กี่นาที (ก็แค่ 100 เมตรนี่) ก็ถึงน้ำตก

น้ำตกโพธิ์หินดาด สิ่งที่เราเห็นที่นี่วันนี้ก็ไม่ทำให้เราแปลกใจอะไร เพราะน้ำตกสามหลั่นยังน้ำน้อยนิด แล้วน้ำตกโพธิ์หินดาดจะมีน้ำมากได้ยังไง ในช่วงที่น้ำมากพอน้ำตกโพธิ์หินดาดมีความสวยงามใช้ได้ทีเดียวนะครับ

น้ำตกโพธิ์หินดาด เหนือจากน้ำตกภาพบนเดินขึ้นมาอีกไม่กี่เมตรก็จะมีสายน้ำไหลผ่านชั้นหินลงมาอีกนิดหน่อย

ดอกหงส์เหิน ดอกไม้ป่า 1 ในไม่กี่ชนิดที่เราเห็นระหว่างทางเดินชมน้ำตกโพธิ์หินดาด และน้ำตกสามหลั่น ดอกหงส์เหินถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ดอกเข้าพรรษา เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่จะบานในช่วงเข้าพรรษาพอได้มาเห็นอยู่กลางป่าหันหลังชนกันเราก็เลยเรียกช่อหงส์เหินช่อนี้ว่าหงส์โกรธกัน

ดอกเข้าพรรษา อีกช่อหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันนักหันหน้าตามกัน ก็เลยขอเรียกหงส์เหินช่อนี้ว่า หงส์ง้อกัน เอาละฮาพอแล้ว กว่าจะได้รูปหงส์เหินป่าคู่นี้มาได้ใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมง ถือว่าเป็นการนั่งพัก ตอนนี้เราจะเดินไปน้ำตกโตนรากไทรกันต่อ แน่นอนว่าเราไม่ได้คาดหวังอะไรจากน้ำตกแห่งที่ 3 ที่กำลังจะเดินไปเลย เพราะคิดว่ายังไงก็น้ำน้อย

ทางเดินน้ำตกโตนรากไทร จากน้ำตกโพธิ์หินดาดไปน้ำตกโตนรากไทรไม่จำเป็นต้องเดินออกไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพราะมีทางเดินเชื่อมถึงกันได้ ทางเดินมีสภาพเป็นแนวเอียงตามไหล่เขา เดินไปตัวเราจะเอียงๆ หน่อยไปเรื่อยๆ

ทางเดินน้ำตกโตนรากไทร

น้ำตกโตนรากไทร 400 เมตรจากน้ำตกโพธิ์หินดาด เราได้ยินเสียงน้ำตกอยู่ข้างล่างทางซ้ายมือ มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงเป็นแอ่งน้ำที่พอจะมีน้ำลงเล่นได้อยู่บ้าง แต่พอเดินลงมาเรื่อยๆ เราก็เห็นน้ำตกที่สูง มีน้ำมากกว่าที่คิดไว้มาก และแอ่งน้ำขนาดใหญ่มากกว่าน้ำตกอื่นๆ ที่เราไปมา เด็กๆ กระโดดลงเล่นน้ำแบบสบายๆ อย่างที่เห็น อ๋อ กลายเป็นว่าน้ำตกโตนรากไทรเป็นพระเอกของอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่นซะงั้น เด็กวัยรุ่นกระโดดลงเล่นน้ำครั้งแล้วครั้งเล่าจนเหนื่อยก็ขึ้นแล้วก็จากไป

น้ำตกโตนรากไทร

น้ำตกสามหลั่นภาคแมลง เป็นช่วงท้ายของการเที่ยวในบริเวณน้ำตกสามหลั่น ขอเอาภาพแมลงที่ถ่ายได้เมื่อหลายปีก่อนมาให้ชม ไปคราวนี้เราไม่เจอเจ้าแมลงประหลาดตัวนี้แล้ว มันชักไยเหมือนแมงมุมแต่หัวมันมีเขาแหลมๆ หลายอัน น่าจะเป็นต้นแบบของสัตว์ประหลาดในหนัง

นกเงือก ตัวจริงเสียงจริง เห็นที่น้ำตกสามหลั่น ตอนนี้ไม่เจอแล้ว

ชมผีเสื้อนานาชนิด ในฤดูกาลที่เหมาะสมของผีเสื้อ ประมาณตุลาคม เรามาชมผีเสื้อที่น้ำตกสามหลั่นได้ มีหลายชนิดด้วยกัน

อันนี้ก็เป็นเก็บตกเล็กๆ น้อยๆ กับขบวนหอยทากปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้เป็นกลุ่มๆ ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เราจะเดินทางกันต่อครับ ออกจากอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่นกลับไปยังถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จะมีแยกซ้ายมือไปบ้านนา นครนายก เส้นทางนี้จะพาเราไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ที่อ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล (ซับปลากั้ง)

เดินทางสู่ซับปลากั้ง จากถนนพหลโยธิน เลี้ยวซ้ายตรงทางหลวงหมายเลข 33 ไปบ้านนา นครนายก นั่นแหละครับ เข้าไปสังเกตุโรงพยาบาลวิหารแดงครับ เลี้ยวเข้าซอยไปจะมีป้ายบอกว่าไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น อ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล (ซับปลากั้ง) ประมาณนี้ก็เลี้ยวเข้าไปเลยครับ ขับไปตามทางเรื่อยๆ จะผ่านทุงนาหลายแปลงมาก เข้าหมู่บ้าน ไปตามถนนลาดยาง พอเจอทางแยกมีถนนลาดยางตัดกับถนนคอนกรีต ให้เลือกทางลาดยาง สุดทางลาดยางเป็นถนนลูกรังเข้าหน่วยพิทักษ์ฯ เรียกว่าไกลจนเกือบท้อ ผ่านสุสานหลายแห่ง ก็คงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาแต่น้อย ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาเที่ยว

บริเวณหน่วยซับปลากั้ง มีพื้นที่สำหรับการพักผ่อน มีร้านสวัสดิการแต่เปิดไม่เย็นมากก็ปิด มีที่พักให้ และมีลานกางเต็นท์บนสันเขื่อน ไปชมกันเลยดีกว่า

หน่วยพิทักษ์ฯ อ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล นักท่องเที่ยวจะมาค้างแรมไม่ว่าจะเป็นบ้านพักหรือว่ากางเต็นท์ต้องเข้าไปติดต่อซะก่อน

ลานกางเต็นท์บนสันเขื่อน มีพื้นที่กางเต็นท์ที่ได้รับความนิยมกันมากครับคือบนสันเขื่อน เพราะไม่ได้เป็นคอนกรีต เป็นเขื่อนดินมีหญ้าขึ้นแบบกำลังดี เหมาะสำหรับการกางเต็นท์ชมวิวอ่างเก็บน้ำเบื้องหน้า วิวทิวทัศน์หันไปทางตะวันออกมีเขาเล็กๆ รอบอ่าง พระอาทิตย์ขึ้นน่าจะสวยพอสมควร

อ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล(ซับปลากั้ง) ทิวทัศน์ที่เราจะเห็นถ้ามาเที่ยวที่นี่ และกางเต็นท์ที่นี่ ทิศตะวันออกจะอยู่เยื้องไปขวามือของภาพ ก็พอจะได้วิวสวยๆ ได้เหมือนกันถ้าฝนฟ้าเป็นใจ ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำตอนนี้ถือว่าต่ำมาก แต่ยังไงเจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำเด็ดขาด

อ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล(ซับปลากั้ง) นอกเหนือจากการพักผ่อนชมวิว หรือการกางเต็นท์ที่นี่ เราสามารถเลือกเดินไปเที่ยวได้ สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณนี้มีน้ำตกแผงม้า ระยะทางจากลานกางเต็นท์ 500 เมตรเท่านั้นเอง เดินเลียบไปทางซ้ายมือของอ่างเก็บน้ำ

ทางเดินชมธรรมชาติสู่น้ำตกแผงม้า บรรยากาศทางเดินด้านหนึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำ อีกด้านเป็นเขาและมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นตลอดเส้นทาง เรียกว่าเดินสบายๆ ทางเดินนี้ยาวไปจนถึงน้ำตกสามหลั่นได้ 2.8 กิโลเมตร แต่ตอนขับรถมาน่าจะหลายสิบกิโลเมตรอยู่เหมือนกันครับ

น้ำตกแผงม้า อะอะ อย่าเพิ่งบ่นเชียว ที่เห็นนี้เป็นสายธารสายเล็กๆ ที่ไหลลงมาจากแอ่งน้ำของน้ำตกแผงม้าเท่านั้น มีทางเดินขึ้นไปยังแอ่งน้ำตก ลงเล่นน้ำได้ เป็นที่พักผ่อนของวัยรุ่นในพื้นที่นี้ทีเดียว แต่เราขอจบไว้เท่านี้ดีกว่า ทิ้งไว้ให้เป็นปริศนา น่าลองไปชมกันด้วยตัวเอง

เป็นไงครับ ถ้าดูจนจบรู้สึกว่าอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ใหญ่กว่าที่คิดไว้มากเลยใช้มั้ยครับ หากน้ำมาก เราคงไปเก็บภาพมาให้ชมกันอีก แล้วพบกันใหม่ครับ...