ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานครนายก (นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว) โทร. 0 3731 2282, 0 3731 2284
http://www.tourismthailand.org/nakhonnayok
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านคลองยาง เมื่อเดินทางมาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวละลุ มีลานกว้างให้จอดรถได้รองรับรถขนาดใหญ่ได้ (ถ้าผ่านสะพานแคบๆ มาได้นะ) ในบริเวณเดียวกันมีกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านคลองยางอยู่ และมีเจ้าหน้าที่หรือเจ้าของรถบริการสำหรับนักท่องเที่ยวเพียงคนเดียว แสดงให้เห็นว่า ละลุ ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสกันมากมายนักในแต่ละสัปดาห์
พริกแห้ง อาชีพหลักของคนที่นี่คือเกษตรกร ลานกว้างตรงนี้ใช้ทำอะไรก็ได้แบบเอนกประสงค์ ส่วนมากเป็นลานจอดรถนักท่องเที่ยวเพื่อเปลี่ยนไปใช้รถท้องถิ่น และตากพริก
รถบริการนักท่องเที่ยว นอกเหนือจากการใช้เป็นยานพาหนะไปท้องนา ยามว่างโดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ รถเหล่านี้จะถูกนำมาจอดเรียงกันไว้ตามคิวเพื่อบริการนักท่องเที่ยว การเดินทางไปละลุ หรือแพะเมืองผี หรือ เสาดินนาน้อย (แล้วแต่จะเรียก มีอีกชื่อหนึ่งคือโป่งยุบ) ต้องใช้รถแบบนี้เท่านั้น เพราะละลุ อยู่กลางท้องนาเลย
ออกเดินทางเข้าละลุ ถนนช่วงแรกของการเดินทางก็ดูเรียบดี ทีแรกเข้าใจว่ารถทั่วไปก็เข้าได้ซะอีก
ข้างทางสู่ละลุ ละลุ อยู่ท่ามกลางท้องทุ่งนา ในระหว่างฤดูฝนนักท่องเที่ยวที่จะมาละลุมีน้อยมาก เพราะดินในบริเวณละลุจะอ่อนและยุบตัวได้ง่าย ปกติแล้ว ละลุ แพะเมืองผี โป่งยุบ เสาดินนาน้อย เหล่านี้เกิดจากน้ำ และมันจะพังด้วยน้ำเหมือนกัน ฝนที่ตกลงมาชะมัน จะทำให้มันมีขนาดเล็กลงๆ และเกิดเป็นแนวใหม่ขึ้นมา
เห็นละลุอยู่ลิบๆ เดินทางใช้เวลาพอสมควร (ไม่นานมาก) เพราะรถวิ่งช้ามากตามแบบของรถแทรคเตอร์ แล้วเราก็เริ่มเห็นละลุอยู่อีกไม่ไกล จากในรูปจะเห็นร่องรอยการกัดเซาะของน้ำ ที่ทำให้เกิดละลุได้เหมือนกัน แต่บางทีก็อาจจะทำให้ทางขาดไปได้ด้วย
ใกล้แล้ว
กลางละลุ ในที่สุดก็มาถึง จากตรงนี้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งรถชมทั่วๆ บริเวณ หรือว่าจะลงเดินเท้าสำรวจให้ทั่วๆ แต่ทีมงานเราในเมื่อมาถึงแล้วจะนั่งรถชมก็กระไรอยู่ เดินดีกว่าส่วนเจ้าของรถก็นำรถไปจอดในที่ร่มสบายไปเลย
การเดินทางจากกรุงเทพฯ มาที่นี่อาจจะใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง บางทีเดินทางสายก็มาถึงช่วงเที่ยงพอดี แดดจะแรงมาก ควรวางแผนให้ดี
เอ้าถ่ายให้ติดรถด้วย
ละลุ ตรงนี้เป็นส่วนกลางของละลุในจุดนี้ เพราะละลุนั้นมีทั้งหมด 3 จุด การจะเลือกเดินทางเที่ยวให้ครบทั้ง 3 จุดหรือจะเลือกเที่ยวจุดเดียวแล้วเอาให้ทั่วๆ ก็แล้วแต่ แต่ถ้าหากว่ามาจุดที่ 1 แล้วจะไปจุดที่ 3 จะต้องเสียค่ารถเพิ่มอีกเพราะระยะทางไกลกันมาก หลายกลุ่มที่มาเที่ยวก็จะเลือกเที่ยวจุดที่สวยที่สุดจุดเดียว
วิวละลุสวยๆ โชคดีที่การเดินทางมาในฤดูฝนยังมีวันที่ฟ้าสดใสได้ขนาดนี้ ละลุหลายแห่งเริ่มจะถูกเซาะทะลายลง มีขนาดเล็กลง จนเหลือเพียงส่วนแหลมๆ ที่อาจจะละลายหายไปในเวลาอันสั้น รีบไปดูกันหน่อยนะครับ
ฉากละลุบางๆ ที่เห็นอยู่นี้เหลือขนาดบางมากๆ อาจจะน้อยกว่า 1 ฟุต
มุมกว้างละลุ
โผล่ละลุ
ท้องฟ้าใสที่ละลุ
กำเนิดละลุใหม่ ร่องรอบการกัดเซาะของน้ำที่ไหลลงตามหน้าดินในแนวดิ่ง อันเป็นเหตุให้ละลุมีรูปร่างเปลี่ยนไปในแต่ละปี แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือขนาดของดินด้านบนก็จะเล็กลงๆ
กรอบรูปละลุ อันนี้เป็นของแปลก ตามหลักการละลุที่เกิดจากน้ำ ไม่น่าจะมีช่องทะลุตรงกลางได้
ทุ่งน่ากับภูเขา ในบริเวณเดียวกันกับละลุ ชาวนาก็มาทำนาในพื้นที่ตามปกติ ภาพละลุในหลายๆ เว็บเป็นภาพตอนฤดูร้อน หรือ หนาว จึงทำให้เห็นเพียงหญ้าและต้นไม้สีเหลืองๆ เมื่อเรามาฤดูฝน ก็ทำให้ได้ภาพที่เปลี่ยนไป
อีกด้านหนึ่งของละลุ ละลุเป็นผลงานธรรมชาติมีพื้นที่อาณาบริเวณกว้างขวางมาก จากภาพด้านบนจนถึงตรงนี้เป็นคนละด้านกัน มีช่องให้เดินทะลุถึงกันได้ แต่เดินไกลเหมือนกันในการอ้อมมา
ต้นไม้บนละลุ บนสันของละลุ บางแห่งเป็นผืนดินกว้าง บางแห่งเป็นเพียงสันบางๆเท่านั้นแม้ว่าด้านบนของละลุจะมีหญ้าคลุมอยู่ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้น้ำไม่เซาะดินได้เลย
กองดินที่โคนละลุ จะเห็นว่าละลุมีเนินดินที่จับตัวกันค่อนข้างแน่น เนินดินนี้เกิดจากการกัดเซาะทีละน้อยจนเป็นเนินค่อยๆสูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันละลุก็บางและเล็กลง
ละลุบางๆ ส่วนตรงนี้ถ่ายมาให้เห็นว่ามันแคบและบางแค่ไหน
โค้งๆ บางส่วนของละลุเป็นคล้ายผนังห้องโค้งๆ
ทะลุ "ละลุ" เป็นภาษาเขมร แปลว่า "ทะลุ" อันปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากน้ำฝนกัดเซาะ ยุบตัวหรือพังทลายของดิน เนื่องจากสภาพดินแข็งจะคงอยู่ไม่ยุบตัวเมื่อถูกลมกัดกร่อนจึงมีลักษณะเป็นรูปต่างๆ มองคล้ายกำแพงเมือง หน้าผา บ้างมีลักษณะเป็นแท่งๆ คล้ายกับแหล่งธรรมชาติบริเวณ "แพะเมืองผี" ของจังหวัดแพร่ แต่มีพื้นที่กว้างกว่า 2,000 ไร่ จึงทำให้ละลุมีความสวยงามและแปลกตา
กรอบรูปละลุ ภาพด้านบนกับภาพนี้มีความแตกต่างกันตรงที่ ภาพบนเป็นภาพการทะลุจากผิสหน้าดินมาถึงผนังของละลุ ส่วนภาพนี้เป็นภาพผนังละลุทะลุเป็นกรอบกลมๆ
ภาพมุมสูง ยืนอยู่บนละลุมองลงเบื้องล่างเห็นคนตัวเล็กนิดเดียว ก็ประมาณดูละกันว่าความสูงของละลุจะประมาณขนาดไหน
ขนาดคนกับละลุ เห็นคนไกลๆ กับแนวละลุยาวๆ เป็นแท่งดินสลับซับซ้อน ตรงนี้เป็นเหมือนกำแพงละลุ มีช่องว่างอยู่ ให้เดินผ่านไปได้ เหมือนประตูละลุ
นักท่องเที่ยวเดินชมละลุ ตอนนี้ทะยอยเดินทางมาถึงกันทีละคันๆ ดูเหมือนว่าวันนี้น่าจะมีมากกว่า 10 กลุ่ม บางกลุ่มก็ไปที่จุดอื่นๆ เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างดี
คนละด้าน ละลุจุดนี้เหลือน้อยแล้ว ไม่แน่ว่าจะอยู่ได้อีกกี่ปี
ระวังถล่ม บนสันละลุเดินได้ แต่ต้องระวังบางส่วนอ่อนตัวยุบลงไปได้เหมือนกัน
หุ่นไล่กา
ตัดสีละลุกับรวงข้าว ช่วงนี้ข้าวออกรวงพอดี สีกำลังเขียวจัด กับฉากหลังละลุสีเหลืองอมแดงแบบสีดินธรรมชาติ
ประตูละลุ ส่วนที่แยกออกจากกันเพียงนิดเดียวที่พอจะให้คนเดินได้ ซ้ายเป็นละลุขวาก็เป็นกำแพงละลุยาวๆ
อยู่ได้ไงเนี่ย ตรงนี้แปลกประหลาดกว่าจุดอื่น เห็นยื่นออกมาตรงฐานขาดสูงประมาณ 2 ฟุต ยาวประมาณ 3 ฟุตแน่ะ น่าจะขาดออกจากกันแต่ก็ยังยึดติดกันได้
ภาพทางอากาศ
ยอดละลุ
เดี่ยวๆ
เบื้องหลัง
สตาร์ทรถ เมื่อเดินชมโดยรอบแล้วก็พร้อมที่จะเดินทางกลับ ระหว่างที่เราเดินสำรวจละลุมีนักท่องเที่ยวเข้า ออก กันหลายกลุ่ม เพราะเราใช้เวลานานมาก
ระวังดินถล่ม
ภาพมุมนี้ก็ดูดีนะ
บนละลุ
แหลมๆ ยืนบนยอดละลุ
เที่ยวละลุ เดินกันหามุมสวยๆ ตามแบบที่ตัวเองชอบไปรอบๆ ละลุ เมื่อเดินทั่วแล้วจะไปจุดต่อไปหรือจะกลับก็แล้วแต่ชอบ
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ