พุทธอุทยานมหาราช

ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนสายเอเซียที่เราเดินทางขึ้นเหนือเป็นประจำ พอพ้นเขตเมืองอยุธยาแล้วอีกไม่นานก็จะเห็นองค์หลวงปู่ทวดนั่งหันหน้าไปทางทิศเหนือ (หันหลังให้เรา) โดยเฉพาะเวลากลางคืนใตรเดินทางผ่านมาสายนี้คงจะเห็นพระองค์ใหญ่สีทองเปิดไฟส่องตลอดคืนเด่นตระหง่านอยู่ไม่ไกลนัก จากถนนสายเอเซียก็จะมีทางแยกเข้าไปด้านใน มีหลักกิโลใหญ่ๆ เป็นจุดสังเกตุ เมื่อเราผ่านทางสายนี้แล้วได้นมัสการหลวงปู่ทวดก็อุ่นใจว่าพึ่งพาบารมีองค์ท่าน ให้แคล้วคลาดตลอดการเดินทางของเรา เพราะหลวงปู่ทวดได้สมญาว่า พระรอดแดนใต้ นั่นเอง

หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่รอยต่ออยุธยา - อ่างทอง ตั้งใจว่าจะสร้างเป็นหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก และนับว่าเป็นรูปเหมือนพระสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน จากความริเริ่มของ คุณวัชพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธานมูลนิธิพระเทวราชโพธิสัตว์ ได้สร้างหลวงปู่ทวด หน้าตัก กว้าง 24 เมตร ความสูงรวมฐาน 51 เมตร สร้างจากปูนหุ้มสัมฤทธิ์เคลือบสีทอง ชื่อโครงการว่า โครงการพุทธอุทยานมหาราช โครงการนี้ตั้งอยู่ที่หลักกิโลเมตรที่ 44 ทางหลวงหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ตำบลบ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำแหน่งที่ตั้งเป็นรอยต่อของ อำเภอบางปะหัน อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอำเภอป่าโมก อำเภอเมืองฯ จังหวัดอ่างทอง

ข้อมูลเพิ่มเติม:คุณวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธานมูลนิธิพระเทวราชโพธิสัตว์ โทรศัพท์ 081-932-3366

แก้ไขล่าสุด 2016-05-11 16:50:04 ผู้ชม 59998

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

สะพานทอดสู่องค์หลวงปู่ทวด หลังจากที่เราเห็นองค์หลวงปู่นั่งหันหลังให้มีไฟส่องสว่างสวยงามยามกลางคืน ระหว่างการเดินทางไปทริปโคมยี่เป็ง ทุกคนพูดขึ้นมาเกือบพร้อมกันว่าจะขอเข้ามานมัสการองค์หลวงปูทวดเป็นสิริมงคลระหว่างการเดินทาง ผมก็ชะลอรถใกล้ๆ กับหลักกิโลเมตรยักษ์ที่เขียนว่า พุทธอุทยานมหาราช แล้วเลี้ยวเข้ามาท่ามกลางความมืด เราจะเห็นองค์หลวงปู่ทวดสะท้อนแสงไฟสวยงามแล้วยังสะท้อนบนผิวน้ำอยู่ตลอดทาง

พอหามุมในการถ่ายรูปไม่ค่อยได้เพราะมีต้นไม้บังมุมตลอดทางก็ขับมาเรื่อยๆ จนถึงที่ศาลาฝั่งตรงข้ามกับหลวงปู่ทวดมีที่จอดรถแต่จอดได้ไม่มากหรอก ถือว่ามาตอนกลางคืนรถเลยน้อยเราจอดที่หน้าศาลาเลยแล้วก็รีบเดินลงมาเก็บภาพกันโดยไม่ได้สนใจศาลาหลังใหญ่ๆ เป็นไม้ทั้งหลังที่อยู่ทั้ง 2 ข้างของเรา

เทคนิกระเบิดซูมเก็บทั้งหน้าซูมและหลังซูม ให้ติดองค์หลวงปู่ท่าน เลยมีลักษณะเป็นภาพคล้ายพุฒซ้อน

หลังจากนมัสการองค์หลวงปู่แล้วก็มาเก็บภาพศาลาแล้วเดินทางกันต่อ

กลับมาอีกครั้งที่เดิมแต่คราวนี้เรามากลางวันกันครับ การได้ผ่านมานมัสการหลวงปู่ทวดระหว่างการเดินทางผมถือว่าเป็นมงคลสำหรับทริปนั้นๆ เป็นอย่างยิ่ง เพราะผมจะพกหลวงปู่ทวดแขวนคอไว้เสมอ ทริปนี้ผมผ่านมาทางนี้อีกผมก็แวะอีก โดยเฉพาะเป็นเวลาที่ต่างกันเผื่อว่าจะได้อะไรเพิ่มเติมมาฝาก เราเห็นว่าถ้ามากลางวันจะมีร้านกาแฟกับร้านขนมเล็กๆ เปิดเป็นแผงตรงทางเข้าใกล้ๆ กับศาลาไม้หลังใหญ่คู่นี้ ศาลาทั้งสองหลังกำลังจะเปลี่ยนเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว กับร้านกาแฟ และจะมีห้องเล็กๆ สำหรับแขวนร่มไว้ให้คนที่มาไหว้หลวงปู่ทวดได้ยืมไปใช้ แล้วก็นำมาแขวนไว้ที่เดิม

อาคารด้านซ้ายกำลังจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเร็วๆ นี้

หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ตอนกลางวันถ้าไม่มาแต่เช้าจริงๆ แสงจะเข้าแรงมากถ่ายรูปยากสักนิดครับ ระยะทางจากศาลาริมน้ำเดินข้ามสะพานตรงไปที่ฐานหลวงปู่ทวดก็ไม่ไกลมาก แต่แสงแดดกลางวันนี่แรงจริงๆ ถึงว่าที่นี่ถึงมีร่มให้ยืมใช้ด้วย

พิธีเบิกเนตรหลวงปู่ทวด ตามความเชื่อของการสร้างพระพุทธรูปเมื่อสร้างเสร็จแล้วก็จะมีการสวดมนต์เป็นพิธีการเบิกเนตรพระ จะมีสายสิญจน์โยงจากองค์พระแล้วแยกไปในบริเวณพิธี ผู้ที่เข้าร่วมพิธีก็จะเอาสายสิญจน์คล้องที่หัวเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย การสวดนั้นค่อนข้างยาวมาก ผมเคยไปร่วมงานเททองสร้างหลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม สวดสามจบแต่ละจบยาวเป็นชั่วโมงครับต้องมีการพักระหว่างการสวดด้วย

นมัสการหลวงปู่ทวด อาคารที่สร้างล้อมองค์หลวงปู่ทวดมีลักษณะเหมือนเป็นระเบียงคด เหมาะแก่การมาพักผ่อนเพราะลานวงกลมนี้ล้อมด้วยน้ำเป็นบริเวณกว้างมีการขุดลอกตกแต่งให้สวยงาม มีบัวขึ้นมากมาย ตรงกลางเป็นอาคารสำหรับสักการะนมัสการหลวงปู่ทวดปิดทองหลวงปู่ทวดจำลองด้านหลังมองเห็นหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่เหมือนเป็นเงาซ้อนกันอยู่พอดีเลย

หลักกิโลยักษ์ เป็นจุดสังเกตุของพุทธอุทยานมหาราช หลักกิโลใหญ๋สูงหลายเมตรตั้งอยู่ริมถนนสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) ตรง กม. 44 ตอนนี้ทาสีเหลืองยิ่งทำให้สะดุดตามองเห็นได้แต่ไกล เข้ามาถึงด้านในไหว้หลวงปู่ทวดแล้วยังมองเห็นหลักกิโลเมตรอันนี้ได้ชัดเจน ว่างๆ ผ่านขึ้นเหนือแวะมาสักการะหลวงปู่ทวดเป็นสิริมงคลให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัยกันครับ