น้ำตกสาริกา

 เป็นน้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา เดินทางจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 3049 เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3050 อีก 3 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอดสาย น้ำตกสาริกาเป็นน้ำตกขนาดใหญ่สายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ถึง 9 ชั้น ผาที่สูงที่สุดประมาณ 200 เมตร แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำและมีน้ำมากในฤดูฝน ส่วนฤดูแล้งน้ำแห้ง บริเวณด้านล่างของน้ำตกมีบริการห้องอาบน้ำ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ค่าเข้าชมน้ำตกผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็ก 10 บาท

 ในบริเวณใกล้เคียงกันมี "ถ้ำสาริกา" อาจารย์มั่น ภูริฑตฺโต เคยมาบำเพ็ญศาสนธรรมที่นี่ระหว่าง พ.ศ. 2460-2463สภาพเป็นเนินเขา ภายในบริเวณประกอบด้วยกุฏิของสงฆ์ เรือนบูชาหลวงปู่มั่น และโบสถ์ ซึ่งอยู่สุดทางเดินเท้าขึ้นเขา

 หลังจากลงจากเขาใหญ่ทานอาหารกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ แต่อาศัยว่ายังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง เราก็เลยแวะที่นี่อีกที่หนึ่ง

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานครนายก (นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว) โทร. 0 3731 2282, 0 3731 2284
http://www.tourismthailand.org/nakhonnayok

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

เดินทางสู่น้ำตกสาริกา เอาละ ปีนี้ พ.ศ.2555 แล้วสิ น้ำตกสาริกาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในทัวร์ออนไทยที่ผมไปเยือนถึง 3 ครั้ง แล้ว แต่ละครั้งช่างสร้างความประหลาดใจให้ผมได้ทุกครั้งไป สำหรับคนที่ไม่เคยไปหรือเคยไปเพียงครั้งเดียว คงจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มันทำให้ผมต้องมารื้อข้อมูลบรรยายข้อมูลเว็บในหน้านี้ถึง 3 ครั้ง ภาพสี่ภาพที่เห็นอยู่ข้างบนนี้ เป็นการเดินทางมายังน้ำตกสาริกาหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เส้นทางบางช่วงคล้ายกับการขับรถเที่ยวบนเขาใหญ่ มีช่วงโค้งช่วงเนินพอให้ตื่นเต้น ไม่ถึงกับหวาดเสียวมาก จากตัวเมืองนครนายกใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3049 นครนายก-น้ำตกนางรอง จะมีสามแยกไฟแดงเป็นเส้นทางแตกแขนงออกมา คือทางหลวงหมายเลข 3050 ตรงไปสุดที่น้ำตกสาริกา มีทางแยกเข้าลานจอดรถของน้ำตก

สิ่งที่ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของน้ำตกสาริกาก็คือตรงลานจอดรถนี่แหละ ครั้งแรกผมมาขับไปจอดตรงทางเข้าน้ำตกห่างจากน้ำตกชั้นแรกเพียงไม่กี่เมตร พอมาครั้งที่สองกลับต้องจอดซะไกลแล้วเดินไปน้ำตก บริเวณที่ผมเคยขับเข้าไปจอดในครั้งแรก มีการล้อมรั้วสังกะสี เขียนว่าที่ดินส่วนบุคคลห้ามบุกรุก อ้าวซะงั้น ไม่เป็นไรไหนๆ ก็มาแล้วก็เลยเดินเข้าน้ำตกแต่โดยดี ระยะทางก็เกือบครึ่งกิโลได้ พอมาครั้งที่ 3 พื้นที่ส่วนบุคคลหายไปแล้ว ขับเข้าไปจอดใกล้น้ำตกได้เหมือนเดิม ส่วนทางเดินที่สร้างขึ้นมาเพื่อเดินเข้าน้ำตกก็กลายเป็นเส้นทางรกร้างไม่มีคนใช้อีกต่อไป เฮ้อ ก็ต้องมาอัพเดตให้ได้รู้โดยทั่วกันครับ อัตราค่าเข้า 40 บาท เมื่อเข้ามาแล้วหาที่จอดรถ บางที่ก็ให้จอดฟรี บางที่ก็ให้จอดแต่เก็บตังค์ 40 บาท ที่ให้จอดฟรีส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร หวังจะได้การอุดหนุนจากผู้มาเยือนด้วยการสั่งอาหารในร้าน อะไรประมาณนี้

สิ่งที่เปลี่ยนไปอีกอย่างก็คือร้านค้า มีการสร้างเป็นห้องแถวถาวรกันแล้ว มีร้านอาหารเครื่องดื่มเสื้อผ้าตามประสาคนค้าขายหน้าน้ำตก ผมเลือกจอดจุดที่ใกล้น้ำตกที่สุดเพราะมีเวลาไม่มากน้ำตกสาริกาปิด 6 โมงเย็นก็จริง แต่เจ้าหน้าที่จะประกาศปิดน้ำตกตั้งแต่ 4 โมงครึ่ง เพราะนักท่องเที่ยวกว่าจะทยอยออกจากน้ำตกหมดก็จะใช้เวลาถึง 6 โมงเย็นพอดีประมาณนั้น บรรยากาศตรงห้องน้ำดูมีการพัฒนาปรับปรุงให้ดูดีอยู่ตลอด

เส้นทางเดินไปน้ำตกสาริกา นี่เป็นภาพชุดที่ผมเคยเดินเข้าไป เส้นทางสร้างด้วยคอนกรีตอย่างดี ความจริงก็เป็นธรรมชาติดีครับ ถึงแม้ว่าจะต้องเดินแบบนี้ไปยังตัวน้ำตกเหมือนเดิมก็ไม่ลำบากลำบนอะไรมากมายนัก พอบ้านที่สร้างปิดทางเข้าน้ำตกพร้อมกับป้ายที่ดินส่วนบุคคลมันหายไป ทางเข้าน้ำตกเปิดเป็นปกติ ทางเดินสายนี้ก็ไม่มีคนใช้อีกต่อไป แต่เอามาให้ชมเพื่อเป็นการรำลึกถึงความหลัง อย่างภาพแรกด้านซ้ายจำได้ว่าเป็นต้นมะเดื่อหินต้นใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นทางเดินเข้าน้ำตกสาริกาตอนนี้ก็ยังอยู่ แต่คงเหงาหน่อยที่ไม่มีคนเดินไปทักทายถ่ายรูปเหมือนก่อนแล้ว

สายน้ำตกหลั่งรินจากผา เป็นภาพตื่นตาประทับใจของผู้มาพบเห็น เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของน้ำตกสาริกา ผมมาหลายครั้ง บางครั้งเป็นฤดูฝน บางครั้งเป็นฤดูแล้ง ก็จะเห็นภาพจากมุมเดียวกันแต่แตกต่างกันตรงปริมาณน้ำเห็นได้ชัดเลยทีเดียวเชียว

ศาลเจ้าพ่อปลัดจ่างเจ้าแม่สาริกา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำน้ำตก ปกติจะมีอยู่ทุกแห่ง ใครไปก็ควรจะได้กราบไหว้บูชาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองและห้ามลบหลู่ เป็นความเชื่อของนักท่องเที่ยวชาวไทยมาช้านาน

ปลายธารสาริกา บริเวณนี้เป็นที่แรกที่เราจะลงเล่นน้ำกันได้ โดยมากจะเป็นโซนสำหรับเด็ก น้ำในลำธารจะตื้นไหลรินฉ่ำเย็นเป็นสายลงมา รวมไปถึงเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับผู้สูงวัยได้ด้วย เพราะลูกหลานคงจะเดินไปชมน้ำตกในชั้นที่สูงขึ้นไป ก็เลยมานั่งรอกันที่ริมธารแห่งนี้ตามข้อจำกัดของสังขาร เด็กๆ ที่ลงเล่นน้ำในลำธารก็สนุกสนานกันไปแล้วแต่จะคิดเกมอะไรมาเล่นกันตามประสาเด็ก ผู้ใหญ่ที่ไม่ประสงค์จะเดินขึ้นไปชมความอลังการของน้ำตกสาริกาก็หาอาหารเครื่องดื่มมาพร้อมกับเสื่อปูนั่งล้อมวงกินกันไป

ป้ายน้ำตกสาริกา มุมมหาชน มหานิยม ใครๆ มาน้ำตกสาริกาไม่ถ่ายรูปกับป้ายจะตะขิดตะขวงใจนอนไม่หลับเอาได้ ถ่ายเก็บไว้ซะหน่อยก่อนที่จะเดินเลียบลำธารไปยังน้ำตกที่อยู่สูงขึ้นไปพอจะเห็นอยู่ลิบๆ ในรูป ว่ากันว่าน้ำตกสาริกามีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ผมไม่เคยนับและไม่เคยรู้ว่าตรงไหนเป็นชั้นที่เท่าไหร่ เดี๋ยวดูต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพอเข้าใจกันละครับว่ามัน 9 ชั้นได้ยังไง

แอ่งเล่นน้ำแบบผู้ใหญ่ เดินเรื่อยขึ้นมาข้างๆ ลำธาร ไม่ไกลนักก็จะมาถึงบริเวณนี้ ซึ่งมีทั้งน้ำตกและแอ่งน้ำกว้างพอประมาณ จากแอ่งน้ำนี้ก็จะอีกแอ่งหนึ่ง อยู่ใต้ลงไป หลายคนก็ลงกันที่แอ่งน้ำแถวๆ นี้ เพราะแอ่งน้ำอื่นๆ จะต้องมีการเดินผจญภัญกันเล็กน้อย ปีนไปตามก้อนหินก็จะได้เห็นน้ำตกชั้นอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ความลึกตรงนี้ก็มากพอสำหรับผู้ใหญ่ ส่วนเด็กๆ ไม่แนะนำ เพราะอาจเป็นอันตรายได้ น้ำตกที่ไหลลงมาที่แอ่งน้ำนี้เป็นสาย 2 สาย เหนือขึ้นไปอีกก็มีแอ่งกับน้ำตกอีกชั้นหนึ่ง

เดินสำรวจสาริกา นี่ละครับวิธีที่จะเดินจากชั้นหนึ่งไปอีกชั้นหนึ่ง มันก็ค่อนข้างลื่น เมื่อเราสะพายกระเป๋ากล้องไปด้วยมันก็ต้องระวังเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปที่จะได้เห็นน้ำตกชั้นอื่นๆ ที่เรียกว่าอยู่ติดกันเลยก็ได้ ส่วนจะนับตรงไหนเป็นขั้นที่เท่าไหร่ก็คงจะบอกไม่ได้ครับลองไปดูกันเอง

น้ำตกสวยๆ จากสาริกา ภาพบางส่วนของน้ำตกครับ จากตรงนี้ก็จะต้องข้ามไปยืนเหนือน้ำตกให้ได้จะเห็นอีกชั้นหนึ่ง

น้ำใสไหลเย็นมองเห็นเด็กๆ ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของน้ำตกที่อยู่ข้างๆ กับภาพข้างบน จุดที่ผมยืนอยู่มีทางเดินสร้างด้วยคอนกรีต และมีบันไดให้เดินสูงขึ้นไปชมน้ำตกสาริกาตรงบริเวณที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์ น้ำตกลงมาจากผาสูงเป็นมุมที่ขาดเสียไม่ได้สำหรับการมาเที่ยวน้ำตกแห่งนี้ บันไดที่ว่าก็ไม่สูงมากนัก เดินยังไม่ทันเหนื่อยมากก็ถึงแล้ว

นี่เป็นจุดที่เรียกว่าไฮไลท์ แล้วครับ บริเวณนี้จะไม่เว้นว่างจากนักท่องเที่ยวทั้งใกล้และไกลที่ดั้นด้นเดินทางมาที่นี่ ตลอดทั้งวันจะมีคนมานั่งหน้าน้ำตกตรงนี้ ถ้าอยากเก็บภาพน้ำตกว่างๆ ไม่มีคนมานั่งบังวิว ลองหาเวลามาในวันธรรมดา และแนะนำให้มาช่วงเช้าดีกว่าช่วงเย็นครับ ตอนเข้าแสงที่ส่องลงกระทบน้ำตกจะช่วยให้เรามองเห็นสีฟ้าของท้องฟ้าในภาพได้ พอตกเย็นเงาของแนวผาตกกระทบน้ำตก ถ่ายรูปลำบากแถมท้องฟ้าที่สดใสก็จะหายไปเหลือแต่สีขาวด้วย

อำลาสาริกา ภาพสุดท้ายของน้ำตกแห่งนี้ครับ เป็นบรรยากาศน้ำตกสาริกาในช่วงวันหยุดยาว เข้าพรรษาที่ผ่านมานี่เอง นักท่องเที่ยวมาเที่ยวน้ำตกแห่งนี้มากมายอย่างที่เห็น สมแล้วที่เป็นน้ำตกที่มีคนคลิกเข้ามาดูมากที่สุดของนครนายก ไว้ว่างๆ มีโอกาสจะไปเยี่ยมอีกนะ น้ำตกสาริกา...