ตลาดน้ำมหานคร

 ตลาดน้ำมหานคร ได้เปิดให้บริการเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและศูนย์ช้อปปิ้งชานเมืองที่ลาดกระบัง ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิมากนัก เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2554 แม้ว่าจะมีร้านค้าหลายร้านที่เจ้าของร้านได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์มหาอุทกภัยในระยะนั้นทำให้ต้องปิดร้านเพื่อระดมทุนระลอกใหม่มาเปิดร้านต่อ ในระยะนี้ก็มีหลายร้านที่ได้กลับมาเปิดขายสินค้าและให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 น. - 24.00 น. เลยทีเดียว โดยมีสินค้ามากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นของใช้ ของตกแต่งบ้านและสวน ของกิน มีทั้งแบบมื้อหนักและของว่าง ของที่ระลึก ของฝาก ฯลฯ แบ่งเป็นโซนต่างๆ ใช้ชื่อของพระราชวังเป็นชื่อโซน ได้แก่ โซนบ้านปืน โซนไกลกังวล โซนพญาไท โดยใช้สีของร้านค้าเป็นตัวบ่งบอกโซน มีสีเขียว สีเหลือง สีชมพู สีส้ม สีม่วง แต่ละโซนก็จะมีสินค้าและบริการแตกต่างกันไป โดยรูปแบบเน้นการใช้สถาปัตยกรรมที่เน้นความเป็นยุครัตนโกสินทร์ ย้อนยุค

 สิ่งที่น่าสนใจ
 พระบรมรูปพระมหากษัตรย์ในราชวงศ์จักรี รัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 8 และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้ประชาชนได้ถวายราชสักการะ
 มีการแสดงให้ชมเป็นรอบๆ ในวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ต้องสอบถามรายละเอียดอีกครั้งก่อนเดินทาง)
 เวลาที่เหมาะสม ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเลือกเดินทางไปช้อปปิ้ง พักผ่อน ในช่วงเวลาเย็น

 ติดต่อสอบถาม
 โทร. 02-172-9676-8 เว็บไซต์ http://www.mahanakornfloatingmarket.com
 อีเมล์ mahanakornfloatingmarket@gmail.com

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ http://www.tourismthailand.org/bangkok

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ตลาดน้ำมหานคร การเดินทางสู่ย่านช้อปปิ้ง แลนด์มาร์ค แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่เขตลาดกระบังมาได้ง่ายกว่าที่คิดไว้มาก เพราะขับมาให้เจอถนนอ่อนนุช - ลาดกระบัง จากนั้นก็ตรงไปตามถนนเรื่อยๆ ตลาดน้ำมหานครอยู่ซ้ายมือเชิงสะพานข้ามคลองจระเข้น้อย เมื่อข้ามสะพานแล้วก็ชิดซ้ายเพราะเห็นป้ายหน้าตลาดน้ำมหานครขนาดใหญ่มากสังเกตุง่ายๆ เลี้ยวเข้าลานจอดรถได้เลย หรือถ้าลานจอดรถเต็มก็จะมีลานจอดรถอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่ซอย สน.จระเข้น้อย ไปจอดลานนั้นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางมายังตลาดน้ำ เพราะทางตลาดน้ำมหานครจัดรถรับ-ส่งไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

จุดถ่ายรูปตลาดน้ำมหานคร หลังจากจอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่เราจะมองหาก็คือจุดเริ่มต้นที่จะเดินสำรวจตลาดแห่งนี้ให้ทั่วถึง แต่ตลาดน้ำมหานครก็ไม่ใช่เล็กๆ เริ่มจากตรงกลางเลยดีกว่า จุดถ่ายรูปที่เป็นงอบ 3 ใบนี้อยู่ที่เชิงสะพานข้ามคลองของตลาดน้ำ จุดนี้อยู่กึ่งกลางของตลาดน้ำที่แบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน โดยแต่ละโซนใช้ชื่อพระราชวัง อย่างเช่น โซนบ้านปืน โซนไกลกังวล โซนพญาไท ฯลฯ ด้านขวาของจุดนี้ก็จะเป็นโซนบ้านปืน เป็นอาคารสีเขียวยาวตลอดแนวเหมือนกันทุกห้อง ด้านซ้ายมือเป็นโซนสีชมพูชื่อโซนสนามจันทร์ เริ่มแรกของเราไปทางขวาก่อนดีกว่า

ศาลาพระพุทธชินราช เป็นศาลาที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่หลายองค์ ได้แก่ พระพุทธชินราชจำลอง พระสิวลี ฯลฯ นักท่องเที่ยวที่มาเดินตลาดน้ำก็ไหว้พระขอพรและพักผ่อนที่ศาลานี้ได้ อยู่ข้างสะพานเดินข้ามคลองตรงกลางของตลาดน้ำมหานครเหมือนกัน

ตลาดน้ำมหานครโซนบ้านปืน เป็นโซนที่อยู่ด้านหน้าสุดใกล้ลานจอดรถ โซนนี้จะตกแต่งอาคารร้านค้าทุกห้องด้วยสีเขียว ซึ่งตามแนวความคิดของตลาดน้ำแห่งนี้จะแบ่งประเภทสินค้าตามโซนต่างๆ ด้วย แต่ถ้าไปตอนนี้ก็อาจจะไม่ได้แบ่งแยกชัดเจนมากนัก เพราะยังมีร้านค้าเปิดขายสินค้ายังไม่เต็มพื้นที่ ร้านค้าที่ขายสินค้าต่างๆ กันก็เลยมาเปิดร้านในโซนเดียวกัน เหตุที่มีร้านค้ายังเปิดขายไม่เต็มพื้นที่นั้นก็เพราะเจ้าของร้านหลายรายได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วม ต้องกลับไปซ่อมแซมบ้านของตัวเองก่อนหลังจากนี้คงมีร้านค้ามาเปิดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในระหว่างนี้เราก็เดินดูร้านที่เปิดขายกันให้ทั่วๆ ก่อนดีกว่าครับ

สินค้าโซนบ้านปืน จากด้านหน้าเดินเข้ามาในร้านค้าแถวใน เห็นภายนอกยังไม่ค่อยเปิดร้านแต่ด้านในก็มีเปิดกันหลายร้าน สินค้าที่เราจะพบในโซนสีเขียวหรือโซนบ้านปืนนี้ก็จะมีของตกแต่ง ของที่ระลึก ของทำมือหรือแฮนด์เมด เต็งหนึ่งเบญจรงค์เป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อมีความสวยงาม เราคงจะพบเห็นอยู่ในพื้นที่ตลาดหลายแห่ง อีกร้านหนึ่งเป็นสมุนไพร แต่ก็มีพรมเช็ดเท้าแขวนขายรวมอยู่ในร้าน เป็นพรมเช็ดเท้าที่ออกแบบได้อย่างน่ารักจนบางทีจะไม่กล้าใช้เอา ถัดลงมารูปล่างเป็นงานแกะสลักงาช้าง งานละเอียดสวยงามมาก อีกร้านหนึ่งอยู่ข้างๆ กันเป็นไม้แกะสลัก ผลงานชิ้นหนึ่งที่ดึงดูดคนมาเที่ยวได้อย่างดีคือรูปเหรียญห้ารุ่นใหญ่ ที่มีรูปครุฑอยู่ด้านหลังของเหรียญ ทำออกมาขนาดใหญ่เกือบ 1 ฟุต ครึ่ง สำหรับประดับบ้าน

เสื้อยืดตลาดน้ำมหานคร ลายเสื้อตลาดน้ำมหานครตัวนี้ก็ออกแบบได้อย่างสวยงามด้วยสีทองบนเสื้อสีดำ ลวดลายสวยงาม นอกจากนี้ก็มีอีกหลายลายให้เลือก

น้ำพุตลาดน้ำมหานคร อยู่ตรงที่ทำการของตลาดน้ำ อาคาร 2 ชั้น นี้ไม่ใช่ร้านขายของครับ แต่อยู่ในพื้นที่ของตลาด ด้านข้างทำเป็นน้ำพุ ตกแต่งสวยงามมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปบริเวณนี้กันไม่น้อย คลองที่ขุดขึ้นมาเพื่อให้เป็นบรรยากาศของตลาดน้ำเริ่มต้นที่นี่ แล้วยาวตามแนวเส้นตรงเข้าไปตามตลาดโซนต่างๆ มีสะพานเดินข้ามเป็นระยะๆ

บางส่วนจากตลาดน้ำมหานคร นี่ก็เป็นบรรยากาศตามร้านต่างๆ ในตลาดน้ำแห่งนี้ ภาพบนซ้ายก็ยังอยู่ในโซนบ้านปืนสีเขียว ซึ่งมีร้านศิลปะแห่งศรัทธาหรือ the Art of Faith อยู่ด้วย นอกจากงานศิลปะที่เกี่ยวกับความศรัทธา ที่ร้านนี้ยังมีบริการดูดวงอีกด้วย แปลกกว่าตลาดน้ำไหนๆ เลยนะเนี่ย
2 รูปล่างเป็นร้านชื่อบางฉ่ำ ตกแต่งร้านน่าสนใจเมนูเครื่องดื่มดับร้อนเป็นอย่างดีระหว่างการเดินเที่ยวตลาดน้ำ ได้แก่ ฟรุตสมูทตี้ นมเย็น อิตาเลียนโซดา สนนราคา 25-35 บาทลองแวะเข้าไปดูครับ

กิน ยัน เซ ชื่อร้านเครื่องดื่มที่เดาเอาว่าน่าจะกินแล้วเซ อยู่ติดกันกับร้าน ชื่นใจมหานคร 2 ร้านนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ปิดอยู่ แต่เข้ามาตกแต่งร้านไว้หมดแล้ว อีกไม่นานก็จะเปิดให้บริการ รอให้เราเข้าไปชิม อาคารชุดยาวๆ สีเขียวนี้อยู่ข้างเวทีการแสดงของตลาดน้ำมหานครซึ่งจะมีการแสดงให้ชมกันเป็นรอบๆ สำหรับรายละเอียดคงต้องโทรไปสอบถาม เพราะไม่ได้แสดงทุกวันครับตอนนี้นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ นอกจากจะเป็นช่วงวันหยุด

ริมคลองประเวศบุรีรมย์ เดินจากเวทีการแสดงตรงมาอีกหน่อยก็เป็นโซนสีเหลือง โซนบางปะอิน โซนนี้เป็นโซนที่มีร้านค้ามาเปิดยังไม่มาก เราก็จะเห็นร้านส่วนใหญ่ปิดเป็นแนวยาวเกือบทุกห้อง ถัดจากร้านค้ามีทางเดินแล้วก็แนวเขื่อนริมคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งมีการจัดโต๊ะไว้ให้นั่ง ตกเย็นก็จะเห็นนักท่องเที่ยวสั่งอาหารในร้านที่อยู่ในโซนใกล้ๆ มานั่งกินบนโต๊ะนี้ ส่วนในคลองก็จะมีแพขายอาหารชื่อร้านอาหารต้นแบบสาขา 2 บริการอาหารอยู่ข้างตลาดน้ำมหานคร สั่งมากินบนโต๊ะได้สบายเลย

ห้องน้ำตลาดน้ำมหานคร เป็นห้องน้ำที่ออกแบบได้อย่างน่าสนใจ มองไกลๆ เหมือนท่อนซุงขนาดใหญ่โดยเฉพาะเมื่อมองจากข้างหลัง แต่พอเดินมาข้างหน้าเราก็จะเห็นช่องที่เจาะเข้าไปเป็นอ่างล้างหน้า มีช่องประตูเข้าไปเป็นห้องน้ำที่ตกแต่งสวยงาม มีแอร์ด้วย แต่ถ้าวันไหนคนน้อยๆ (โดยเฉพาะระยะนี้คนยังไปกันไม่เยอะ) ก็จะไม่ได้เปิดแอร์ให้นะครับ ห้องน้ำนี้อยู่หลังเวทีการแสดง อีกจุดหนึ่งก็จะอยู่ที่โซนสีม่วงตกแต่งสวยไม่แพ้กัน

ศาลาพระบรมรูป เป็นอาคารที่ล้อมด้วยกระจกใสทุกด้าน มองเข้าไปก็จะเป็นพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ 8 พระองค์ คือรัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 8 และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นที่สำหรับให้ประชาชนได้เข้าไปถวายราชสักการะ อาคารหลังนี้จะเป็นอาคารที่โดดเด่นกว่าอาคารอื่นๆ เมื่อเราเดินอยู่บนสะพานข้ามคลองตลาดน้ำมหานคร

พระบรมรูปพระมหากษัตริย์ 8 รัชกาล ตอนนี้ผมก็เข้ามาถวายพระราชสักการะพระบรมรูปและพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในศาลา

สะพานตลาดน้ำมหานคร อีกสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างจะดีมีประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาตลาดน้ำมหานครเป็นครั้งแรก ก็คือไกด์ 2 คนที่ยื่นอยู่ตรงทางลงสะพาน พอเราข้ามสะพานแห่งนี้มาได้แล้วก็จะเห็นเด็ก 2 คนนี้ยืนอยู่ เพื่อคอยให้บริการข้อมูลให้เรา ไม่ว่าจะถามเรื่องร้านค้า สินค้า ต่างๆ ว่าจะเดินไปทางไหนจะหาอะไรก็ถามได้หมดครับ

กาแฟโกเฮง ร้านหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่ว่าจะไปเปิดที่ตลาดไหนก็จะมีลูกค้าแวะเวียนเข้าไปสั่งกาแฟอยู่เสมอ ก็คือร้านโกเฮง มีทั้งกาแฟโบราณดั้งเดิมแบบโกเฮง แล้วก็ยังมีกาแฟสดให้เลือกด้วย ภายในร้านตกแต่งไปด้วยของเล่นเก่าๆ ที่หาดูยาก สมัยเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ไม่ได้มีไว้ประดับอย่างเดียวถ้าซื้อก็ขายครับ เผื่อว่าใครเห็นแล้วนึกถึงความหลังกับของเล่นแบบนี้ก็จะได้มีไว้สะสม

บรรยากาศตลาดน้ำมหานคร เดินเรื่อยๆ ไปตามซอยต่างๆ ก็มาถึงโซนสีม่วงกับโซนสีส้ม คือโซนพญาไท กับ โซนไกลกังวล โดยมาโซนไกลกังวลสีส้มจะมีร้านอาหารและเครื่องดื่มเป็นหลัก ร้านอาหารในโซนสีส้มมีมากมายหลายร้านหลากเมนู แต่วันที่เราไปก็คงต้องบอกว่าค่อนข้างซบเซาเพราะร้านอาหารนั้นเป็นการขายที่ต้องลงทุนทุกๆ วันที่เปิดขาย ในระหว่างที่นักท่องเที่ยวยังน้อยอยู่เราก็จะเห็นป้ายชื่อร้านเรียงรายกัน แต่ร้านค้านั้นจะปิดเป็นส่วนใหญ่ ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีหลายร้านที่เปิดขายอาหารมากมายให้เราได้เลือกเดี๋ยวจะพาไปหากินกันครับ

เสื้อผ้าลายตลาดน้ำมหานคร นี่ก็เป็นไอเดียการออกแบบเสื้อยืดที่มีลวดลายคำว่า ตลาดน้ำมหานคร หรือ mahanakornfloatingmarket เป็นหลัก ร้านนี้อยู่ในโซนสีชมพู มีเสื้อยืดตัวเล็กๆ สำหรับเด็กๆ ด้วยครับ

ล่องเรือเที่ยวตลาดน้ำมหานคร อีกกิจกรรมหนึ่งในตลาดน้ำแห่งนี้คือการล่องเรือเที่ยวในบริเวณพื้นที่ตลาดน้ำ ในระยะนี้ก็จะเห็นมีรายการทีวีมาถ่ายทำกันเป็นระยะๆ ก็ติดตามชมกันได้ทางทีวีครับ

ร้านค้าในตลาดน้ำมหานคร ภาพรวมๆ บรรยากาศการเดินเที่ยวตลาดน้ำมหานครในโซนต่างๆ 2 รูปข้างบนเป็นร้านที่อยู่ติดกันในโซนสีชมพู ร้านแรกผ้าเมือง ขายเสื้อผ้าที่ออกจะเป็นแนวชุดประจำเผ่า เนื้อผ้าดีน่าสนใจทีเดียว อีกร้านก็จะเป็นเครื่องดนตรี เน้นการขาย Ukulele อูคูเลเล่ เป็นหลัก ตกเย็นๆ เจ้าของร้านจะออกมานั่งบรรเลงเพลงด้วย อูคูเลเล่ ให้ลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาได้ฟัง ถัดมาอีกโซนหนึ่งเป็นบรรยากาศในโซนสีม่วง พญาไท ในซอยก็มีร้านค้าเปิดขายสินค้าหลายอย่าง เราก็จะได้เห็นการทำกระเป๋าที่มีดีไซน์น่าสนใจ มีเครื่องหนัง (ที่โซนสีเขียวก็มีร้านเครื่องหนัง) นอกจากนี้ในระหว่างที่โซนสีส้มยังไม่ค่อยมีร้านอาหารเปิดมากนักเราก็ยังมาฝากท้องกับโซนสีม่วงริมคลองประเวศบุรีรมย์ซึ่งมีหลายร้านหลากเมนูให้เลือกได้เช่นกัน รูปล่าง 2 รูปนี้ก็เป็นร้านอาหารที่เรายังไม่มีโอกาสได้ชิมเพราะวันนี้เรามีร้านที่เลือกไว้สำหรับมื้อเช้าและมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว

แสงยามเย็นในตลาดน้ำมหานคร เดินไปเดินมาจนได้เวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ตลาดน้ำมหานครเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิมากๆ เราจะเห็นเครื่องบิน บินขึ้นบินลงอยู่เป็นระยะๆ แต่ไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากเครื่องบินเลย นับว่าเป็นตำแหน่งทำเลที่พอเหมาะพอดี แสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับหายไปจากขอบฟ้าจะทำให้เราได้เห็นอีกบรรยากาศหนึ่งของตลาดน้ำมหานครแห่งนี้ ซึ่งก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราเดินวนไปวนมาอยู่หลายชั่วโมงเพื่อรอเก็บภาพมาฝากกันครับ

วิวสวยในตลาดน้ำมหานคร หลังจากที่เดินไปจนครบรอบหลายรอบแล้ว ในที่สุดผมก็เลือกเอาตำแหน่งบนสะพานข้ามคลองของตลาดน้ำมหานครเป็นจุดเก็บภาพแสงสียามเย็นของที่นี่ โดยยึดเอาศาลาพระบรมรูปเป็นหลัก

วิวสวยในตลาดน้ำมหานคร ทั้งบริเวณของตลาดน้ำมหานคร ประดับด้วยไฟเป็นระยะๆ ตลอดทางเดิน สมแล้วที่จะเป็นตลาดที่เปิดให้บริการกันยันเที่ยงคืน ไม่ต้องกลัวมุมมืดในตลาดเลย

ตลาดน้ำมหานครยามกลางคืน

ตลาดน้ำมหานครยามกลางคืน ความสวยงามแตกต่างกับช่วงเวลาเย็นๆ เล็กน้อย ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนว่าชอบภาพแนวไหน

ร้านบ้านเตยหอม ร้านอาหารร้านนี้ผมจะขอเน้นเป็นพิเศษ ยกให้เป็นร้านแนะนำในตลาดน้ำมหานครเลยครับ ร้านนี้เราใช้บริการอาหารกลางวัน มีจุดเด่นของเมนูอาหารเป็นประเภทสเต็ก แต่ก็มีการประยุกต์รสชาตแบบไทยๆ เข้าไป ไม่เป็นฝรั่งจ๋าไปดูเมนูอาหารกันดีกว่า

เมนูร้านบ้านเตยหอม เห็นคำว่าสเต็ก หลายคนก็ต้องกังวลเรื่องราคาอยู่บ้าง เพราะการจะสั่งสเต็กสักจานบางทีถูกใจแต่ไม่สบายกระเป๋า สำหรับที่ร้านบ้านเตยหอมผมว่าราคาน่าสนใจ ไม่แพงจนเกินไปสำหรับอาหารที่อร่อยและนานๆ จะกินที เมนูที่นี่จะดูฝรั่งๆ ได้แก่ สเต็ก สปาเก็ตตี้ เฟรนซ์ฟรายด์ แต่แบบไทยๆ ก็จะเห็นทอดมัน ส่วนเจ้ากุ้งบอมบ์นั้นผมก็ไม่ได้ถามว่าหน้าตาเป็นยังไง ข้าวผัดก็คงไม่ต้องสั่งมาชิมเพราะเดี๋ยวจะพื้นๆ เกินไป อ่านๆ ไปก็เจอพล่าสเต็ก ทำเอาสะกิดใจไม่น้อย สั่งเลยไม่ต้องคิด ส่วนอีกจานหนึ่งผมสั่งสปาเก็ตตี้ต้มยำทะเล ดูราคาเค้าแล้วธรรมดามาก ไม่น่าเชื่อว่าราคานี้จะสั่งสเต็กได้

เมนูแนะนำบ้านเตยหอม ภาพซ้ายพล่าสเต็กหมู เป็นการนำเอาหมูมาทำกระบวนการเดียวกับสเต็ก หมูจะนุ่มเหมือนสเต็ก แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จัดการนำมาทำพล่า ก็เหมือนพล่ากุ้ง รสออกแนวเผ็ดเป็นแกนนำ ส่วนภาพขวาก็คือสปาเก็ตตี้ต้มยำทะเล ทีแรกเห็นเมนูก็งงๆ พอสั่งมาเห็นหน้าเห็นตากันแล้วก็ถึงบางอ้อ ปกติผมจะกินผัดสปาเก็ตตี้แบบปกติไม่ค่อยได้ เพราะรู้สึกว่ามันเลี่ยน เจอแบบนี้เข้าไปรับรองว่าเลี่ยนไม่ออก เพราะรสจัดจ้านถูกลิ้นคนไทยนักแล ไม่เชื่อไปชิมกันได้ ร้านบ้านเตยหอมอยู่ในโซนสีม่วงหาไม่ยากเพราะอยู่ริมคลองประเวศบุรีรมย์ วิธีการเดินหาร้านบ้านเตยหอมก็คือข้ามสะพานกลางตลาดน้ำมหานคร เลี้ยวขวามาทางร้านโกเฮง เดินผ่านห้องน้ำตรงไปทางริมคลองก็จะเจอ เมนูมีให้เลือกมากกว่านี้เยอะแต่ผมคงจะสั่งมากินไม่ไหว

อาหารญี่ปุ่นตลาดน้ำมหานคร มื้อกลางวันกินอาหารฝรั่งปนไทยเรียกว่าเมนูลูกครึ่งไปแล้ว มื้อเย็นต้องแตกต่าง แต่จะไปนั่งกินข้าวผัด ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยว ก็คงจะธรรมดาไปหน่อย มาเดินตลาดน้ำมหานครทั้งทีก็ต้องหาของแปลก (แต่ถ้าจะกินข้าวผัด ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวก็ได้อยู่นะครับมีหลายร้าน เดี๋ยวเค้าจะหาว่าผมบอกไม่ให้กินจะเป็นเรื่อง) ของแปลกอีกร้านหนึ่งในตลาดน้ำมหานครก็คืออาหารญี่ปุ่นร้านเล็กๆ ร้านนี้ มีไอเดียแปลกไม่เหมือนใคร พี่เค้าว่าของเค้าเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทยซะด้วย เป็นยังไงไปดูกันดีกว่า

เมนูเด็ด kimmi house ตลาดน้ำมหานคร อาหารญี่ปุ่นที่ว่าก็ได้แก่เมนูที่เห็นอยู่นี้ละครับ ทั้ง 4 ภาพนี้ เราสั่งมากิน 3 อย่าง ส่วนอีกอย่างหนึ่งภาพบนซ้าย เราเห็นคนอื่นสั่งเลยขอถ่ายรูปมา เรียงลำดับตามภาพดังนี้
ภาพบนซ้าย พิซซาโรล Hashimaki ซีฟู๊ด รวมอาหารทะเลเข้าไปในพิซซาโรล ที่เห็นๆ ก็จะมีกุ้ง หมึก เป็นต้น
ภาพบนขวา พิซซาโรล Hashimaki แฮมชีส อันนี้เป็นแบบมีชีส รสชาตก็บอกแทบไม่ได้ว่าต่างกับพิซซาแบบถาดที่เรากินตรงไหน สมกับชื่อพิซซาโรล
ภาพล่างซ้าย พิซซาโรล Hashimaki แฮมไข่ แบบไม่มีชีส ห่อด้วยไข่ อันนี้อร่อยเหมาะสำหรับคนกลัวชีส
ภาพล่างขวา ทาโกะยากิ

นอกจากนี้ที่ร้าน kimmi house ยังมีเมนูอื่นๆ อีกเยอะ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างน้ำฟักข้าวก็มี คนที่ยังไม่รู้จักน้ำฟักข้าวและประโยชน์ของมันควรจะลองสักครั้ง

ร้านอาหารในตลาดน้ำมหานคร ร้านอื่นๆ ที่ไม่ได้เอ่ยถึงก็ไม่ใช่ว่าไม่อร่อย แต่เป็นเพราะว่าเรากินทุกร้านไม่ไหวก็เลยแนะนำได้เท่าที่เรากินเข้าไปจริงๆ อย่างกาแฟโกเฮงก็เข้มข้น ส่วนร้านกาแฟอื่นก็ไม่ได้ไปชิม เพราะเดี๋ยวจะนอนไม่หลับเอาได้ ภาพบนซ้ายเป็นร้านเหล้าปั่น ภาพบนขวาเป็นอาหารทะเลที่จะเน้นเมนูประเภทยำ ร้านนี้ไม่ได้อยู่ในห้องเหมือนกับที่เราเห็นทั่วไปแต่อยู่กลางแจ้งใกล้ท่าน้ำริมคลองประเวศบุรีรมย์ โต๊ะสำหรับลูกค้าก็คือโต๊ะริมน้ำที่ถ่ายมาให้ชมกันตอนกลางวัน ภาพล่างซ้ายเป็นร้านข้าวมันไก่ และข้าวมันไก่ทอด ร้านในภาพล่างขวาเป็นอาหารตามสั่งที่ผมอยากจะกินแต่ไม่ได้กิน เมนูหนึ่งที่เล็งไว้คือขนมจีนแกงเขียวหวาน นอกจากนี้ที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกมากมายครับ

ด้านหน้าตลาดน้ำมหานคร ป้ายขนาดใหญ่อันนี้ยิ่งเป็นเครื่องการันตีว่าขับไปตามถนนลาดกระบังแล้วจะไม่หลงแน่ๆ เห็นกันแต่ไกลเลยทีเดียว ตอนนี้ก็ 2 ทุ่มกว่าๆ แล้ว ผมก็คงได้เวลาเดินทางกลับแล้ว เลยมาเก็บภาพป้ายด้านหน้าอีกสักหน่อยเวลากลางคืนเปิดไฟสวยดี ลานจอดรถตลาดน้ำมหานครตอนนี้ก็ยังคงมีรถจอดอยู่มากมาย ร้านค้าบางร้านก็เริ่มที่จะปิดแต่ร้านอาหารส่วนใหญ่จะยังไม่ปิดเพราะมีลูกค้ายังนั่งอยู่เกือบเต็มร้าน

ป้ายตลาดน้ำมหานคร อีกมุมหนึ่งของป้ายที่ผมถ่ายเป็นภาพแรกๆ แล้วก็ตามมาเก็บเป็นภาพสุดท้ายก่อนเดินทางกลับบ้าน

เล็กๆ น้อยๆ ตลาดน้ำมหานคร มุมพักผ่อน เป็นอาคารหลังหนึ่งที่อยู่ติดกับศาลาพระบรมรูปกษัตริย์ 9 รัชกาล ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นจุดพักผ่อน สำหรับนั่งพักหลบร้อน หรือให้หายเมื่อยขาก่อนที่จะเดินกันต่อไป ในมุมพักผ่อนมีเอกสารแจก มีหนังสือให้อ่าน และที่สำคัญเป็นมุมสำหรับเซ็นต์สมุดเยี่ยม หรือว่าจะเป็นจุดแสดงความคิดเห็นก็ว่ากันไป กติกาก็คือให้เขียนลงบนแผ่นโพสต์อิทที่เตรียมไว้ให้ แล้วก็แปะตามใจชอบ เราก็จะเห็นผู้คนไปเขียนเอาไว้เป็นที่ระลึกกันมากมายหลายแผ่น

เล็กๆ น้อยๆ ตลาดน้ำมหานคร ถ้าหากว่ามีโอกาสได้ไปตลาดน้ำมหานคร ก็เชิญเขียนสมุดเยี่ยมและแสดงความคิดเห็นกันได้นะครับ