ข้อมูลเพิ่มเติม:ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0 5561 1619
http://www.tourismthailand.org/sukhothai
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ยินดีต้อนรับสู่ตลาดริมยม การเดินทางมาตลาดแห่งนี้อธิบายไปคร่าวๆ แล้วว่าจากตัวเมืองสุโขทัยมุ่งหน้ามาตามทางหลวงหมายเลข 12 ไปทางพิษณุโลก ถึงอำเภอกงไกรลาศ เพียงไม่กี่นาที เจอแยกไฟแดงเลี้ยวขวาเข้าบ้านกงไกรลาศจากนั้นเราตรงมาให้สุดถนน จะเห็นวัดกงไกรลาศขวามือเลี้ยวเข้าไปจอด นี่แหละตลาดริมยม จะมีตำรวจเทศกิจคอยให้บริการตั้งแต่เรื่องการจราจรไปจนถึงความเรียบร้อยในตลาด รวมทั้งบริการนักท่องเที่ยวด้วย ตลาดริมยมเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว การเปิดในเดือนที่ 3 ก็มีชาวต่างชาติมาเดินแล้ว ดังนั้นถ้าไม่อยากยุ่งยากเรื่องที่จอดรถ ก็ควรจะมาให้เร็วหน่อย อย่าง 4 โมงเย็นกำลังดี เดินไปกินไปเพลินๆ ตกค่ำก็กลับ
เริ่มแรกเดินเข้ามา บรรยากาศในตลาดจะมากด้วยของกินนานาชนิด ทั้งขนมของคาวของหวานและเครื่องดื่ม ผมไม่แน่ในว่าจะถ่ายรูปร้านเหล่านี้ได้ครบทุกร้านหรือเปล่า แต่จะพยายามลงรูปให้มากที่สุดตามสไตล์การเดินตลาดของทัวร์ออนไทย 4 ร้านแรกประเดิมด้วยผลไม้ ขนมจีนน้ำยา กล้วยฉาบและเฉาก๊วย บอกก่อนเลยนะครับว่าผมมาคนเดียวจะลองชิมอาหารบางอย่างเลือกเอาที่แปลกๆ และพอกินไหว ไม่สามารถชิมทั้งหมดแล้วมาเล่าให้ฟังได้ทั้งๆ ที่ก็อยากจะทำอยู่เหมือนกัน ขนมจีนน้ำยานั้นเป็นของโปรดของผมอย่างหนึ่ง แต่วันนี้คงไม่ได้ชิมเพราะมีของแปลกๆ อีกหลายอย่างเหลือเกิน
ร้านค้าตลาดริมยม ผมถ่ายรูปร้านต่างๆ ในตลาดแต่ไม่ได้เรียงลำดับนะครับจัดวางตามความเหมาะสมแนวตั้งแนวนอน อย่างร้านรองเท้ายางรถยนต์ นี่จะอยู่เป็นร้านแรกๆ เจ้าของร้านนั่งตัดเย็บตอกตะปูกันเห็นๆ ราคาไม่แพงแต่ทนหายห่วง ส่วนขนมกงกับชะมดงาดำพอได้ชิมอยู่เพราะที่ร้านตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ไว้ให้ เป็นขนมที่อร่อยแต่จะหากินทั่วไปไม่ง่ายเท่าไหร่ ต้องมาตลาดประมาณแบบนี้จะเห็นกันเยอะ ต่อมาเป็นคุณยายนั่งขายของเล่นเพียงอย่างเดียวเลย แกก็หมุนๆ ให้มันดังเรียกลูกค้า
บรรยากาศตลาดริมยม ร้านค้ามากมายเรียงราย 2 ข้างถนน ไม่ได้เปิดในบ้านเรือนหรืออาคาร แต่เปิดเป็นแผงบนแคร่ไม้ไผ่เรียงต่อกัน เหลือที่ว่างกลางถนน สำหรับให้คนมาเดินตลาดได้นั่ง ก็นั่งกินสิ่งต่างๆ ที่ซื้อมาจากร้านค้านั่นแหละ เป็นแบบเดียวกันนี้ตั้งแต่หัวตลาดยันท้ายตลาด ของกินในรูปนี้ได้แก่ ลาบปลาโบราณ เป็นสูตรโบราณจริงๆ ที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหน ได้จากการนำปลามาทอด จากนั้นก็โรยด้วยเครื่องลาบบนภาชนะใบตอง คุณยายมาขายแล้วยังสอนให้หลานตัวน้อยได้เรียนรู้ 2 รูปข้างล่างเป็นเครื่องดื่ม ก็มีตั้งแต่โอเลี้ยง กาแฟ ชาเย็น ชาเขียว โอวัลติน ต่อด้วยน้ำสมุนไพรจากอีกร้าน ก็มีน้ำตะไคร้ น้ำใบเตย เทือกๆ นี้
มุมถ่ายรูปตลาดริมยม มุมแรกเป็นประวัติความเป็นมาของกงไกรลาศ มาทำความรู้จักกันได้ที่นี่ มีประวัติอย่างละเอียด และรูปภาพเรื่องราววิถีชีวิตที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบโปสการ์ดให้เลือกเก็บเลือกส่งเป็นที่ระลึก ตรงข้ามกันเป็นที่ว่าการอำเภอกงไกรลาศแบบจำลองๆ ให้ถ่ายรูปกันเล่นๆ เดินต่อไปอีกนิดจะเป็นศาลเจ้าดาบทองสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านกงไกรลาศมาช้านาน ไม่เพียงแค่นั้นผมเดินออกไปไกลอีกนิดบ้านติดศาลเจ้า พบว่าเป็นโรงงานผลิตปลาร้าขนาดย่อมๆ ปลาร้าเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของที่นี่เห็นแบบนี้ส่งออกด้วยนะจะบอกให้ เป็นอันว่าจากหน้าวัดกงไกรลาศมาสุดตลาดที่นี่ความยาวประมาณ 100 เมตรเศษๆ เดี๋ยวเดินเก็บภาพอีกรอบเผื่อข้ามร้านอะไรมาจะได้ไม่ตกหล่น
ภาพแรกนี้เป็นวิวโค้งแม่น้ำยมตรงกงไกรลาศ มีการสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง วิวตรงนี้สวยทีเดียวเชียว จากนั้นผมเดินย้อนเข้าตลาดก็ยังมีอีกมากที่ไม่ได้เก็บภาพในเที่ยวแรก เพราะบางร้านยังไม่พร้อมที่จะเปิดขายกำลังอยู่ระหว่างจัดเรียงของอยู่ สะดุดตายายหลานคู่หนึ่งในภาพที่ 2 ยายให้มาช่วยขายของแต่หลานกินไม่หยุด ขาไปก็กินเดินกลับมาก็กิน เปลี่ยนของกินไปเรื่อยๆ แต่แกกินไม่หยุดจริงๆ ดูหุ่นแกสิ ส่วนอีกร้านเป็นข้าวมันไก่ แต่จะใส่ใบตองให้ เคยเห็นหรือเปล่าครับข้าวมันไก่ใบตอง
อาหารนานาที่ตลาดริมยม ต่อกันด้วยน้ำพริกลงเรือ เจ้านี้ก็อยากชิมแต่จะซื้อน้ำพริกมาชิมคงไม่ใช่ที่ ต่ออีกร้านเป็นผัดไทโบราณใส่ใบตองเหมือนกัน ภาพที่ 3 เป็นหม้อดินบรรจุข้าวคลุกกะปิเรียงรายกันเสร็จสรรพ ใครอยากกินก็มาหยิบได้ทันที ร้านสุดท้ายขายก๋วยเตี๋ยวหยก คงจะคิดละสิว่าเส้นเป็นสีเขียว เปล่าหรอกครับมันเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ที่เรียกก๋วยเตี๋ยวหยกเพราะใช้การลวกเส้นแล้วเขย่าๆ ในน้ำร้อน กิริยาการเขย่าตะแกรงลวกก๋วยเตี๋ยว เรียกเป็นภาษาพื้นบ้านว่า หยก จากนั้นก็ใส่ผักใส่หมู หน้าตาจะเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งนั่นเอง แต่จะมีรสและเครื่องต่างกันไป
ของกินเล่น ในภาพนี้ไม่เน้นของหนัก ประกอบไปด้วยขนมชวนฉงน ที่เด็กๆ อายุสิบกว่าๆ มาจับกลุ่มวางขาย แถมบอกว่าทำเองในบางส่วนด้วย เรียกกันว่าเมี่ยงลาว เป็นเมี่ยงอย่างหนึ่งที่มีรสต่างจากเมี่ยงที่เรากินบ่อยๆ มากนัก มีส่วนประกอบหลายอย่าง ใส่ปากเข้าไปแรกๆ กลิ่นจะแรง แล้วกลิ่นจะหายไปตอนเคี้ยวกลายมาเป็นรสที่มีความเปรี้ยวจากมะนาวนำ ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว มันมาทีละอย่างๆ ชวนให้ประหลาดใจจนกว่าจะเคี้ยวหมด เอาใบตองห่อ แล้วใบมะพร้าวพันรอบห่อ แล้วเอามาร้อยให้เป็นพวงได้ด้วย ราคาพวงละ 10 บาท นั่งเคี้ยวอยู่นานสองนานกว่าจะหมด เมื่อยปากเหมือนกันครับ ต่อมาเป็นสาคูใบเตยลูกเขียวมาเชียวน่ากินมาก จากนั้นเป็นกระทงทอง แล้วก็หรุ่ม อยากรู้ว่าเป็นไงไปลองกินดู กระทงทองก็ไม่ค่อยเจอบ่อยๆ นะ
สารพันของกินในตลาดริมยม เขียนมาตั้งยาวแล้ว ยังไม่หมดครับ ยังมีผลไม้หลายชนิด มีอยู่ 2 ร้าน แม่ค้าบรรจงเอามาปอกกันที่ในตลาดสดๆ เห็นๆ ภาพกลางเป็นขนมวง ลักษณะคล้ายขนมแป้งทอดที่ขายคู่กับปาท่องโก๋ หรือโดนัทก็คล้ายๆ กัน แต่ขนมวงนั้นโรยด้วยน้ำตาลมะพร้าวรอบๆ ก็เลยหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ของขนมชนิดนี้ ต่อด้วยร้านไข่ครก พบเห็นได้บ่อยแต่ก็กินทุกทีไป ใส่ซอสใส่พริกไท สุดยอด
ริมยมยามเย็น เวลาตั้งแต่ 4 โมงเย็นที่ผมมาถึงตอนนี้เกือบ 6 โมงแล้ว ตลาดริมยมจะเริ่มคึกคัก ถ้าไปยืนหน้าตลาดจะเห็นรถเข้ามาแออัดกันอยู่ที่หน้าวัดกงไกรลาศเพราะเริ่มวุ่นวายกับการเข้าจอดในลานจอดรถ นักท่องเที่ยวจะเริ่มเข้ามาเดินกันมากขึ้นตามลำดับ แคร่กลางตลาดที่จัดไว้ให้นั่งก็เริ่มจะไม่ว่างกันแล้ว
ไปเที่ยวตลาดริมยมกันเม๊าะ เป็นสำเนียงท้องถิ่น คำว่า เม๊าะ มีความหมายเหมือนคำว่า มั๊ย ในประโยคคำถาม หุ่นฟางตัวนี้ก็อยู่ที่มุมถ่ายรูปตลาดริมยมนั่นแหละ ต่อจากนี้ไปคงจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดูน่าถ่ายรูปกันมากขึ้นในหลายๆ จุด
การแสดงตลาดริมยม เอาใจนักท่องเที่ยวอีกหน่อยด้วยการแสดงต่างๆ นานา เริ่มมาจากการร้องเพลงย้อนยุค เราจะได้ยินคุณป้าขึ้นมาร้องเพลงเก่าๆ ชนิดที่เกิดไม่ทันแน่ๆ ให้เราฟังหลายเพลงต่อเนื่อง แล้วต่อด้วยการแสดงจากเด็กๆ แบบนี้ที่เวทีท้ายตลาดริมยม หลังจากภาพนี้ไปเป็นบรรยากาศที่คึกคักของตลาดริมยมในเวลากลางคืน เรียกว่าไม่อยากจะย่อให้มันเล็กเพราะมืดๆ มันดูไม่ชัด ผมก็จบการนำเที่ยวตลาดริมยม 2437 เอาไว้เพียงเท่านี้เลยละกันครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ