เล่าเรื่องบ้านแม่กำปองมาซะยาว จะไม่เอาดอกกำปองมาให้ชมกันเลยก็กระไรอยู่ นี่แหละครับดอกกำปองที่มาของชื่อหมู่บ้านแม่กำปอง แต่ก่อนดอกกำปองในละแวกนี้คงเยอะมาก ส่วนตอนนี้คงจะไม่ค่อยมีให้เห็นในชุมชนอาจจะเป็นดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ตามป่า หมู่บ้านแม่กำปองก็คงจะอยากให้นักท่องเที่ยวได้เห็นเลยเอามาปลูกโชว์ไว้ที่ศูนย์ท่องเที่ยวบ้านแม่กำปอง เยื้องๆ กับ Flight of the Gibbon ตอนไปที่ก็เห็นอยู่แค่ 2 ต้นที่มีดอก ถ้าใครไปแล้วไม่เห็นมีดอกบานให้ชมก็อย่าว่ากันนะครับอาจจะบานเป็นบางฤดูก็ได้ เมื่อรู้จักดอกกำปองที่มาของชื่อหมู่บ้านแล้วเดี๋ยวเราไปดูว่าในหมู่บ้านมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

  มาเที่ยวบ้านแม่กำปองสิ่งแรกที่ต้องคิดถึงคือการเลือกโฮมสเตย์ที่พัก ชาวบ้านปรับปรุงบ้านเปิดเป็นโฮมสเตย์มากมายหลายหลังให้เลือกแต่ช่วงหน้าหนาวและหยุดยาวบ้านพักแทบจะเต็มกันหมดทุกที่ ช่วงหลังๆ มีที่พักมาเปิดให้บริการกันเยอะ บางที่มาตรฐานสูงกว่าความเป็นแม่กำปองไปอีก เราเลือกพักโฮมสเตย์ที่เป็นของชาวบ้าน ง่ายๆ สบายๆ ธรรมดาๆ และมีลำธารไหลผ่าน คือเฮือนอ้ายอู๊ด จริงๆ มีเยอะมากที่เรารวบรวมมาให้ในลิงค์ รวมที่พักหมู่บ้านแม่กำปอง

  บรรยากาศในหมู่บ้านแม่กำปองช่วงเย็นๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่ใช่วันหยุดยาวจะดูเหงาๆ หน่อย แต่สำหรับเราที่เลือกมาเที่ยววันธรรมดาหรือลางานวันจันทร์มันก็จะฟินไปอีกแบบ ร้านค้าร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เปิดขายตามปกติ ถึงจะเป็นหน้าฝนก็เถอะ นึกว่าร้านจะปิดไปหลายร้านแต่เปล่าเลยทุกร้านเปิดบริการตามปกติจะมีบ้างบางร้านที่ปิดปรับปรุงเพื่อเปิดให้บริการอย่างเต็มที่ในหน้าหนาวปลายปีที่กำลังจะมาถึง ในตัวหมู่บ้านแม่กำปองจุดถ่ายรูปที่นิยมที่สุดคือหน้าร้านลุงปุ๊ด&ป้าเป็ง ซึ่งอยู่ตรงข้ามร้านข้าวซอยกลอยใจพอดี จุดนี้จะมีคนแวะเวียนมาถ่ายรูปจนมืดเลยทีเดียว

  ที่เที่ยวอีกจุดหนึ่งที่น่าแวะเวลามาบ้านแม่กำปองเรายกให้โครงการหลวงตีนตก จะว่าไปแล้วที่ตั้งของโครงการหลวงและผาน้ำลอดอยู่นอกตัวหมู่บ้านไปเยอะเหมือนกันแต่ก็ถือว่าเป็นทางผ่านและจุดแวะได้ เพราะยังไงก็ต้องผ่าน มาอุดหนุนสินค้าคุณภาพของโครงการหลวงและเดินเล่นชิวๆ ด้านหลังร้านอาหาร ถึงแม้ว่าระเบียบการเข้าพักบ้านพักโครงการหลวงจะเปลี่ยนเป็นระบบทำหนังสือแจ้งไม่เหมือนเมื่อก่อนแต่ถ้ามาเป็นหมู่คณะจริงๆ ก็ยังนับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

  หลายๆ คนที่มาเที่ยวบ้านแม่กำปองคงไม่พ้นมองหาร้านกาแฟ บรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ เพื่อที่จะมาเช็คอินอวดเพื่อนๆ กัน จนในหลายๆ บล็อกต้องเขียนถึงขนาดรวมร้านกาแฟบ้านแม่กำปองกันเลยทีเดียว สำหรับทริปเที่ยว 2 วันของเรา ขอเลือกนั่งร้านที่โดดเด่นจริงๆ ก่อน เพราะจะไปนั่งให้ครบทุกร้านมันก็คงไม่ได้ กินกาแฟทั้งวันก็ไม่ไหว ไหนจะเรื่องตังค์ด้วยแหละเกรงใจกระเป๋า ร้านหนึ่งที่เราเห็นว่าควรจะมานั่งจริงๆ คือร้านชมนกชมไม้ ด้วยเหตุว่าร้านนี้จะมองเห็นวิวหมู่บ้านแม่กำปองทั้งหมู่บ้านอยู่ด้านล่าง เวลาถ่ายรูปก็จะได้เป็นภาพที่ดูแล้วรู้ว่าเป็นบ้านแม่กำปอง ยิ่งใส่ชุดชาวเขามาด้วยยิ่งแจ่ม เค้ามีขายอยู่ในหมู่บ้านนั่นแหละไม่แพงด้วย 250 โดยประมาณ ถือว่าอุดหนุนให้ชาวบ้านเค้าอยู่กันได้

  หนึ่งในร้านกาแฟน่านั่งบรรยากาศดี ริมธารและสายน้ำตก แล้วยังมีสะพานเชือกยอดไม้แบบ Tree Top Walk ด้วยก็คือร้าน Teddu Coffee เป็นร้านกาแฟอีกร้านหนึ่งที่นิยมมากในบ้านแม่กำปองปางขอน-ปางโตน มีลานจอดรถให้จอดได้ประมาณ 4 คัน ตั้งอยู่ก่อนถึงตัวหมู่บ้านนิดหน่อย ร้านกาแฟอยู่ในหุบเขาขาเข้าต้องเดินลงส่วนขากลับถ้าไม่กลัวความสูงก็เดินข้ามสะพานเชือกยอดไม้กลับได้

 นี่เป็นส่วนหนึ่งของร้านกาแฟอีกมากมายที่หลายคนอยากจะมา แต่ถ้ามาเที่ยวจริงๆ จะกินกาแฟให้ครบทุกร้านคงไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดี เราเลยขอนำเสนอเฉพาะร้านที่แจ่มและโดดเด่นกว่าใครมาเท่านี้ก่อน

  วัดคันธาพฤกษา (แม่กำปอง) วัดเก่าแก่ประจำหมู่บ้านที่คนมาแม่กำปองต้องรู้จัก เพราะในวัดมีลานกว้างหลายคนเลยอาศัยเอารถมาจอดเพื่อเดินเที่ยวหมู่บ้าน เป็นวิธีที่นักท่องเที่ยวนิยมมากโดยเฉพาะคนที่ไม่ได้พักโฮมสเตย์หรือพักโฮมสเตย์ที่มีที่จอดรถให้ไม่พอ แต่ด้วยเสน่ห์ความสวยงามเฉพาะตัวของวัดคันธาพฤกษาเองถึงจะมีที่จอดรถที่อื่นแต่ที่วัดก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาชม อย่างน้อยก็มาไหว้พระธาตุและพระประธานในโบสถ์ไม้ แต่ถ้าไม่รีบก็เดินชมวัดให้ทั่วๆ เพราะที่นี่มีโบสถ์กลางน้ำ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนด้วย รีวิวเพิ่มเติมคลิกที่ลิงค์เลยคร้าบ วัดคันธาพฤกษา (แม่กำปอง)

  จุดชมวิวกิ่วฝิ่น หรือม่อนกิ่วฝิ่น เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของหมู่บ้านแม่กำปอง ห่างจากหมู่บ้าน 8 กิโลเมตร มองเห็นทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในจุดเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งสเสน่ห์ของบ้านแม่กำปอง เอารถขึ้นมาได้ หรือจะใช้บริการรถรับส่งแบบจอยกับคนอื่นก็ได้เหมือนกันสอบถามได้ที่โฮมสเตย์ที่เราพัก ถ้ารักการแคมป์ปิ้งให้มากางเต็นท์ที่ลานกางเต็นท์ของหน่วยพิทักษ์ป่าดอยล้าน

  อันดับหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของบ้านแม่กำปองก็คือน้ำตกแม่กำปอง เพราะเป็นต้นกำเนิดของสายน้ำในลำธารที่หลายคนชอบมานั่งถ่ายรูปหน้าโฮมสเตย์และร้านกาแฟต่างๆ ในหมู่บ้าน น้ำตกแม่กำปองมีหลายชั้นเดินทางมาง่ายห่างจากหมู่บ้านนิดเดียว อยู่ติดถนน ชั้นแรกที่เห็นก็สวยแล้วมีแอ่งน้ำลงเล่นได้ถ้าไม่จุใจเดินขึ้นไปดูหลายชั้นได้อีกด้วย

  อาหารการกินที่หลายคนไม่รู้ ว่ามาบ้านแม่กำปองควรจะกินอะไรดี เพราะในหมู่บ้านจะมีไส้อั่วกับข้าวซอยร้านดัง อาหารเหนือ ลาบเหนือ ขนมจีนน้ำเงี้ยว ความจริงก็ถูกที่มาเที่ยวเหนือก็ต้องกินอาหารเหนือ แต่ถ้าจะมาให้ถึงบ้านแม่กำปองจริงๆ ละก็ มาดูว่าของพื้นถิ่นในหมู่บ้านมีอะไรบ้าง
 อันดับแรกเลยต้องยกให้ใบเมี่ยง หรือเหมี้ยง (เขียนกันได้ทั้งสองแบบออกเสียงเหมือนกัน) ใบเมี่ยงนี้เป็นของที่ปลูกกันมาตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้าน หมู่บ้านแม่กำปองเกิดขึ้นได้ก็เพราะมีคนต้องการหาพื้นที่ปลูกใบเมี่ยงเพื่อทำชา ถ้ามาที่นี่ไม่ได้กินใบเมี่ยงแล้วจะถือว่ามาถึงได้ยังไง
 อีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือหน่อไผ่อ่อน หรือหน่อไม้นี่แหละ เพราะแม่กำปองเป็นพื้นที่กลางหุบเขามีไผ่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติปลอดสารพิษทุกชนิด
 เครื่องดื่มที่น่าจะดื่มนอกเหนือจากกาแฟในร้านดังๆ ก็คือน้ำผึ้งมะนาวอัญชัน น้ำผึ้งมีความพิเศษอยู่ตรงที่เป็นผึ้งในป่าของหมู่บ้าน จึงไม่เหมือนผึ้งเลี้ยง ส่วนในกาด้านขวามือเป็นชาเชียงดา ทำจากสมุนไพรภาคเหนือ มีสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือด
 ทั้งหมดทั้งมวลนี้มาจากการแนะนำของร้านอาหารนวลจันทร์ ที่เราแวะไปอุดหนุน และโชคดีมากที่ได้ความรู้เรื่องอาหารบ้านแม่กำปองเพิ่มขึ้นเยอะ ถ้าจะดูรีวิวของร้านคลิกที่ลิงค์นี้เลย ร้านอาหารนวลจันทร์ บ้านแม่กำปอง