ผู้เขียน หัวข้อ: คาราวานครอบครัวสุขสันต์ สิงหาพาแม่เที่ยว เส้นทาง กรุงเทพฯ-นครปฐม-สมุทรสงคราม  (อ่าน 10250 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
"คาราวานครอบครัวสุขสันต์ สิงหาพาแม่เที่ยว"
กรุงเทพฯ-นครปฐม-สมุทรสงคราม

9 สิงหาคม 2557 - สยามนิรมิตร, กรุงเทพมหานคร
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย และ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ได้จัดกิจกรรม “ครอบครัวสุขสันต์ สิงหาพาแม่เที่ยว”
โดยมี นายธวัชชัย อรัญญิก ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมร่วมด้วยแขกผู้มีเกียรติอีกหลายท่าน

งานในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วยการใช้เวลาในวันหยุดร่วมกัน
มีประชาชนให้ความสนใจร่วมงานกันอย่างคับคั่ง จำนวนรถร่วมคาราวานการท่องเที่ยวกว่า 262 คัน ออกท่องเที่ยวในหลากหลายเส้นทางทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย

สำหรับบทความนี้จะขอนำทุกท่านร่วมเดินทางไปในเส้นทาง กรุงเทพฯ-นครปฐม-สมุทรสงคราม ส่วนจะมีสถานที่ใดบ้าง เชิญทุกท่านติดตามต่อได้เลยครับ

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
เจษฎา เทคนิค มิวเซียม

สำหรับสถานที่แรกที่คาราวานครอบครัวสุขสันต์ สิงหาพาแม่เที่ยว ได้แวะเข้าเยี่ยมชมคือ “เจษฎา เทคนิค มิวเซียม” พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมรถโบราณ ยานพาหนะชนิดต่างๆ
โดยมุ่งหวังเพื่อใช้เป็นแหล่งศึกษาและนันทนาการ รวมถึงเป็นการอนุรักษ์มรดกและประวัติศาสตร์ยานพาหนะ โดยไม่มุ่งหวังผลกำไร

ด้านในพิพิธภัณฑ์เราจะได้พบกับขบวนรถหลากหลายที่จัดแสดงไว้ ไล่มาตั้งแต่รถโบราณคลาสสิก รถการ์ตูน มอเตอร์ไซค์ แม้แต่รถของเล่นก็ยังมีจัดแสดงไว้
ประชาชนที่สนใจ สามารถเข้าเยี่ยมชมพิธภัณฑ์ได้ทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. โดยจะมีวิทยากรคอยให้ความรู้ ประวัติความเป็นมาของรถแต่ละคัน
และที่สำคัญสามารถเยี่ยมชมได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น กิจกรรมที่น่าสนใจของที่นี่คงหนีไม่พ้นถ่ายภาพร่วมกับรถยนต์ และนอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปทดลองนั่งภายในรถยนต์ได้อีกด้วย

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
พระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร


จุดหมายที่สองของเราก็คือ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เพื่อแวะนมัสการองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ หรือ หลวงพ่อพระร่วง ที่ประชาชนทั่วไปรู้จักกัน
พระร่วงโรจนฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดนครปฐม มีชื่อเต็มว่า “พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธปูชนียบพิต”
เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ตามแบบศิลปะสุโขทัย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ประดิษฐานอยู่ที่วิหารด้านทิศเหนือองค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร
ที่ฐานพระพุทธรูปยังเป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร (เถ้ากระดูก) ขององค์รัชกาลที่ 6 อีกด้วย

ขึ้นชื่อว่าชาวพุทธ เมื่อเข้าวัดกิจกรรมที่จะทำคงหนีไม่พ้น ไหว้พระขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความสุข ความเจริญ และยิ่งเป็นการทำบุญร่วมกันภายในครอบครัวด้วยแล้ว
ตามความเชื่อ จะส่งผลให้ผู้ที่ทำบุญร่วมกันได้เกิดมาพบเจอกันในชาติภพต่อๆไป

แม้ว่าในขณะที่เราแวะมานมัสการองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์จะเป็นช่วงเวลาเที่ยงของวันซึ่งอากาศค่อนข้างร้อน แต่การเข้าวัดก็ให้ความรู้สึกร่มเย็นแก่ทุกคนเสมอ

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
ร้านอาหารกุ้งอบภูเขาไฟ ของดีจังหวัดนครปฐม

ว่ากันว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่อใช้พลังงานไปส่วนหนึ่งกับการท่องเที่ยวแล้ว ก็ได้เวลาอันสมควรแก่การรับประทานอาหารกลางวันพอดี เพื่อเติมพลังงานสำหรับการท่องเที่ยวต่อไปในช่วงบ่าย
สำหรับมื้อกลางวันของวันแรกนี้ เราหยุดแวะรับประทานอาหารกันที่ ร้านอาหารกุ้งอบภูเขาไฟ ที่นี่ถือว่าเป็นร้านที่ได้รับความนิยม เป็นหนึ่งในของดีจังหวัดนครปฐมกันเลยทีเดียว

ชื่อร้านก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า กุ้งอบภูเขาไฟ เพราะฉะนั้นเมนูเด่นของที่นี่จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก กุ้งอบภูเขาไฟ เป็นเมนูที่เสริ์ฟลงโต๊ะไหน ก็ได้รับเสียงฮือฮาทุกครั้ง
เพราะเสริ์ฟมาในภาชนะรูปทรงของปล่องภูเขาไฟ เมื่อได้เวลาก็จะจุดไฟลุกพรึ่บดั่งภูเขาไฟประทุระเบิดออก สร้างความตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่ได้เห็น นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ตื่นตาแล้ว
ทางร้านยังมีบริการแกะเปลือกกุ้งให้รับประทานกันง่ายๆด้วย เรียกว่ากินกุ้งแบบมือไม่เปื้อนกันเลยทีเดียว

นอกจากเมนูกุ้งอบภูเขาไฟแล้ว เมนูอื่นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ต้มยำกุ้ง ปลานึ่ง ทอดมันปลากราย หลนปู ผัดผักรวมมิตร ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยผลไม้หวานๆ จนอิ่มพุงกางกันไป

เมื่ออิ่มหนำสำราญแล้วทางคาราวานก็เตรียมตัวเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป ซึ่งค่อนข้างไกลและเราจะออกจากจังหวัดนครปฐมกันแล้ว ในฃ่วงนี้จึงถือเป็นช่วงเวลาพักผ่อนไปด้วยในตัว
พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน ร่างกายก็เริ่มเอนหลับบนรถกันไปตามระเบียบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 12:01:27 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก

หลังจากงีบหลับกันไปหนึ่งตื่นเราก็เดินทางเข้าเขตจังหวัดสมุทรสงคราม จุดหมายที่ 3 ที่เราแวะเข้าเยี่ยมชมในวันนี้คือ “อาสนวิหารแม่พระบังเกิด”
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การบังเกิดของพระแม่มารีย์ โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ ปี พ.ศ.2433 โดยบาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส
ใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์

การเข้าเยี่ยมชม สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวันพุธ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. วันอาทิตย์ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.00 น.
และงดเว้นเข้าเยี่ยมชมทุกวันจันทร์ – อังคาร และทุกครั้งที่มีพิธีกรรมในโบสถ์ หากสนใจเข้าเยี่ยมชมควรติดต่อขออนุญาตจากบาทหลวงผู้รับผิดชอบก่อนล่วงหน้าทุกครั้ง
เพื่อติดต่อกับวิทยากรผู้บรรยายก่อน

การเข้าเยี่ยมชมควรแต่งกายให้สุภาพ และ มีข้อห้ามดังต่อไปนี้
  • ห้ามสวมกางเกงขาสั้น
  • ห้ามสวมกระโปรงสั้นมากๆ
  • ห้ามสวมเสื้อแขนกุด
  • ห้ามสวมเสื้อกล้าม
  • ห้ามสวมเสื้อสายเดี่ยว
  • ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปภายในโบสถ์
  • งดใช้โทรศัพท์มือถือ
  • ไม่สวมหมวกและแว่นตาในขณะเข้าเยี่ยมชม
  • งดเยี่ยมชมเวลามีพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 01:36:43 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก(ต่อ)

ที่นี่เราได้รับฟังการบรรยายจากวิทยากรถึงประวัติความเป็นมาของโบสถ์ ในด้านการก่อสร้าง โบสถ์หลังนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยอิฐเผา  ผนังฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื่อมจากอ้อยใสสีดำ
ทางวิทยากรยังได้บรรยายเสริมว่าโบสถ์หลังนี้ไม่มีการใช้เสาเข็มหรือเหล็กเส้น ไม่มีการเทคาน ซึ่งเราจะเห็นเพิ่มอีกว่าภายในโบสถ์จะไม่มีเสากลางสำหรับรับน้ำหนักมาเกะกะสายตา
โดยการรับน้ำหนักจะใช้ท่อนซุง ฝังลงไปในหลุมที่ขุดแทนการตอกเสาเข็มเพื่อรับน้ำหนัก ส่วนคานที่มองเห็นภายในโบสถ์ก็จะใช้ท่อนซุงทั้งต้น

ส่วนการประดับตกแต่งภายในโบสถ์จะตกแต่งด้วยกระจกสี หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า Stained glass ซึ่งกระจกสีที่เห็นภายในโบสถ์นั้นจะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับ
พระนางมารีย์พรหมจารีตามคัมภีร์ไบเบิล และภาพของบรรดานักบุญทั้งชายและหญิง ข้อดีของกระจกสีคือ ใช้ในการควบคุมแสงสว่างภายในโบสถ์ เพื่อไม่ให้สว่างหรือมืดเกินไป
การจะมองเห็นความงดงามของภาพบนกระจกสีนั้นต้องมองจากภายในของโบสถ์ นับเป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่งของคนในสมัยก่อน

ภาพที่เราเห็นบนกระจกสีนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากการเอาสีไปวาดลงบนกระจกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ต้องผ่านกระบวนการหลอมในเตากว่าหลายร้อยองศาก่อนแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
เพื่อให้สีติดเป็นเนื้อเดียวกันกับกระจก จากนั้นจึงจะนำเศษกระจกสีแต่ละสีมาเชื่อมติดกันผ่านตัวประสาน ซึ่งหากมองในภาพเราจะเห็นเป็นเส้นคล้ายๆกรอบของภาพอยู่ ผลลัพธ์ที่ได้
เราก็จะได้ภาพศิลปะบนกระจกสีที่มีความคงทนอยู่ได้นาน

นอกจากนี้ทางวิทยากรก็ได้บอกเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับธรรมมาสน์ที่ติดตั้งภายในโบสถ์ ธรรมมาสน์นี้ทำจากไม้สัก ก่อนการติดตั้งธรรมมาสน์นั้น ต้องมีการทดสอบหาตำแหน่งที่จะติดตั้งก่อน
โดยจะทดสอบการได้ยินด้วยการให้บุคคลนั่งกระจายตัวตามที่ต่างๆภายในโบสถ์ และจะต้องได้ยินเสียงของบาทหลวงโดยชัดเจน จึงจะทำการติดตั้งธรรมมาสลงในจุดๆนั้น
แต่ปัจจุบันธรรมมาสน์นี้ไม่ถูกใช้งานแล้ว เนื่องจากมีการติดตั้งเครื่องขยายเสียงเข้ามาใช้ทดแทน

หากมองไปทางด้านหน้าของโบสถ์ในบริเวณที่ประกอบศาสนพิธี เราจะพบภาพของสองบุคคลสำคัญสองท่าน คือ บุญราศีนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง และ บุญราศีฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์
เป็นสองในแปดบุญราศีมรณสักขีที่ได้รับการแต่งตั้งในประเทศไทย

"บุญราศี" เป็นหนึ่งในขั้นตอนของการประกาศเป็นนักบุญ สำหรับประเทศไทยมีการประกาศรับรองบุญราศีทั้งหมด 2 ครั้งรวมทั้งสิ้น 8 ท่าน

หลังจากรับฟังวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของอาสนวิหารแม่พระบังเกิดแล้ว ก็ได้เวลาถ่ายภาพรวมเป็นที่ระลึก ก่อนที่เราจะออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ที่พักของเราต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 02:18:03 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
ภาพประกอบ 1: พระเยซูที่ถูกตรึงกางเขน เพื่อไถ่บาปให้มวลมนุษย์
ภาพประกอบ 2−3: ธรรมมาสน์ไม้สัก ปัจจุบันมีการนำรูปปั้นพระเยซูมาตั้งไว้ทดแทน เนื่องจากไม่ได้มีการใช้งานแล้ว
ภาพประกอบ 4−5: กระจกสี หรือ Stained glass มีคุณประโยชน์ในด้านการควบคุมแสงสว่างภายในโบสถ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 25, 2014, 10:53:00 PM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
บ้านท้ายหาดรีสอร์ท

หลังจากท่องเที่ยวกันมาตลอดวัน ร่างกายก็เริ่มอ่อนล้าเป็นธรรมดา ทางคาราวานท่องเที่ยวจึงบ่ายหน้าเข้าสู่ ตำบลท้ายหาด เพื่อเช็คอินเข้าสู่ที่พักของเรา "บ้านท้ายหาดรีสอร์ท"
หลังจากแจกกุญแจห้องพักและคีย์การ์ดเรียบร้อยแล้ว นักท่องเที่ยวก็ทยอยขนสัมภาระที่เตรียมมาเข้าสู่ห้องพักของตนเอง เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนถึงเวลานัดหมายต่อไป
ในเวลาประมาณ 17.00น. บริเวณท่าน้ำของรีสอร์ท

ห้องพักของรีสอร์ทที่เราเข้าพักในครั้งนี้เป็นห้องโซน Garden Wing เป็นห้องติดสวนมะพร้าว ภายใต้บรรยากาศร่มรื่น พร้อมด้วยแพ็คเกจอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์
ภายในห้องพักมีเตียงคู่สามารถเข้าพักได้ 2 ท่าน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น โทรทัศน์ โทรศัพท์ภายใน ตู้เสื้อผ้า
พร้อมราวสำหรับตากผ้า ส่วนในด้านห้องน้ำทางรีสอร์ทก็ได้จัดเตรียมผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ไว้ให้เพียบพร้อม พร้อมด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์แบบชักโครก
ส่วนพื้นที่สำหรับอาบน้ำก็มีผ้าม่านกั้นอย่างเรียบร้อย พร้อมด้วยฝักบัวทั้งแยกน้ำร้อน น้ำเย็น ไว้ให้บริการ

นอกจากนี้ภายในรีสอร์ทยังมีสระว่ายน้ำ ร้านอาหาร บริการนวดแผนไทย อินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง และ ยังมีห้องสัมมนาขนาดใหญ่พร้อมจอโปรเจกเตอร์ไว้คอยให้บริการอีกด้วย

เมื่อพักผ่อนกันตามอัธยาศัย และ ถึงเวลานัดหมายแล้ว เราทุกคนก็พร้อมกันที่ท่าน้ำของรีสอร์ท เพื่อเริ่มโปรแกรมการท่องเที่ยวของเราต่อไป
ซึ่งสำหรับช่วงเย็นนี้เรามีโปรแกรมล่องเรือท่องแม่น้ำแม่กลอง และ มุ่งสู่อุทยาน ร.2 เพื่อเข้าร่วมงานคอนเสิร์ต “รักแม่ที่สุด” ภายในอุทยานนั่นเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 02:47:10 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
"เที่ยวท่องล่องวิถีชุมชน" ในแม่น้ำแม่กลอง

แม่น้ำแม่กลองเกิดจากแม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกันคือ แม่น้ำแควใหญ่และแควน้อย นับเป็นแม่น้ำสำคัญสายหนึ่งในภาคตะวันตก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจในการล่องเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำแม่กลอง สามารถติดต่อใช้บริการได้กับเรือไตรรงค์อัมพวา

ิกิจกรรมที่น่าสนใจระหว่างการล่องเรือท่องเที่ยวแม่น้ำแม่กลองนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญไหว้พระ 9 วัด เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา
หรือจะชมความสวยงามของแสงหิ่งห้อยยามค่ำคืนก็ยังได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 03:17:09 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
อุทยาน ร.2 งานคอนเสิร์ต “รักแม่ที่สุด”

งานคอนเสิร์ต “รักแม่ที่สุด” จัดขึ้นโดย กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยว และ กีฬา ร่วมกับ มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2)
ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ มูลนิธิโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติผ่านดาวเทียม

งานคอนเสิร์ตจัดขึ้นภายใต้บรรยากาศความร่มรื่นของ อุทยาน ร.2 พรั่งพร้อมไปด้วยศิลปินมากมาย โดยในช่วงหัวค่ำ คุณลูกสามารถจูงมือคุณแม่และครอบครัวซาบซึ้ง
และดื่มด่ำไปกับความไพเราะของบทเพลงสุนทราภรณ์ ร่วมด้วยนักร้องอย่างเท่ห์ - อุเทน พรหมมินทร์ จากนั้นในช่วงดึกสักหน่อยจึงเป็นช่วงเวลาสนุกสนานของเหล่าวัยรุ่น
กับเหล่านักร้องศิลปินวัยรุ่นชื่อดังที่ขนขบวนมาเพิ่มความสนุกสนานและครึกครื้นกัน ไม่ว่าจะเป็น รุจ เดอะสตาร์, วงโปเตโต้ และ วง PARADOX

เราใช้เวลาอยู่ที่นี่กันไม่ดึกมาก หลังจากเพลิดเพลินกับบทเพลงสุนทราภรณ์แล้ว ก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี จึงต้องอำลา อุทยาน ร.2 ชั่วคราว
เพื่อเดินทางไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารกันก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 11:37:00 PM โดย Gizmo »