ผู้เขียน หัวข้อ: คาราวานครอบครัวสุขสันต์ สิงหาพาแม่เที่ยว เส้นทาง กรุงเทพฯ-นครปฐม-สมุทรสงคราม  (อ่าน 10247 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
"คาราวานครอบครัวสุขสันต์ สิงหาพาแม่เที่ยว"
กรุงเทพฯ-นครปฐม-สมุทรสงคราม

9 สิงหาคม 2557 - สยามนิรมิตร, กรุงเทพมหานคร
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย และ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ได้จัดกิจกรรม “ครอบครัวสุขสันต์ สิงหาพาแม่เที่ยว”
โดยมี นายธวัชชัย อรัญญิก ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมร่วมด้วยแขกผู้มีเกียรติอีกหลายท่าน

งานในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วยการใช้เวลาในวันหยุดร่วมกัน
มีประชาชนให้ความสนใจร่วมงานกันอย่างคับคั่ง จำนวนรถร่วมคาราวานการท่องเที่ยวกว่า 262 คัน ออกท่องเที่ยวในหลากหลายเส้นทางทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย

สำหรับบทความนี้จะขอนำทุกท่านร่วมเดินทางไปในเส้นทาง กรุงเทพฯ-นครปฐม-สมุทรสงคราม ส่วนจะมีสถานที่ใดบ้าง เชิญทุกท่านติดตามต่อได้เลยครับ

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
เจษฎา เทคนิค มิวเซียม

สำหรับสถานที่แรกที่คาราวานครอบครัวสุขสันต์ สิงหาพาแม่เที่ยว ได้แวะเข้าเยี่ยมชมคือ “เจษฎา เทคนิค มิวเซียม” พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมรถโบราณ ยานพาหนะชนิดต่างๆ
โดยมุ่งหวังเพื่อใช้เป็นแหล่งศึกษาและนันทนาการ รวมถึงเป็นการอนุรักษ์มรดกและประวัติศาสตร์ยานพาหนะ โดยไม่มุ่งหวังผลกำไร

ด้านในพิพิธภัณฑ์เราจะได้พบกับขบวนรถหลากหลายที่จัดแสดงไว้ ไล่มาตั้งแต่รถโบราณคลาสสิก รถการ์ตูน มอเตอร์ไซค์ แม้แต่รถของเล่นก็ยังมีจัดแสดงไว้
ประชาชนที่สนใจ สามารถเข้าเยี่ยมชมพิธภัณฑ์ได้ทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. โดยจะมีวิทยากรคอยให้ความรู้ ประวัติความเป็นมาของรถแต่ละคัน
และที่สำคัญสามารถเยี่ยมชมได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น กิจกรรมที่น่าสนใจของที่นี่คงหนีไม่พ้นถ่ายภาพร่วมกับรถยนต์ และนอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปทดลองนั่งภายในรถยนต์ได้อีกด้วย

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
พระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร


จุดหมายที่สองของเราก็คือ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เพื่อแวะนมัสการองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ หรือ หลวงพ่อพระร่วง ที่ประชาชนทั่วไปรู้จักกัน
พระร่วงโรจนฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดนครปฐม มีชื่อเต็มว่า “พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธปูชนียบพิต”
เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ตามแบบศิลปะสุโขทัย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ประดิษฐานอยู่ที่วิหารด้านทิศเหนือองค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร
ที่ฐานพระพุทธรูปยังเป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร (เถ้ากระดูก) ขององค์รัชกาลที่ 6 อีกด้วย

ขึ้นชื่อว่าชาวพุทธ เมื่อเข้าวัดกิจกรรมที่จะทำคงหนีไม่พ้น ไหว้พระขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความสุข ความเจริญ และยิ่งเป็นการทำบุญร่วมกันภายในครอบครัวด้วยแล้ว
ตามความเชื่อ จะส่งผลให้ผู้ที่ทำบุญร่วมกันได้เกิดมาพบเจอกันในชาติภพต่อๆไป

แม้ว่าในขณะที่เราแวะมานมัสการองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์จะเป็นช่วงเวลาเที่ยงของวันซึ่งอากาศค่อนข้างร้อน แต่การเข้าวัดก็ให้ความรู้สึกร่มเย็นแก่ทุกคนเสมอ

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
ร้านอาหารกุ้งอบภูเขาไฟ ของดีจังหวัดนครปฐม

ว่ากันว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่อใช้พลังงานไปส่วนหนึ่งกับการท่องเที่ยวแล้ว ก็ได้เวลาอันสมควรแก่การรับประทานอาหารกลางวันพอดี เพื่อเติมพลังงานสำหรับการท่องเที่ยวต่อไปในช่วงบ่าย
สำหรับมื้อกลางวันของวันแรกนี้ เราหยุดแวะรับประทานอาหารกันที่ ร้านอาหารกุ้งอบภูเขาไฟ ที่นี่ถือว่าเป็นร้านที่ได้รับความนิยม เป็นหนึ่งในของดีจังหวัดนครปฐมกันเลยทีเดียว

ชื่อร้านก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า กุ้งอบภูเขาไฟ เพราะฉะนั้นเมนูเด่นของที่นี่จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก กุ้งอบภูเขาไฟ เป็นเมนูที่เสริ์ฟลงโต๊ะไหน ก็ได้รับเสียงฮือฮาทุกครั้ง
เพราะเสริ์ฟมาในภาชนะรูปทรงของปล่องภูเขาไฟ เมื่อได้เวลาก็จะจุดไฟลุกพรึ่บดั่งภูเขาไฟประทุระเบิดออก สร้างความตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่ได้เห็น นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ตื่นตาแล้ว
ทางร้านยังมีบริการแกะเปลือกกุ้งให้รับประทานกันง่ายๆด้วย เรียกว่ากินกุ้งแบบมือไม่เปื้อนกันเลยทีเดียว

นอกจากเมนูกุ้งอบภูเขาไฟแล้ว เมนูอื่นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ต้มยำกุ้ง ปลานึ่ง ทอดมันปลากราย หลนปู ผัดผักรวมมิตร ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยผลไม้หวานๆ จนอิ่มพุงกางกันไป

เมื่ออิ่มหนำสำราญแล้วทางคาราวานก็เตรียมตัวเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป ซึ่งค่อนข้างไกลและเราจะออกจากจังหวัดนครปฐมกันแล้ว ในฃ่วงนี้จึงถือเป็นช่วงเวลาพักผ่อนไปด้วยในตัว
พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน ร่างกายก็เริ่มเอนหลับบนรถกันไปตามระเบียบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 12:01:27 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก

หลังจากงีบหลับกันไปหนึ่งตื่นเราก็เดินทางเข้าเขตจังหวัดสมุทรสงคราม จุดหมายที่ 3 ที่เราแวะเข้าเยี่ยมชมในวันนี้คือ “อาสนวิหารแม่พระบังเกิด”
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การบังเกิดของพระแม่มารีย์ โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ ปี พ.ศ.2433 โดยบาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส
ใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์

การเข้าเยี่ยมชม สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวันพุธ – วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. วันอาทิตย์ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.00 น.
และงดเว้นเข้าเยี่ยมชมทุกวันจันทร์ – อังคาร และทุกครั้งที่มีพิธีกรรมในโบสถ์ หากสนใจเข้าเยี่ยมชมควรติดต่อขออนุญาตจากบาทหลวงผู้รับผิดชอบก่อนล่วงหน้าทุกครั้ง
เพื่อติดต่อกับวิทยากรผู้บรรยายก่อน

การเข้าเยี่ยมชมควรแต่งกายให้สุภาพ และ มีข้อห้ามดังต่อไปนี้
  • ห้ามสวมกางเกงขาสั้น
  • ห้ามสวมกระโปรงสั้นมากๆ
  • ห้ามสวมเสื้อแขนกุด
  • ห้ามสวมเสื้อกล้าม
  • ห้ามสวมเสื้อสายเดี่ยว
  • ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปภายในโบสถ์
  • งดใช้โทรศัพท์มือถือ
  • ไม่สวมหมวกและแว่นตาในขณะเข้าเยี่ยมชม
  • งดเยี่ยมชมเวลามีพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 01:36:43 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก(ต่อ)

ที่นี่เราได้รับฟังการบรรยายจากวิทยากรถึงประวัติความเป็นมาของโบสถ์ ในด้านการก่อสร้าง โบสถ์หลังนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยอิฐเผา  ผนังฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื่อมจากอ้อยใสสีดำ
ทางวิทยากรยังได้บรรยายเสริมว่าโบสถ์หลังนี้ไม่มีการใช้เสาเข็มหรือเหล็กเส้น ไม่มีการเทคาน ซึ่งเราจะเห็นเพิ่มอีกว่าภายในโบสถ์จะไม่มีเสากลางสำหรับรับน้ำหนักมาเกะกะสายตา
โดยการรับน้ำหนักจะใช้ท่อนซุง ฝังลงไปในหลุมที่ขุดแทนการตอกเสาเข็มเพื่อรับน้ำหนัก ส่วนคานที่มองเห็นภายในโบสถ์ก็จะใช้ท่อนซุงทั้งต้น

ส่วนการประดับตกแต่งภายในโบสถ์จะตกแต่งด้วยกระจกสี หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า Stained glass ซึ่งกระจกสีที่เห็นภายในโบสถ์นั้นจะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับ
พระนางมารีย์พรหมจารีตามคัมภีร์ไบเบิล และภาพของบรรดานักบุญทั้งชายและหญิง ข้อดีของกระจกสีคือ ใช้ในการควบคุมแสงสว่างภายในโบสถ์ เพื่อไม่ให้สว่างหรือมืดเกินไป
การจะมองเห็นความงดงามของภาพบนกระจกสีนั้นต้องมองจากภายในของโบสถ์ นับเป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่งของคนในสมัยก่อน

ภาพที่เราเห็นบนกระจกสีนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากการเอาสีไปวาดลงบนกระจกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ต้องผ่านกระบวนการหลอมในเตากว่าหลายร้อยองศาก่อนแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
เพื่อให้สีติดเป็นเนื้อเดียวกันกับกระจก จากนั้นจึงจะนำเศษกระจกสีแต่ละสีมาเชื่อมติดกันผ่านตัวประสาน ซึ่งหากมองในภาพเราจะเห็นเป็นเส้นคล้ายๆกรอบของภาพอยู่ ผลลัพธ์ที่ได้
เราก็จะได้ภาพศิลปะบนกระจกสีที่มีความคงทนอยู่ได้นาน

นอกจากนี้ทางวิทยากรก็ได้บอกเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับธรรมมาสน์ที่ติดตั้งภายในโบสถ์ ธรรมมาสน์นี้ทำจากไม้สัก ก่อนการติดตั้งธรรมมาสน์นั้น ต้องมีการทดสอบหาตำแหน่งที่จะติดตั้งก่อน
โดยจะทดสอบการได้ยินด้วยการให้บุคคลนั่งกระจายตัวตามที่ต่างๆภายในโบสถ์ และจะต้องได้ยินเสียงของบาทหลวงโดยชัดเจน จึงจะทำการติดตั้งธรรมมาสลงในจุดๆนั้น
แต่ปัจจุบันธรรมมาสน์นี้ไม่ถูกใช้งานแล้ว เนื่องจากมีการติดตั้งเครื่องขยายเสียงเข้ามาใช้ทดแทน

หากมองไปทางด้านหน้าของโบสถ์ในบริเวณที่ประกอบศาสนพิธี เราจะพบภาพของสองบุคคลสำคัญสองท่าน คือ บุญราศีนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง และ บุญราศีฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์
เป็นสองในแปดบุญราศีมรณสักขีที่ได้รับการแต่งตั้งในประเทศไทย

"บุญราศี" เป็นหนึ่งในขั้นตอนของการประกาศเป็นนักบุญ สำหรับประเทศไทยมีการประกาศรับรองบุญราศีทั้งหมด 2 ครั้งรวมทั้งสิ้น 8 ท่าน

หลังจากรับฟังวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของอาสนวิหารแม่พระบังเกิดแล้ว ก็ได้เวลาถ่ายภาพรวมเป็นที่ระลึก ก่อนที่เราจะออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ที่พักของเราต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 02:18:03 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
ภาพประกอบ 1: พระเยซูที่ถูกตรึงกางเขน เพื่อไถ่บาปให้มวลมนุษย์
ภาพประกอบ 2−3: ธรรมมาสน์ไม้สัก ปัจจุบันมีการนำรูปปั้นพระเยซูมาตั้งไว้ทดแทน เนื่องจากไม่ได้มีการใช้งานแล้ว
ภาพประกอบ 4−5: กระจกสี หรือ Stained glass มีคุณประโยชน์ในด้านการควบคุมแสงสว่างภายในโบสถ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 25, 2014, 10:53:00 PM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
บ้านท้ายหาดรีสอร์ท

หลังจากท่องเที่ยวกันมาตลอดวัน ร่างกายก็เริ่มอ่อนล้าเป็นธรรมดา ทางคาราวานท่องเที่ยวจึงบ่ายหน้าเข้าสู่ ตำบลท้ายหาด เพื่อเช็คอินเข้าสู่ที่พักของเรา "บ้านท้ายหาดรีสอร์ท"
หลังจากแจกกุญแจห้องพักและคีย์การ์ดเรียบร้อยแล้ว นักท่องเที่ยวก็ทยอยขนสัมภาระที่เตรียมมาเข้าสู่ห้องพักของตนเอง เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนถึงเวลานัดหมายต่อไป
ในเวลาประมาณ 17.00น. บริเวณท่าน้ำของรีสอร์ท

ห้องพักของรีสอร์ทที่เราเข้าพักในครั้งนี้เป็นห้องโซน Garden Wing เป็นห้องติดสวนมะพร้าว ภายใต้บรรยากาศร่มรื่น พร้อมด้วยแพ็คเกจอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์
ภายในห้องพักมีเตียงคู่สามารถเข้าพักได้ 2 ท่าน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น โทรทัศน์ โทรศัพท์ภายใน ตู้เสื้อผ้า
พร้อมราวสำหรับตากผ้า ส่วนในด้านห้องน้ำทางรีสอร์ทก็ได้จัดเตรียมผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ไว้ให้เพียบพร้อม พร้อมด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์แบบชักโครก
ส่วนพื้นที่สำหรับอาบน้ำก็มีผ้าม่านกั้นอย่างเรียบร้อย พร้อมด้วยฝักบัวทั้งแยกน้ำร้อน น้ำเย็น ไว้ให้บริการ

นอกจากนี้ภายในรีสอร์ทยังมีสระว่ายน้ำ ร้านอาหาร บริการนวดแผนไทย อินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง และ ยังมีห้องสัมมนาขนาดใหญ่พร้อมจอโปรเจกเตอร์ไว้คอยให้บริการอีกด้วย

เมื่อพักผ่อนกันตามอัธยาศัย และ ถึงเวลานัดหมายแล้ว เราทุกคนก็พร้อมกันที่ท่าน้ำของรีสอร์ท เพื่อเริ่มโปรแกรมการท่องเที่ยวของเราต่อไป
ซึ่งสำหรับช่วงเย็นนี้เรามีโปรแกรมล่องเรือท่องแม่น้ำแม่กลอง และ มุ่งสู่อุทยาน ร.2 เพื่อเข้าร่วมงานคอนเสิร์ต “รักแม่ที่สุด” ภายในอุทยานนั่นเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 02:47:10 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
"เที่ยวท่องล่องวิถีชุมชน" ในแม่น้ำแม่กลอง

แม่น้ำแม่กลองเกิดจากแม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกันคือ แม่น้ำแควใหญ่และแควน้อย นับเป็นแม่น้ำสำคัญสายหนึ่งในภาคตะวันตก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจในการล่องเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำแม่กลอง สามารถติดต่อใช้บริการได้กับเรือไตรรงค์อัมพวา

ิกิจกรรมที่น่าสนใจระหว่างการล่องเรือท่องเที่ยวแม่น้ำแม่กลองนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญไหว้พระ 9 วัด เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา
หรือจะชมความสวยงามของแสงหิ่งห้อยยามค่ำคืนก็ยังได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 03:17:09 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
อุทยาน ร.2 งานคอนเสิร์ต “รักแม่ที่สุด”

งานคอนเสิร์ต “รักแม่ที่สุด” จัดขึ้นโดย กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยว และ กีฬา ร่วมกับ มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2)
ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ มูลนิธิโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติผ่านดาวเทียม

งานคอนเสิร์ตจัดขึ้นภายใต้บรรยากาศความร่มรื่นของ อุทยาน ร.2 พรั่งพร้อมไปด้วยศิลปินมากมาย โดยในช่วงหัวค่ำ คุณลูกสามารถจูงมือคุณแม่และครอบครัวซาบซึ้ง
และดื่มด่ำไปกับความไพเราะของบทเพลงสุนทราภรณ์ ร่วมด้วยนักร้องอย่างเท่ห์ - อุเทน พรหมมินทร์ จากนั้นในช่วงดึกสักหน่อยจึงเป็นช่วงเวลาสนุกสนานของเหล่าวัยรุ่น
กับเหล่านักร้องศิลปินวัยรุ่นชื่อดังที่ขนขบวนมาเพิ่มความสนุกสนานและครึกครื้นกัน ไม่ว่าจะเป็น รุจ เดอะสตาร์, วงโปเตโต้ และ วง PARADOX

เราใช้เวลาอยู่ที่นี่กันไม่ดึกมาก หลังจากเพลิดเพลินกับบทเพลงสุนทราภรณ์แล้ว ก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี จึงต้องอำลา อุทยาน ร.2 ชั่วคราว
เพื่อเดินทางไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารกันก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2014, 11:37:00 PM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
ภาพบรรยากาศในงานคอนเสิร์ต “รักแม่ที่สุด” อุทยาน ร.2

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
มื้อเย็น กับ ร้านอาหารน้องอุ้ม
จากอุทยาน ร.2 เราลงเรือล่องมาอีกสักพักไม่ไกลมากนัก ก็มาถึงที่ ร้านอาหารน้องอุ้ม ร้านอาหารบรรยากาศดีริมแม่น้ำแม่กลอง
สำหรับเมนูที่นิยมสั่งกันก็มีเมนูที่ปรุงจากปลาทู เราเลือกที่จะสั่งต้มส้มปลาทู พร้อมด้วย ปลาหมึกผัดกระเทียมโทน อีกหนึ่งเมนูยอดฮิตของที่นี่ นอกจากนี้ก็ยังมีกุ้งผัดหลดบัว
ปลากะพงทอดน้ำปลา เมี่ยงคะน้าปลาทอดกรอบฟูคลุกสมุนไพร เพียงเท่านี้ก็ทำให้ชาวคาราวานอิ่มหนำสำราญกันอย่างมากแล้ว

หลังจากจัดการอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว ทางคาราวานก็ได้แยกออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อท่องเที่ยวตามความชอบ โดยส่วนหนึ่งสนใจที่จะท่องเที่ยวตามโปรแกรมต่อ
คือการล่องเรือชมหิ่งห้อยที่รอคอยอวดแสงแก่นักท่องเที่ยวอยู่ทุกค่ำคืน ส่วนอีกกลุ่มสนใจที่จะกลับไปที่อุทยาน ร.2 เพื่อร่วมชมคอนเสิร์ตกันต่อ
และทั้งหมดนี้ก็คือโปรแกรมท่องเที่ยวของคาราวาน “ครอบครัวสุขสันต์ สิงหาพาแม่เที่ยว” ในวันแรก สำหรับวัยรุ่นตอนปลายอย่างผมคงไม่ต้องเดานะครับว่าจะเลือกไปเส้นทางไหน…
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 23, 2014, 12:03:12 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
ภาพบรรยากาศคอนเสิร์ต "รักแม่ที่สุด" ช่วงกลางคืน

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
ร่วมทำบุญตักบาตรรับเช้าวันใหม่ บ้านท้ายหาดรีสอร์ท, สมุทรสงคราม

10 สิงหาคม 2557 - บ้านท้ายหาดรีสอร์ท, สมุทรสงคราม
เช้าวันนี้เรายังคงอยู่กันที่บ้านท้ายหาดรีสอร์ท หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเหล่านักท่องเที่ยวต่างได้รับความประทับใจและความสนุกสนาน จากการล่องเรือชมหิ่งห้อย
และ คอนเสิร์ต "รักแม่ที่สุด" พร้อมกับนอนพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มกันแล้ว เมื่อจัดการอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย เราก็มีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจนั่นคือ
การทำบุญตักบาตร แต่แรกเราตั้งใจกันว่าจะมีการตักบาตรพระสงฆ์ทางน้ำ แต่เนื่องจากเป็นช่วงน้ำขึ้น ซึ่งคงไม่ค่อยจะเหมาะนักเพราะอาจจะเป็นอันตรายอยู่บ้าง
เช้าวันนี้ทางผู้จัดทริปและทางรีสอร์ท จึงได้นิมนต์พระสงฆ์และจัดเตรียมสถานที่ไว้ให้เราทำบุญตักบาตรกันทางบกทดแทนภายในบริเวณของรีสอร์ท

หลังจากทำบุญตักบาตร รับศีลรับพร พร้อมประพรมน้ำมนต์กันอย่างชุ่มฉ่ำ ก็ได้เวลาเตรียมตัวเก็บข้าวของสัมภาระ เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางท่องเที่ยวต่อในวันที่สองของทริป
สำหรับจุดหมายแรกที่เราจะเดินทางเข้าเยี่ยมชมคือ วัดจุฬามณี

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
วัดจุฬามณี, สมุทรสงคราม

หลังจากเช็คเอาท์ออกจากรีสอร์ท สถานที่แรกของวันที่เราแวะมาเยี่ยมชมก็คือ "วัดจุฬามณี"
วัดจุฬามณี ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ) กิโลเมตร 34–35 ตำบลบางช้าง เป็นวัดโบราณริมฝั่งคลองอัมพวาต่อเนื่องกับคลองผีหลอก
วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สันนิษฐานว่า ท้าวแก้วผลึก (น้อย) นายตลาดบางช้าง ต้นวงศ์ราชินิกุลบางช้างเป็นผู้สร้างขึ้น

ท่านสามารถอ่านรีวิว วัดจุฬามณี แบบจุใจได้โดยคลิกที่นี่ครับ >>> วัดจุฬามณี

เมื่อเข้ามาในเขตวัด ทางคาราวานได้แวะไป วิหารหลวงปู่เนื่องกันก่อน เพื่อนสักการะสังขารของหลวงปู่เนื่อง
พระครูโกวิทสมุทรคุณ หรือ หลวงปู่เนื่อง อุปสมบทที่วัดบางกะพ้อม ตำบลอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ภายหลังอุปสมบท ได้พำนักจำพรรษาอยู่ที่ วัดจุฬามณี
จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสของวัดจุฬามณี และ มรณภาพเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530

สำหรับคนทั่วไปจะรู้จักหลวงปู่เนื่องดีในด้านการใบ้หวย ว่าท่านใบ้หวยได้แม่นมาก มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งท่านถูกตั้งคณะกรรมการสอบ เนื่องจากใบ้หวยมอมเมาผู้คน
จึงได้มีการพิสูจน์กันเกิดขึ้น โดยให้หลวงปู่เขียนเลขล็อตเตอรี่รางวัล ที่ 1 ที่จะออกในงวดนั้นแล้วทำการเก็บรักษาไว้อย่างแน่นหนา เมื่อถึงวันออกรางวัล
จึงนำเลขที่ท่านเขียนไว้มาเปิดออกดู ก็พบว่าถูกต้องตรงกับรางวัลที่ 1 ที่ออกในงวดนั้นทุกประการ ส่วนเรื่องเล่านี้จะจริงเท็จแค่ไหน ผมก็ไม่สามารถบอกได้
เพียงแต่นำมาบอกเล่าต่อจากที่ได้ฟังมาเท่านั้น

อีกเรื่องที่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ก็คือ แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่สังขารของท่านก็ไม่เน่าเปื่อย ซ้ำยังเป็นสีเหลืองทองดังใครเอาทองคำเปลวมาปิดไว้
สำหรับท่านที่อยากพิสูจน์กับตาตัวเอง สามารถแวะมาสักการะสังขารของท่านได้ ที่วิหารภายในวัดจุฬามณีครับ

ภายในวิหารหลวงปู่เนื่องนอกจากจะมีร่างละสังขารของหลวงปู่เนื่องแล้ว สิ่งหนึ่งที่สะดุดตาอย่างยิ่งก็คืองานเขียนลายรดน้ำที่สวยงาม ซึ่งมีเรื่องราวมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นพุทธประวัติ เรื่องราวการก่อสร้างวิหารหลวงปู่เนื่อง เป็นต้น โดยใช้เวลาเขียนร่วม 8 ปี เริ่มเขียนเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2543
แล้วเสร็จวันที่ 30 ม.ค. 2551 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 8,800,000 บาท นอกจากนี้แล้วยังมีพระบรมสารีริกธาตุ ให้ประชาชนได้สักการะภายในวิหารอีกด้วย
โดยทางวัดได้เก็บรักษาไว้ที่วิหารเป็นการชั่วคราวก่อนที่จะสร้างพระบรมธาตุเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุต่อไป

จากวิหารหลวงปู่เนื่อง เดินมาอีกไม่ไกล เราได้แวะเข้าชมอุโบสถของวัดจุฬามณีที่ถึงแม้ภายนอกจะทำการบูรณะอยู่แต่ภายในยังคงความสวยสดงดงามไปด้วย
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่รอให้ทุกท่านเข้ามาเยี่ยมชม ที่นี่เราได้รับฟังเกร็ดความรู้เรื่องบานหน้าต่างของอุโบสถ ซึ่งปกติผู้เข้าชมส่วนใหญ่จะมองข้ามไป
แต่หากลองเปิดหน้าต่างดูเราจะพบว่าได้มีการอัญเชิญตราพระราชลัญจกรในพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ ราชวงศ์จักรีมาเป็นลวดลายประดับบานหน้าต่าง
ทำด้วยงานฝังมุกที่ขึ้นชื่อของแม่กลอง นับเป็นไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อเข้าเยี่ยมชม

นอกจากนี้เรายังได้รับความรู้เรื่องการฝังลูกนิมิตอีกด้วย ต้องสารภาพเลยว่าไม่เคยรู้ประวัติเลยว่า การฝังลูกนิมิตนั้นฝังทางทิศใดบ้าง จุดใดบ้าง
ซึ่งทางวิทยากรได้บรรยายว่าปกติลูกนิมิตจะมีทั้งหมด 9 ลูก ซึ่งจุดที่ฝังนั้นจะมีทั้งหมด 8 ทิศรอบพระอุโบสถ และ ลูกที่ 9 จะฝังไว้กลางอุโบสถ สำหรับอุโบสถหลังนี้
หากอยากจะรู้ว่าลูกนิมิตรถูกฝังไว้ตรงไหน ให้มองตามสายตาของพระประธานภายในโบสถ์ เมื่อมองไล่ลงมาเรื่อยๆ ท่านก็จะพบกับหินอ่อนที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่
สำหรับใครที่มีโอกาสแวะมาเยี่ยมชมที่วัดจุฬามณีแห่งนี้ ก็อย่าลืมมองหากันนะครับ

เพียงแค่จุดแรกของวัน เราก็ได้รับความรู้มากมายเลย นอกจากนั้นยังได้ทำบุญอีกด้วย เรียกว่าทั้งเที่ยวสนุก ได้ชมสิ่งสวยงาม และ ยังได้ความรู้ไปอีกเป็นกระบุงโกย
สำหรับจุดต่อไปเราจะไปที่ หมู่บ้านเบญจรงค์ ดอนไก่ดี กันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 24, 2014, 02:06:00 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
ภาพประกอบอุโบสถวัดจุฬามณี

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
หมู่บ้านเบญจรงค์ ดอนไก่ดี

จุดที่สองที่เราแวะเยี่ยมชมคือ หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี ซึ่งอยู่ในอำเภอกระทุ่มแบน ชุมชนบ้านดอนไก่ดีเป็นหมู่บ้านที่สืบทอดการผลิตเครื่องเบญจรงค์กันมาหลายชั่วอายุคน
มีการพัฒนาด้านลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยด้วยสี 5 สี และยังมีการใช้สีที่สวยงามยิ่งขึ้นอย่างเช่น ลายน้ำทอง มีสีทองช่วยเสริมความสวยงามและโดดเด่นของลวดลาย
จนปัจจุบันนับเป็นผลงาน OTOP ระดับ 5 ดาว ที่มีมาตรฐานระดับสากล ถือเป็นแบบอย่างของชุมชนเข้มแข็งแห่งหนึ่งในประเทศไทย

สำหรับจุดเด่นของที่นี่คงหนีไม่พ้นผลงานเครื่องเบญจรงค์ที่มีความสวยสดงดงาม มีให้เลือกซื้อเลือกหากันทุกรูปแบบไล่จากระดับเล็กอย่างเครื่องใช้ เช่นจานชาม แก้วน้ำ
จนไปถึงระดับใหญ่อย่างถ้วยโถ แจกันใบยักษ์ นอกจากจะมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเบญจรงค์แล้ว ก็ยังมีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่เปิดเป็นโฮมสเตย์ ให้กับผู้ที่สนใจจะเรียนรู้
วิถึชีวิตของชาวชุมชนดอนไก่ดีอีกด้วย และหากสนใจอยากจะเรียนการทำเครื่องเบญจรงค์แล้ว ที่นี่ก็มีเปิดสอนให้แก่ผู้ที่สนใจอีกเช่นกัน เรียกว่าถ้ารักและสนใจในเครื่องเบญจรงค์แล้ว
มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

นอกจากจะแวะเยี่ยมชมกระบวนการการผลิตเครื่องเบญจรงค์แล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิต ที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดคือ การเขียนและลงสีลวดลายเครื่องเบญจรงค์เพื่อสร้างสรรค์
ผลงานเครื่องเบญจรงค์ที่ไม่ซ้ำใครเพียงชิ้นเดียวในโลก ซึ่งชาวคาราวานก็ให้ความสนใจร่วมทำกิจกรรมนี้กันอย่างมากมาย เมื่อได้ชิ้นผลงานแล้วก็แยกย้ายไปตามมุม ตั้งอกตั้งใจ
บรรจงสร้างสรรค์ผลงานกันอย่างเต็มที่ โดยไม่มีใครยอมน้อยหน้ากันเลยทีเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 24, 2014, 02:57:39 AM โดย Gizmo »

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
ภาพกิจกรรมการลงสีเครื่องเบญจรงค์

ออฟไลน์ Gizmo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
  • คะแนน: +0/-0
ส่งท้าย

ตามกำหนดการแล้วเรายังเหลือสถานที่ที่ต้องไปคือ วัดนางสาว วัดไร่ขิง พร้อมซื้อของฝากที่ตลาดน้ำดอนหวายต่อ แต่เนื่องจากเวลาที่ไม่เพียงพอ
จึงทำให้เราไม่สามารถแวะเยี่ยมชมในทุกสถานที่ได้ ประกอบกับต้องการให้เหล่านักท่องเที่ยวได้มีเวลาสร้างสรรค์ผลงานเครื่องเบญจรงค์กันต่อ
ซึ่งดูเป็นกิจกรรมที่ชื่นชอบของทุกคน เราจึงต้องเลือกจบทริปการท่องเที่ยวกับ "คาราวานครอบครัวสุขสันต์ สิงหาพาแม่เที่ยว" ไว้เพียงเท่านี้

ไม่ทราบว่าทุกท่านที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว สนใจจะไปเที่ยวตามสถานที่ข้างต้นบ้างไหมครับ ผมว่ามันเป็นสถานที่ที่น่าสนใจมาก และที่สำคัญก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก
เราสามารถใช้เวลาในช่วงวันหยุด เสาร์ - อาทิตย์ ในการท่องเที่ยวตามสถานที่เหล่านี้ได้

จึงอยากจะขอเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวกันครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นสถานที่เหล่านี้ก็ได้ ประเทศไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่รอคอยให้ทุกท่านได้ไปเยี่ยมชม และ
เก็บประสบการณ์พร้อมความทรงจำดีๆอยู่ ออกมากันเถอะครับ ออกมาเที่ยวประเทศไทย ออกมาหลงรักประเทศไทยด้วยกัน แล้วท่านจะพบว่าความสุขนั้นอยู่ไม่ไกลเลย
อยู่ใกล้ๆกับบ้านของทุกคน นั่นคือ...ประเทศไทย


ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, การท่องเที่ยวสำนักงานสมุทรสงคราม และ TouronThai.com
ที่มอบโอกาสให้ผมไปเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวในครั้งนี้ครับ

เรื่อง: Gizmo
ภาพ: Gizmo and Kitty Tong
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 24, 2014, 03:24:22 AM โดย Gizmo »