ผู้เขียน หัวข้อ: ทริปปฎิบัติการพิเศษ"15,000 ไมล์จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ"สานสัมพันธ์ไทย-จีน ภาค#1  (อ่าน 31051 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ jai

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
  • คะแนน: +0/-0
  • เที่ยวเพื่อชาติ.....ชัยโย
    • touronthai.com
วันแรก(14พ.ย.58)
ปฎิบัติการพิเศษของการเดินทาง "15,000 ไมล์จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ"

ททท.จับมือกับรัฐบาลจีนร่วมเดินทางสร้างประวัติศาสตร์ท่องเที่ยวอีกหน้ากับ “15,000 ไมล์จากอัลไต(จีน)สู่สุวรรณภูมิ(ไทย) ด้วยคาราวานรถยนต์ตามเส้นทางสายไหมสู่เส้นทางท่องเที่ยวสายใหม่ สานสัมพันธไมตรี 40 ปีไทย-จีน & วัฒนธรรมกับการท่องเที่ยว (ไทย-จีน)” เนื่องในโอกาสพิเศษโดยใช้คาราวานรถยนต์จำนวน 40-55-60 คัน เดินทางจากเทือกเขาอัลไตของจีน ซึ่งเขาเล่าว่า...เป็นต้นกำเนิดของชนชาติไทย  เดินทางผ่านความหนาวเย็น ทุ่งหญ้า ทะเลทราย เรื่องราว ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมต่างๆ แต่ละเมือง มาตามเส้นทางสายไหมของกองคาราวานอูฐที่มามาร์โคโปโลใช้เดินทางขนสินค้าในอดีต ผ่านเส้นทางสามก๊กของจีน สู่เส้นทางท่องเที่ยว AEC กับเส้นทาง R3A ผ่านลาวเชื่อมเมียนมาร์ สู่ประเทศไทยพิชิตท่องเที่ยวไทย 19 จังหวัดภาคกลาง เชื่อมโยงภาคอีสานและภาคเหนือ ใช้เวลาเดินทาง 37 วัน 36 คืน

ทีม ททท.จากประเทศไทย รายงานการเดินทางโดย คุณสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง
1.ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
สายการบิน CHINA SOUTHERN AIRLINES เดินทางสู่นครกวางเจา มณฑลกวางตุ้ง (6.00น.)
2.เดินทางสู่นครกวางเจา สู่เมืองอูรูมูฉี มณฑลซินเจียง (15.15น.)
3.ถึงเมืองอูรูมูฉี มณฑลซินเจียง (21.00น.) พักที่อูรูมูฉี เพื่อเดินทางต่อไปอัลไตเช้าตรู่ของวันที่ 15พ.ย.58 ต่อไป

(สนใจรายงานติดตามปฎิบัติการนี้ ผ่าน TPBS และ www.เที่ยวภาคกลาง.com หรือเฟซบุ๊คแฟนเพจ TAT_Tiewpakklang
 ได้ทุกๆวันตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.-20 ธ.ค.58)
สนใจรายละเอียด ทั้งหมด กรุณาคลิกๆอ่านได้ที่นี่ http://www.tiewpakklang.com/news/central-region/19872/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 28, 2015, 09:21:17 AM โดย jai »
เที่ยวเพื่อชาติ.........ชัยโย

ออฟไลน์ jai

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
  • คะแนน: +0/-0
  • เที่ยวเพื่อชาติ.....ชัยโย
    • touronthai.com
วันที่ 2 (15 พ.ย.58)
ตื่นเช้ามา ตี 5 (เวลา 04.00 น.ของประเทศไทย) มุ่งหน้าสู่สนามบินที่อูรูมูฉี มณฑลซินเจียง
(ที่นี่กลางคืนยาวกว่ากลางวัน เวลาประมาณ 16.00 น.มืดแล้ว เวลา 09.00 น.ยังไม่สว่าง)
ทีมผู้สื่อข่าวตกเครื่องบินต้องบินตามไปอัลไต 2-3 ทุ่ม เดินทางถึงสนามบินอัลไต อากาศติดลบเกือบ 20 องศา C หิมะตกขาวทั้งเมืองอัลไต
คณะสื่อมวลชนและคณะ ททท.เดินทางตามหาเรื่องราว "อัลไต กับ สุโขทัย & THAILAND" มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ที่พิพิธภัณฑ์ ชุมชน แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองอัลไต มณฑลซินเจียง

มารู้จักอัลไตกัน?.....
เทือกเขาอัลไต เป็นเทือกเขาในเอเชียกลาง บริเวณพรมแดนร่วมของประเทศรัสเซีย จีน มองโกเลีย และคาซัคสถาน และยังเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญ คือ แม่น้ำอิร์ทีช(Irtysh) แม่น้ำโอบ (Ob) และแม่น้ำเยนิไซ (Yenisei) ด้วย ส่วนปลายทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทือกเขา อยู่ที่พิกัด 52 องศาเหนือ กับระหว่าง 84 และ 90 องศาตะวันออก (ซึ่งไปจรดกลืนเขากับเทือกเขาสายัน (Sayan Mountains) ทางตะวันออก) และทอดยาวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ จนถึงพิกัด 45 องศาเหนือ 99 องศาตะวันออก แล้วค่อย ๆ ต่ำลง กลืนเข้ากับที่ราบสูงแห่งทะเลทรายโกบี
ชื่อ อัลไท ในภาษาตุรกี สะกด "Alytau" หรือ "Altay" มาจากศัพท์ Al (ทองคำ) และ tau (ภูเขา) ในภาษามองโกเลีย เรียกว่า อัลทาอิน-อูลา หมายถึง เทือกเขาแห่งทองคำ เทือกเขาแห่งนี้ ยังมีชื่อเรียกว่า เอก-ทัค (Ek-tagh), อัลไตแห่งมองโกล (Mongolian Altai) อัลไตใหญ่ (Great Altai) และอัลไตใต้ (Southern Altai)


เทือกเขาอัลไตยังเป็นที่รู้จักดีในหมู่นักศึกษาประวัติศาสตร์ภาษาไทย เนื่องจากเคยเชื่อกันว่า เป็นที่ตั้งดั้งเดิมของชาวไทยสมัยโบราณ ก่อนจะอพยพลงมาจนถึงบริเวณประเทศไทยในปัจจุบัน แต่ปัจจุบันนี้ความคิดดังกล่าวไม่ได้รับการสนับสนุนจากนักวิชาการส่วนใหญ่ ทว่ายังมีเนื้อหาเช่นนี้ปรากฏในตำราเรียน หรือหนังสือด้านประวัติศาสตร์อยู่บ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 26, 2015, 11:13:20 PM โดย jai »
เที่ยวเพื่อชาติ.........ชัยโย

ออฟไลน์ jai

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
  • คะแนน: +0/-0
  • เที่ยวเพื่อชาติ.....ชัยโย
    • touronthai.com
วันที่ 3 ของการเดินทาง : (16 พ.ย.58)
ปฎิบัติการพิเศษของการเดินทาง "15,000 ไมล์จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ"
รองผู้ว่า ททท.ร่วมทำพิธีเปิดและปล่อยคาราวานรถยนต์จากเส้นทางสายไหม สู่เส้นทางท่องเที่ยวสายใหม่ กับปฎิบัติการ "15,000 ไมล์จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ" สานสัมพันธไมตรีวัฒนธรรมกับการท่องเที่ยว 40 ปี ไทย-จีน ณ เมืองอัลไต ในวันที่ 16 พ.ย.58 เวลา 10.00 น.(เพราะที่นี่ตอนนี้พึ่งรับแสงสว่างจากพระอาทิตย์)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 26, 2015, 11:23:01 PM โดย jai »
เที่ยวเพื่อชาติ.........ชัยโย

ออฟไลน์ jai

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
  • คะแนน: +0/-0
  • เที่ยวเพื่อชาติ.....ชัยโย
    • touronthai.com
วันที่ 4  (17 พ.ย.58)
เส้นทางสายไหม จากท้องทุ่งทะเลทราย"สือเหอจือ" ซึ่งกองกำลังทหารได้สร้างบ้านสร้างเมืองทำสงครามกับความแห้งแล้ง ให้เป็นแหล่งสีเขียวแหล่งเกษตรกรรมผลิตอาหารแห่งหนึ่งของจีน

- เช้าที่เมืองเค่อลามาอี้ (แหล่งท่องเที่ยวแพะเมืองผี-เมืองบ่อน้ำมัน) มณฑลซินเจียง คณะคาราวานเร่ิมออกเดินทางต่อวันนี้ 9.00 น./เวลา 8.30 น.ดูบรรยากาศเมืองยังมืดอยู่เลย อากาศยังติดลบเช่นเดิม

- ชมพิพิธภัณฑ์ทหารสือเหอจือ (พิพิธภัณฑ์กองทัพปกป้องชายแดนและประวัติศาสตร์ของการสร้างเมืองสือเหอจือ) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของซินเจียง สร้างด้วยกองกำลังทหารกว่า 800,000 คน ต่อสู้กับภัยแล้งกลางทะเลทราย อยู่กว่า 20 ปี จนทหารอายุมากขึ้นเริ่มชรา จึงได้ประกาศรับนักศึกษาอาสาสมัครหญิง กว่า 200,000 คน มาจับคู่แต่งงานช่วยพัฒนา บ้านเมือง/สืบสกุลจนกลายเป็นเมืองใหญ่ กลายเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญแหล่งหนึ่งของจีน

- ชมวิถีชีวิตชาวเมืองอูรูมูฉี (เมืองเอกของมณฑลซินเจียง) กับ ตลาดบาซาร์ (ตลาดต้าปาจา) เป็นแหล่งช็อปปิ้งซื้อสินค้าพื้นเมืองมากมาย เช่น มีดเหล็กซินเจียง แส้หางจามรี เสื้อผ้า พรมเปอร์เซีย ผลไม้ อาหารท้องถิ่น และสินค้าอื่นๆ อีกมาก บาซาร์ (Bazar)ตลาดนัดขายสินค้าพื้นเมือง เลือกซื้อของที่ระลึก เช่น ผ้าพันคอสีสวย เครื่องเงินแบบอาหรับ ผลไม้อบแห้ง เช่น องุ่น แอปริคอด กีวี อินทผาลัม เลือกซื้อเมล็ดอัลมอนอบแห้ง เมล็ดวอลนัตอบแห้ง และถั่วอบแห้งชนิดต่างๆ)

- งานเลี้ยงต้อนรับจากเจ้าภาพ โดยมณฑลซินเจียง นำโดยท่านอธิบดีกรมวัฒนธรรมซินเจียง จัดการต้อนรับและการแสดง มอบของที่ระลึกไปจัดแสดงที่ศูนย์วัฒธนธรรมจีนประจำประเทศไทย
เที่ยวเพื่อชาติ.........ชัยโย

ออฟไลน์ jai

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
  • คะแนน: +0/-0
  • เที่ยวเพื่อชาติ.....ชัยโย
    • touronthai.com
วันที่ 5 ของการเดินทาง : (18 พ.ย.58)
ตามหาเส้นทางสายไหม เมืองทูรูฟาน เมืององุ่นหวาน เมืองแม่น้ำใต้ดิน เส้นทางเดินทางผ่านการแสวงบุญพระถังซำจั๋ง

- เช้านี้คณะ VIP และสื่อมวลชน บางส่วนแยกเดินทางกลับ เหลือแต่กองคาราวานไทย-จีน พร้อมสื่อมวลชนที่เดินทางจริงๆ ปฎิบัติการพิเศษ

- กองคาราวานเดินทางเช้านี้ ล้อหมุนออกเดินทาง 9.30 น.) คณะเดินทางออกจากเมืองอูรูมูฉี เมืองเอกที่เมืองเมืองใหญ่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด มณฑลซินเจียง

- เดินทางผ่านพร้อมเยี่ยมชมแหล่งพลังงานลมทามกลางภูเขาหิมะและความหนาวเย็น (เมืองกังหันลมใช้ผลิตกระแสไฟฟ้านับหมื่นๆตัวตั้งเรียงรายกัน เขาเล่าว่า.....ลมที่นี่แรงมากๆ สามารถพัดรถยนต์18 ล้อตกถนนได้ กังหันนี้ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในตัวเมือง)

- ชมแหล่งท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรมซากร้างเมืองเก่า เมืองกษัตริย์ เมืองเกาชาง สร้างราว 100 ปี ก่อนคริสตกาล

- คาราวานเดินทางสู่เมืองทูรูฟาน ดินแดนองุ่นหวาน เมืองแม่น้ำใต้ดิน ชมถ้ำพระพันองค์(เซียนฝอด้ง) มรดกโลก(ที่มีชื่อเสียงด้านศิลปกรรมของโลกอีกด้วย) แหล่งพุทธศาสนาในดินแดนชาวมุสลิม ชมภูเขาเพลิง (ฝอเยี่ยนซาน) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเขาเล่าว่า...ตำนาน "ไซอิ๋ว" ตอนที่ซุนหงอคงไปยืมพัดกายสิทธิ์จากองค์หญิงพัดเหล็กมาดับไฟในภูเขาเพลิงแห่งนี้ เพื่อให้พระถังซำจั๋งเดินทางไปเชิญพระไตรปิฏกที่อินเดียมาที่จีน ชมระบบชลประทานแม่น้ำใต้ดิน (คานเอ่อจิ่ง) นับเป็นโอเอซีสของท้องทะเลทรายในอดีตของเมืองทูรูฟาน โอเอซีส ได้นำน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งบนภูเขาหิมะที่ละลายลงใต้ดินนำน้ำมาใช้เพื่อการเกษตร ชมแหล่งองุ่นหวาน (ผูเถาโกว) ผลไม้ที่มีชื่อเสียงของมณฑลซินเจียง (องุ่น ลูกท้อ แอพริคอด)

- งานเลี้ยงรับรองสานสัมพันธไมตรี โดยรัฐบาลท้องถิ่น ทูรูฟาน (รองผู้ว่าการเมืองทูรูฟาน/ผู้หญิง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 28, 2015, 09:17:40 AM โดย jai »
เที่ยวเพื่อชาติ.........ชัยโย

ออฟไลน์ jai

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
  • คะแนน: +0/-0
  • เที่ยวเพื่อชาติ.....ชัยโย
    • touronthai.com
วันที่ 6 (19 พ.ย.58)
เดินทางตามเส้นทางสายไหม จากเมืองทูรูฟาน-คู่มู๋ถ่าเก๋อ-ซันซัน(อดีตประเทศโหลวหลั่น)-เมืองฮามี่ มณฑลซิงเกียง

- คณะกองคาราวานเดินทางเช้านี้ ล้อหมุนออกเดินทาง 8.45 น.) คณะเดินทางออกจากเมืองทูรูฟาน(ดินแดนองุ่นหวาน เมืองโบราณ มีแม่น้ำใต้ดิน) ชมพิพิธภัณฑ์ภูเขาเพลิง มณทลซินเจียง มุ่งหน้าสู่-คู่มู๋ถ่าเก๋อ-ซันซัน(อดีตประเทศโหลวหลั่น)-เมืองฮามี่
ชมท้องทุ่งทะเลทรายท้าทายความหนาวเย็นท้าความเสียวกับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ
ชมหินทรายแกะสลักเป็นรูปหน้าคน(คนที่ชนะการแข่งขันเทศกาลขี่อูฐของคนซันซัน)
ชมซากกำแพงเมืองเก่าโบราณของประเทศโหลวหลั่น ที่ยังมีซากเมืองเก่าที่ยังมีให้เห็นอยู่ ถูกทับถมด้วยทะเลทรายหายไปทั้งเมืองหรือทั้งประเทศโหลวหลั่น

- คาราวานเดินทางสู่เมืองฮามี่ เส้นทางสายไหมในอดีต

- การต้อนรับคณะเดินทางจากรัฐบาลท้องถิ่นเมืองฮามี่ นำโดยผู้ว่าการ(หลิงสุ่ยจิง) อดีตผู้ว่าการท่องเที่ยว ปัจจุบันคือ ผู้ว่าเมืองฮามี่
เที่ยวเพื่อชาติ.........ชัยโย

ออฟไลน์ jai

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
  • คะแนน: +0/-0
  • เที่ยวเพื่อชาติ.....ชัยโย
    • touronthai.com
วันที่ 7 (20 พ.ย.58)
เส้นทางสายไหมจากมณฑลซินเจียงสู่มณฑลกานซูจากเมืองฮามี่(สุสานกษัตริย์ฮามี่) มณฑลซินเจียง สู่การพิสูจน์ฟังเสียงประหลาดจากเนินเขาทะเลทรายแห่งเมืองตุนหวง มณฑลกานซู

- คณะกองคาราวานเดินทางเช้านี้  ล้อหมุนออกเดินทาง 9.30 น.) คณะเดินทางสัมผัสอากาศหนาวเย็นแต่รู้สึกอุ่นขึ้นและตอนเช้าสว่างเร็วขึ้น
เดินทางตามเส้นทางสายไหมในอดีต ตามแนว ภูเขาเทียนซาน

ชมพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุ ตามหาร่องรอยเส้นทางสายไหม สู่เส้นทางพระพุทธศาสนาครั้งหนึ่งพระถังซำจั๋งเดินทางไปเชิญพระไตรปิฏกที่อินเดียมาแวะพักที่นี่ ภูเขาเทียนซาน และชมพิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตวัฒนธรรมชาวเมืองฮามี่
ชมสุสานจักรพรรดิฮามี่(TOMBS OF THE HUI KINGS) เป็นสุสานใหญ่ที่ฝังพระศพของ"ข่าน"แห่งฮามี่หลายรัชสมัยรวมถึงมเหสี-เชื้อพระวงศ์ มีมัสยิดใหญ่มี่สามารถจุคนได้ถึง 3,000 คน

- คณะเดินทางออกเดินทางสู่เมืองตุนหวง มณฑลกานซู

- ชมเนินทรายหมิงซาซาน คราใดที่ท่านลื่นไถลลงมาจากยอดเนินทราย เขาเล่าว่า ท่านอาจได้ยินเสียงประกลาดที่เกิดขึ้น

- การต้อนรับคณะเดินทางจากรัฐบาลท้องถิ่นเมืองตุนหวง นำโดยรองผู้ว่าเมืองตุนหวงและ ผอ.กรมวัฒนธรรม มณฑลกานซู
เที่ยวเพื่อชาติ.........ชัยโย

ออฟไลน์ jai

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
  • คะแนน: +0/-0
  • เที่ยวเพื่อชาติ.....ชัยโย
    • touronthai.com
วันที่ 8 (21 พ.ย.58)
เดินทางค้นหาเส้นทางสายไหมในอดีต มรดกโลกหมู่ถ้ำพระมอเกากู : เมืองเจียยวี่กวน 

: เขาเล่าว่า ที่นี่มีเสียงประหลาดจากเนินเขาทะเลทรายแห่งเมืองตุนหวง มณฑลกานซู

- คณะเดินทางสัมผัสอากาศหนาวเย็นที่นี่ยังติดลบ 5 องศา C
ชมพิพิธภัณฑ์นำเสนอด้วยเทคโนโลยี่ใหม่ไฮเทค ภาพยนตร์เล่าเรื่องในมุมมอง 360 องศา เยี่ยมชมมรดกโลกหมู่ถ้ำพระสหัสพุทธมอเกา ในย่านเมืองเก่ากลางทะเลทรายตามเส้นทางสายไหม ศูนย์รวมของการสร้างพุทธศิลป์ในถ้ำแขนงต่างๆ ชมภาพวาดฝาผนังล้ำค่า ประติมากรรมพระพุทธรูป จากทั่วทุกสารทิศและมีพระคัมภีร์หลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชนเผ่าในยุคสมัยต่างๆ เช่น ในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นต้น ชมเจดีย์ม้าขาว กล่าวกันว่าพระกุมารชีวะได้อัญเชิญพระไตรปิฏกผ่านมาและม้าพาหนะของท่านได้ตายลงที่นี่จึงมีการสร้างเจดีย์ขึ้นตรงตามตำแหน่งที่ม้าขาวตายและยังคงตั้งตระหง่านมาจนถึงปัจจุบัน
เก็บตก เมื่อวานชมไม่ทัน จึงของเข้าชมวันนี้ กับ เนินทรายหมิงซาซาน คราใดที่ท่านลื่นไถลลงมาจากยอดเนินทราย เขาเล่าว่า ท่านอาจได้ยินเสียงประหลาดที่เกิดขึ้นจากเสียงลม...หรือเสียงอะไร เนื่องจากในอดีตพายุทะเลทรายได้พัดทับถมเมืองแห่งนี้จมอยู่ใต้ทะเลทราย ปัจจุบันได้ต้นพบร่องรอยซากเมืองเก่าและแหล่งน้ำที่มีความมหัศจรรย์อยู่กลางทะเลทรายรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว

- คณะเดินทางออกเดินทางสู่เมืองเจียยวี่กวน น่าจะถึงประมาณ 4-5 ทุ่ม

- การต้อนรับคณะเดินทางจากรัฐบาลท้องถิ่นเมืองเจียยวี่กวน มณฑลกานซู
เที่ยวเพื่อชาติ.........ชัยโย

ออฟไลน์ jai

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
  • คะแนน: +0/-0
  • เที่ยวเพื่อชาติ.....ชัยโย
    • touronthai.com
วันที่ 9 ของการเดินทาง : (22 พ.ย.58)
วันนี้ เดินทางตามเส้นทางสายไหม 2 เมืองในอดีต
กับเมือง "ด่านเจียยวี่กวน" กำแพงเมืองจีนด่านสุดท้าย และ "เมืองจางเย่" ดินแดนพุทธศาสนาตามเส้นทางสายไหม


- ล้อหมุนออกเดินทาง 8.30 น.) คณะเดินทางสัมผัสอากาศหนาวเย็นวันนี้ติดลบ 8 องศา C แต่ได้แจ้งว่าอากาศอุ่นๆขึ้นบ้างแล้ว ปกติหน้าหนาวอากาศจะติดลบลงไปถึง 20 องศาC น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งแล้วจะมีงานโคมไฟน้ำแข็งให้ได้ชมกัน
ชมพิพิธภัณฑ์เมืองเจียยวี่กวน ผู้ว่าการเมืองและคณะพร้อมทีมสื่อมวลชนในพื้นที่มาต้อนรับ
เมืองเจียยวี่กวน อดีตทางผ่านเส้นทางสายไหมในอดีต ได้พัฒนาเมืองมาจากท้องทะเลทรายปลูกต้นไม้ให้เป็นเมืองสีเขียว ขุดแหล่งน้ำทะเลสาปน้ำจืด-สร้างสวนสาธารณะเพิ่มพื้นที่สีเขียว กว่า 10 แห่ง มีทางรถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่านเส้นทางสายปักกิ่ง-ชิงไห่-ทิเบต เมื่อมีรถไฟวิ่งผ่านจึงทำให้เมืองทันสมัยสะอาดน่าอยู่ น่าอาศัยมากขึ้น ใช้เวลา 50-60 ปีในการพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรมใหม่ (เป็นเมืองที่อยู่ใกล้เมืองที่ตั้งฐานยิงจรวดอวกาศของจีน)
 
แต่เขาเล่าว่า...สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักเมืองนี้มากที่สุดคือ "ด่านเจียยวี่กวน กำแพงเมืองจีนหมื่นลี้ ปราการด่านสุดท้ายทางด้านทิศตะวันตก สุดชายแดนชนเผ่ามองโกล"
คณะเดินทางไปชมเส้นทางสายไหม "ด่านเจียยวี่กวน" จุดเส้นทางกองคาราวานสินค้าเดินทางต้องเดินทางผ่านจุดนี้ในอดีต ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นกำแพงเมืองจีนที่นับว่าเป็นช่วงหน้ากว้างที่บางที่แคบที่สุดและยังเป็นด่านที่ยังสมบูรณ์ที่สุด เพราะไม่ได้ถูกทำลาย(ได้ทำการสร้างเพิ่มเติมประมาณสมัยราชวงศ์หยวน)


คณะเดินทางออกเดินทางสู่เมืองจางเย่ เส้นทางสายไหมในอดีตที่มาร์โคโปโลมาตั้งกองคาราวานอยู่ที่เมืองจาเย่ แห่งนี้ 10 กว่าวัน ปัจจุบันเมืองเจียงเย่ จึงมีถนนที่ตั้งชื่อว่า "มาร์โคโปโล" เป็นที่ระลึกด้วย
ชม "พระพุทธไสยาสน์ทำจากไม้ทั้งองค์" ยาว 34.5 เมตร นับเป็นพระนอนทำจากไม้องค์ใหญ่ที่สุดของจีน ณ วัดต้าฝอซื่อ ดินแดนพุทธศาสนาตามเส้นทางสายไหม สร้างปี ค.ศ.1098
การต้อนรับคณะเดินทางจากรัฐบาลท้องถิ่นเมืองจางเย่ โดยท่านรองผู้ว่าเมืองจางเย่และคณะพร้อมสื่อมวลชนมาต้อนรับ ในบรรยากาศชนเผ่ายี้กู้จู๋
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 28, 2015, 09:18:35 AM โดย jai »
เที่ยวเพื่อชาติ.........ชัยโย

ออฟไลน์ jai

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
  • คะแนน: +0/-0
  • เที่ยวเพื่อชาติ.....ชัยโย
    • touronthai.com
วันที่ 10 (23 พ.ย.58)
วันนี้ พบกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติว่าด้วยเรื่องหินๆ กับวิถีชีวิตชนเผ่ายี้กู้จู๋ที่น่าค้นหา เผ่านี้เคยมาแสดงในงานตรุษจีนที่เมืองไทยเมื่อปี พ.ศ.2557 ด้วย

- ล้อหมุนออกเดินทาง 8.30 น.) คณะเดินทางสัมผัสอากาศหนาวเย็นวันนี้ติดลบ 10 องศา C
เดินทางไปชมการสร้างเมืองใหม่ในอุทยานธรรมชาติภูเขาหินสีที่ใหญ่ที่สุดของจีน (วันนี้อากาศติดลบ มีลม บ้างคนใส่เสื้อผ้ากันหนาวสำหรับวันนี้หนาเป็นพิเศษ ข้าพเจ้าจัดไป 8 ชั้น 8 ตัว และคาดว่าพรุ่งนี้หิมะน่าจะตก) เขาเล่าว่าหนาวๆ อย่างนี้ ต้องเหล้าขาวถึงจะเอาอยู่...555

- ชมอุทยานแห่งชาติเกี่ยวกับเรื่องหินๆ พึ่งเปิดใหม่ได้ 3 เดือน ได้เห็นวิถีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจีนมองการจัดการได้ครบวงจร
- ชมอุทยานแห่งชาติตานเสียตี่เม้า ว่าด้วยเรื่องหินๆ หุบเขาสายรุ้งอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างขึ้นสวยงามเกินคำบรรยาย
- เยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวจีนเผ่ายี้กู้จู๋ ในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองด้วยการร้องเพลงดื่มเหล้า มีภาษาพูดเป็นของตนเอง (ภาษาเขียนไม่ได้ใช้แล้วปัจจุบัน ภาษาเผ่ายี้กู้จู๋ จะคล้ายๆ ภาษาตุรกี) แต่ชาวยี้กู้จู๋ที่นี่จะนับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน คล้ายๆทิเบต มีอานม้าเป็นสัญญาลักษณ์ นักแสดงที่นี่เคยไปร่วมงานแสดงวัฒนธรรมตรุษจีนที่เมืองไทย เมื่อปี พ.ศ.2557 ที่กรุงเทพมหานคร และสุพรรณบุรี

-ชมแหล่งท่องเที่ยวใหม่หน้าผาสีในรูปทรงต่างๆ เช่น นกอินทรีย์ อูฐ ปราสาท (ที่ใกล้ๆนี้จะมีหมู่พุทธคูหาหม่าถีซื่อ วัดตั้งอยู่บนหน้าผาหินทรายแดง มีอายุราวกว่า 1,600 ปี ร่วมสมัยยุคเดียวกับหมู่ถ้ำมอเกา...เสียดายเวลาไม่พอมืดเสียก่อน) ค่ำหิมะเริ่มตกพรุ่งนี้ กองคาราวานสนุกแน่....เมืองจางเย่ คงขาวทั้งเมืองเป็นแน่แท้
การต้อนรับคณะเดินทางจากรัฐบาลท้องถิ่นเมืองจางเย่
เที่ยวเพื่อชาติ.........ชัยโย