ผู้เขียน หัวข้อ: เอกซ์คลูซีฟทริป เที่ยววิถีไทย เปิดมุมมองใหม่จังหวัดตราด เมืองต้องห้าม...พลาด  (อ่าน 7306 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
 :) ออกเดินทางอีกครั้งกับเส้นทางการท่องเที่ยวจังหวัดตราดที่เราได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มั่นใจว่าไม่ค่อยจะมีคนรู้จัก ทั้งๆ ที่จังหวัดตราดเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวนมากเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากในแต่ละปี แต่นักท่องเที่ยวเหล่านั้นมีจำนวนมากมายที่เลือกจะเที่ยวตามสถานที่เดิมๆ ที่ดังและรู้จักกันทั่ว ชนิดที่ไม่ได้บอกก็พอจะรู้ อย่างเกาะช้าง เกาะหมาก และอีกสารพัดเกาะ แต่ในเมื่อเราต้องการเปิดโลกให้กว้างขึ้นและพาไปชมสถานที่ที่สวยงามแต่คนรู้จักกันน้อยบ้าง ดูสิว่าจะเป็นยังไง สถานที่เหล่านี้ได้ผ่านการพิจารณาอย่างดีแล้วนำมาจัดให้พอดีกับเวลาที่เรามี คือช่วงวันหยุดปิยมหาราช ต่อด้วยวันศุกร์ลางาน แล้วก็เป็นเสาร์ และอาทิตย์ รวมเวลา 4 วันเต็มๆ

แผนการเดินทางของเราเริ่มต้นที่วันที่ 23 ตุลาคม ออกเดินทางแต่เช้าจากกรุงเทพฯ (ทั้งๆ ที่วางแผนไว้ว่าจะออกเดินทางกลางดึกวันที่ 22 แต่ด้วยภารกิจที่เพชรบุรีจึงเลื่อนการเดินทางออกไป 7 ชั่วโมง) จุดหมายแรกของทริปคือที่แหลมงอบ สถานที่ที่จะต่อเรือไปที่เกาะช้าง เรามาถึงแหลมงอบเวลาเกือบบ่ายสองโมง (อันที่จริงน่าจะเร็วกว่านี้หน่อยแต่ก็เหยียบเต็มที่ไหงมาถึงบ่ายสองก็ไม่รู้) ลงไปต่อคิวข้ามเรือเฟอรรี่ ก็คนเยอะจนต้องได้ขึ้นเรือเที่ยวบ่าย 3 โมง คณะกลุ่มอนุรักษ์เขาแหลมเกาะช้างใต้ก็รอจนกว่าเราจะข้ามไปถึง เวลาก็เหลือน้อยเต็มทีสำหรับการพิชิตเขาแหลมแห่งเกาะช้างใต้ แต่เมื่อเรามาแล้วคงไม่มีโอกาสให้หันหลังกลับ
เส้น
ถึงที่บ้านสลักเพชร เวลา 4 โมงแล้ว ระยะทางจากพื้นราบขึ้นเขาแหลมประมาณ 3.5 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมง เราจัดแจงอุปกรณ์ที่จำเป็นเฉพาะการเดินป่า และกล้อง พร้อมเสบียง และเปล เดินทางมุ่งหน้าสู่ยอดเขา โดยไม่สามารถแวะถ่ายรูปอะไรระหว่างทางได้ ซึ่งถือว่าผิดวิสัยของเรามาก ปกติขึ้นเขาเดินป่าเราจะแวะถ่ายรูปอะไรต่อมิอะไร ต้นไม้ก้อนหิน ดอกไม้ป่า มอสเฟิร์น ไปเรื่อยเปื่อย แต่งานนี้งานแรกที่เราไม่ได้ทำแบบนั้น

ดังที่คาดเอาไว้ เราขึ้นไปถึงยอดเขาแหลมเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ระหว่างทางฟ้ามืดลงตามเวลา ต้องเปิดไฟฉายเดินป่า ทั้งเหนื่อยทั้งฝนตก ทั้งมองไม่เห็น เส้นทางสายนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะไม่ได้ถางทางเดินไว้รองรับนักท่องเที่ยว การเดินผ่านป่าที่มีระยะห่างของต้นไม้แค่พอดีตัว สัมภาระไปเกาะเกี่ยวกิ่งไม้ สะดุดบ้าง ล้มบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา ถึงยอดเข้าแหลมยอดเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 650 เมตร เป็นยอดที่สูงเป็นอันดับสองของเกาะช้าง มีศาลเล็กๆ ตั้งอยู่ ทุกคนไปไหว้ศาลเพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าป่าเจ้าเขาคุ้มครอง น้องฟลุคและเพื่อนๆ กลุ่มอนุรักษ์ช่วยผูกฟลายชีทและเปลเรากินข้าวแบบง่ายๆ ที่เตรียมมาท่ามกลางสายฝน อาหารเย็นวันนี้มีข้าวเหนียวกับไก่ทอด พอฝนซาเราก็ได้ออกมายืนดูเรือไดหมึกที่เรียงรายเต็มท้องทะเลหนาแน่นมากเป็นภาพที่สวยงามแต่ถ่ายรูปกลับมาไม่ได้ เพราะเมฆฝนดำทมึนอยู่บนหัว ประกอบกับความเหนื่อยที่อยากจะล้มตัวลงนอนให้เร็วที่สุด ทุกคนขึ้นเปลของตัวเองแล้วหลับกันเร็วมาก แต่บางคนก็อาจจะนอนไม่หลับเพราะเสียงกรนของเพื่อนร่วมทริปอันเป็นธรรมดาของการเดินป่าที่แสนเหน็ดเหนื่อย

ในที่สุดเราก็ตื่นขึ้นมาอีกทีประมาณ 6.20 จะว่าไปก็สายไปหน่อย พระอาทิตย์ขึ้นสูงความร้อนแรกของวันนี้ทำให้ความชื้นบนเกาะช้างระเหยขึ้นมาเป็นทะเลหมอกย่อมๆ เป็นภาพที่น่าประทับใจที่เราได้เห็นทะเล 2 ทะเลในเวลาเดียวกัน หมู่เกาะทะเลตราดที่อยู่เบื้องล่าง ที่กำลังจะถูกปกคลุมด้วยหมอกก็ดูสวยงาม หมอกกลุ่มใหญ่ลอยมาปกคลุมบริเวณที่เราอยู่จนมองไม่เห็นอะไรนอกจากสีขาว แล้วสักพักก็ลอยผ่านไปเปิดวิวสวยให้เราได้ถ่ายภาพกัน จากนั้นคลื่นทะเลหมอกลูกใหม่ก็พัดเข้ามาอีกครั้งสลับกันอยู่แบบนี้หลายต่อหลายรอบ หลังจากถ่ายรูปกันจนพอใจแล้วเราก็เก็บกล้องหันมาหุงหาอาหาร ต้มน้ำร้อน ทำมาม่า กาแฟ ไปตามเรื่อง

กินอิ่มพักผ่อนเสร็จก็เก็บเปลและข้าวของต่างๆ เตรียมตัวเดินทางลงจากเขา กลุ่มอนุรักษ์กลุ่มนี้แสดงให้เห็นถึงหัวใจการอนุรักษ์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการไม่ก่อไฟบนเขา เรื่องการเก็บขยะกลับลงมาจากเขา แม้แต่เศษอาหารที่ย่อยสลายได้ก็ไม่ทิ้งไว้บนนั้น เพราะเป็นสาเหตุให้หนูมาแทะกินเสบียงของคนที่มาเที่ยวในชุดต่อไป แม้แต่เสบียงของเราก็มีหนูมาขโมยกินเหมือนกัน เมื่อหนูมาหากินแถวลานกางเต็นท์ (ซึ่งที่จริงแล้วไม่กว้างพอที่จะกางเต็นท์ได้แต่ผูกเปลนอนแห่งนี้) ก็เป็นเหมือนบัตรเชิญให้มีงูเข้ามากินหนู และอาจจะเกิดอันตรายกับคนที่มาเที่ยวได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2014, 05:37:41 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
 ;) ทุกคนถ่ายรูปกับวิวที่สวยงามบนเขาแหลมอย่างมีความสุข ลืมความเหนื่อยของการเดินอย่างหนักเมื่อวานกันไปหมด จนพอใจแล้วก็เตรียมตัวกลับ สิ่งที่เราไม่ได้เห็นตอนขึ้นมาก็คือผ้าสีเหลืองเหมือนจีวรพระผูกอยู่ตามต้นไม้ เป็นเครื่องหมายของการบวชต้นไม้และห้ามตัดที่มีอยู่รอบที่ที่เราผูกเปล เมื่อการเดินทางลงเขาเริ่มขึ้นเราก็มีโอกาสหยิบกล้องออกมาถ่ายรูปเป็นระยะๆ เพื่อเอาภาพบรรยากาศบางช่วงของการเดินป่ามาให้ชม เพราะขาขึ้นไม่ได้ถ่ายเลยสักภาพ เรื่องเส้นทางพอจะเล่าได้คร่าวๆ ว่า ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ช่วงแรกประมาณ 500-600 เมตรเป็นเนินผ่านสวนยางที่ค่อนข้างชันและยาว ทำเอาเหนื่อยกันตั้งแต่ช่วงแรก พอช่วงกลางเป็นทางเดินขึ้นสลับกับทางราบพอได้หายเหนื่อยเดินสบายมากขึ้นช่วงสุดท้ายจะมีการปีนบริเวณที่เป็นผาหินสูง ปีนลงแล้วก็ไปปีนขึ้นอีกฝั่ง จากนั้นก็จะขึ้นยาวๆ จนถึงที่พัก

โดยทีมงานของน้องฟลุคจะไม่ช่วยเราแบกสัมภาระนอกจากว่าเราจะไม่ไหวจริงๆ ด้วยนโยบายที่อยากจะให้คนมาเที่ยวป่าได้สัมผัสความเป็นป่า และทำให้คนที่ไม่ได้อยากเดินป่าด้วยใจไม่ต้องมาเที่ยวที่นี่ คอนเซปต์นี้ถือว่าใช้ได้สำหรับการอนุรักษ์ป่าให้คงอยู่ ถ้าหากว่าที่เที่ยวไหนเดินขึ้นง่ายเกินไปก็คงจะมีคนมาเที่ยวเยอะจนเละเทะในที่สุดโดยไม่ต้องเอ่ยชื่อว่ามีที่ไหนบ้างทุกคนก็น่าจะรู้นะ

ติดต่อกลุ่มขึ้นเขาแหลมเกาะช้างใต้ น้องฟลุค 081 6530886
https://www.facebook.com/kohchangleawsai?ref=ts&fref=ts
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2014, 06:06:08 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
 ;) เราเดินลงจากเขาแหลม 9 โมงเช้า จากนั้นก็เดินตามทางย้อนลงมาทางเดียวกับที่เดินขึ้นไปเส้นทางการขึ้นเขาแหลมมี 2 ทาง คนที่มาก่อนหน้านี้หลายปีหน่อยคงจะรู้ว่าทางเดินยาวกว่านี้ แล้วต้องเดินถึง 6 ชั่วโมง เส้นทางสายใหม่ที่ค้นพบใช้เวลาสั้นกว่าเยอะ แต่การลงก็ยังทำให้เราใช้เวลาไปถึง 3 ชั่วโมง เพราะฝนตกคืนที่เรานอนบนเขาทำให้ทางลื่น พอลงมาถึงพื้นราบเราก็ไปอาบน้ำที่ลุงเฉลิมบังกาโลที่อยู่ห่างกันกว่า 10 กิโลเมตร เราติดต่อขออาบน้ำ แล้วก็สั่งอาหารกลางวันนั่งกินกันเป็นอาหารจานเดียวพอหายเหนื่อยแล้วต้องรีบลงเรือเฟอรรี่กลับขึ้นฝั่ง

แล้วขับรถต่อไปที่บ้านคันนา ที่ตั้งของฟาร์มปูนิ่ม สถานที่เที่ยวที่ต่อไปของเรา ป้าแมว ผู้ที่รอเราอยู่ที่บ้านคันนาจัดบริการพิเศษไว้ให้ คือการล่องแพชมฟาร์มหอยนางรม การที่เรามาถึงนี่ 4 โมงครึ่ง ทำให้เราได้เห็นพระอาทิตย์ตกจากกลางทะเล ภาพที่เห็นสวยงามน่าประทับใจ ฝั่งบ้านคันหาหันไปทางทิศตะวันออก การจะหาจุดชมพระอาทิตย์ตกสักจุดจากบนฝั่งคงไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากนั้นยังมีหอยนางรมสดให้กินชนิดที่ว่าจุใจมาก 6 คนกินกันไม่หมดต้องเอามาทำใข่เจียว กับอาหารมื้อเย็น ฟาร์มหอยที่ใช้ลำไผ่ทำคานสะท้อนแสงแดดยามเย็นเป็นสีทองสวยมาก นี่ถ้าเรามาถึงเร็วกว่านี้ก็คงจะไม่ได้เห็นภาพเหล่านี้ บ้านคันนาแม้ว่าจะไม่ได้เป็นแหล่งเลี้ยงปูนิ่มเพื่อการค้าเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังมีบ่อปูนิ่มที่ป้าแมวเก็บไว้ให้เราได้เห็น แล้วมาเที่ยวที่นี่ก็ไม่ได้กังวัลอะไรเพราะสุดท้ายเราก็จะนอนที่นี่ บ้านป้าแมวเปิดเป็นโฮมสเตย์ ห้องพักสบายติดแอร์ เดินไปทะเลแค่ไม่ถึงร้อยเมตร เสียงคลื่นซัดยังพอได้ยิน ที่หมู่บ้านรายล้อมไปด้วยบ่อกุ้งเงียบสงบ ได้ยินแต่เสียงเครื่องปั่นออกซิเจนกลางบ่อบางบ่อเปิดทำงาน ลมพัดตลอดเวลาเย็นสบาย

โฮมสเตย์พร้อมอาหารเย็น และอาหารเช้า คนละ 1000 บาท ทีแรกคิดว่าแพงมาก แต่เจออาหารที่ทำไว้ต้อนรับ บอกได้คำเดียวว่าเกินคุ้ม ปลาสด หอยนางรมสด ปูนิ่ม กุ้งเผา หมึกย่าง บรรยากาศสุดยอดมาก แถมป้าแมวมีดีที่รสน้ำจิ้มที่บอกเลยว่าคนมาจากสงขลายังติดใจ

ติดต่อป้าแมวโฮมสเตย์ บ้านคันนา 086 3830832
โฮมสเตย์ติดแอร์พร้อมอาหารเย็น และอาหารเช้า คนละ 1000 บาท
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 26, 2014, 11:53:57 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
 :) ล่องแพไปตามฟาร์มหอยวนไปวนมายกหอยขึ้นมาดูมาถ่ายรูปกันทีละพวงๆ กับฉากหลังของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา เป็นแสงที่สวยงามจับตา ก่อนที่จะค่อยๆ จากลงแล้วเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อๆ บนท้องฟ้าและหายไปในที่สุด เรือลากแพพาเราเข้าฝั่งแล้วเราก็เดินกลับบ้านพักโฮมสเตย์ติดแอร์ของป้าแมว แยกย้ายกันอาบน้ำอย่างรวดเร็วเพราะบ้านป้าแมวห้องน้ำหลายห้อง ก่อนที่จะมานั่งล้อมวงกับอาหารเย็นซีฟู๊ดรสเลิศที่เตรียมไว้ต้อนรับชนิดที่ว่าเติมได้ไม่อั้นจนกว่าจะอิ่ม รสน้ำจิ้มฝีมือป้าแมวอร่อยอย่าบอกใครจนเราอยากจะขอห่อกลับบ้าน มาเจอกับอาหารทะเลสดมากรับประกันความสดโดยชาวทะเลแท้ๆ ไม่ให้ผิดหวัง หลังอาหารยังมีบริการดูดวงไพ่ยิปซีโดยลูกชายของป้าแมว ดูแม่นจนต้องทึ่ง จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้านอนพักผ่อนจากความเพลียสุดๆ ของการเดินพิชิตเขาแหลมเกาะช้างใต้เมื่อวานนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2014, 12:04:54 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
หลังอาหารเย็น เดินวนรอบบ่อกุ้งบ่อปูของป้าแมวหาโอกาสถ่ายดาวและทางช้างเผือก แต่รอจนเลยเที่ยงคืนแล้วก็ยังมีเมฆบางๆ ปิดบังท้องฟ้า จนในที่สุดก็ต้องยอมแพ้เดินเข้าห้องนอน หลับสนิทจนถึงตี 5 ครึ่ง ทุกคนถูกปลุกให้ตื่นแล้วเดินไปที่ลานปูใบ้เพื่อรอชมสิ่งมหัศจรรย์หนึ่งเดียวของโลก คือลุงจิ๋วจะออกมาทอดแห แล้วคนทอดแหจะมหัศจรรย์ได้ยังไง คำตอบก็คือ ปลาที่หาได้จะแบ่งให้เหยี่ยวกิน แต่เช้านี้พิเศษกว่าทุกเช้า เพราะนอกจากเหยี่ยว 3 ตัวที่เคยมารับส่วนแบ่งจากลุงจิ๋วเป็นประจำแล้ว ยังมีเจ้าฟิชโช หมาแสนฉลาดที่หาจับปลากินในทะเล มาแย่งปลาจากเหยี่ยว เลยทำให้ภาพมันดูมีเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงกว่าปกติ เหยี่ยวก็พยายามจะโฉบเอาปลาของลุงจิ๋ว เจ้าฟิชโชไม่ยอมก็คอยไล่ ลุงจิ๋วโยนปลาให้ฟิชโชไปตัวนึงให้มันเอามากินบนบก มันก็คาบมากินบนบกพอหมดมันก็ลงไปเฝ้าแย่งปลากับเหยี่ยวอีก รูปที่เราได้วันนี้เลยไม่ค่อยเหมือนของคนอื่นที่เหยี่ยวมันจะมาโฉบปลาจากหมวกลุงจิ๋วบ้างจากมือบ้าง เป็นภาพสุดแสนประทับใจที่ดูเหมือนว่าทั้งโลกจะมีที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2014, 01:22:09 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
พอสายหน่อยเหยี่ยวก็กลับสู่ธรรมชาติ ลุงจิ๋วหยุดทอดแห เราทุกคนแยกย้ายกันกลับเข้าที่พัก อาบน้ำอาบท่า มากินข้าวต้มกุ้งของป้าแมว กับข้าวอื่นๆ อีก 2-3 อย่าง พร้อมกับกุ้งและหมึกที่เราย่างกันเมื่อคืนแต่กินไม่หมด เสียดายของ อิ่มหนำสำราญก็สนทนากันไปต่างๆ นานา อาหารของป้าแมวอร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะน้ำจิ้ม คุ้มค่าสมราคาทั้งที่พักอาหารและกิจกรรมดีๆ ระหว่างที่เราอยู่ที่นี่ แม้ว่าสาหร่ายพวงองุ่นที่เคยเขียนรีวิวเอาไว้ว่าจะเอามาทำสปาขัดผิวตอนที่มาคราวที่แล้วได้ตายหมด อ่านรีวิวคราวก่อนได้ที่ http://www.touronthai.com/ฟาร์มปูนิ่มบ้านคันนา-42000045.html ไม่ว่าทำยังไงก็ปลูกไม่สำเร็จ สุดท้ายป้าแมวก็ต้องขอพักเรื่องสาหร่ายไว้ก่อน เราก็อดสปากันไปแล้วพวกเราก็ออกเดินทางไปที่ท่าเรือแหลมศอก เพื่อข้ามฝั่งไปเกาะกูด เหลือเวลาค่อนข้างเยอะกว่าเรือจะออกเพราะแต่ละวันเรือข้ามฟากจะมีเที่ยวเดียวคือเที่ยงครึ่ง กลับ 10 โมง เราใช้บริการเรือเกาะกูดเอกซ์เพรสตามคำแนะนำของป้าหนา เจ้าของบ้านพักที่เราจะไปกันที่บ้านอ่าวใหญ่บนเกาะกูด เพียงบอกชื่อป้าหนาเท่านั้นก็จะมีที่จอดรถของเราฝากไว้ 1 คืน มีรถรับ-ส่งจากท่าเรือบ้านน้ำลึกไปที่บ้านอ่าวใหญ่เลยด้วย บริการทั้งหมดอยู่ในค่าเรือ 350 บาท ต่อเที่ยว ไปกลับ 700 บาทต่อคน

เรือออกเดินทาง 12.30 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึงฝั่งประมาณ บ่าย 2 โมง เรือเกาะกูดเอ็กซ์เพรสส่งผู้โดยสารที่ท่าเรือบ้านน้ำลึก ถ้าใครเคยมาเกาะกูดแล้วนั่งเรือของบริษัทอื่นอาจจะเคยเข้าท่าเรืออ่าวสลัด ข้อดีข้อเสียก็ต่างกันไป เรือที่จอดท่าอ่าวสลัดเดินทางเร็วกว่านิดหน่อยเพราะท่าอยู่ใกล้กับฝั่งมากกว่า แต่เวลาขึ้นรถสองแถวจะใช้เวลานานกว่าในการเดินทางแล้วแต่ว่าเราจะไปพักที่ไหน เที่ยวที่ไหน ดูแผนที่ให้ดีก่อนเลือกบริษัทเรือก็ดีเหมือนกันนะ ท่าเรือบ้านน้ำลึกเหมือนอยู่ตรงกลางเกาะเดินทางต่อไปไหนก็ดูจะสั้นกว่า ไปบ้านอ่าวใหญ่ก็ประมาณครึ่งนึงของความยาวของเกาะ

พอเรือเทียบท่าทุกคนก็ขนสัมภาระลงจากเรือ ภาพชายฝั่งที่เห็นตรงหน้า ท้องฟ้ากับทะเลสีครามสดใส ดูสวยงามไปหมด รอสักพักรถก็เข้ามารับพวกเราออกเดินทางทันที เฮ้อคิดแล้วถ้าได้อยู่ตรงนี้สักชั่วโมงก็คงได้ภาพเยอะอยู่นะ วันนี้มีเรือรบมาจอดเทียบท่าด้วยเลยได้ภาพแปลกกว่าทุกที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2014, 11:27:35 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
จากท่าเรือบ้านน้ำลึก เดินทางด้วยรถบริการของเรือเกาะกูดเอกซ์เพรสเกือบชั่วโมงก็ถึงบ้านอ่าวใหญ่ จัดการอาหารกลางวันกันแบบง่ายๆ ก๋วยเตี๋ยว กระเพรา หมูทอดอะไรทำนองนี้ เก็บข้าวของที่ห้องบนบ้านป้าหนาที่จัดรอไว้แล้ว จากนั้นก็ลงเรือลำเล็กๆ ออกไปว่ายน้ำ ดำน้ำตรงจุดที่ชาวบ้านอนุรักษ์กันไว้ ชมสาหร่ายหญ้าทะเล หอยมือเสือ ปลาเล็กปลาน้อย ที่บ้านอ่าวใหญ่มีท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์เพราะชาวบ้านร่วมมือกันอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี คราวที่แล้วมาปล่อยปลากะรังหงส์กันหลายถุง ปลูกปะการังเขากวางขยายวงกว้างออกไปแล้วก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ดีใจที่ได้มาเห็นอีกครั้งและมันยังอยู่ เรือเล็กที่นี่จะมีทั้งเครื่องยนต์เหมือนเรือหางยาว แล้วก็มีไม้พายคู่สำหรับแจวก็ได้ เรียกว่าเป็นเรือ 2 ระบบ ค่อยๆ แล่นออกไปจากฝั่ง บ้านปาหนาในรูปหลังสีส้มเรานอนชั้นบนมี 3 ห้องนอนกับห้องโถงใหญ่เป็นห้องพัดลมแต่อากาศก็สบายๆ สำหรับปลายฝนต้นหนาว

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
วันนี้เรามีเวลาไม่มาก ลงเรือมาดำน้ำถือว่าได้เล่นน้ำทะเล ตั้งแต่เข้าจังหวัดตราดมาเรายังไม่ได้ลงทะเลจริงจังเลยสักวัน น้ำใสมองเห็นปะการังแล้วก็สาหร่ายใต้น้ำชัดเลย มีปลาหลายชนิด ที่นี่มีปลาการ์ตูนอยู่ด้วยแต่คงต้องใช้เวลาในการดำนานกว่านี้หน่อย แต่อย่างน้อยเราก็ได้เห็นหอยมือเสือตัวใหญ่ แสดงให้เห็นว่าคนที่นี่ตั้งใจอนุรักษ์กันจริงจังมาก ที่สำคัญในบางจุดจะมีม้าน้ำด้วย เป็นตัวดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์และสภาพแวดล้อมว่าม้าน้ำอาศัยอยู่ได้

<a href="http://www.youtube.com/v/EOq8rXU7y_A?hl=th_TH&amp;amp;version=3" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/EOq8rXU7y_A?hl=th_TH&amp;amp;version=3</a>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2014, 02:58:17 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
 %) ว่ายน้ำเสร็จ ก็ขึ้นมาที่บ้านพักอาบน้ำอาบท่า เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ป้าหนาบอกว่าน่าจะอยู่ 2 คืน มาเที่ยวเกาะกูดคืนเดียวยังไม่ได้อะไรมาก ก็คงต้องตามนั้นแต่ทริปนี้เรามีเวลาน้อย ก็ต้องรอโอกาสหน้า ป้าหนาบอกมีเกาะกล้วยที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก หาดขาวสวยมากคราวหน้าอยู่ 2 คืนจะได้พาไป ตอนนี้คนเริ่มรู้จักบ้านอ่าวใหญ่มากขึ้น หลังจากที่เรากลับจะมีคนไปเที่ยวอีก 20 คน เป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มแรกหลังจากที่เราไปเปิดทะเลกันเรียบร้อยแล้ว  C:-) ก็เก็บไว้เล่าให้ลุกหลานฟังว่าเรามาเปิดทะเลที่นี่กลุ่มแรก ^^ พระอาทิตย์ขึ้นและตกที่บ้านอ่าวใหญ่หามุมถ่ายรูปยาก จะมีก็แต่การเดินถ่ายเรือประมงไปตามสะพานไม้ของหมู่บ้าน แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับวันพักผ่อน มาที่นี่ 2 ครั้งก็ฟ้าสีอมแดงอมชมพูทั้งสองครั้ง สวยดีไปอีกแบบ จากนั้นก็เดินไปรวมกันที่ร้านอาหารที่มีอยู่ร้านเดียวของบ้านอ่าวใหญ่ ลูกป้าหนาเป็นเจ้าของกิจการ สั่งอาหารอร่อยๆ กินกันให้เพียบ ราคาสมเหตุสมผล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2014, 12:10:27 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
 ;) ตื่นเช้าที่บ้านอ่าวใหญ่ เวลาเราเหลือน้อยเหลือเกิน เรือข้ามฟากกลับฝั่งออก 10 โมงเช้า รถจะมารับเรา 8.30 ก็ทำได้แค่อาบน้ำล้างหน้า กินข้าวต้มมื้อเช้า ที่ป้าหนาจัดไว้ให้ ราคา 300 ที่พักรวมอาหารเช้าที่เป็นข้าวต้มทะเล หมึก กุ้งตัวโตๆ มันช่างถูกซะนี่กระไร มื้อเย็นสั่งได้ตามชอบอาหารทะเลสดแน่นอนมั่นใจได้ ราคาไม่ถูกและไม่แพง ถ้าเทียบกับร้านอื่นๆ ที่คุณภาพเท่าๆ กัน อยากมาเที่ยวเมื่อไหร่แค่ยกสายโทรหาป้าหนา 0852786575

เดินถ่ายรูปชาวประมงทำงานง่วนแต่เช้า เดินชมกระชังเลี้ยงปลาหายากที่ชาวประมงจับได้แล้วเจ้าของร้านอาหารซื้อเอาไว้ เลี้ยงให้มันออกลูก แล้วปล่อยไป ถ้ากรมประมงมาขอซื้อก็ยกให้ฟรีๆ ความเอาใจใส่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของบ้านอ่าวใหญ่ที่มีป้าหนาสตรีแกร่งเป็นแกนนำถือว่าสุดยอดมาก ถ้าใครได้มาสัมผัสก็ต้องประทับใจ

รถมารับเรากลับไปที่ท่าเรือบ้านน้ำลึก เหลือเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนเรือออก ก็พอได้เก็บภาพท่าเรือก่อนลาเกาะกูด สมาชิกทุกคนอยากกลับมาอีกเมื่อมีโอกาสเราคงได้ไปเที่ยวที่ใหม่ๆ แปลกๆ สวยๆ อีกมากมาย

กลับขึ้นฝั่งแหลมศอกเข้าตัวเมืองตราดแวะไปหาดราชการุณย์ว่าจะล่องเรือไปดูแมงกะพรุน แต่พอไปถึงเจ้าหน้าที่บอกว่าแมงกะพรุนไม่มีเหลือให้ชมแล้วก็เลยเดินทางกลับ โปรแกรมก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย พอมาถึงแยกเข้าหาดคุ้งวิมานทุกคนก็อยากเห็นถนนเฉลิมบูรพาชลทิต หรือถนนชล-จันท์ ก็แวะเก็บภาพเล็กน้อยได้แสงเย็นสวยๆ พอใจแล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

จบทริป Dream Destination จังหวัดตราด หมู่เกาะทะเลตราด แถมด้วยถนนชล-จันท์ เป็น 2 Dream Destinations ในทริปเดียว เราจะกลับมาใหม่ เมื่อโอกาสอำนวย  %)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 28, 2014, 02:55:44 PM โดย admin »