จากนั้นเราก็ขับเข้ามาจนถึงที่หมาย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน มาจากปายทางแยกเข้าปางอุ๋ง บ้านรักไทย
และเป็นทางเดียวกันกับที่เข้าหมู่บ้านกุงไม้สัก อันเป็นที่ตั้งของสะพานซูตองเป้ด้วย ทางแยกนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 12 กิโลเมตร (วัดจากทางแยกไปถึงทางขึ้นพระธาตุดอยกองมูละกัน) แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาสำหรับการไปเก็บภาพสะพานซูตองเป้ของเรา เราก็เข้าตัวเมืองแวะปั๊มปตท. ล้างหน้าล้างตาเข้าห้องน้ำซื้อขนม เพื่อที่จะไปเที่ยวกันต่อ ออกจากปั๊มขับไปต่อไปจนถึงประตูเมืองมีทางแยกขวามือเป็นเส้นทางที่เราจะไปท่าเรือเพื่อไป
บ้านกะเหรี่ยงคอยาวห้วยปูแกง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าบ้านน้ำเพียงดิน น่าจะเป็นเพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นตำบลผาบ่อง ใกล้หมู่บ้านน้ำเพียงดินอันเป็นเขตชายแดนของไทย แต่ส่วนที่กะเหรี่ยงอยู่อาศัยกันเรียกว่าหมู่บ้านห้วยปูแกง เราแวะท่าเรือแรกท่าห้วยโป่งแดง แต่ดูวังเวงไม่เห็นมีคนมาเที่ยวกันเลยคงเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์ อาคารต่างๆ ก็เหมือนไม่ค่อยมีคนมาเปิดใช้ เลยถอยออกมาแล้วขับไปตามถนนอีกรอบ ผ่าน
รีสอร์ทบ้านวิวน้ำที่เป็นที่พักของเราในทริปนี้แต่ยังไม่จำเป็นต้องไปเช็คอินตอนนี้เราขับเลยไปที่บ้านห้วยเดื่อที่จะมีท่าเรืออีกแห่งหนึ่ง ที่นี่เปิดให้บริการตามปกติ เป็นท่าเรือเรียบง่าย มีห้องจ่ายตังค์เอาเสื้อชูชีพ อีกด้านมีร้านขายของเล็กๆ เครื่องดื่มกับโปสการ์ด เห็นมีคนมาเที่ยวก่อนเราเพิ่งจะกลับมาถึงท่าเรือเป็นชาวต่างชาติ เราก็ไปถามค่าเรือจ่ายค่าเรือ 1 รอบ 600-700 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนคน แล้วใส่เสื้อชูชีพออกเดินทางได้เลยจ้า
ตรงท่าน้ำที่จะลงเรือมีป้ายไม้น่าสนใจอันหนึ่งเขียนว่า
ฮับหุมจมต้อน เราเดากันเอาเองว่าน่าจะแปลว่ายินดีต้อนรับนั่นแหละ ภาษาเค้าน่ารักดี เอาละออกเดินทางกันได้แล้ว...
เส้นทางล่องเรือสายนี้เป็นสายน้ำไหลขับไปตามกระแสน้ำทำเวลาได้ดีตอนขาไป ส่วนขากลับขับทวนน้ำก็นานกว่านิดหน่อย สายน้ำไหลโค้งลัดเลาะไประหว่างเขาเล็กๆ ต้นไม้หน้าฝนอวดสีเขียวกันใหญ่ถ่ายรูปไปทางไหนก็สวยไปหมด สายหมอกสีขาวมาช่วยแต่งเติมภาพบนยอดเขาบรรยากาศสุดบรรยาย