ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยวแม่ฮ่องสอนหน้าฝน ซนบนซูตองเป้ ไปเท่ห์แม่ลาน้อย  (อ่าน 23567 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
 C:-)
ฮัลโหล สวัสดีครับ
ไม่ได้เขียนเรื่องราวท่องเที่ยวสนุกๆ ในช่วงหน้าฝนมาซะนาน อย่างน้อยก็ 1 ปี  >:D หน้าฝนคนไปเที่ยวน้อยจัง บางคนไม่รู้จะไปไหน บางคนว่าหน้าฝนไม่สวยรอหน้าหนาวดีกว่า แต่ความเป็นจริงๆ ในช่วงหลังๆ มานี้ การท่องเที่ยวหน้าฝนเริ่มนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ภาพสวยๆ ของธรรมชาติที่เราเห็นบนเว็บ ก็มาจากช่วงหน้าฝนซะส่วนใหญ่ หน้าฝนมีโอกาสเห็นทะเลหมอกได้มากกว่าหน้าหนาวซะอีก หลายคนบอกว่าหมอกหน้าฝนสวยกว่าหมอกหน้าหนาว อันนี้แล้วแต่ทัศนะ ส่วนหนึ่งที่เราเลือกไปเที่ยวหน้าฝนเพราะว่าสถานที่ที่เราจะไปมีทุ่งนามาเกี่ยวด้วย ภาพทุ่งนาสวยๆ เขียวๆ ต้องไปหน้าฝนเท่านั้นถึงจะได้เห็น

เส้นทางขับรถเที่ยวที่เราจะนำเสนอวันนี้ ก็คือ แม่ฮ่องสอน เน้นๆ ที่แม่ฮ่องสอนเลย เพราะไปปายกันบ่อยมากแล้ว อยากลองไปดูสิว่าตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมีอะไรให้เที่ยวบ้าง

เราใช้เส้นทางเชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอน เพื่อที่จะพิชิตโค้งพันกว่าโค้ง เลยเชียงใหม่ไปแม่ริม เลยไปสามแยกที่แม่มาลัยเลี้ยวไปปาย เป็นเส้นทางตามสูตรที่ใช้กันมานาน ออกจากกรุงเทพฯ เย็นวันพฤหัสบดี ไปเช้าที่เชียงใหม่ พอเลี้ยวซ้ายสามแยกแม่มาลัยไปอีกไม่ไกลก็เจอรถขายข้าวเหนียวหมูปิ้งเลยซื้อติดรถไปกินรองท้องระหว่างทางแล้วค่อยไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันแบบจัดหนักอีกที

หลังจากซื้อหมูปิ้งคนละชุด ก็ออกเดินทางกันต่อไป สายหมอกในยามเช้าล่องลอยไปมาเรี่ยๆ กับยอดเขาเป็นภาพที่สวยงามสำหรับนักเดินทางอย่างเราๆ เราก็มองหาสถานที่ที่จะอยู่ในมุมสูงพอที่เราจะขึ้นไปเก็บภาพกันได้บ้าง มาเจอเอาวัดแห่งหนึ่ง น่าเสียดายที่จำชื่อวัดไม่ได้ด้วยความรีบที่จะขึ้นมาเก็บภาพพอได้ภาพสายหมอกสวยๆ ก็เข้าไปทำบุญในโบสถ์แล้วเดินทางกันต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2014, 11:56:44 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เส้นทาง 1095 เชียงใหม่ - ปาย 700 กว่าโค้ง ยังคงมีมุมสวยๆ ให้เราได้แวะเก็บภาพกันอีก ตรงไหนพอจะจอดได้อย่างปลอดภัยเราก็จอด เก็บภาพเสร็จก็ไปกันต่อ ระยะทางไม่ถึง 100 กิโลเมตรดี จากเชียงใหม่มาปาย แต่ใช้เวลากันชั่วโมงกว่าๆ พอมาถึงปายเราไม่ใช้เส้นทางมุ่งตรงเข้าตัวเมืองด้วยเหตุว่ามากันหลายครั้งแล้ว เลยลองเปลี่ยนไปเข้าน้ำพุร้อนท่าปายแล้ววิ่งถนนในหมู่บ้านไปเรื่อยๆ ทะลุถนนตรงทางขึ้นวัดพระธาตุแม่เย็น ถนนสายนี้เพิ่งเคยมาครั้งแรกวิวเมืองปายเวลามองจากอีกด้านหนึ่งสวยกว่าที่เคยเห็นจากมุมเก่าๆ ทุ่งนาเขียวขจีมีฉากหลังเป็นแนวเขา กองฟางเล็กๆ แล้วก็ต้นข้าวโพดอยู่เป็นฉากหน้า เพียงเท่านี้ก็มากพอที่จะทำให้กลุ่มเราจอดรถเก็บภาพกันอย่างมีความสุข ช่วงเวลาของการพักผ่อนของเราในหน้าฝนช่างเต็มไปด้วยภาพที่สวยงามไปทุกที่

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
พอมาถึงตัวเมืองปายเราหมายมั่นว่าจะหาข้าวอร่อยๆ กินหลังจากรองท้องด้วยข้าวเหนียวหมูปิ้งท่าทางจะไม่เพียงพอ ร้านอาหารอร่อยๆ ในปายหลายคนก็คงรู้จักมาบ้าง แต่ทุกร้านที่เรานึกชื่อขึ้นมาได้ต่างก็ยังไม่เปิด คงเป็นเพราะวันนี้วันศุกร์ และเป็นหน้าฝนคนเที่ยวน้อยร้านค้าก็เปิดน้อยเป็นธรรมดา ท้ายสุดร้านที่เรานึกได้อีกร้านก็คือ ครัวตายาย อยู่ชานเมืองไกลออกไปพอสมควร อธิบายเส้นทางจากในเมืองจะงงกันเปล่าๆ วิ่งออกไปเส้นเลี่ยงเมืองปายตรงสามแยกวัดป่าเมืองปาย ขับไปตามทางเข้าเมืองปายไม่ไกลจะมีทางแยกขวามือมีตึกแถวเรียงๆ กันเยอะๆ เลี้ยวขวาเข้าไปขับตรงไปเรื่อยๆ จะมีครัวตายายเหมือนเพิงอยู่ขวามือ อาหารร้านนี้อร่อย ทัวร์ออนคอนเฟิร์มครับผม  :-*

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ปกติสำหรับคนที่ตั้งใจมาเที่ยวปายมาถึงนี่แล้วก็คือจบการเดินทางช่วงแรกต่อจากนี้ก็เที่ยวพักผ่อนตามอัธยาศัย สำหรับกลุ่มเราที่มุ่งหน้ามาเที่ยวแม่ฮ่องสอน นี่คือครึ่งทางเท่านั้นจากเชียงใหม่เรายังต้องไปอีกเท่าตัวกับที่เราขับมา เส้นทางสายนี้ผ่านอะไรกันบ้างหลายคนก็รู้ดีอยู่แล้ว ส่วนหลายคนที่ยังไม่เคยมาก็จะเล่าพอสังเขปเอาเฉพาะจุดใหญ่ๆ ได้แก่ จุดชมวิวปางมะผ้าใครมาก็ต้องจอด อย่างน้อยคนขับเองนี่แหละก็จะจอดหากาแฟสักแก้วเพิ่มความสดชื่นแล้วไปกันต่อ จุดชมวิวนี้หลายปีก่อนจะเห็นวิวที่สวยงามแต่ตอนนี้ต้นไม้หลายต้นมันโตขึ้นๆ จนบังวิวไปมากแล้ว ส่วนหน้าหนาวเราจะได้เห็นบัวตองกลุ่มเล็กๆ ออกดอกเหลืองสะพรั่งเวลาถ่ายรูปถนนที่เรากำลังจะเดินทางไปเป็นแนวโค้งอยู่ด้านล่างมีบัวตองประดับภาพสวยดีบนนี้พระอาทิตย์ตกก็สวยวันไหนผ่านมาช่วงเวลาเย็นลองวางแผนรอพระอาทิตย์ตกบนนี้ก็ดีเหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2014, 12:58:52 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
จากนั้นขับกันไปเรื่อยๆ เส้นทางที่เราเห็นบนจุดชมวิวปางมะผ้าก็รู้ว่าเส้นทางนี้เป็นขาลง ลงๆๆๆๆ มาเรื่อยๆ จนถึงพื้นราบกลางหุบเข้า ผ่านหมู่บ้านตำบลสบป่อง ที่เราเคยไปเที่ยวตะลุยถ้ำกันมาหลายถ้ำ ถ้ำลอด รีสอร์ทสวยๆ ที่อยากจะมานอนสักครั้งชื่อ The Rock แต่ก็ไม่มีเวลามาสักที ขับตรงไปเรื่อยๆ จะถึงโครงการวิจัยเกษตร ที่มีงานวิจัยเรื่องพันธุ์ข้าว ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่จอดถ่ายรูปทุกทีเลย วิวสวยแบบนี้ไม่จอดไม่ไหวละ  :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2014, 01:01:59 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
จากนั้นเราก็ต้องขึ้นเขาอีกครั้ง เหลือระยะทางไปแม่ฮ่องสอนประมาณ 60 กิโลเมตร ขับๆ ไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ ดีจังที่วันนี้ฝนไม่ตกถนนไม่ค่อยมีรถ เพิ่งรู้ว่าเที่ยวหน้าฝนมีประโยชน์หลายอย่างเหมือนกันไม่ต้องแย่งอะไรกับใคร ที่พักก็ว่าง ร้านอาหารก็โล่งสบาย ที่เที่ยวก็ไม่มีคนเดินไปเดินมาตัดหน้ากล้องถ่ายรูปอะไรก็สบายไปหมด จุดชมวิวลุกข้าวหลามเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวของเส้นทางสายนี้ มีตลาดของชาวเขาเอาของมาขาย แต่หน้าฝนดูเหมือนว่าไม่ค่อยมีร้านเปิด บางร้านปิดยาวจนกลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวของตำลึง ต้นไม้ที่อยู่ที่ระเบียงสำหรับชมวิวก็โตขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปคงบังจนหมดแล้วก็กลายเป็นจุดพักรถธรรมดาๆ ในที่สุด แต่นี่ก็เป็นกระบวนการทางธรรมชาติไม่ตัดต้นไม้เพื่อเปิดวิวให้ถ่ายรูปแค่รูปเดียวน่าจะเป็นความคิดที่ถูกต้องแล้ว

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
จากนั้นเราก็ขับเข้ามาจนถึงที่หมาย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน มาจากปายทางแยกเข้าปางอุ๋ง บ้านรักไทย และเป็นทางเดียวกันกับที่เข้าหมู่บ้านกุงไม้สัก อันเป็นที่ตั้งของสะพานซูตองเป้ด้วย ทางแยกนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 12 กิโลเมตร (วัดจากทางแยกไปถึงทางขึ้นพระธาตุดอยกองมูละกัน) แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาสำหรับการไปเก็บภาพสะพานซูตองเป้ของเรา เราก็เข้าตัวเมืองแวะปั๊มปตท. ล้างหน้าล้างตาเข้าห้องน้ำซื้อขนม เพื่อที่จะไปเที่ยวกันต่อ ออกจากปั๊มขับไปต่อไปจนถึงประตูเมืองมีทางแยกขวามือเป็นเส้นทางที่เราจะไปท่าเรือเพื่อไปบ้านกะเหรี่ยงคอยาวห้วยปูแกง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าบ้านน้ำเพียงดิน  ^==" น่าจะเป็นเพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นตำบลผาบ่อง ใกล้หมู่บ้านน้ำเพียงดินอันเป็นเขตชายแดนของไทย แต่ส่วนที่กะเหรี่ยงอยู่อาศัยกันเรียกว่าหมู่บ้านห้วยปูแกง เราแวะท่าเรือแรกท่าห้วยโป่งแดง แต่ดูวังเวงไม่เห็นมีคนมาเที่ยวกันเลยคงเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์ อาคารต่างๆ ก็เหมือนไม่ค่อยมีคนมาเปิดใช้ เลยถอยออกมาแล้วขับไปตามถนนอีกรอบ ผ่านรีสอร์ทบ้านวิวน้ำที่เป็นที่พักของเราในทริปนี้แต่ยังไม่จำเป็นต้องไปเช็คอินตอนนี้เราขับเลยไปที่บ้านห้วยเดื่อที่จะมีท่าเรืออีกแห่งหนึ่ง ที่นี่เปิดให้บริการตามปกติ เป็นท่าเรือเรียบง่าย มีห้องจ่ายตังค์เอาเสื้อชูชีพ อีกด้านมีร้านขายของเล็กๆ เครื่องดื่มกับโปสการ์ด เห็นมีคนมาเที่ยวก่อนเราเพิ่งจะกลับมาถึงท่าเรือเป็นชาวต่างชาติ เราก็ไปถามค่าเรือจ่ายค่าเรือ 1 รอบ 600-700 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนคน แล้วใส่เสื้อชูชีพออกเดินทางได้เลยจ้า

ตรงท่าน้ำที่จะลงเรือมีป้ายไม้น่าสนใจอันหนึ่งเขียนว่า ฮับหุมจมต้อน เราเดากันเอาเองว่าน่าจะแปลว่ายินดีต้อนรับนั่นแหละ ภาษาเค้าน่ารักดี เอาละออกเดินทางกันได้แล้ว...

เส้นทางล่องเรือสายนี้เป็นสายน้ำไหลขับไปตามกระแสน้ำทำเวลาได้ดีตอนขาไป ส่วนขากลับขับทวนน้ำก็นานกว่านิดหน่อย สายน้ำไหลโค้งลัดเลาะไประหว่างเขาเล็กๆ ต้นไม้หน้าฝนอวดสีเขียวกันใหญ่ถ่ายรูปไปทางไหนก็สวยไปหมด สายหมอกสีขาวมาช่วยแต่งเติมภาพบนยอดเขาบรรยากาศสุดบรรยาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 09, 2014, 04:09:43 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ใช้เวลาบนเรือประมาณ 20 นาที (6 กิโลเมตร) ก็มาถึงหมู่บ้านห้วยปูแกง หมู่บ้านเล็กๆ สร้่างบ้านแบบเรียบง่ายด้วยไม้มุงด้วยใบไม้แห้ง บางหลังเริ่มพัฒนามามุงด้วยสังกะสีแต่ยังไม่มาก มีทั้งหมดไม่กี่หลังคาเรือนเดินนับเอาได้เลย ก่อนถึงหมู่บ้านสายน้ำจะโค้งไปทางซ้ายในฤดูน้ำเชี่ยวเหมือนกับที่เรามาเรือจะปล่อยให้ไหลไปตามน้ำก่อนที่จะปัดท้ายตีวงเข้าจอดทำเอาตื่นเต้นนิดๆ หลังจากที่นั่งชิลกันมานานแล้ว

บ้านห้วยปูแกงทุกๆ บ้านเป็นบ้านของกะเหรี่ยงคอยาว แต่พอมารุ่นหลังๆ เค้าไม่ค่อยใส่ห่วงกันเท่าไหร่เพราะการใส่ห่วงเป็นความสมัครใจ แต่ละบ้านจะมีผ้าฝ้ายทอมากมายหลายแบบหลายสีให้เลือกอุดหนุน กะเหรี่ยงคอยาวจะมาต้อนรับเราเป็นอย่างดี มีหลายคนตั้งข้อสังเกตุว่า บ้านห้วยปูแกงเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่ยังคงวิถีดั้งเดิมอยู่มากถ้าเทียบกับที่อื่น เพราะที่นี่นักท่องเที่ยวไม่เดินทางมากันมากเหมือนที่อื่นๆ ที่รถเข้าถึงซึ่งก็น่าจะเป็นดังที่ว่า เรารู้สึกว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ เราก็มาถ่ายรูปกะเหรี่ยงคอยาว สภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิต เดินชมธรรมชาติ และเลือกซื้อผ้าเป็นการอุดหนุนชาวบ้าน

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เราเดินชมหมู่บ้านนี้กันอย่างใจเย็น กะเหรี่ยงคอยาวบางคนก็นั่งทอผ้า บางคนก็เลี้ยงลูก บางคนก็เล่นดนตรีเชิญเราเข้าไปชมผ้าในร้าน ถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย สิ่งหนึ่งที่เราประทับใจเอามากๆ สำหรับหมู่บ้านแห่งนี้ก็คือความสะอาด ตลอดทางที่เราเดินไปตามหมู่บ้านไม่เห็นขยะเลยแม้แต่ชิ้นเดียว พื้นดินหน้าบ้าน ทางเดินกลางหมู่บ้าน แม้แต่ใบไม้ร่วงก็ยังหายาก เดินสุดหมู่บ้านจะมีศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา ตรงกลางหมู่บ้านมีลานแสดงของชาวเขาสำหรับต้อนรับแขก และใช้เป็นศาลาอเนกประสงค์ของหมู่บ้าน มีภาพกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
กลับจากหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวเวลาของวันแรกทริปนี้ยังคงเหลือเยอะเราวางโปรแกรมชิลๆ อยู่แล้ว เลยลองแวะไปที่วัดผาบ่อง เพราะเห็นยอดเจดีย์ทองๆ ลิบๆ ตอนที่ขับออกมาจากท่าเรือ มาถึงวัดแดดออกจ้าเลยเพราะฝนเพิ่งตกก่อนที่เราจะไปถึงบ้านกะเหรี่ยงคอยาว วัดนี้ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังแต่วิวก็สวยดี