ผู้เขียน หัวข้อ: นั่งรถเที่ยวระยอง-จันทบุรี เส้นทางในฝัน Dream Destination กับ Phototech  (อ่าน 18434 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
27 มิถุนายน - 29 มิถุนายน โห ผ่านไปไวจัง เกือบจะครบเดือนแล้วสิเนี่ยถึงจะมีโอกาสเอาภาพต่างๆ ของทริปนี้มาเขียนเล่าสู่กันชม ขออภัยด้วยนะครับ ^_^

    ตามกำหนดการ เราจะไปเจอกันที่หน้าตึกททท. ถนนเพชรบุรี เวลา 6.00 น. เช่นเดียวกันกับการเดินทางทริปก่อนๆ กับ Travel Line by นิตยสารโฟโต้เทค โครงการนี้มีชื่อว่า กินลม ชมเล บุฟเฟต์ผลไม้ ไหว้พระ ณ ระยอง-จันทบุรี ที่มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย Thailand Convention & Exhibition Bureau (TCEB) และธนาคารกรุงเทพฯ ร่วมสนับสนุน ผมเดินทางไปถึงเวลาประมาณ 5.45 น. ก่อนเวลานัดเล็กน้อยตามสไตล์ พอจอดรถที่อาคารจอดรถของททท. ก็เดินมาที่หน้าตึก นักท่องเที่ยวหลายคนมาถึงแล้ว ต่างก็ทักทายกันเหมือนญาติสนิทมิตรสหาย บางคนที่มาเที่ยวกับโฟโต้เทคเป็นครั้งแรกอาจจะงงๆ ว่าทำไมทุกคนเหมือนรู้จักกันมานานแล้ว ผมมาร่วมทริปกับโฟโตเทคทริปแรกก็ยอมรับว่างงครับ เค้าทักทายกันหมดมีแต่เราที่ต้องมองหาคนรู้จักเพราะมาเป็นครั้งแรก นักท่องเที่ยวที่จองทริปท่องเที่ยวกับโฟโตเทคเป็นขาประจำจะมาบ่อยแทบทุกทริปเลยก็ว่าได้ เนื่องมาจากการบริการตั้งแต่ออกเดินทางจนกลับมาส่งที่จุดหมาย รายการอาหาร และที่พักที่สะดวกสบาย และราคาประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นก็เพราะว่าซื้อแพคเกจด้วยบัตรเครดิต ธ.กรุงเทพฯ ก็ได้ส่วนลด ส่วนราคาเต็มนั้น ททท.ก็ช่วยสนับสนุนจึงได้ราคาพิเศษลงมาอีก ทัวร์อื่นๆ จึงทำราคาแบบนี้ในมาตรฐานเดียวกันได้ยาก ทุกคนก็เลยรู้จักกันเป็นอย่างดี แล้วถ้าใครมาทริปแรกลองมาอีกทริปเป็นทริปที่สองจะรู้ว่าผมเล่าความจริงเลยคุณจะเจอคนเดิมๆ ที่มากับโฟโตเทคและคุณจำได้แน่ๆ

    เมื่อมาถึงแล้วจะมีอาหารเช้าและกาแฟรออยู่ อาหารเช้ารองท้องแบบง่ายสำหรับก่อนการเดินทางคือข้าวต้มกุ้งและก๋วยเตี๋ยว ขนมเล็กน้อยสำหรับกินคู่กับกาแฟ ทุกคนจะแจ้งชื่อลงทะเบียนและได้รับแทกติดตัว ด้านหน้าเป็นแทกชื่อเรา มีหมายเลขที่นั่งบนรถ เลขที่โต๊ะอาหารและเลขที่ห้องพักให้เรียบร้อยเลย ด้านหลังเป็นกำหนดการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ จึงไม่ต้องคอยถามว่าต่อไปจะไปที่ไหน ข้อมูลอยู่ในบัตรเรียบร้อยหมดแล้ว พอได้บัตรก็ยกกระเป๋าไปที่รถที่เรานั่ง ขึ้นไปนั่งตามเลขที่ในบัตร ทริปนี้มีนักท่องเที่ยวเกือบ 100 คน คือใช้รถ 40 ที่นั่ง 2 คัน ผมได้คันแรก แล้วก็พร้อมออกเดินทาง นำขบวนด้วยรถตำรวจจากกองปราบปรามเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางขึ้นอีกระดับ

    6.30 น. คือเวลาที่รถเคลื่อนตัวออกจากอาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ในการเดินทางไปยังจุดหมายแรก สำหรับทริปนี้ก็คือ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่จันทบุรี ตรงพื้นที่ที่มีศาลหลักเมืองและศาลจังหวัดอยู่ด้วย หลายคนก็เลยเรียกกันสั้นๆ ว่าสามศาล เมื่อมาถึงจุดหมายแรก ผมก็เดินลงจากรถยกกล้องมาเก็บภาพ แต่ภาพที่ได้มัวหมดเพราะความเย็นจากรถที่นั่งมาทำให้เลนส์เป็นฝ้า ต้องเช็ดๆ 3 รอบ คนอื่นๆ ก็ถ่ายกันไปเรื่อยผมยังเช็ดเลนส์อยู่เลย ทุกคนเข้าไปสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สำนึกในพระมหากุรณาธิคุณที่กอบกู้บ้านเมืองและมีความเกี่ยวพันกับชาวจันทบุรีเป็นอย่างมากในระหว่างการเคลื่อนทัพของพระองค์ หลายคนมาบนบานสานกล่าวได้สำเร็จสมประสงค์ก็จัดรำถวายแก้บน ส่วนศาลหลักเมืองอยู่อีกด้านหนึ่งที่ไม่ไกลกันมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2014, 12:46:18 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เมื่อสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน ศาลหลักเมืองและเก็บภาพเสร็จเรียบร้อย (ลืมบอกไปครับว่าในระหว่างร่วมทริปกับโฟโตเทคจะมีการประกวดภาพถ่ายชิงรางวัลด้วยเราควรจะถ่ายภาพมากๆ จะได้เลือกมาส่งเข้าประกวด ส่วนคนที่ถ่ายไม่ค่อยเก่งหรือไม่รู้หลักการก็จะมีอาจารย์ ธวัช มะลิลา จากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยมาสอนและแนะนำด้วย) รถออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปซึ่งอยู่ในพื้นที่ตัวเมืองจันทบุรี คือ วัดเขตร์นาบุญญาราม

    วัดแห่งนี้แทบไม่มีคนรู้จัก ไม่ค่อยได้ยินชื่อเลย และไม่รู้ด้วยว่ามีความสำคัญยังไงทำไมโฟโตเทคพาเรามาที่นี่ ประการแรกที่รู้ก็คือวัดนี้น่าจะเป็นวัดจีนแต่พอเดินเข้าไปแล้วฟังไกด์อธิบายจึงได้รู้ว่าเป็นวัดญวนที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย ประวัติของวัดแห่งนี้มีความเป็นมายาวนานขนาดไหน ลองอ่านดูกันครับ

    พุทธศาสนานิกายมหายานหรืออุตรนิกาย.. ได้เผยแผ่เข้าไปในเวียดนามหรือประเทษญวนเมื่อพุทธศตวรรษที่ 10 โดยท่าน โพธิธรรมเถระ ได้อาราธนาพระไตรปิฎกเข้าสู่ประเทศเวียดนามในสมัยของ พระเจ้าลี้นามเด๊ นับแต่นั้นมา พระพุทธศาสนาก็เจริญรุ่งเรืองตลอดมาเป็นเวลาถึง 1,500 ปีเศษ สามารถจะกล่าวได้ว่าพระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดาได้ฝังลึกอยู่ในจิตใจและสายเลือดของชาวญวนตลอดมานับพันปี

    ชาวญวนได้อพยพหลบภัยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารเสมือนหนึ่งหนีร้อนมาพึ่งเย็นในราชอาณาจักรไทยหลายต่อหลายครั้ง เมื่อมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอันควรแก่อัตภาพแล้ว ความยึดมั่นในพระพุทธศาสนาได้เป็นพลังผลักดันให้ชาวญวณได้สร้างวัดเป็นที่บำเพ็ญกุศล ตามศรัทธา ก่อให้เกิดวัดพุทธศาสนานิกายมหายานฝ่ายอนัมนิกายหรือฝ่ายญวนขึ้นหลายต่อหลายวัด ตามหลักฐานที่ปรากฏจนถึงทุกวันนี้ แต่จะขอกล่าวเฉพาะวัดเขร์นาบุญญาราม นี้เท่านั้น นามเดิมมีชื่อเรียกว่า วัดเพื๊อกเตี้ยนตื่อ ก่อตั้งประมาณปี พ.ศ. 2377 ในสมัยรัชกาลที่ 3 กระทั่งปี พ.ศ. 2439 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามแก่วัดในปกครองของคณะสงฆ์อนัมนิกายพร้อมกันจำนวน 3 วัด คือ 1. วัดเขตร์นาบุญญาราม จ.จันทบุรี 2. วัดถาวรวราราม จ.กาญจนบุรี 3. วัดสมณานัมบริหาร กทม.

    จากหลักฐานของท่านพระครู คณานัมสมณาจารย์ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 เขียนไว้มีความว่า หัวเรื่อง "ตั้งนามวัด"
    ....พระบาทสมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า แห่งประเทศไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชูปถัมป์แก่คณะสงฆ์อนัมนิกายทั้งในด้านศาสนกิจและสังฆานุเคราะห์อันควรแก่สมณะวิสัยโดยลำดับด้วยวัดที่ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลลาดขวาง อำเภอเมืองจันทบุรี ให้เจริญรุ่งเรืองงดงามไพบูลย์ในพระบวรพุทธศาสนาตลาดกาลเป็นนิจนิรันดร...

    ปี พ.ศ. 2511 พระอุโบสถเดิมที่สร้างด้วยไม้ชำรุดมาก พุทธศาสนิกชนชาวจันทบุรีจึงได้ร่วมกันก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ในครานั้น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระราชินีในรัชกาลที่ ๗ ได้เสด็จทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2511 ได้ดำเนินการก่อสร้างจนสำเร็จได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2516 และได้รับการยกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างในปีเดียวกัน ต่อมาปี พ.ศ. 2539 ได้รับการยกย่องเป็นวัดพัฒนาดีเด่นจากกรมศาสนา

    ประวัติการกินเจ เมื่อประมาณ ปีพ.ศ. 2431 กรมการโรงเจ บ้วนเฮงเจตั๊วอัน เป็นโรงเจประจำจังหวัดจันทบุรี ยังไม่มีที่ตั้งถาวรได้มาขอที่วัดประกอบพิธีได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นอันมาก จึงขอตั้งเป็นการถาวรมีกรรมการบริหารจนถึงปัจจุบัน และพุทธศาสนิกชนชาวจันทบุรีได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองจนตราบเท่าทุกวันนี้ รวมเวลา 115 ปี ของประเพณีการกินเจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2014, 02:10:51 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
จากวัดเขตร์นาบุญญารามมีถนนเดินทะลุชุมชนจันทบูร เราทุกคนก็เดินตามๆ กันไปได้ชมบ้านเรือนที่ก่อสร้างขึ้นมานานเป็น 100 ปี ชมวิถีชีวิตชุมชน ขนมในย่านนี้เป็นขนมแบบโบราณที่ยังคงสูตรดั้งเดิมรสชาตอร่อยกว่าที่อื่นๆ เดินไปอุดหนุนขนมกันไป บางคนที่เป็นผู้สูงอายุก็ได้แวะเข้ามาซื้อยาแผนโบราณที่นี่กันด้วย สักพักไปจนทะลุอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ชมอาสนวิหารที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ก่อนที่จะขึ้นรถเพื่อนเดินทางไปยังร้านอาหารปูจ๋า ร้านอาหารขึ้นชื่ออีกร้านหนึ่งของจันทบุรี

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
 :D

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เนื่องจากร้านปูจ๋าอยู่ห่างตัวเมืองพอสมควรเราใช้เวลาสักพักในการเดินทางแล้วก็มาถึงที่ร้าน ทางร้านจัดอาหารไว้ให้บนโต๊ะหมดแล้ว ระหว่างการเดินทางทีมงานโฟโตเทคก็จะหาเกร็ดความรู้มากมายหลายอย่างเกี่ยวกับจังหวัดจันทบุรีมาแชร์ให้ฟัง ประสบการณ์ต่างๆ จากผู้สูงวัยที่น่าจะเรียกว่าปราชญ์คนหนึ่งคือ อาจารย์นิวัตร เปาอินทร์ ที่นอกจากจะถ่ายทอดวิชาความรู้เรื่องการถ่ายภาพแล้วแต่อาจารย์ยังมีความรู้มากมายเกี่ยวกับจังหวัดระยองมาเล่าตลอดทางด้วย ปริมาณอาหารที่เตรียมไว้ให้แต่ละโต๊ะ นับว่าเยอะมากเป็นอาหารทะเลสดที่ได้คุณภาพ ไม่มีเมนูไหนไม่อร่อย เราเดินเข้าไปนั่งบนโต๊ะตามหมายเลขที่เขียนไว้ที่แทกที่เราแขวนคออยู่ ทุกคนทานจนอิ่มปรากฏว่าปูยังเหลือ แสดงว่าอิ่มจริงไม่งั้นปูต้องหมด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2014, 02:27:06 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
อิ่มหนำสำราญแล้วก็เริ่มง่วง จากร้านปูจ๋า สถานีต่อไปของเราคือสิ่งที่ขึ้นชื่อที่สุดของจันทบุรี เป็นสิ่งขึ้นชื่อของไทยที่ทำให้ต่างชาติรู้จักกันเลยทีเดียว ไม่ใช่ทุเรียนนะจ๊ะ สิ่งนั้นคือพลอย นั่นเอง พูดถึงเรื่องพลอยแล้วคงไม่มีที่ไหนเหมาะไปกว่า ย่านการค้าพลอยจันทบุรีทีแรกผมก็คิดว่าเป็นร้านขายเครื่องประดับหลายๆ ร้านเรียงกันสองข้างถนนแล้วไปเดินเลือกซื้อเลือกหาเหมือนกับย่านการค้าอื่นๆ แต่ความเป็นจริงแล้วที่สร้างเป็นอาคารขนาดใหญ่รวมร้านค้าพลอยที่ได้รับการตรวจสอบแล้วจากสมาคมผู้ค้าพลอยจันทบุรี ของในนี้ทั้งหมดจะเป็นของจริง และตัวเรือนถ้าบอกลูกค้าว่าเรือนทองแท้ต้องเป็นทองแท้จริงๆ หากถูกตรวจพบย่อมจะถูกถอนใบอนุญาตค้าพลอยไปเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครมาเสี่ยง

    เข้ามาในนี้เราจะเดินขึ้นชั้นสองกันหมดมีบันไดเลื่อนครับไม่ต้องกลัวเหนื่อย วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คนจะมาเดินเลือกซื้อพลอยกันเยอะมากเป็นพิเศษ พอถึงชั้นสองแล้วจะมีห้องฉายหนังสามมิติเป็นเรื่องราวความเป็นมาของพลอย เรียกว่ากำเนิดพลอยเลยก็ว่าได้ พลอยซึ่งที่จริงก็คือหินชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นมาในเปลือกโลกของเราและกระจัดกระจายกันออกไปตามที่ต่างๆ บนโลกด้วยแรงของภูเขาไฟยักษ์ระเบิดในช่วงเวลาหลายล้านปีก่อน แต่ละประเทศจึงมีพลอยต่างชนิดกัน ภาพที่ฉายด้วยระบบสามมิติจะมีแว่นให้ใส่ดูตื่นตาตื่นใจมาก กระบวนการนำพลอยขึ้นมาที่เรียกว่าเหมืองพลอย จนกระทั่งการเจียรไนด้วยฝีมือคนไทยจนได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ถูกรวมมาเป็นหนังให้เราชมแบบสั้นๆ ก่อนที่เราจะเดินออกจากโรงหนังเล็กๆ ไปยังห้องพิพิธภัณฑ์พลอย เราก็จะได้เห็นพลอยชนิดต่างๆ พร้อมข้อมูลแหล่งที่มาของพลอยชนิดนั้นๆ จะเห็นได้ว่าแต่ละประเทศมีพลอยไม่เหมือนกันเลย

    ธรรมชาติสร้างสิ่งสวยงามเหล่านี้ขึ้นมา คนก็ยอมรับนำขึ้นมาเป็นสิ่งที่มีมูลค่า แปลงให้เป็นเครื่องประดับชิ้นแล้วชิ้นเล่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ห้องแสดงเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของกษัตริย์ในประเทศต่างๆ ก็ถูกประดับด้วยพลอยอย่างสวยงามแต่ที่เราได้ชมที่นี่เป็นของที่จำลองขึ้นมานะครับ แต่ก็สมจริงมากพอเดินทะลุพิพิธภัณฑ์พลอยออกไปก็จะเป็นย่านการซื้อขายพลอยกันแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2014, 02:49:28 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
    ย่านการค้าพลอยจันทบุรี มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ เรียงรายไปด้วยตู้กระจกของกลุ่มผู้ค้าพลอยนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว แต่ละร้านก็จะนำเอาพลอยเม็ดและเครื่องประดับที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านดีไซน์ออกมาวางให้ชมให้เลือกมีตั้งแต่พลอยเม็ดเปล่าๆ ขนาดเล็กนำไปใช้เป็นพลอยล้อม คือต้องมีพลอยหลักอยู่ตรงกลาง ไปจนถึงสร้อยคอราคาหลักล้านก็มีให้ชมด้วย ร้านค้าพลอยตั้งเรียงเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบเดินเป็นเส้นตรงกลับไปกลับมาได้หลายรอบถึงจะทั่วทั้งหมด พลอยเม็ดเปล่าๆ จะซื้อขายตามน้ำหนัก ที่เห็นๆ ส่วนใหญ่จะเริ่มกันแถวๆ หลักพันเป็นต้นไป ก็เลยคิดว่าพลอยเปล่ายังเป็นพันถ้าประกอบเรือนแล้วจะเท่าไหร่เนี่ย แต่พอเดินดูดีๆ ก็จะเจอแหวนหลายแบบหลายขนาดวางในกล่องบนตู้มีป้ายเขียนว่า Sale 1000 โอ้ พลอยก็ใหญ่ดีทำไมมาลดราคาซะละ ถามคนขายก็ได้ความว่าดีไซน์นี้เก่าแล้ว ก็เลยนำมาลด ถ้าถอดเอาพลอยออกมาใส่เรือนใหม่พลอยจะเป็นตำหนิ อืม...เข้าใจละแบบนี้ผมก็พอจะหาพลอยประจำราศีตัวเองใส่ได้ไม่ยาก ไว้มีเวลาว่างๆ พาเพื่อนๆ มาช้อปเครื่องประดับเล่นดีกว่า

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ภาพเครื่องประดับต่อไปนี้เป็นภาพเครื่องประดับจากร้านเดียวกัน ภาพแรกสร้อยคอพร้อมจี้ เฉพาะสร้อยราคา 110,000 ประมาณนี้ ส่วนจี้ ผมไม่ได้ถาม ^^ มัวแต่ตกใจราคาสร้อยอยู่ การเดินชมอัญมณีและเครื่องประดับในย่านการค้าพลอยจันทบุรี มีบางร้านจะให้ถ่ายภาพได้ ส่วนบางร้านไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ดังนั้นก่อนที่จะเราถ่ายภาพถามเจ้าของร้านก่อนนะครับ เนื่องจากร้านค้าพลอยในย่านการค้ามีจำนวนมาก ผมเลยเดินเลือกถ่ายชิ้นงานที่ดูสะดุดตาก่อน แล้วนอกจากดูสวยงามแล้วเจ้าของยังต้องให้ถ่ายภาพได้ด้วย แต่เท่านี้ก็เป็นตัวอย่างให้มากพอแล้วว่าที่นี่สินค้าได้คุณภาพ สวยงาม สมราคา รับประกันของแท้ให้ด้วย สบายใจแน่นอนครับ

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ต่อกันอีกสักนิดกับร้านแรกตรงประดูทางเข้า หรือจะเป็นร้านสุดท้ายตรงประตูทางออกสำหรับเราที่เดินมาจากพิพิธภัณฑ์ซึ่งอยู่ด้านหลัง ร้านนีจะมีเครื่องประดับอยู่ 1 ชิ้น เป็นสร้อยคอที่นางแบบใส่เดินในงานเปิดโลกอัญมณีที่ผ่านมานี่เอง สร้อยเส้นนี้สนนราคา ล้านกว่าๆ แต่มีส่วนลดให้ สนใจสอบถามเจ้าของร้านได้เลยนะครับ สร้อยเส้นแรกในภาพด้านล่าง แล้วยังมีเครื่องประดับเยอะแยะมากมายให้เลือกฝีมือปราณีตกันทั้งนั้น ล้ำค่าด้วยพลอยแท้ๆ ใหญ่ๆ กันเลยคร้าบ

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
    เดินชมพลอยจนตาลายจากที่ท้องอิ่มๆ ตอนนี้ย่อยไปเกือบหมดแล้ว เพราะที่นี่เค้ากว้างจริงๆ ออกจากย่านการค้าพลอยจันทบุรี เราใช้เวลามากกว่าที่กำหนดไว้เล็กน้อย ก็แหมของมันสวยอะเนาะ

    เราขึ้นรถจนครบทุกคน แล้วออกเดินทางกันต่อ รู้สึกว่าวันนี้เราเที่ยวเยอะจัง ปกติเวลาเรามาเที่ยวเองถึงที่นี่แล้วคงเลือกซื้อจนเย็นแล้วก็เข้าที่พัก เพราะเราก็ไปมาหลายที่เหลือเกินสำหรับวันเดียว แต่ทริปกินลม ชมเล บุฟเฟต์ผลไม้ ไหว้พระ ณ ร่ะยอง - จันทบุรี ของโฟโตเทค จัดเต็มครับ ยังมีน้ำตกพลิ้ว น้ำตกสายสำคัญที่สวยงามที่สุดของจังหวัด ที่สำคัญมีประวัติศาสตร์สำคัญกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระองค์ทรงโปรดปรานน้ำตกพลิ้วแห่งนี้มาก และได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนน้ำตกพลิ้วหลายครั้ง รวมทั้งทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอลงกรณ์เจดีย์ ที่ระลึกเมื่อคราวเสด็จประพาสต้นพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี เมื่อปี พ.ศ.2419

    นอกจากนี้ยังมีอนุสรณ์สถานทรงปิรามิด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี เคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้ว เมื่อพระชันษา 14 พรรษา ทรงโปรดความสวยงามตามธรรมชาติของสถานที่แห่งนี้เป็นอันมาก เคยทรงปรารภว่า ใคร่ที่จะเสด็จประพาสอีก แต่บังเอิญเสด็จทิวงคตเสียก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์บรรจุพระสุรีรางคารของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ไว้ ณ สถานที่นี้ในปี พ.ศ. 2424

    พวกเราเดินชมความสวยงามกันไปเรื่อยๆ จนถึงตัวน้ำตกถ่ายรูปกันจนเต็มที่แล้วก็เดินกลับมาที่รถ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2014, 03:34:53 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ถึงอลงกรณ์เจดีย์ เราเดินอ้อมไปด้านหลังจะมีช่องให้เราพอมองเห็นน้ำตกพลิ้วจากมุมสูงๆ เป็นไปได้ว่าสมัยรัชกาลที่ ๕ พระองค์และพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทรงยืนทอดพระเนตรน้ำตกจากจุดนี้ จึงได้ทรงเลือกที่นี่เป็นสถานที่ในการก่อสร้าง ทางเดินไปยังตัวน้ำตกอ้อมไปอีกหน่อย น้ำตกพลิ้วขึ้นชื่อที่สุดคือเรื่องปลาพลวง เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่มาก พบเห็นตามน้ำตกส่วนมาคนจะไม่กินปลาพลวงจำนวนของปลาจึงเพิ่มขึ้นทุกปีๆ

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ความสวยงามของน้ำตกพลิ้วและความประทับใจที่ได้มายังสถานที่ในประวัติศาสตร์เสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ ๕ ทุกคนดื่มด่ำกับความสวยงามของสายน้ำและปลาพลวงจำนวนมาก เราเลยเวลาตามกำหนดการมานานกว่าจะเดินมารวมกันที่ลานจอดรถเพื่อที่จะเดินทางไปยังที่พักคืนแรกของเรา เจ้าหลาวทอแสงบีช ที่พักที่ถูกเลือกมาบริการนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายหาด มีห้องประชุมสัมมนา ห้องพักสะอาดได้มาตรฐานแห่งหนึ่งของหาดเจ้าหลาว หาดที่ยาวที่สุดและสวยมากแห่งหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี ทุกคนขนกระเป๋าไปรอรับกุญแจห้องพักไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้นหมายเลขห้องพักอยู่ที่แทกที่คอทุกคนอยู่แล้ว ได้กุญแจก็เอากระเป๋าไปเก็บ จากนั้นก็แบกกล้องออกมาที่ชายหาด รอเก็บภาพพระอาทิตย์ตกพอดิบพอดีเลย

    นอกเหนือจากความสะดวกสบายของห้องพัก เดินออกมาชายหาดยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนไม่ชอบน้ำเค็มหรือจังหวะมาเที่ยวเกิดคลื่นลมแรงก็จะได้เล่นน้ำในสระแทนกันไป โต๊ะอาหารเป็นแบบริมหาด ทิวสนสลับต้นมะพร้าว ได้บรรยากาศของการนั่งริมทะเลอย่างที่สุด ทุกคนถ่ายรูปไปรอบๆ รีสอร์ทด้วยความสนุกสนาน

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ล่วงเลยเวลามามากแล้วผมเดินเข้าไปในห้องอาหารเพื่อร่วมสนุกในงานปาร์ตี้ของพวกเรา กิจกรรมสนุกๆ มากมายให้เล่น ก่อนที่จะแยกย้ายพักผ่อน หาดเจ้าหลาวหันไปทางตะวันตกมากกว่าพระอาทิตย์จะขึ้นสวยไม่เท่าตอนตก เช้าขึ้นมาอาบน้ำเก็บของมีอาหารเช้าไว้รอพวกเราอยู่แล้ว ถ่ายรูปหมู่กันตามมุมต่างๆ อย่างครื้นเครง เหมือนกับว่าทุกคนรู้จักกันมานานเป็นแรมปี พร้อมแล้วที่จะออกเดินทางกันต่อในวันที่ 2 ของทริป

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เช้าวันนี้กำหนดการของเราก็คือไปชมโลมาที่โอเอซิสซีเวิลด์ มาถึงตอน 9.00 น. ก็มีเวลาให้เราได้ถ่ายรูปหมู่อย่างสนุกสนานหน้าทางเข้าเพื่อเป็นที่ระลึก เรามาทันการแสดงรอบ 9.30 น. เจ้าหน้าที่ของโฟโตเทคซื้อบัตรมายื่นให้เราคนละใบแล้วเราก็เดินเข้าไปด้านใน บางคนเดินตรงไปนั่งที่อัฒจรรย์ ส่วนหนึ่งเดินไปถ่ายรูปกับตุ๊กตาโลมาในร้านของฝาก ส่วนหนึ่งถ่ายรูปคู่กับเงาะยักษ์และทุเรียนยักษ์ จนใกล้เวลาการแสดงทุกคนก็เข้าประจำที่อัฒจรรย์ และรอดูความน่ารักของโลมา ความพิเศษของโอเอซิสซีเวิลด์ อยู่ตรงที่ใช้น้ำทะเลสะอาดเป็นสระสำหรับอยู่อาศัยของโลมาและการแสดง จะมีเครื่องกรองน้ำคอยกรองเอาสิ่งสกปรกออกไปโดยไม่ใช้สารเคมีใดๆ โลมาจะอยู่ที่นี่เหมือนน้ำในธรรมชาติที่สุด อีกอย่างก็คือ ครูฝึกสอนโลมาเป็นคนไทยใช้ภาษาไทยในการฝึกสอนโลมาฟังภาษาไทยรู้เรื่อง และสุดท้ายเจ้าของที่นี่เป็นคนไทย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้เงินทองไม่รั่วไหลเพราะอุดหนุนคนไทยด้วยกัน

    การแสดงของโลมายาวประมาณครึ่งชั่วโมง มีโชว์น่ารักๆ ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้ให้ดูกันหลายแบบเริ่มตั้งแต่การกระโดดแบบง่ายๆ จนไปถึงการแสดงระบำใต้น้ำโผล่หางว่ายวนรอบสระ

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ต่อด้วยการแสดงน่ารักๆ อีกมากมาย การเก็บของไปคืนครูฝึก การกระโดดหอมแก้ม การกระโดดลอดห่วง การเตะบอลกลางอากาศ แต่ละอย่างสุดยอดเรียกเสียงฮือฮาได้ตลอดเวลา ไม่น่าเชื่อว่าเราจะฝึกสัตว์เหล่านี้ได้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
โชว์กระโดดน้ำเตะบอลพร้อมกันเป็นทีม โชว์กระโดดข้ามครูฝึก โชว์การส่งครูฝึกขึ้นฝั่ง การยืนบนหลังโลมา 2 ตัว แต่ละอย่างสุดยอดทั้งนั้น การแสดงเหล่านี้จะค่อยๆ เพิ่มความยากขึ้นเรื่อยๆ โลมาที่นำมาแสดงมี 2 ชนิด คือโลมาสีชมพู และโลมาอิรวดี ที่โอเอซิสซีเวิลด์โลมาจะผสมพันธุ์และออกลูกมีสมาชิกเพิ่มขึ้นทุกปีตามธรรมชาติ หลังจากการชมการแสดงแล้วเราก็เดินไปเที่ยวรอบๆ บริเวณที่มีอะไรน่าสนใจอีกเยอะ

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เดินลึกเข้ามาด้านในเราจะเจอบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ ใหญ่มากๆ มีอาหารปลาขาย อาหารปลานั้นก็คือปลาเล็ก แล้วปลาที่กินปลาเล็กก็คือปลาใหญ่ ซึ่งใหญ่มากๆ ปลาที่ว่านั้นก็คือปลาหมอทะเล เห็นแค่ด้านข้างของมันตอนมันขึ้นมาโฉบเอาเหยื่อไป มีบางครั้งเท่านั้นที่มันจะกระโดดลอยพ้นน้ำขึ้นมาซึ่งถ่ายรูปยากมากๆ ในบริเวณสระก็จะมีกระชังเลี้ยงปลาได้ยินว่าเป็นปลาเก๋าแต่อันนี้ไม่คอนเฟิร์มเพราะไม่ได้ลงไปดู จากนั้นก็เดนตามทางเดินไปเรื่อยๆ เราก็จะมาสุดทางที่ร้านกาแฟและไอติม เหมาะอย่างยิ่่งสำหรับการดับร้อนในตอนกลางวันแบบนี้

    ทางเดินวกไปทางขวา สิ่งที่เราเห็นก็คือสระน้ำทะเลขนาดใหญ่ เป็นบ่อสำหรับเลี้ยงโลมารุ่นใหม่ โลมาที่เกิดมาพอมีอายุฝึกได้แล้วเค้าก็จะนำมาฝึกให้โลมาสามารถแสดงได้เหมือนพ่อกับแม่ของมัน สระเลี้ยงโลมาเล็กนี้เราสามารถลงไปว่ายน้ำถ่ายรูปคู่กับโลมาได้ด้วย แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่รู้เลยไม่ได้เตรียมเอาเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนมาด้วย ก็ได้แต่ถ่ายรูปตอนเค้าฝึกโลมากลับมาเป็นที่ระลึก

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ถ่ายรูปโลมากันจนจุใจแล้วทุกคนเดินวนมาที่ทางออก เส้นทางที่เราเดินในโอเอซีสซีเวิลด์รวมเป็น 1 รอบใหญ่ๆ พอดี ด้วยการเดินเวียนขวา จากนั้นรถก็พาพวกเราเดินทางต่อไป
จุดหมายต่อไปของเราเป็นสถานที่ที่สวยงามมาก ผมเคยเห็นป้ายเขียนไว้ว่า จุดชมวิวที่สวยที่สุดในภาคตะวันออก เขียนไว้เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2532 ป้ายไม้ก็เริ่มจะผุๆ พังๆ ผมมาที่นี่ครั้งแรกประมาณปี พ.ศ.2548 ตอนนั้นถนนลาดยางบางๆ พังจนหมดสภาพเหมือนทางลูกรัง เราสามารถเอารถขึ้นมาจอดบนเนินตรงจุดชมวิวได้เลย ภาพที่เห็นตอนนั้นเป็นภาพที่สวยมาก และยอมรับว่า ป้ายที่เขียนว่าจุดชมวิวที่สวยที่สุดในภาคตะวันออกนั้นไม่ได้เกินจากความจริงเลย ผมกลับไปที่นั่นเป็นระยะๆ หลายครั้งในเวลาติดๆ กันหลายปี จนประมาณปี พ.ศ.2552 ผมก็เริ่มเห็นการขุดเจาะถากถางทำทางขึ้นมาใหม่ และมั่นใจว่าสถานที่แห่งนี้จะถูกโปรโมทให้กลับมาดังอีกครั้งเหมือนอย่างที่มันเป็นเมื่อ 20 ปีก่อน สถานที่ที่ผมพูดถึงนี้ก็คือ เนินนางพญา ซึ่งมีถนนชล-จันท อยู่ด้านล่าง ชื่อถนนเรียกกันง่ายๆ ว่า ชล- จันท ก็เพราะเป็นถนนที่เชื่อมจากจังหวัดชลบุรียาวมาจนถึงจันทบุรีนั่นเอง เริ่มจากสัตหีบไปจนถึงแหลมสิงห์ เรียกชื่อใหม่ว่า เฉลิมบูรพาชลทิต ตรงโค้งใกล้ๆ เนินนางพญา ก็เป็น Dream Destination ที่เที่ยวในฝัน... กาลครั้งหนึ่งต้องไป

    ไม่เฉพาะช่วงโค้งของเนินนางพญาเท่านั้น เราใช้ถนนเฉลิมบูรพาชลทิตตั้งแต่แหลมสิงห์หลังจากออกมาจากโอเอซีสซีเวิล์ด ข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ปากแม่น้ำจันทบุรี เราก็จะเห็นวิวสวยๆ ตลอดทางอีกหลายต่อหลายจุด จนมาถึงปากน้ำแขมหนู ขึ้นเขาเล็กน้อยเห็นวิวสวยๆ เบื้องล่าง จนมาถึงเนินนางพญาด้วย ถ้าวิ่งจากระยองไปจันทบุรีจะมีสะพานสร้างใหม่ที่ปากน้ำประแส เป็นสะพานที่สูงและยาวมากวิวบนนี้ก็สวยไม่แพ้ใครเหมือนกัน ถนนสายนี้มีเลนจักรยานยาวตลอดเหมาะสำหรับคนรักการปั่นที่จะใช้เป็นเส้นทางในการออกกำลังกายและได้พักผ่อนชมวิวสวยระหว่างการปั่นด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2014, 10:31:06 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ถ่ายรูปบนเนินนางพญากันเสร็จแล้วก็เดินลงมากินหมึกย่างเครื่องดื่มมากมายหลายอย่างขายอยู่ข้างล่าง คนที่ชอบคล้องกุญแจแบบเกาหลีก็มีกุญแจสวยๆ น่ารักๆ ขายที่ทางขึ้น เรียกว่ามาที่เดียวฟินสุดๆ ครับ ตรงจุดนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราใช้เวลาเกินกำหนดในใบกำหนดการของเรา ก็คนเป็นร้อยขึ้นมาเจอวิวสวยขนาดนี้ก็ต้องถ่ายรูปกันนานเป็นธรรมดาครับ สาวๆ ชอบสถานที่แห่งนี้มากที่สุดส่วนผู้ชายส่วนมากเป็นคนถ่ายรูปให้

    ทุกคนกลับขึ้นรถ ออกเดินทางกันต่อไปตามเส้นทางผ่านหาดเก็บตะวันตรงทางโค้งที่เรามองเห็นจากเนินนางพญา ผ่านหาดลับแล หาดคุ้งวิมาน เลี้ยวขวาไปตามถนน เพื่อมุ่งหน้าไปร้านโจโจ้ ร้านอาหารทะเลอร่อยอีกแห่งหนึ่ง ออกจะไกลไปนิดเพราะอยู่ถึงระยอง ถึงตอนนี้หลายคนก็หลับไปเพราะเพลียจัด


ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
จากอ่าวคุ้งวิมาน ดินแดนในฝันของเรา ใช้ถนนเฉลิมบูรพาชลทิตมาตามทางเรื่อยๆ ได้ข้ามสะพานปากน้ำประแส เป็นสะพานสร้างใหม่ที่ทำให้เกิดถนนชล - จันท ขึ้นมา เพราะแต่เดิมถนนสายนี้มาจากสัตหีบมาสุดตรงปากน้ำประแสนี้เท่านั้น ส่วนถนนอีกช่วงหนึ่งเริ่มจากปากน้ำประแสไปจนถึงแหลมสิงห์ ตั้งใจว่าพอมาถึงสะพานแห่งนี้คงได้จอดถ่ายรูปวิวสวยๆ ซะหน่อย แต่พอมาถึงจริงๆ ฝนกลับเทลงมาไม่ยอมหยุด คณะของเราจึงเดินทางต่อไปจนมาบรรจบกับถนนอีกสายหนึ่งที่อนุสาวรีย์สุนทรภู่ ด้วยเหตุว่าวันที่เรามาก็ยังอยู่ในช่วงของการจัดงานวันสุนทรภู่ ที่นี่ก็เลยรถติดมาก เราเองก็ลงไปไหว้ท่านไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องขับเลยไปร้านอาหารโจโจ้ที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่

    เราเลยเวลาอาหารมาพอสมควรก็เลยหิวนิดๆ หลังจากที่เรามาถึงไม่นานอาหารก็เริ่มทยอยกันออกมา เราก็ถ่ายรูปกันเล็กน้อยพอเป็นพิธี จากนั้นก็เริ่มลงมือกับอาหารอย่างเอร็ดอร่อย อิ่มหนำสำราญก็ออกมาเดินเล่นถ่ายรูปรอบๆ ร้านกันหน่อย มีศาลาให้นั่งเล่นรอบลานจอดรถเลย

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เฮ้ออิ่ม อาหารกลางวันเป็นศัตรูอันร้ายกาจของเรา หลังมื้อกลางวันเป็นอันว่าจะง่วงตลอดเวลา ขึ้นรถโดนแอร์เย็นๆ เป่าตาเป็นอันหลับ สถานีต่อไปของเราคือที่ไหนน้า ยกบัตรขึ้นมาดู อ้อ เข้าที่พักที่หาดแสดงจันทร์ Kantary Bay Rayong โอ้ว โปรแกรมวันนี้สุดยอดมาก เที่ยวน้อยเน้นพักผ่อน หาดแสงจันทร์เป็นหาดที่สวยมากแห่งหนึ่งของระยอง แต่ปกติคนไม่ค่อยพูดถึง หาดแห่งนี้มีรูปปั้นนางยักษ์ พระอภัยมณีด้วย อยู่ตรงสามแยกพอดีเลย แต่จะถ่ายรูปซะหน่อยรถก็แล่นผ่านไปแล้ว แป๊บเดียวมาถึงโรงแรม ทุกคนก็ตื่นแล้วก็ลงจากรถไปยืดเส้นยืดสายกันที่ชายหาด เราเดินไปเดินมาถ่ายรูปกันพักใหญ่ไม่มีใครอยากจะเข้าโรงแรม จนพอสมควรแล้วก็ค่อยไปหยิบกระเป๋าเดินเข้าโรงแรม ใครไม่หยิบก็รอรถเข็นของโรงแรมมาช่วยขนไปให้

    ทุกคนหลบร้อนมานั่งในล็อบบี้ รอกระเป๋าที่กำลังมากับรถเข็นพอได้กุญแจคีย์การ์ดทุกคนก็แยกย้ายกันไปตามห้องต่างๆ พอเข้าไปในห้องถึงได้เข้าใจว่าเป็นห้องชุด มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และระเบียง โอ้ว กว้างใหญ่ไพศาล ทุกห้องมีทีวีจอใหญ่แบบไม่ต้องแย่งกันดูเลย มีตู้เย็น แอร์ น้ำอุ่น เหมือนอย่างโรงแรมอื่นๆ แต่ที่นี่มีแถมกระติกน้ำร้อน ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า อีกด้วย

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
พักผ่อนกันจนหายเหนื่อย ต่อจากนี้เป็นเวลาเดินเล่นชายหาดเก็บภาพกันตามอัธยาศัย เย็นวันนี้จะมีการประกวดภาพถ่าย ที่ตัดสินโดยคณะกรรมการที่ทุกคนเคารพในวงการถ่ายภาพ เมื่อคืนวานท่านอาจารย์ได้แนะนำหลักการถ่ายภาพหลายๆ อย่างแบบเข้าใจง่าย ฟังบรรยายแล้วเป็นทันที แล้วยังมีอาจารย์ 2 ท่านเดินให้คำแนะนำอยู่ตลอดทริป แบบนี้ไม่เป็นให้มันรู้ไปสิครับ

    ก่อนที่จะถึงเวลาการส่งภาพเข้าประกวดตอนนี้ต้องไปเก็บภาพเอาไว้มาเลือกว่าจะส่งรูปไหน สำหรับผมก็มีรูปในใจอยู่แล้ว แต่ไปถ่ายมาเพิ่มอีกก็เป็นการดีเหมือนกันถึงไม่คิดเรื่องประกวดเราก็ยังได้มีภาพสวยๆ เก็บไว้ชมและแชร์

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ถ่ายรูปมาเยอะแยะสุดท้ายก็เลือกมาได้ 1 ใบสำหรับการประกวดในทริปนี้ ได้รับรางวัลอันดับที่ 5 ด้วยนะครับขอบอก ดีใจสุดๆ หลังจากที่ทริปที่แล้วกินแห้วไปแล้ว 1 รอบ ส่วนอยากรู้ว่าทำไมรูปนี้ได้รางวัลก็ไปกับ Phototech สักครั้งแล้วจะเข้าใจเรื่องการถ่ายภาพมากขึ้น ส่วนภาพที่ได้รางวัลอีกภาพที่ส่งโดยน้องอร ได้รางวัลอันดับที่ 3 โดยมีอาจารย์ธวัช มะลิลา ร่วมเป็นกรรมการในการคัดเลือกภาพและเรียงลำดับรางวัล การประกาศผลรางวัลก็ประกาศกันไปในระหว่างอาหารมื้อเย็น ดูรูปอาหารที่โรงแรมคันทารีเบย์ระยองจัดไว้ให้เราทั้งคาวหวานแล้วสุดยอดจริงๆ ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 22, 2014, 11:05:14 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากการพักผ่อนของค่ำคืนที่แสนสะดวกสบายในโรงแรมหรูหาดแสงจันทร์ จังหวัดระยอง เช้าของวันที่สามวันนี้เราไม่เร่งรีบไปไหน ตามโปรแกรมเราจะออกเดินทางไปสวนผลไม้ ซึ่งอยู่ในชื่อของโครงการ กินลม ชมเล บุฟเฟต์ผลไม้ ไหว้พระ ณ ระยอง-จันทบุรี กิจกรรมอื่นๆ เราก็ทำมาจนครบหมดแล้วเหลือแต่บุฟเฟต์ผลไม้ที่ทุกคนรอคอย ผลไม้เป็นเสน่ห์อย่างยิ่งของทั้งสองจังหวัด โดยเฉพาะที่ทุกคนอยากจะกินกันมากที่สุดก็คือทุเรียน สวนที่เข้าร่วมโครงการมีมากมายหลายสวนในพื้นที่ ระยอง จันทบุรี และตราด แต่ละสวนล้วนขึ้นชื่อในด้านคุณภาพและราคา ก่อนที่จะเดินทางไปสวนผลไม้ ทุกคนลงมาทานอาหารเช้า ถ่ายรูปชายหาดกันตามสมควรจนได้เวลารถออก

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
 :) เมื่อได้เวลานัดหมาย เราก็เดินขึ้นรถประจำที่นั่ง รถเคลื่อนตัวออกจากโรงแรมคันทารีเบย์ ระยอง มุ่งหน้าสู่สวนยายดาป้าบุญชื่น ที่อยู่ใกล้ๆ เขายายดา จนคนคิดว่าสวนผลไม้แห่งนี้เจ้าของสวนชื่อยายดา ซึ่งไม่ใช่เลยครับไม่ต้องมาถามหายายดาที่สวนนี้ ต้องถามหาป้าบุญชื่นถึงจะถูก พอรถวิ่งมาจอดที่หน้าสวนทุกคนก็กรูกันเข้าไปที่ขายผลไม้และของฝาก กว่าจะรวบรวมให้มาร่วมถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกกันได้ใช้เวลานานเลยละ เจ้าของสวนยึกมั่นในหลักเศรษฐกิจพอเพียง ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขยันขันแข็งในการทำสวนผสมผสานมานานหลายสิบปี ตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จเป็นเกษตรกรตัวอย่างคนหนึ่งได้เลย นอกจากจะเดินชมผลไม้ และพืชสวนครัว ในสวนยายดาของป้าบุญชื่นจะมีคติแง่คิดในการดำรงชีวิตติดไว้ตามต้นไม้ให้อ่านด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 22, 2014, 12:15:30 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ในระหว่างนี้ ททท.ก็ได้จัดประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงเกษตรในสวนผลไม้ภาคตะวันออก ด้วยกิจกรรม อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน ให้ถ่ายรูปกับป้ายในสวนเชคอินที่หน้าแฟนเพจ https://www.facebook.com/FunnyTravelEastThailand รวบรวมเพื่อนๆ มาคลิกไลค์ เพื่อลุ้นรับของรางวัลใหญ๋ IPhone 5 กับ Galaxy S5 ด้วย คนมาร่วมสนุกกันเยอะผมก็ส่งด้วยแต่ไม่ได้รางวัล  :'(

พอเดินเข้าไปในสวนทุกคนก็ตรงไปที่จุดบุฟเฟต์ผลไม้ เลือกผลไม้ที่ตัวเองชอบ อย่างทุเรียนก็เลือกได้ว่าจะเอาแบบกรอบ แบบนิ่ม ไม่ชอบก็ยังไม่ต้องหยิบเดี๋ยวเค้าปอกลูกใหม่ให้ ชอบใจอย่างไหนก็เอาไปอย่างนั้น เจ้าของสวนขอแค่เรากินให้หมดที่เราหยิบมา ไม่ใช่ว่าเป็นบุฟเฟต์แล้วหยิบๆ มาก่อนกินไม่หมดก็ทิ้งเค้าปลูกกันมายากลำบากครับ

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
อิ่มหนำสำราญที่สุดกับทริปนี้ กินผลไม้จนพุงกาง เริ่มจากทุเรียนแล้วจบด้วยมังคุดเพื่อดับความร้อนของทุเรียน คนเรานี่ก็ช่างคิดนะครับ ผลไม้สองย่างตัดกันเองได้ ราชาผลไม้ ราชินีผลไม้ ต่อท้ายด้วยอาหารใต้ร่มไม้ ในสวนยายดา แน่นอนว่าหมูชะมวงก็ต้องมีในรายการอาหารด้วยจบทริปด้วยความสุขสนุกสนาน กับ Travel Line โดย นิตยสารโฟโต้เทค หลายคนซื้อผลไม้กลับบ้านมากมายหลายกิโล รถมาส่งที่หน้าอาคารสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทุกคนร่ำลากันกลับบ้าน มีแต่คนทิ้งท้ายว่า เจอกันทริปหน้า

สวนผลไม้ที่ร่วมโครงการบางส่วนดังนี้นะครับ
สวนประสมทรัพย์ จ.ระยอง
สวนผู้ใหญ่สมควร
สวนสุภัทราแลนด์ จ.ระยอง
สวนสาวสุดใจ
สวนยายดาเจ้บุญชื่น จ.ระยอง
สวนสละสมโภชน์ จ.ตราด 
สวนผู้ใหญ่คำนึง จ.จันทบุรี
สวนเคพี การ์เด้น จ.จันทบุรี
สวนผลอำไพ จ.ตราด
สวนมังคุดไทย คุณปัญญา จ.ระยอง
สวนนายอำเภอ จ.ตราด

    ลองมากับโฟโต้เทคสักทริป คุณภาพเกินราคา ได้ความรู้เรื่องการถ่ายภาพชนิดที่ว่าถ้าไปลงเรียนคอร์สข้างนอกต้องจ่ายกันหลายพัน ขอเสนอทริปต่อไป ด้วยครับ สะพายกล้องท่องไพร...ตากมีมากกว่าที่คิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 23, 2014, 11:26:09 AM โดย admin »