ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา 3-5 พ.ค. 57  (อ่าน 33781 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวถ่ายรูปที่จัดขึ้นโดย นิตยสารโฟโต้เทค โดยการร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด และผู้สนับสนุนโครงการอีกหลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นธนาคารกรุงเทพฯ ทราเวลไลน์ และเกาะกงรีสอร์ท นัดออกเดินทางจากอาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่กรุงเทพฯ สมาชิกร่วมกิจกรรมกว่า 100 คน เดินทางด้วยรถตู้ 11 คัน รองท้องด้วยข้าวต้มร้อนๆ ตอน 6 โมงเช้า แล้วก็ออกเดินทางสู่จังหวัดตราด ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเศษๆ เราก็มาถึงสถานีแรก ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ นายวรนิติ์ กายราศ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหัวหน้าเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ ให้การต้อนรับชาวคณะ ต่อด้วยการบรรยายเรื่องการถ่ายภาพ โดยอาจารย์ธวัช มะลิลา ที่ปรึกษาชมรมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย เพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพให้สมาชิก ก่อนที่จะปล่อยให้สมาชิกได้เรียนรู้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ และเรื่องพลังงาน พร้อมถ่ายรูปภายในศูนย์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 18, 2014, 02:09:36 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา 3-5 พ.ค. 57
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2014, 11:31:09 AM »
จากนั้นชาวคณะทั้งหมดร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ออกเดินทางสู่สถานีถัดไป เป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดตราด สถานที่ที่เราจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองตราดตั้งแต่กรณีพิพาท การแลกเปลี่ยนดินแดนระหว่างไทยและฝรั่งเศส และทำให้เราเสียพื้นที่เกาะกงไป จากวันนั้นมาถึงวันนี้เราก็ได้มีโอกาสเดินทางข้ามไปยังพื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไทย ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่บ้านพี่เมืองน้องที่มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน อาคารพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด เป็นอาคารไม้ทั้งหลัง มีการแบ่งห้องจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ที่สำคัญของเมืองตราด ความเป็นมาของตราดในยุคสมัยต่างๆ ย้อนหลังไปให้เราได้เรียนรู้ เรียกได้ว่ามาที่นี่เหมือนเที่ยวทั่วเมืองตราดเลยก็ว่าได้

    พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มองภายนอกดูเก่าแก่ แต่พอเข้าไปด้านในการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้เห็นภาพจำลอง 3 มิติ ของเหตุการณ์การประกาศแลกเปลี่ยนดินแดนของไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ ภาพเคลื่อนไหวเหตุุการณ์ฝรั่งเศสยกพลขึ้นบกที่จังหวัดตราด โดยเรือรบของไทยต่อสู้จนสุดกำลัง แต่ด้วยแสนยานุภาพที่แตกต่างทั้งขนาดและจำนวน ไทยจึงพ่ายต่อฝรั่งเศสในเวลานั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 09, 2014, 11:33:58 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา 3-5 พ.ค. 57
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2014, 11:36:06 AM »
นิทรรศการต่างๆ ในพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา 3-5 พ.ค. 57
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2014, 11:40:35 AM »
หลังจากนั้นคณะทั้งหมดก็พร้อมออกเดินทางไปยังวัดคีรีวิหาร วัดที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามผสมผสานระหว่าง ไทย และ จีน ได้อย่างลงตัว เป็นวัดเก่าแก่สำคัญของจังหวัดตราด สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2430 เดิมชื่อ “วัดท่าเลื่อน” เป็นวัดที่เจ้าอธิการอยู่เจ้าอาวาส ได้ใช้เวลาในการก่อสร้างนาน 27 ปี ต่อมาเมื่อสมัยฝรั่งเศสเข้ามาปกครองเมืองตราด ได้แต่งตั้งเจ้าอาวาสเป็นพระครูรัฐาภิมุกข์และเรียกชื่อวัดนี้ว่า “วัดภูเขายวน” เมื่อไทยได้เมืองตราดคืนจากฝรั่งเศสจึงได้เปลี่ยนชื่อวัดแห่งนี้ใหม่ โดยสมเด็จพระสังฆราชกรมหลวง วชิรญาณวงศ์ ทรงพระทานชื่อให้เลือก 3 ชื่อ คือ คีรีเวสวิหาร เวสคีรีวิการ และ คีรีวิหาร
ด้วยที่ตั้งของวัดอยู่บนภูเขาทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านล่างที่เป็นป่าเขาและทะเล มีบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ เป็นสวนป่าขนาดย่อมๆ มีต้นสักปลูกอย่างเป็นระเบียบ ลักษณะเด่นของวัด คือ การก่อสร้างด้านสถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม และมีการผสมผสานศิลปกรรมสมัยใหม่เข้าไว้ด้วย  ศาสนสถานที่สำคัญภายในวัด ประกอบด้วย อุโบสถหลังใหญ่ พระเจดีย์ เรือนรับรองสมเด็จพระเทพฯ กุฎิธรรมสารอุทิศและกุฎินิรมิตสามัคคี ศาลาการเปรียญ วิหารจีนที่ประดิษฐานพระพุทธอุดมสมบูรณ์ พระอวโลกิเตศวร พระสังกัจจายน์และกวนอิม

   ศาสนสถานที่สำคัญภายในบริเวณวัดประกอบด้วย อุโบสถหลังใหญ่ พระเจดีย์ เรือนรับรองสมเด็จพระเทพฯ กุฏิธรรมสารอุทิศ และกุฏินิรมิตสามัคคี ศาลาการเปรียญ วิหารจีนที่ประดิษฐานพระพุทธอุดมสมบูรณ์ พระอวโลกิเตศวร และพระสังกัจจายน์

    วัดคีรีวิหาร ตั้งอยู่ที่บ้านท่าเลื่อน จากตัวเมืองไปตามทางหลวง 318 สายตราด-คลองใหญ่-บ้านหาดเล็ก ไปประมาณ 20 กิโลเมตร แสดงให้เห็นว่าวัดแห่งนี้อาจได้รับการอุปถัมภ์จากชาวจีนที่มาค้าขายแถบชายฝั่งทะเลตะวันออก (พ่อค้าชาวจีนอพยพทางเรือมาที่เมืองตราดตั้งแต่สมัยอยุธยา บ้างอพยพจากอยุธยา กรุงเทพฯ เวียดนาม บ้างก็มาจากมาเลเซีย สิงคโปร์) นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่น่าชมภายในวัด คือ หมู่กุฏิเล็กทรงไทย ที่สร้างได้ถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติมีขนาดพอแค่ภิกษุอยู่ได้รูปเดียวเท่านั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 09, 2014, 11:44:00 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา 3-5 พ.ค. 57
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2014, 11:51:12 AM »
จบโปรแกรมของวันแรก เดินทางไปรับประทานอาหารมื้อเย็นกัน ก่อนที่จะเข้าที่พัก

    รุ่งเช้า คณะเปิดประตู AEC ไทย  -  กัมพูชา รับประทานอาหารเช้า เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางข้ามแดน จากตัวเมืองตราดเรามุ่งหน้าไปทางคลองใหญ่ ไปจนถึงบ้านหาดเล็ก อันเป็นที่ตั้งของด่านชายแดนไทยกัมพูชา ผ่านด่านเข้าไปแล้วรถทุกคันก็จะต้องวิ่งชิดขวาตามกฎจราจรของประเทศเพื่อนบ้าน เล่นเอางงไปบ้างเหมือนกันสำหรับช่วงแรกๆ แต่ก็ปรับตัวได้ในเวลาต่อมา สถานที่แรกของเช้าวันนี้ก็คือ เทวสถานโกรวครก เป็นเทวสถานที่สร้างด้วยศรัทธาของชาวกัมพูชาที่มีในพระศาสนา อยู่ห่างจากที่พักของเราประมาณ 1 กิโลเมตร บนเนินเขาสามารถมองเห็นเกาะกงรีสอร์ท ที่พักของเราได้อย่างชัดเจน วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสหลายคนดีใจเพราะจะได้ภาพสวยกว่าวันแรกที่คึ้มตลอดวัน แม้ว่าแดดร้อนแค่ไหน เหล่าสมาชิกก็เดินถ่ายรูปกันอย่างสนุก เทวสถานแห่งนี้มีผู้ดูแลเป็นคุณยาย 2 คน พอเห็นนักท่องเที่ยวเดินขึ้นมายายจะจุดธูปส่งมาให้ ใช้ 3 ดอกเหมือนบ้านเรา เข้าไปกราบไหว้ขอพรพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินได้อย่างงดงาม พระพุทธรูปองค์นี้หันด้านหน้ามาทางประเทศไทย

    เล่ามาถึงตรงนี้ เผื่อว่าใครสนใจจะเข้าไปเที่ยวเอง มีหลักการข้ามแดนมาฝากครับ
    คือถ้านักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวเอง ใช้พาสสปอร์ตเดินทางแสตมป์เข้าก็เข้าไปได้แล้ว
    ถ้ามีรถเพิ่มเติมต้องไม่ติดไฟแนนซ์ ไม่เป็นป้ายแดง
    ถ้าไม่ใช่เจ้าของรถ ต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถ
    มีค่าใช้จ่ายขาเข้า 25 บาท ขาออก 25 บาท
    ส่วนถ้าเป็นลูกค้าของเกาะกง รีสอร์ท ให้ติดต่อผ่านออฟฟิตเมืองไทย ให้เค้า support การเข้าได้
    สอบถามเพิ่มเติม ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง บ้านหาดเล็กโทรศัพท์ 039 558067 ได้ทุกวัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 20, 2014, 10:41:28 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา 3-5 พ.ค. 57
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2014, 12:00:08 PM »
จากเทวสถานโกรวครก เรายังต้องเดินทางต่อไปตามถนนสายเดิม บรรยากาศบ้านเรือนก็เปลี่ยนไปเป็นที่โล่งว่างเปล่า ใช้เวลานานพอสมควรผ่านวงเวียนที่มีวิหารพระอยู่กลางวงเวียน จากนั้นข้ามคลองสายใหญ่แล้วเราก็มาถึงวัดปากคลอง วัดสำคัญแห่งหนึ่งของกัมพูชา สร้างขึ้นมาโดยเกจิอาจารย์ที่ชาวกัมพูชาเคารพศรัทธากันมาก คือหลวงพ่อหมึก หรือท่านพ่อหมึก จากวัดเล็กๆ ก็กลายเป็นวัดใหญ่มากด้วยเสนาสนะต่างๆ มากมายในพื้นที่ที่กว้างขวาง มีต้นศรีมหาโพธิ์ เป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งประจำวัด ด้านหน้าเป็นชายหาดขาวสะอาดสวยงาม จุดเด่นที่ต้องถ่ายรูปภายในวัดนี้ก็คือรูปปั้นพระพนมมือที่ยืนเรียงรายอยู่ข้างทางเข้าวัด ชาวคณะร่วมทำบุญโดยพร้อมเพรียงกัน ขั้นตอนพิธีเหมือนทำบุญถวายสังฆทานในบ้านเราเลย แม้ว่าบทสวดบางตอนสำเนียงจะฟังแตกต่างกันแต่ก็เข้าถึงได้ด้วยจิตอันบริสุทธิ์ของเหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ต้นพระศรีมหาโพธิ์ในวัดจะมีโอ่งน้ำตั้งไว้ให้เรารดน้ำโดยต้องรดทั้ง 4 ทิศ โดยการเดินเวียนขวา

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา 3-5 พ.ค. 57
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2014, 12:02:36 PM »
ทำบุญถวายสังฆทานพร้อมกันแล้วก็เข้าไปไหว้อัฐิท่านพ่อหมึกในกุฏิ รับวัตถุมงคลจากรองเจ้าอาวาสเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางกันต่อไป

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา 3-5 พ.ค. 57
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2014, 12:22:46 PM »
สถานที่ต่อไปก็ยังอยู่ในเขตกัมพูชา อยู่ห่างจากวัดปากคลองเพียงไม่กี่นาที ชื่อว่า เจดีย์ขุนช้างขุนแผน เป็นเจดีย์เก่าแก่ที่สร้างมานานตั้งอยู่บนโขดหินขนาดใหญ๋กลางน้ำแม่น้ำครางครืน เจดีย์นี้คาดว่าน่าจะมีอายุไม่น้อยกว่า 900 ปี มีความเชื่อว่ามีการนำเพชร พลอย พระเก่าแก่บรรจุไว้อยู่ด้านในเจดีย์ มีความสูงโดยประมาณ 4 เมตร มีสะพานปูนเชื่อมจากฝั่งแม่น้ำไปถึงโขดหินที่รองรับองค์เจดีย์ขุนช้างขุนแผนยาวประมาณ 100 เมตรเศษ (กะเอา) ด้านล่างเจดีย์มีน้ำน่าจะมีความลึกไม่น้อยกว่า 6 เมตร ด้วยความที่เจดีย์สร้างบนโขดหินและอยู่แบบนี้มานานหลายร้อยปี ก็เลยตั้งขอสังเกตุว่าเวลาคนขึ้นไปเดินบนแผ่นหินฐานเจดีย์กันมากๆ น่าจะอันตรายได้ จึงกำหนดกันว่าให้ขึ้นได้ครั้งละ 15 คน เป็นภาพที่สวยงามมาก ถนนเข้ามายังเจดีย์แห่งนี้เป็นถนนลูกรังผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีความเป็นอยู่เรียบง่ายสุดถนนก็จะเจอสะพานทอดเข้าไปหาเจดีย์ที่อยู่บนก้อนหิน เจดีย์นี้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวกัมพูชา ว่ากันว่าชาวประมงจะมาไหว้เจดีย์นี้ก่อนออกเรือ พอกลับมามักจะได้ปลามากมายเสมอทุกครั้งไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 18, 2014, 02:17:04 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา 3-5 พ.ค. 57
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2014, 12:27:54 PM »
จากเจดีย์ขุนช้างขุนแผนที่เด่นตระหง่านกลางน้ำ เราเดินทางกันต่อไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเกาะกง ร้านอาหารแห่งนี้สะกดชื่อร้านด้วยภาษาอังกฤษว่า Thmorda ตามหลักแล้วแทบจะอ่านไม่ออก แต่ชาวไทยอย่างเราๆ ก็อุตส่าห์อ่านได้ว่าร้าน ธรรมดา นั่นเอง ร้านอาหารแห่งนี้มีทำเลที่ตั้งที่ดี แวดล้อมด้วยน้ำและธรรมชาติที่สวยงาม มีซุ้มสำหรับนั่งรับประทานอาหาร สำหรับ 4-6 คน แยกออกไปหลายซุ้ม ส่วนที่ตรงกลางรองรับนักท่องเที่ยวได้มากเป็น 100 เลยทีเดียว แล้วก็ยังบาร์เครื่องดื่มให้เราสั่งอะไรเย็นๆ มาจิบหลังอาหาร ร้านนี้เมื่อถึงเวลาเย็นน่าจะวิวสวยมากทีเดียวเชียวละ แต่น่าเสียดายที่เราคงไม่ได้มีเวลารอได้ขนาดนั้น

    ร้านนี้ไม่ใช่จะมีแต่คนไทยเท่านั้นที่รู้จัก ชาวต่างชาติหรือว่าฝรั่งเค้าก็รู้จักร้านนี้ดีเช่นกัน สถานที่พักผ่อนที่แสนสงบ จะว่าไปแล้วจะมีสักกี่ร้านละที่เราจะลงว่ายน้ำได้จริงมั้ยครับ แต่ถ้ามองในแง่สุขภาพการลงเล่นน้ำหลังจากกินอิ่มใหม่ๆ นี่ไม่ค่อยจะดีนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 09, 2014, 12:55:29 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เปิดประตู AEC เปิดวิถีสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา 3-5 พ.ค. 57
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2014, 01:23:56 PM »
ต่อจากร้านอาหาร Thmorda เราก็เดินทางต่อเป็นเส้นทางกลับไปยังเกาะกงรีสอร์ทที่พักของเราสำหรับค่ำคืนนี้ เราจะผ่านมาที่เกาะกงซาฟารีเวิรลด์ (Koh Kong Safari World) สถานที่สุดท้ายในต่างแดนสำหรับวันนี้และทริปนี้ด้วย สวนสัตว์ซาฟารีเวิรลด์ของเค้าใหญ่ทีเดียวเชียวละ ประกอบไปด้วยการแสดงต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นจรเข้ เสือ อุรังอุตัง นก เดิมทีมีโลมาโชว์ แต่ได้ข่าวว่าคนดูน้อยจนต้องย้ายเอาโลมาไปไว้ที่เมืองอื่น แต่เท่าที่เหลืออยู่ก็สุดยอดแล้วครับ

    รถตู้พาเราเข้าไปส่งที่หน้าลานแสดงจรเข้ จากนั้นเราต้องเดินไปยังลานอื่นๆ กันเองแล้วไปขึ้นรถที่หน้าสวนสัตว์ การแสดงจรเข้ของเค้าเหมือนของเรามากๆ เลย แต่ระยะเวลาในการแสดงอาจจะสั้นกว่า และรู้สึกว่าดูของเราที่สมุทรปราการจะเสียวกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าเราฟังภาษาเค้าไม่ออกก็เป็นได้ ในระหว่างการแสดงก็จะมีการเล่นตลกๆ ให้ดูเป็นระยะๆ แน่นอนว่ามีการเอาหัวเข้าปากจรเข้ด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 09, 2014, 01:28:46 PM โดย admin »