ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวๆๆๆ ถ่ายดาวกันเถอะ  (อ่าน 14384 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ดาวๆๆๆ ถ่ายดาวกันเถอะ
« เมื่อ: เมษายน 05, 2014, 01:35:30 PM »
มาอีกแล้วกับคำถามที่ผมโดนถามเมื่อเช้านี้เอง ไม่ตอบก็คงไม่ได้เพราะเราก็พัฒนาฝีมือความรู้การถ่ายภาพมาจากคนอื่นเหมือนกัน เมื่อมีคนถามถ้าเรารู้เราก็ควรจะตอบ จะได้มีช่างภาพรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาอีกเรื่อยๆ

เมื่อเช้ามีคนถามเรื่องการถ่ายภาพดาวหมุน แต่ไหนๆ ก็มาคุยเรื่องถ่ายดาวแล้ว เอาทั้งดาวหมุน และทางช้างเผือกเลยดีมั้ย การถ่ายดาวทั้งสองแบบนี้ เป็นยังไงดูรูปตัวอย่างข้างล่าง

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: ดาวๆๆๆ ถ่ายดาวกันเถอะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 05, 2014, 01:46:52 PM »
ภาพสีเหลืองที่เห็นภาพที่สอง เรียกว่าการถ่ายทางช้างเผือก เคล็ดลับและอุปกรณ์ รวมทั้งเทคนิคดูเหมือนว่าจะเข้าใจง่ายกว่าดาวหมุน เลยเอาเรื่องทางช้างเผือกก่อนละกัน บนต้นไม้ มีกลุ่มดาวจับเรียงกันอยู่หนาแน่น เป็นดาวที่อยู่ในกาแลคซี่เดียวกับเราคือทางช้างเผือก โลกอยู่ในกาแลคซี เวลาถ่ายจึงติดแค่ครึ่งเดียวอีกครึ่งอยู่ด้านหลังเราประมาณนั้น

การถ่ายภาพนี้ต้องมีเลนส์ไวแสงพอประมาณ ยิ่งไวยิ่งดี ความไวแสงของเลนส์ดูตรงไหน สำหรับมือใหม่ ก็ดูที่ F ของเลนส์ เค้าจะระบุมาที่เลนส์ทุกตัว ค่านี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เลนส์ถูกหรือแพงด้วย F เลขน้อย ไวแสงมาก แพงมาก สัมพันธ์กันอยู่

เลนส์ที่เหมาะจะมาถ่ายทางช้างเผือกควรจะไวแสงเอามากๆ ได้แก่ f1.4 f1.8 ส่วนผมไม่มีเลนส์แพงๆ แบบนี้เหมือนกัน ก็เลยใช้ f2.8 ถ่ายออกมาได้เท่านี้ถือว่ายังไม่ดีพอ แต่ผมก็พอใจในสิ่งที่ผมมีอยู่ 5555  :D

การตั้งค่ากล้อง สปีด 30 sec (ของตายอยู่ละ) ค่า f กว้างที่สุดเท่าที่เลนส์เราไปได้ ถ้ามี 2.8 ก็ใส่ไปเลย ถ้ามีต่ำกว่าก็ใส่ไปเลย (แสดงว่าควรใช้โหมด M เพราะต้องตั้ง 2 ค่าเอง) ส่วนอีกค่าที่ต้องตั้งคือ ISO ปกติไม่ได้กำหนดเป็นกฏตายตัวที่ไหน ให้ใส่มากที่สุดเท่าที่จะมากได้แต่เราต้องยอมรับได้ด้วย เช่น ใส่ไป 3200 มี noise เกิดขึ้นมาบ้างก็ต้องยอมรับไปแต่รับไม่ได้ก็ลดลงมา ค่า ISO ยิ่งต่ำ ทางช้างเผือกของเรายิ่งไม่่ชัด อันนี้ก็ต้องแลกเอาว่ายอมรับกันแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่แล้ว เราจะใช้ 3200 ครับ

อุปกรณ์ที่สำคัญอย่างขาตั้งและสายลั่นหรือรีโมทก็ต้องมีไว้

ส่วนสำคัญที่สุดคือ ไปถ่ายในที่ที่มืดสนิทไม่มีแสงรบกวนในป่า บนเขา อุทยานอะไรก็ว่าไป แต่รูปนี้ได้มาจากมุมมหาชนของนักล่าดวงดาว ที่เขาใหญ่ครับ การสังเกตุว่าทางช้างเผือกขึ้นทิศไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ สำหรับคนถ่ายใหม่ๆ ให้ไปกับผู้รู้ครับ จดจำเทคนิคการมองทางช้างเผือกหรือจะลองหาจากกูเกิลก็น่าจะมีคนเขียนไว้บ้างนะ ในมือถือมีแอพสำหรับหาช้างเผือกด้วยก็ลองหาจากกูเกิลอีกละกันเพราะผมไม่มี  ;D

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: ดาวๆๆๆ ถ่ายดาวกันเถอะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 05, 2014, 02:14:17 PM »
มาถึงเรื่องการถ่ายดาวหมุนบ้างดีกว่า อันนี้มีวิธีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่านิดหน่อย อุปกรณ์ที่ต้องใช้ก็จะต้องเพิ่มมาจากการถ่ายทางช้างเผือกอีกนิดนึง

ผมเรียนรู้มาว่าเราสามารถถ่ายดาวหมุนได้ 2 แบบครับถ้าอุปกรณ์เรามีจำกัดหรือมีเท่าที่พูดไปแล้วในการถ่ายทางช้างเผือกคือสายลั่นของเรามันเป็นแบบธรรมดา ไม่ใช่แบบตั้งเวลาที่เค้านิยมเรียกกันว่า ไทม์แลบ อะนะ ลองมาดูว่าทำไง

สมัยก่อนด้วยความรู้อันน้อยนิด ผมใช้วิธีเปิดหน้ากล้องนานนนนนนน มากกกกกกกกกก เอาครับ อย่างถ้าอยากได้ดาวหมุนยาวๆ ก็จะใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการถ่าย 1 ภาพ ผมตั้งกล้องบนขาตั้งกล้อง ใช้สายลั่นที่โหมด B หรือที่เรียกกันว่า Shutter B นั่นแหละ เมื่อกดสายลั่นแล้วเราสามารถเลื่อนปุ่มไปอยู่ตำแหน่งล็อคได้ กล้องจะทำการเก็บภาพเปิดหน้ากล้องตราบจนกว่าเราจะปลดล็อคหรือแบตหมดนั่นเอง หลังจากกดปุ่มและล็อคสายลั่นแล้ว ตั้งเวลามือถือ 2 ชั่วโมงให้มันเตือน ระหว่างนั้นก็นอนรอ นั่งรอ เดินรอ กินขนมรอ ต้มมาม่ารอ ตามอัธยาศัย มือถือเตือน 2 ชั่วโมงก็มาปลดล็อคสายลั่น กล้องจะเก็บภาพลงการ์ดใช้เวลาสักพัก ถ้าเราเปิดฟังก์ชั่นการลดนอยซ์ในภาพไว้ กล้องจะทำการประมวลผลประมาณ 2 ชั่วโมงในการบันทึกลงการ์ด อันนี้ไม่แนะนำ ถ้ารู้ว่าปิดฟังก์ชั่นนี้ตรงไหนก็เข้าไปปิดซะ เพราะมันอาจจะแบตหมดได้ระหว่างประมวลผล ซึ่งทำให้เราอาจจะไม่ได้ภาพที่ถ่ายตั้ง 2 ชั่วโมงก็เป็นได้ วิธีแรกนี้ถึงจะต้องใช้ความอดทนของคนและกล้องอย่างมหาศาลแล้ว ก็มีข้อดีตรงที่สายลั่นมันไม่กี่ตังค์ก็ถ่ายได้แล้ว แต่ว่ากันว่าเซนเซอร์ภาพอาจจะเสียเร็วก็ได้เพราะเปิดทีนานขนาดนี้

วิธีที่สอง เมื่อเรามี Time laps อันเป็นสายลั่นชัตเตอร์อย่างหนึ่งมีหน้าจอสำหรับตั้งค่าต่างๆ ได้ ราคาจะแพงสักหน่อย สำหรับมือใหม่จะซื้อมาถ่ายดาวหมุนเล่นๆ ไปหาตามอีเบย์ดีกว่า

เราจะตั้งค่ากล้องเหมือนถ่ายทางช้างเผือก และดาวหมุนแบบแรก สปีดชัตเตอร์ไปที่ B ค่า f กว้างสุด ISO 3200 เสียบสายลั่นเข้ากล้อง ตั้งค่าสายลั่นตามนี้ Long exposure 30 sec , Delay 1 sec , N (จำนวนภาพ) ให้คำนวณหาต่า N ตามเวลาที่เหลืออยู่ สมมติว่าเราตื่นขึ้นมาถ่ายดาวตอนตี 3 (ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมสุดเพราะมีเวลาพอในการเก็บภาพก่อนฟ้าสางและเป็นช่วงเวลาที่ฟ้ามืดสนิทดาวขึ้นมากันเยอะ)

เราจะมีเวลาถ่าย 2 ชั่วโมง ก็เอา 2x60x60 (ทำเป็นวินาที) หาร 30 วินาที ได้ประมาณ 240 ภาพ แต่ถ้าไม่ต้องการเส้นดาวยาวมากขนาดนั้น ก็ตั้งไว้สัก 200 ภาพ เพราะเราต้อง Delay ระหว่างภาพ 1 วินาทีสำหรับบันทึกภาพลงการ์ดก่อนจะถ่ายรูปต่อไปด้วย รวมๆ แล้ว มีเวลา 2 ชั่วโมง ก็ตั้งไป 200 นั่นแหละ ได้แน่นอน

ทีนี้ละประเด็น การถ่ายภาพ 200 ภาพของดวงดาวจะต้องมีวิธีในการเอามารวมเป็นภาพเดียวด้วย ไม่งั้นก็จะมี 200 ภาพ อยู่อย่างนั้นแหละแล้วดาวที่เป็นจุดๆๆๆ จะเป็นเส้นโค้งได้ไงละ

โปรแกรมยอดนิยมในการรวมภาพดาวคงไม่พ้น Startrail ค้นหาในกูเกิล เค้าเป็นโปรแกรมฟรี ดาวน์โหลดลงมาใช้เลย โปรแกรมเล็กมาก แต่ให้ผลแจ๋วมาก เปิดโปรแกรมก็คลิกเปิดภาพ
คลิกรวมภาพ จากนั้นก็นั่งรอจนกว่าจะเสร็จ เซฟลงเครื่อง จบพิธี


การถ่ายดาวหมุน จุดสังเกตุสำคัญมาก ถ้าอยากให้จุดศูนย์กลางการหมุนอยู่กลางภาพต้องหันกล้องไปทางทิศเหนือ หรือใต้ ซึ่งทิศเหนือนิยมกว่าทิศใต้ ถ้าเราหันกล้องไม่ตรงทิศเป๊ะๆ เส้นโค้งของดาวจะมีจุดศูนย์กลางเอียงๆ เบี้ยวๆ ไป ทางที่เราหันผิด ถ้าเราหันตะวันออก กับตะวันตก เส้นดาวจะไม่ค่อยโค้งจะเกือบตรงลงมาแต่จะเบนปลายเส้นด้านบนออกจากกันนิดๆ ก็แล้วแต่ชอบ ลองดูหลายๆ แบบก็ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 05, 2014, 02:23:24 PM โดย admin »