ตัวอย่างเส้นทางขับรถเที่ยวสมุทรสาคร เท่าที่เคยไปมา หลายสถานที่ที่เห็นว่าน่าไปเลยเอามาแนะนำให้เป็นเส้นทางขับรถเที่ยวแบบสบายๆ แล้วแต่สไตล์ของแต่ละครอบครัวครับ
ออกจากกรุงเทพฯ ทางพระราม 2 มุ่งหน้าสมุทรสาคร ก่อนจะถึงตัวเมืองจะมีทางแยกซ้ายมือเข้า
อุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์ อันเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของเมืองมหาชัยแห่งนี้ ด้วยความซื่อสัตย์จงรักภักดีของพันท้ายนรสิงห์ ชื่อจึงจารึกมาชั่วลูกชั่วหลาน จนกระทั่งเร็วๆ นี้ก็มีการจัดงานนครแห่งความซื่อสัตย์ จดทะเบียนสมรสที่ศาลพันท้ายนรสิงห์ด้วย
ขับย้อนออกมาถนนพระราม 2 มุ่งหน้าไปทางตัวเมืองสมุทรสาคร เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองไหว้
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ชมวิวท่าน้ำมหาชัย ชิมอาหารทะเลอร่อยๆ แล้วไป
วัดป้อมวิเชียรโชติการามขับออกมาจากวัดกลับมาทางศาลหลักเมืองถึงถนนเศรษฐกิจ 1 (ทางหลวงหมายเลข 3001) อันเป็นถนนสายหลักของเมืองมหาชัย เลี้ยวซ้ายไปเลี้ยวขวาที่แยกไฟแดง ถนนนรสิงห์ ผ่านวงเวียนตรงไปเรื่อยๆ จนถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟแล้วเลี้ยวขวาอีกที ขับตรงไปตามทางเรื่อยๆ จะถึง
วัดโกรกกราก วัดประจำจังหวัดสมุทรสาครก็ว่าได้ มาที่นี่ไม่มาสักการะหลวงพ่อวัดโกรกกรากก็เหมือนมาไม่ถึงสมุทรสาคร
ย้อนมาที่ถนนพระราม 2 เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายท่าฉลอม เดินทางไปยัง
วัดสุทธิวาตวราราม หรือวัดช่องลม ตั้งอยู่ฝั่งท่าฉลอม พบกับความมหัศจรรย์ของนกนางแอ่นที่เข้ามาอาศัยทำรังอยู่ในวิหารจำนวนมาก แวะสักการะ
อุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิมที่อยู่ใกล้ๆ กัน
ขับรถย้อนออกจากท่าฉลอม กลับมาที่ถนนพระราม 2 เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางสมุทรสงครามพอเห็นปั๊มปตท. ก็หาที่กลับรถ แล้วจากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนที่ชื่อคันพนัง จะมีป้ายบอกทางไป
ตลาดริมคลองอำแพง หรือถ้ามี GPS ค้นหาวัดสุนทรสถิต ที่นั่นจะมีตลาดนัดอาหารอร่อยบรรยากาศริมคลองร่มรื่น เปิดบริการเสาร์ อาทิตย์ สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีการแสดงให้ชมฟรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ โทร.034-883026, 086-706-0002, 089-837-2327
ออกจากคลองอำแพงถ้ายังมีเวลา แวะไปไหว้พระอีกสักวัดสองวัด มีให้เลือกหรือจะไปทั้งสองวัดก็ตามสะดวก วัดแรกคือ
วัดนางสาว เป็นวัดที่สวยงามมาก มีเรื่องเล่ากันว่า เมืองสาครบุรี คือ เมืองชายทะเลตอนใต้ของกรุงศรีอยุธยา เมื่อเกิดสงครามในพม่าชาวไทยกลุ่มหนึ่งได้อพยพหนีมาตามริมแม่น้ำท่าจีน คนชราและผู้หญิงได้พากันไปหลบซ่อนในโบสถ์เก่า ต่อมาคนไทยได้ช่วยกันต่อสู้กับทหารพม่าจนได้รับชัยชนะ และผู้ที่อพยพมาได้ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนั้น ในกลุ่มนี้มีสองพี่น้องที่เคยอาศัยโบสถ์หลบหนีภัย ทั้งสองมีความคิดที่จะบูรณะโบสถ์ใหม่ แต่พี่สาวเห็นว่าโบสถ์ทรุดโทรมมากจึงไปสร้างวัดใหม่แทน น้องสาวต้องการทำตามสัจจาธิษฐานของตนว่าถ้ารอดตายจะบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ จึงดำเนินการบูรณะจนเสร็จและตั้งชื่อว่า วัดพรหมจารีย์ ต่อมาชาวบ้านเรียกว่า วัดน้องสาว จนปัจจุบันเพี้ยนมาเป็น วัดนางสาว
จากตลาดริมคลองอำแพงไปวัดนางสาวไม่ต้องย้อนกลับออกมาถนนพระราม 2 แล้ว ตรงไปตามเส้นทางคันพนังเหมือนเดิมไปบรรจบกับทางหลวงสมุทรสาคร 4011 บรรจบถนนเศรษฐกิจ ถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายที่ทางหลวงหมายเลข 3091 จะมีแยกทางเข้าวัดนางสาว
ออกจากวัดนางสาวย้อนออกมาที่ทางหลวงหมายเลข 3091 เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกหน่อยจะมีแยกทางเข้า
วัดท่าไม้ เป็นวัดที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายอย่างรวดเร็ว จากสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ท้ายรถที่เราเห็นบนถนนจนเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงได้มีรถจำนวนมากติดสติ๊กเกอร์วัดท่าไม้อยู่หลังรถ ก็เพราะว่าสติ๊กเกอร์นี้หลวงพ่อท่านได้ทำการปลุกเสกให้ติดรถเวลาเดินทางเป็นสิริมงคลคุ้มครองตัวถ้าใครได้ไปเอาสติ๊กเกอร์นี้ด้วยตนเองที่วัดจะรู้ว่าที่แท้หลวงพ่อได้สอนว่า ให้ช่วยเหลือรถที่ติดสติ๊กเกอร์วัดท่าไม้ด้วยกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน เอื้อเฟื้อกัน เป็นกุศโลบายว่า หากเจอสติ๊กเกอร์นี้ก็จะได้ขับอย่างมีสติไม่ปาดหน้ากัน หรือด่ากัน โมโหกัน จนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ นั่นเอง ภายในวัดท่าไม้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายอย่างได้แก่พระโพธิสัตว์กวนอิม พระราหู พระพุทธรูปทรงเครื่อง และตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการสร้างอุโบสถหลังใหญ่อีกด้วย
จบตามเส้นทางขับรถเที่ยวแบบนี้แล้ว เป็นยังไงบ้างครับ เพิ่มเติม ตัดทอน บางส่วนบางตอนตามอัธยาศัย ได้เห็นของดี ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสมุทรสาครชนิดครบเครื่องเลยทีเดียว ส่วนที่อื่นๆ ก็ยังมีอีกมากที่ไม่ได้เอ่ยถึง ก็แค่นี้เชื่อว่าก็น่าจะเต็มอิ่มจุใจแล้วละสำหรับทริปง่ายๆ วันหยุดแบบไม่ต้องไปไหนไกลๆ