มาแล้วๆ จ้า เรื่องราวของการเดินทางพิชิตลานสนแห่งภูสอยดาว พื้นที่ที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตลอดเวลา ในบางวันอากาศมีได้ถึง 3 ฤดู ก็มีทั้งร้อนแดดเปรี้ยง ฝนตก และหนาวสุด ปนเปกันไป
การจะเดินทางขึ้นภูสอยดาวนั้นเขียนเอาไว้อย่างละเอียดดีแล้วในภาคแรกที่
ทัวร์ออนตะลุยทุ่งหงอนนาคภูสอยดาวเพราะฉะนั้นในภาค 2 เราจะไม่เล่ารายละเอียดมานักหรอก เอาภาพที่ได้มาฝากกันมากกว่า
เพราะว่าภูสอยดาวนั้นการเดินขึ้นไปไม่ใช่ง่ายๆ เวลาจะไปควรจะวางแผนให้ได้ไปสัก 2 คืน ถึงจะคุ้มกับความเหน็ดเหนื่อย กว่าจะฟันฝ่าเนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะไปได้ หลายคนถึงกับบอกว่าจะไม่มาอีกแล้ว แต่หลายคนก็กลับมาอีกก็มี ตัวผมเองก็คิดว่าน่าจะไม่ได้กลับมาอีกแล้วละ แต่ท้ายสุดก็มีอันต้องไปอีกครั้งจนได้ วันแม่ปีนี้เป็นวันที่ทำให้มีวันหยุดยาวขึ้นแน่นอนละว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากจ้องวันนี้เอาไว้ในปฏิทิน กว่า 250 ชีวิตที่มุ่งตรงมายังภูสอยดาว การบริการของลูกหาบก็เลยมีติดๆ ขัดๆ กันบ้างเหมือนกับภูกระดึงนั่นแหละ ลูกหาบหลายคนต้องเดิน 2 เที่ยว ของใครถึงก่อนก็โชคดี บางกลุ่มได้สัมภาระทีหลังก็ต้องทำใจ บางคนถึง 3 ทุ่ม บางคนก็ ตี 4 แต่เชื่อว่าลูกหาบก็พยายามที่สุดแล้ว
การเดินขึ้นครั้งที่ 2 ความลำบากดูเหมือนจะไม่ได้น้อยลงไปกว่าครั้งแรก ปวดเมื่อยไปตามน่องจนไม่อยากจะเดิน ฝนก็ยังตกลงมาระหว่างทางอีกต่างหาก ต้องใส่เสื้อกันฝนเดิน อบอ้าว อึดอัดสุดจะบรรยาย แต่สุดท้ายผมก็พิชิตลานสนได้อีกครั้ง ระหว่างการเดินไม่ได้ถ่ายรูปมากเท่าไหร่เพราะครั้งแรกถ่ายไว้เยอะแล้ว ตรงไปที่รูปแรกเป็นทุ่งดอกหงอนนาคที่ลานสนเลยดีกว่า
